22 ตุลาคม 2544 21:34 น.

ภาพสุดท้าย...สุดสายตา

ภีม

เป็นเพียงความว่างเปล่าฉันเฝ้าหา
เป็นเวลาห้วงกาลผ่านเลือนหาย
เป็นความเศร้าเข้ากุมสุมใจกาย
หวังทำลายให้ขื่นขมตรมหัวใจ
     คือมองเธอสุดสายตาเดินลาจาก
ยืนเป็นซากโรยราน้ำตาใหล
เคยสัมพันธ์มั่นรักปักหัวใจ
แต่เธอตัดสายใยไปจากกัน
      รักไม่หยั่งรากแก้วจึงแคล้วคลาด     
ไม่สามารถไขว่คว้ามายาฝัน          
ตายทั้งยืนฝืนซากตากตะวัน			
เพราะเธอลืมคืนวันสัมพันธ์ใจ
      เธอเดินจากลับหายตัดสายฝัน
เกินกว่าฉันขัดขืนฝืนดึงไหว
ภาพเธอจากหายลับจับตรึงใจ
เป็นความจริงตราไว้ไม่ลืมเลือน...ฯ				
11 ตุลาคม 2544 05:39 น.

สงคราม

ภีม

เหนือแผ่นดินขึ้นไปในท้องฟ้า     
ดังแผ่นผ้าสีครามงามสดใส
นกกาเคยโผผินบินเที่ยวไป	           
ผืนนภากว้างใหญ่ไม่ลำเค็ญ
     มาวันนี้ฟ้าหม่นปนสีแดง	           
ทุกหนแห่งร้อนรุ่มสุมทุกเข็ญ
คนและสัตว์ขัดข้องต้องลำเค็ญ          
โลกร่มเย็นต้องทุกข์ลุกเป็นไฟ
      ฝูงนกเหล็กบินว่อนร่อนไปมา          
เต็มผืนฟ้าเสียงลั่นสนั่นไหว
ทิ้งระเบิดแล้วกลับลับหายไป	            
ตาลีบันเป็นไฟเพราะใครกัน
      หมดสิ้นสันติภาพเคยอาบหล้า           
เกิดสงครามตามล่าให้อาสัญ
ขนอาวุธหลากหลายหมายประจัญ      
ระดมพลห้ำหั่นไม่หวั่นเกรง
     เอาชีวิตเข้าสู้ให้รู้ผล	            
หมายต่อต้านทุรชนคนข่มเหง
อเมริกายิ่งใหญ่ไยมิเกรง	            
มาทำโตคุยเบ่งว่าเก่งจริง
     จึงอาฆาตมุ่งร้ายให้ตายดับ               
ให้อีกฝ่ายย่อยยับกับทุกสิ่ง
บุกเข้าไปไม่ละไม่ประวิง	            
ไม่ล้อเล่นทำจริงยิงใส่กัน
     ชาวประชาหน้าดำรับกรรมทั่ว         
พบกับความหวาดกลัวจนหัวปั่น
เพราะสองฝ่ายอาฆาตเข้าฟาดฟัน      
อพยพหลบกันกลัวบรรลัย  
     ไม่มีวันสิ้นสุดหยุดสงคราม            
ต่างฝ่ายต่างทำตามความกระหาย
เป็นศัตรูคู่ข้องจ้องทำลาย	       
ใจกลับกลายเป็นสัตว์กัดกันเอง ฯ				
11 ตุลาคม 2544 05:33 น.

สงคราม

ภีม

เหนือแผ่นดินขึ้นไปในท้องฟ้า     ดังแผ่นผ้าสีครามงามสดใส
นกกาเคยโผผินบินเที่ยวไป	           ผืนนภากว้างใหญ่ไม่ลำเค็ญ
มาวันนี้ฟ้าหม่นปนสีแดง	           ทุกหนแห่งร้อนรุ่มสุมทุกเข็ญ
คนและสัตว์ขัดข้องต้องลำเค็ญ          โลกร่มเย็นต้องทุกข์ลุกเป็นไฟ
ฝูงนกเหล็กบินว่อนร่อนไปมา          เต็มผืนฟ้าเสียงลั่นสนั่นไหว
ทิ้งระเบิดแล้วกลับลับหายไป	            ตาลีบันเป็นไฟเพราะใครกันหมดสิ้นสันติภาพเคยอาบหล้า           เกิดสงครามตามล่าให้อาสัญ
ขนอาวุธหลากหลายหมายประจัญ      ระดมพลห้ำหั่นไม่หวั่นเกรง
เอาชีวิตเข้าสู้ให้รู้ผล	            หมายต่อต้านทุรชนคนข่มเหง
อเมริกายิ่งใหญ่ไยมิเกรง	            มาทำโตคุยเบ่งว่าเก่งจริง
จึงอาฆาตมุ่งร้ายให้ตายดับ               ให้อีกฝ่ายย่อยยับกับทุกสิ่ง
บุกเข้าไปไม่ละไม่ประวิง	            ไม่ล้อเล่นทำจริงยิงใส่กัน
ชาวประชาหน้าดำรับกรรมทั่ว         พบกับความหวาดกลัวจนหัวปั่น
เพราะสองฝ่ายอาฆาตเข้าฟาดฟัน      อพยพหลบกันกลัวบรรลัย  
ไม่มีวันสิ้นสุดหยุดสงคราม            ต่างฝ่ายต่างทำตามความกระหาย
เป็นศัตรูคู่ข้องจ้องทำลาย	       ใจกลับกลายเป็นสัตว์กัดกันเอง ฯ				
9 ตุลาคม 2544 10:16 น.

คนถนน:คนรถ

ภีม

ฉันเที่ยวเพลินเดินย่างข้างถนน
เห็นผู้คนมากมายกายเคลื่อนไหว
ก้าวขึ้นรถลงรถทดกันไป
ดูขวักไขว่วุ่นวายเพราะหลายคน
     ในเส้นทางรถวิ่งชิงกันแซง
ต่างเบียดแย่งซ้ายขวาน่าสับสน
ฝ่าไฟแดงติดไฟเขียวเลี้ยววกวน
ปากก็บ่นด่าว่าประสาคน
     ฉันเดินถึงทางม้าลายที่หมายปอง
แล้วยืนมองซ้ายขวาน่าฉงน
รถมากมายวิ่งไวไม่เห็นคน
ยอมยืนทนต่อไปในทางคน
     พอรถติดไฟแดงแย่งกันเดิน
ไม่มัวเพลินเผลอไผลในถนน
หากเดินช้ามีหวังพังแน่คน
ถูกรถชนสิ้นใจไม่เป็นคน
     เสียงแตรรถแปร๊นดังเหมือนสั่งเร่ง
ต้องเขย่งก้าวกระโดดทำโลดโผน
เป็นโชคดีของฉันไม่งั้นโดน
เร่งกระโจนให้ถึงซึ่งทางคน
     ผ่านเวลาหวาดเสียวประเดี๋ยวใจ
เพลินต่อไปก้าวย่างข้างถนน
เดินเรื่อยเปื่อยต่อไปไม่ยินยล
เพราะเป็นคนคนหนึ่งซึ่งเป็นคน ฯ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภีม
Lovings  ภีม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภีม
Lovings  ภีม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภีม
Lovings  ภีม เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงภีม