23 มิถุนายน 2552 20:42 น.

เกือบปี....ที่หายไป

ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก

.เกือบปี...ที่หายไป
..ยังเยียวยาแผลใจไม่สนิท
...ผ่านเรื่องร้ายหลายตอนหลอนชีวิต
....ฝากพิษ...ฝุ่นผง...ลงอาญา

.....กายใจเจ้าเอยที่เคยแกร่ง
......กลับสิ้นแรงสลดจนหมดท่า
.......พายุร้ายฮึกโหมโถมถั่งมา
........เจ็บเกินกว่าเตรียมใจไว้รองรับ

.........ชีวิต....ก็เป็น....เช่นฉะนี้
..........คือวจีที่ย้อนสะท้อนกลับ
...........ราวจะย้ำซ้ำเตือนเหมือนขอนทับ
............ไม่ต้องนับรอยช้ำหยดน้ำตา

.............ถ้อยถามตามสะกิดพิษบาดแผล
..............สายตาแลรอบข้างยังผวา
..............เรื่องราวข่าวหลอนยังย้อนมา
................กาลเวลาเท่านั้นช่วยบรรเทา

.................จึงซุกร่างซ่อนเร้นเช่นคนแพ้
.................หลบเลียแผลใหญ่น้อยอย่างหงอยเหงา
...................เพลงปลุกปลอบยินเพียงเสียงแผ่วเบา
....................อยู่กับเงาสงัดรัตติกาล

.....................เกือบปี.....ที่ผ่านไป
......................คือดูแลแผลใจให้สมาน
.......................เจ็บคราวนี้มีแค้นจึงแสนนาน
........................ภูมิต้านทานแกร่งแท้...พร้อมแผลเป็น				
23 กรกฎาคม 2551 17:59 น.

การศึกษา ณ ดงแสนตอ

ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก

คงเกินกว่าสมองน้อยจะคอยรับ
แม้สดับเพียงใดก็ไร้ผล
เพียงสบตาพาใจให้กังวล
ถึงยินยลก็ไม่เข้าใจความ

จึงไม่รู้เรื่องไรในวันนี้
และไม่มีคำใดจะไต่ถาม
ใสและซื่อเกินกว่าพยายาม
เติบโตตามป่าเขาลำเนาไพร

เธอคือพืชพันธุ์แห่งผืนดิน
และท้องถิ่นทุ่งนาที่อาศัย
งอกเงยงดงามไปตามวัย
ตามวิสัยแดนดินถิ่นพำนัก

หนูอยากเล่นอยากออกไปนอกห้อง
หนูอยากท่องเที่ยวไปไม่ต้องกัก
ยามเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าค่อยมาพัก
ไปลุยปลักจับปลามาแกงกิน

คณิต วิทย์ ภาษาไทยหนูไม่ชอบ
หนูไม่สอบไม่ฟังเสียทั้งสิ้น
จะเล่นน้ำลำคลองก่อกองดิน
ฟังเสียงพิณขับขานเพลงบ้านเรา

เมื่อเกินกว่าสมองน้อยจะคอยรับ
จึงนั่งหลับไปพลางอย่างง่วงเหงา
มีการบ้านช่างปะไรหนูไม่เอา
กลับถิ่นเนาสักครู่หนูก็ลืม				
22 กุมภาพันธ์ 2551 19:28 น.

เถียงนาน้อยคอยนาง ภาคสอง

ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก

รอวันเธอว่าง
มาร่วมเรียงเคียงข้างมาสร้างฝัน
เถียงนาป่าใหญ่ใต้แสงจันทร์
ยังรอวันเธอพำนักมาพักนอน
       แว่วเสียงพิณยินมาว่าคิดถึง
       พร่ำรำพึงซึ้งใจใกล้ใกล้หมอน
       เขียนลำนำเพลงรักสักหนึ่งกลอน
       ส่งคำวอนอ้อนไปให้เธอรู้
ได้ยินไหม
เสียงกระซิบจากใจใกล้ใกล้หู
หนาวอากาศหยาดน้ำค้างกลางฤดู
ยามนี้อยู่เปลี่ยวเปล่าเฝ้ารำพัน
        เธอจะเหงาเท่ากันกับฉันไหม
        หรือมีใครคอยมอบคำปลอบขวัญ
        ทุกข์ท้อหรือไรในบางวัน
        ไกลกันจึงไม่เห็นความเป็นไป
รอวันฉันว่าง
ได้ร่วมทางตามติดแนบชิดใกล้
คือความฝันวันหม่นของคนไกล
ส่งให้เธอรับกับสายลม
        หนาวไหม?
        ฝากหัวใจไปหาแทนผ้าห่ม
        เย็นย่ำน้ำค้างพร่างพรม
        อย่าระทมตรมใจให้ฝันดี     				
14 มกราคม 2551 21:23 น.

เติมฝัน...วันครู

ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก

จำวันนั้นได้ไหม ?
พกพาใจเกินร้อยสอยดาวฝัน
แดงดอกจานบานท้าแสงตาวัน
คือทรงจำ...คือคำขวัญ...คือสัญญา

ดอกไม้บานที่ลานภู
มิงามหรูดูแฝงแห่งคุณค่า
คือคนด้อยโอกาสพัฒนา
รอเวลาวาระจะเบ่งบาน

เพื่อเป็นพืชพรรณแห่งแผ่นดิน
สืบทอดศาสตร์ศิลป์แห่งถิ่นฐาน
ชีวิตเติบใหญ่ไปตามกาล
เรียนรู้สู่งานผสานธรรม

เธอมิใช่หรือ ?
เคยยึดถืออุดมการณ์นานฉนำ
ไฉนเลยลืมเลือนเหมือนกลับคำ
ลืมทรงจำ...ลืมคำขวัญ...ลืมสัญญา

เหลียวหน้าแลหลังคงวังเวง
เคยเก่งฉกาจอาจสิ้นท่า
คนหาญหันเหด้วยเวลา
อ่อนล้าแหบโหยโรยแรง

จำวันนั้นได้ไหม ?
พกพาใจเกินร้อยถ้อยแถลง
เก่งกล้าคว้าฝันตะวันแดง
หรือรู้แจ้งแห่งฝัน...มันไม่จริง				
22 พฤศจิกายน 2550 10:26 น.

โลกนี้สีอะไร

ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก

โลกนี้หลากมากสีที่ตาเห็น
บางครั้งเป็นสดขจีด้วยสีเขียว
แต่บางทีที่เห็นเป็นซีดเซียว
เพราะโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเศร้าสุดใจ

จึงอาจเห็นโลกนี้เป็นสีโศก
บางวันโลกกลับมีสีสดใส
แท้จริงโลกเรานี้สีอะไร
แล้วเหตุใดจึงมีสีต่างกัน

โลกนี้สีชมพูของคู่รัก
ด้วยประจักษ์ตัวตนคนร่วมฝัน
มีเพื่อนร่วมเส้นทางระหว่างวัน
ร่วมสร้างสรรค์เส้นสีหลายลีลา

โลกสีทองของผู้อยู่อย่างหวัง
มีพลังสร้างบุญสุนทรค่า
โลกจึงผุดผ่องแผ้วในแววตา
แก้ปัญหาเห็นทางทุกอย่างไป

อีกมุมโลกจักมีสีหมองหม่น
โลกของชนทนทุกข์ไม่สุกใส
โลกปั่นป่วนล้วนปัญหาค้างคาใจ
โลกสลดแล้งไร้ในแววตา

แท้จริงโลกใบนี้คงสีรุ้ง
ตามใจมุ่งแม้นมาตรปรารถนา
จึงเห็นโลกต่างสีหลายลีลา
พึงค้นหา..ว่าโลกนี้...สีอะไร				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
Lovings  ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
Lovings  ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟครูใหญ่โรงเรียนเล็ก
Lovings  ครูใหญ่โรงเรียนเล็ก เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงครูใหญ่โรงเรียนเล็ก