22 กุมภาพันธ์ 2557 22:53 น.

เป็นเช่นนี้เอง ..!!!

อัลมิตรา

เคยดูหนังจีนกำลังภายในอยู่เรื่องหนึ่ง 
เสียดายที่จำชื่อเรื่องไม่ได้  
ศึก..แผ่นดิน อะไรทำนองเนี๊ยะ

เรื่องราวประมาณว่าเกิดการชิงอำนาจทางการเมือง
ขุนพลถูกฆ่า องค์หญิงผู้เป็นภริยาคลอดบุตรในวันนั้น
องค์หญิงได้ขอร้องนักฆ่าให้ละเว้นชีวิตทารกน้อย
นางส่งลูกให้ท่านหมอนำไปดูแล จากนั้นก็ฆ่าตัวตาย
ซึ่งภริยาของท่านหมอก็คลอดบุตรวันเดียวกัน

การไล่ล่าทารกน้อยจึงบังเกิดขึ้น
ฝ่ายที่มีอำนาจในมือ กระทำการเอกอุ
สั่งทหาร ชิงทารกจากอ้อมอกมารดามารวมไว้
ท่ามกลางเสียงร่ำไห้อันน่าเวทนาของผู้เป็นมารดา
ท่ามกลางเสียงพร่ำวิงวอนของผู้เป็นบิดา

ทารกน้อยบุตรขุนพลก็เป็นหนึ่งที่ถูกทหารเอาตัวไป
ท่านหมอหมอบกราบวิงวอน โดยอ้างว่า คือบุตรของคน

จะต้องฆ่าทารกทีละคน ในแต่ละหนึ่งชั่วยาม
เพียงเพื่อให้ได้ทารกที่เป็นเป้าหมายหนึ่งคน
มิฉะนั้น ทารกน้อยผู้ไม่รู้เรื่องราวจะต้องถูกสังเวยจนสิ้น
เหตุแห่งโทษทั้งหมดนั้น เกิดจากทารกบุตรของขุนพล
หรือเกิดจากผู้สั่งประหารทารก

เรื่องราวยังคงไม่จบ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะนำมาสื่อ

ในปัจจุบัน ก็เช่นกัน ..
มีการไล่ล่าบุคคลผู้ซึ่งมีผู้ต้องการขับให้พ้นประเทศ
เมื่อไม่สัมฤทธิ์ผล ก็จะมีการยกระดับเคลื่อนพลไปยังช่องทางอื่น
โดยไม่คำนึงถึงผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ
เหตุแห่งโทษทั้งหมดนั้น เกิดจากนางผู้ซึ่งอยู่ในสกุล..(ขออนุญาตเว้นไว้)
หรือเกิดจากผู้สั่งการให้เกิดกระบวนการเช่นนี้

เหมือนกัน .. ช่างเหมือนกันจริง ๆ 
จะแตกต่างกันก็เพียงแต่สถานการณ์บนจอหนังและสถานการณ์จริงเท่านั้น

เป็นเช่นนี้เอง ..!!!				
28 มิถุนายน 2556 08:03 น.

แค่ 100- ยังยากแบ่ง

อัลมิตรา


มันเป็นเรื่องสมมุติ  
หากมีเงิน 100.- ต้องการแบ่งให้กับ พี่และน้อง โดยกำหนดการแบ่งเงินให้พี่ มีจำนวนเงินมากกว่าน้อง 1 บาท ยากไหม .. ไม่ยากล่ะสิ
ถ้างั้น มาตอบกันดีกว่า ว่า จะจัดสรรแบ่งเงินกันอย่างไร ?
12 มิถุนายน 2556 15:47 น.

"กรอบ" ที่ต้องใช้หัวใจสัมผัส

อัลมิตรา

ในบางช่วงขณะ เราต้องการพื้นที่ ที่เป็นส่วนตัว 
ซึ่งพื้นที่นั้น เราอาจจะคิดทำอะไรสักอย่าง 
หรือไม่ก็ ปล่อยให้ความว่างเปล่าเข้ามาครอบงำ
ดังนั้น 
หัวใจของเราจึงลากเส้นประกอบเป็น "กรอบ" อย่างพิถีพิถัน
มันเป็นเส้นที่มองไม่เห็น ต้องสัมผัสด้วยใจเท่านั้น
เมื่อได้พินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
เราก็ตกลงปลงใจที่จะเลือกอยู่ใน"กรอบ"
เพื่อสร้างอาณาเขตส่วนตัว
เพื่อมิให้ใครก้าวก่าย ล่วงล้ำ
เพื่อเราจะได้มั่นใจว่า..
เราจะอยู่ภายใน"กรอบ"นั้นด้วยความรู้สึกที่เป็นสุขและอบอุ่น
สำหรับบางคนที่ด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ภายนอก
อาจมีความคิดว่า ..
"กรอบ"ที่เราสร้างนั้นไม่ดี ไม่สวย ไม่เหมาะสม
นั่นเป็นเพียงภาพที่เขามองเห็นจากภายนอกเท่านั้น
แต่คนภายนอก ฤๅ จะรู้ดีกว่าตัวของเราเล่าว่า ..
ณ เวลานั้น นั่นคือความสุขที่สุดของเรา
เพราะเรารู้ว่า ภายใน"กรอบ"ที่เราเลือก
เราอยู่ด้วยความหวังอย่างเต็มเปี่ยม ถึงความสุขในฉากต่อไปที่กำลังตามมา
แต่ ไม่ใช่ ทุกครั้งที่อยู่ใน "กรอบ" เราจะมีความสุข
เพราะว่า บางครั้งที่เรารู้สึกว่า "กรอบ" ที่เราสร้าง 
ถูกใครบางคนรบกวนเกินเหตุ
มันทำให้พื้นที่ภายใน"กรอบ"โคลงเคลง สั่นสะเทือน
จนบางทีเส้นที่ประกอบเป็น "กรอบ" แยกออกจากกัน
และในที่สุด "กรอบ" ก็ มิใช่ "กรอบ" อีกต่อไป
ดังนั้น เสถียรภาพของ "กรอบ"  จึงเป็นสิ่งควรคำนึงอย่างยิ่ง
จงอย่าได้ละเลย ..
และควรบอกกับตนเองเสมอ ๆ ว่า 
เมื่อพบว่าบางใครกำลังอยู่ใน"กรอบ" 
เราควรรอคอยด้านนอก"กรอบ" อย่างเงียบเชียบ
รอเวลาที่บางใครพร้อมที่จะเปิด"กรอบ"ออกมาทักทาย
เราจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความสุขของบางใครที่ได้รับหรอก
จนกว่า เขาจะอนุญาตให้เราเข้าไปใน"กรอบ"นั้น
และใช้ชีวิตในสภาพเดียวกับที่เขาเป็นอยู่
เพราะว่า "กรอบ" คือ "กรอบ" 
คือ เส้นที่ถูกลากมาจรดเข้ามุม
ไม่เว้นช่องให้สิ่งที่ไม่ได้รับการอนุญาตเข้ามาแทรกแซง
......................................
ค ร า ว ห ล บ เ ร้ น หั ว ใ จ ซุ ก ใ น ก ร อ บ
แ ม้ น ไ ม่ ช อ บ ย่ อ ม ไ ม่ ใ ค ร่ เ ปิ ด เ ผ ย
ลำ พั ง ต น ท น เ ห ง า เ ศ ร้ า อ ย่ า ง เ ค ย
สั ก ค ำ เ ป ร ย   ฤ ๅ   อ อ ก น อ ก ก ร อ บ เ ร า
5 มิถุนายน 2556 10:40 น.

ประมวลภาพ โครงการสร้างโรงเรียนให้พ่อ ส่งต่อน้องชายแดน

อัลมิตรา

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2556.  ได้ฤกษ์ส่งมอบศูนย์พัฒนาเด้กเล็กให้กับโรงเรียนยางน้ำกลัดเหนือ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี 
ศูนย์พัฒนาเด้กเล็กนี้ เกิดขึ้นจากแนวคิดของหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดลิ้นช้าง (พระครูสุนทรวัชรการ) หลวงพ่อมีแนวคิดว่าควรจะต้องพัฒนาชุมชนเสียก่อน โดยงานที่หลวงพ่อสร้างไว้ก็มีมากมาย อาทิเช่น การสร้างฝายชะลอน้ำถวายในหลวง และการสร้างบ้านดิน การจัดให้มีการอุปสมบทสามเณรภาคฤดูร้อน เป็นต้น
จากแนวคิดนี้เอง ก็ถูกต่อยอดมายังผู้ที่มีจิตอาสาทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการระดมทุน ระดมสมอง หรือ ระดมแรงงาน ซึ่งต่างก็เต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่จะมีส่วนร่วมในโครงการนี้
แต่เดิมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กติดกับสาธารณสุขอำเภอ (แต่ห่างจากโรงเรียนยางน้ำกลัดเหนือพอสมควร) สภาพอาคารชั้นเดียวที่ทรุดโทรม ไม่ว่าจะเป็นโครงหลังคาที่ผุกร่อน ผนังภายในสีร่อน ซึ่งภาพรวมทั้งหมด ไม่อาจนับได้ว่าเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ ดังนั้น หลวงพ่อจึงประกาศบอกบุญ เริ่มต้งแต่ระดมทุนเพื่อซื้อที่ดินที่ติดกับโรงเรียนยางน้ำกลัดเหนือ และจัดการดำเนินการก่อสร้างอาคารเพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ ข้าพเจ้าซึ่งเป็นตัวแทนของชมรมจิตอาสาเพื่อนพ้องน้องพี ขอสรุปงานเป็นประมวลภาพตามด้านล่างนี้
508393445052207.jpg
443408132065088.jpg
38595164660364.jpg
199493574444205.jpg
799509199103341.jpg
517379443394020.jpg
452547734836116.jpg
648863242706284.jpg
680534498533234.jpg
491944498382509.jpg721134530147538.jpg199051377596334.jpg
934382458683103.jpg
969384168973193.jpg
931513820774853.jpg
953246941789985.jpg
438917722087353.jpg
77550479676574.jpg
604341155383736.jpg
เบื้องหลัง 
514296747278422.jpg
420414550462738.jpg
849357016617432.jpg
375786296324804.jpg
637217622715980.jpg
851002358365804.jpg
366127784829587.jpg
5380895687267.jpg
953017919557169.jpg
574424941558391.jpg
153264518594369.jpg
557403943501413.jpg
194989929674193.jpg
839709423482418.jpg
875981062650681.jpg
283494581468403.jpg
739366256166250.jpg
753851832821965.jpg369709955062717.jpg
528875855030492.jpg
408054740866646.jpg
810953150270507.jpg
31 พฤษภาคม 2556 15:53 น.

ซัวซะไดยกัมพูเชีย

อัลมิตรา

883291319711134.jpg
ครั้งหนึ่ง .. เคยเป็นผู้พิชิตภูกระดึง  เดินซะเมื่อยตุ้มเลย 
 ถ้าจะให้บากบั่นไปอีกหน เห็นทีคงบาย สังขารไม่เอื้อซะแล้ว
ครั้งนั้น .. และ ครั้งโน้น .. ก็เดินทางไปในลักษณะของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์  ในหลาย ๆ สถานที่
 อาศัยนอนตามป่าเขาลำเนาไพร ตามบ้านเพื่อน 
ยังมีอีกหลายสถานที่ ที่อยากไป .. 
 แต่สถานที่เหล่านั้น ไกล และมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูง ฉันจึงได้แต่อยาก
994892282644287.jpg
บางสถานที่ ฉันจินตนาการต่อจากการรับชมสารคดีทางทีวี
บางสถานที่ ฉันนึกฝันต่อจากนิตยสาร คู่มือท่องเที่ยวต่าง ๆ 
บางสถานที่ ฉันก็แอบเพ้อตามคำบอกเล่าของคนที่ไปเที่ยวมา
เหวย !  .. ก็ทำได้แค่นั้น 
แต่ ! .. ก็ไม่เสียใจหรอก
ตราบใดที่ฉันยังอ่านหนังสือได้ ตามองเห็นภาพ หูได้ยินเสียง 
ฉันก็สามารถอิ่มสุขจากการบอกเล่าได้       ..  คิดแบบนี้จริง ๆ นะ !
251331182196736.jpg
สัปดาห์ที่แล้ว ฉันได้รับซองผ้าป่า เปิดอ่านดู ชื่อวัดสดกโคลก
ต.โอตาบอง อ.ปราการ จ.โพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา
เฮ้ย !  ประเทศกัมพูชา เขมรนี่หว่า ขะแมร์นั่นเอง ..
หลวงพ่อที่วัดทองบนท่านช่วยดำเนินการจัดโครงการผ้าป่ามหากุศลในครั้งนี้
เพื่อสร้างหอพระไตรปิฏก  ซึ่งหลวงพ่อก็จะมาบูรณะวัดที่นี่ทุก ๆ ปี
หลวงพ่อบอกว่า ในช่วงวันที่ 24-26 พค. หยุด 3 วัน ทอดผ้าป่าในวันที่ 24
เหลืออีก 2 วัน จะพาไปนครวัด นครธม .................... ว๊าววววววววววววว
เมื่อเดือนที่แล้ว ฉันก็เคยเกริ่น ๆ กับเพื่อนสนิทว่า อยากไปนครวัด นครธม
แต่คงต้องเดินทางไปอย่างเขียม ๆ ประหยัดหน่อย คงไม่ได้ไปแบบหรูหรา
ลำพังคนพอมีพอใช้อย่างฉันก็คงทำได้เพียงเท่านี้แหล่ะ ทัวร์ทุลักทุเล
เอาไว้ให้เหลือกินเหลือใช้ซะก่อน ค่อยปรับเกรดการท่องเที่ยวใหม่ ฮา ....
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณสามพันบาท เริ่มต้นขึ้นรถตู้ตอนตีห้าที่วัดทองบน
ค่ากิน ค่าที่พัก ค่าเข้าชม ค่าอะไรต่อมิอะไร ก็อยู่ในกองกลางนั่นแหล่ะ
ถ้าไม่นับหลวงพ่อ ก็จะมีฆารวาสร่วมเดินทาง 10 คน  
57471989886835.jpg
เอาล่ะ กองคาราวานบุญเดินทางเริ่มต้นหน้ากุฏิหลวงพ่อ ตอนตีห้า
ราว ๆ ตีห้าสิบห้านาทีก็เคลื่อนพล อาศัยฝากท้องมื้อเช้าที่ฉะเชิงเทรา
เก้าโมงกว่า ๆ ไปถึงด่านอรัญฯ ก็ดำเนินการขอผ่านทาง 
หลวงพ่อได้เปรียบ เดินลัดได้ ส่วนพวกเราต้องเข้าคิว คนเยอะเหมือนกัน
แต่สงสัยจะมุ่งไปที่คาสิโนซะมากกว่า 
ตอนจะเข้าประเทศกัมพูชา นี่เลย เริ่มติดขัดแล้ว ค่าเขียนเอกสาร คิดคนละร้อยบาท
รถตู้ฝั่งเขมรที่หลวงพ่อติดต่อไว้ ก็มาจอดรอรับพวกเรา  พอขึ้นไปนั่งได้สักห้านาที
ก็มีเสียงโล้งเล้ง แปลไม่ออก ท้ายสุด ต้องลงจากรถกันหมด และ เดิน ไปขึ้น รถบัส
รถบัสที่เป็นสัมปทาน เขาคิดเงินรวมเพิ่มอีกสองพันบาท  นั่งไป ไม่ต้องบ่น
แหม๊ แค่สี่ร้อยเมตรเองนะ  อะไรของเขมรก็ไม่รู้ ดูวุ่นวายชอบกล
อย่างกะเสียรู้ยังไงประมาณนั้นน่ะ  ลำพังเดินเปล่า ๆ ก็ยังได้ เพราะกระเป๋าเขามีคนลากไปแล้ว
นี่ ตั้งสองพันบาท เสียดายเงินชะมัด 
ทว่า ช่างมัน .. มาทำบุญ มาเที่ยว ต้องวางใจให้สบาย ๆ  คิดแบบนี้ดีกว่า
902991633163765.jpg
มื้อเที่ยงเราไปทานที่ สะวาย เป็นร้านอาหารชั้นเลิศ กินกันเป็นหมื่น (เรียล) 
ไข่เจียวที่นี่ ทำตลกมาก อย่างกะเครป รสชาติแปลก ๆ หนักพริกไทยมาก
ที่แปลกกว่านั้น ฉันเหลือบเห็นชุดน้ำพริก+ผักสด เกือบไปแล้ว เกือบจะสั่ง
พอดีทันเห็นเขาเก็บผักสดที่เหลือจากโต๊ะอื่นมาเทรวมกันแล้วจัดใหม่ อึ้ง ก๊าบบบบ งานนี้
จากสะวาย เราผ่านพะตะบอง เห็น สัญลักษณ์ยักษ์ถือตะบอง เด่นเป็นสง่ากลางถนน
ถนนของเขาไม่ได้กว้างอะไรเท่าไหร่เลย ประมาณถนนในซอยบ้านเรานั่นแหล่ะ
ขับรถง่ายดี ตรงอย่างเดียว ฮา ... 
เราไปถึงโพธิสัตว์ประมาณบ่ายสาม ชาวบ้านที่นั่นส่วนใหญ่นุ่งชุดขาวยืนเรียงต้อนรับ
เหมือนเป็นคนสำคัญยังไงก็ไม่รู้สิ รู้สึกกระดากเหมือนกัน ฉันทำได้แต่พนมมือแต้ สวัสดีทุกคน ในลำดับพิธีการทอดผ้าป่านั้น ก็เป็นไปอย่างเรียบง่าย มี 2 ช่วง
ช่วงแรก พวกเราไปที่ต้นโฑธิ์ เขาปู่เสื้่่อรอไว้แล้ว ช่วงที่พระสวด ฆารวาสสวด
ฟ้าก็ทะมึนคำรามโครม ๆ ราวกับรับรู้และอวยชัยในอานิสงค์ของพวกเรา
แต่ด้วยการที่หวั่นใจว่าจะเปียกปอนกันถ้วนหน้า ก็เลยย้ายเข้าศาลา
ทันทีที่เข้าไปรวมอยู่ที่ศาลาแล้ว ปรากฏว่าฟ้ารั่วทันที แถมไฟดับอีกต่างหาก
ก็อยู่กันอย่างมืด ๆ ... ฮา ไปไหนไม่ได้
รอสักพัก เครื่องปั่นไฟก็ทำงาน (เขาว่า ซื้อไฟจากไทย)
เงินทำบุญผ้าป่านับรวมแล้วได้สองแสนกว่า  ตีเป็นเงินเขมรก็กว่ายี่สิบล้านเรียล เทียบเป็นเงินเรียลแล้วเยอะแฮะ เพราะค่าเทียบเงิน 1 บาท เท่ากับ 100 เรียล
694636758184061.jpg
และทั้งที่ฉันคิดว่า เตรียมการท่องศัพท์บางคำไว้แล้ว เช่น คำว่า ห้องน้ำอยู่ไหน
ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลา ดันจำไม่ได้
อาศัยภาษาใบ้ ภาษามั่ว เดินเข้าไปหาเด็ก ๆ พร้อมกับบอกว่า ตุ๊บบบบบ ตั๊บบบบบบ
พวกเด็ก ๆ ก็ขำกัน ขำแบบไม่เข้าใจ  ดีนะ ที่เอากระดาษ+ปากกาไปด้วย
ก็เลยจัดการวาดส้วมซะเลย ...
อ้อ  บนตุ๊บบบบบตึ๊กกกกกกกกก   .... เด็ก ๆ เข้าใจแล้ว และจัดการชี้ทางไป
ทีนี้ล่ะ จำง่ายแล้ว เวลาอยากเข้าห้องน้ำ จะต้องไปทุบตึก  จำแบบทางลัด
จบท้ายด้วยการที่ชาวบ้านเลี้ยงอาหารพวกเรา
อาหารมากมาย กินไม่หวัดไม่ไหว ชาวบ้านไม่ได้ร่วมกินด้วยหรอก พวกเขาถือศีลแปด
กว่าจะเรียบร้อยอิ่มหมีพีมันก็ย่างเข้าหกโมงเย็น  ก็ถึงเวลาลาจากกัน 
ที่พักของพวกเขาชื่อ อังกอร์ทิพย์ อยู่เสียมเรียบ ไม่หรูหรามาก แต่ก็พอเหมาะกับฐานะดี
ตอนนั่งรถ ฉันยังนึกอยู่เลยว่า คนขับรถเขาขับรถยังไงนะ สงสัย 40 กม.ต่อชั่วโมง
มันน๊านนนนนนนนนนน นานนนนนนนน กว่าจะถึงที่พักก็ห้าทุ่มแล้ว คร่อก .... ง่วงชะมัด
677288637496531.jpg
เรามีนัดกันตอนหกโมงเช้า ออกไปหาอาหารเช้ากินที่ตลาด
และเริ่มต้นการท่องเที่ยวที่นครวัด นครธม ต้องซื้อตั๋วก่อนนะ คนละ 20 ดอลล่าร์
โอ.. คิดเป็นเงินไทย ก็ประมาณ 600 บาท 
ถ้างั้น คงจะต้องเที่ยวให้คุ้มล่ะ ต้องไม่เหนื่อย ... ฮา
พอดีว่าวันนี้คนเยอะ (คาดว่า วันไหน ๆ คนก็เยอะ)
เขามีพิธีการอะไรก็ไม่รู้ มีพระสงฆ์มาร่วมพิธีจำนวน 500 รูป แม่ชีก็ประมาณกัน
ตอนแรก ฉันยังคุยกับหลวงพ่อเลยว่า "ไม่กลัวหลง หากหลงให้มองหาจีวรพระ"
เมือ่สถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว หลวงพ่อก็หันกลับมาถามฉันว่า "ทีนี้ อย่ามัวมั่วเดินตามหาจีวรพระ พระตั้งเยอะ เดี๋ยวจะตามผิดคน"  .. ฮา
58011944172904.jpg
ไปนครวัด ------> นครธม ------>ปราสาทผู้หญิง ------> ปราสาทแก้ว ------> ปราสาทตาพรหม 
ที่นครวัดเป็นที่เริ่มต้น ต้องเดินผ่านสะพานที่มีพระกับแม่ชียืนกันเพียบ
เดินไปทางไกน ก็ได้ยินแต่เสียงคนไทย ดีเหมือนกันวุ๊ย อาศัยฟังจากไกด์ไปด้วย
ที่นครธม ต้องขึ้นบันไดไปที่สูง ตอนขึ้นไม่เท่าไหร่ ตอนลง เสียววูบ ๆ ชอบกล
ก็จนเดินไม่ไหวกันนั่นแหล่ะ  แล้วค่อยกลับมาหาอาหารกินที่ตลาด 
แต่การท่องเที่ยวในวันนี้ยังไม่จบนะ หลังมื้อเย็น เราไปช็อปปิ้งกันต่อ 555
มันเหมือนกับสวนลุมไนท์พลาซ่า แบบนั้นเลย 
ฉันอะนะ เดินไปกะเดินมา เสียค่าโอเลี้ยง 10 บาท  ข้าวของอื่นไม่ได้ซื้ออะไรกับเขา
ไม่รู้จะซื้ออะไร ไม่เห็นจะอยากได้อะไรเลย 
ฉันคิดว่า ที่สำเพ็งยังน่าเดินกว่านะ 
แต่คนอื่น ๆ น่ะ ได้ของกันเยอะเลย หิ้วกันคนละหลายถุง พะรุงพะรัง
275795751716942.jpg
ก็บอกแล้ว ....... แค่อยากมานครวัด นครธม  อยากมาชมความยิ่งใหญ่อลังการ์ ส่วนเรื่องการซื้อของ มันไม่ได้อยู่ในความคิดของฉันเลย 
เอ ! ... หรือว่า ฉันงก  55555
446591297863051.jpg ก็ปล่อยเวลาให้เขาช็อปปิ้งกันหลายชั่วโมง กลับมาที่พักก็เวลาเดิม ห้าทุ่ม(อีกแล้ว)
รีบนอนดีกว่า รุ่งขึ้นหลวงพ่อบอกว่าจะพาไปเทียวทะเลสาป (ไปดูอะไรน๊าาาาาาาาา)
ค่าลงเรือท่องทะเลสาปแพงนะ เขาคิดคนละ 10 ดอลล่าร์ ใช้เวลาประมาณ 3.30 ชม.
ระหว่างทางก็แวะเที่ยวกระเตง  มีขอทานกาละมังด้วยนะ เขาว่าเป็นเวียดนาม
เห็นแล้วก็สงสารนะ เด็ก ๆ พวกนั้น อายุไม่น่าจะเกิน 7 ปี นั่งอยู่ในกาละมัง
แต่ละคนก็มีงูคล้องคอ แบบว่า มีโขว์ หากอยากถ่ายรูปด้วยก็ได้นะ ขอตังค์ 20 บาท
กลับมายังไนท์พลาซ่าอีกแล้ว แต่ทีนี้น่าจะเรียกว่า เดย์พลาซ่ามากกว่า
เอาวะ ซื้อของที่ระลึก เป็นจำพวกพวงกุญแจ+ที่ตัดเล็บ 
แหะ แหะ ... ควักเนื้อไป 240 บาท ...ฮา .. นี่ ตัดใจสุด ๆ แล้วนะเนี่ย อย่างน้อยก็มีของฝากให้น้อง ๆ ในที่ทำงานล่ะว๊า
838086924282834.jpg
ก็มีเวลาเที่ยวถึงบ่ายสอง ก่อนข้ามฟากกลับมาเมืองไทย
แล้วก็อย่างเคย .. ช็อปปิ้งกันอีกแล้ววววววววววววววววววววววว
ไม่รู้จะทำอะไรดี ที่โรงเกลือ ฉันซื้อกล้วยทอด 20 บาท ชาเขียว 1 ขวด 
แล้วก็นั่งรอให้พรรคพวกช็อปปิ้งกันให้พอใจ
โอ้โห .. แต่ละคน ได้ข้าวของมากันละเพียบบบบบบบบบบบบบ
เงินกองกลางยังเหลือ มื้อเย็นที่ฉะเชิงเทรา เลยเสวยซะอร่อยเลย
เงินกองกลางก็ยังเหลืออีก ทีนี้ ก็จัดใส่ซองถวายหลวงพ่อไป
ถือว่าร่วมกันทำบุญ สร้างกุศลด้วยกันก่อนจากอีกสักหน
519941572332755.jpg 
กลับมาถึงบ้านเกือบห้าทุ่ม (อีกล่ะ)  คืนนี้ขอนอนก่อน กระเป๋าก็ทิ้งไว้งั้นแหล่ะ
รุ่งขึ้นมีภาระกิจ ส่งมอบศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่หนองหญ้าปล้อง 
ก็มีส่วนจากเงินสมทบของพวกเรา เหล่าจิตอาสาเพื่อนพ้องน้องพี่
เอาไว้ค่อยเล่า ..... เดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน ...
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา