...เรือนหอ.. บทที่ ๕ อวสาน

...สียะตรา..

บทที่  ๕ 
 วันนี้ปองตื่นเช้า ได้ใส่บาตรกับคุณอรอีกแล้ว  ..ปองตื่นแต่งตัวเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางช่วยฉันเตรียมของถวายพระกลิ่นข้าวหอมละมุน กับข้าว และของหวานที่มือของเราทั้งสองบรรจงใส่ลงในบาตรนั้นทำให้ปิติไม่ต่างกับอรุณแรกของเราเลย เดินทางดีๆนะคะ แล้วเย็นๆพบกัน  ฉันพูดกับปองเหมือนทุกๆครั้ง..จัดปกเสื้อเครื่องหมายยศต่างๆให้เรียบร้อย หากวันนั้นต่างไปตรงที่ปองจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากของฉันนิ่ง..นาน..ฉันเสยผมใต้หมวกเครื่องแบบให้ปองด้วยความคิดถึงจับใจ  กลับบ้านเร็วๆนะคะ ตลอดวันฉันดูสับสนวุ่นวายใจทั้งที่ไม่มีงานใดๆเร่งรัดเหมือนที่ผ่านมา จนเมื่อหันเหความคิดของตัวเองไปจัดเสื้อผ้าของใชัที่ต้องใช้ที่สัตหีบตามแผนที่ปองวาดไว้ฉันจึงรู้สึกสงบขึ้นบ้าง ฉันสัญญากับตัวเองว่าครั้งนี้ฉันตามใจปองที่อยากให้ฉันอยู่ท่ามกลางความบริสุทธิ์ของแสงแดด ไอทะเลพร้อมๆกันเสียเหลือเกินแม้ว่าหลังจากนั้นฉันจะย่ำแย่กับอาการแพ้สิ่งเหล่านั้นมากกว่าคนอื่นๆก็ตาม
เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้นทำลายความเงียบงันรอบๆตัวฉันในยามดวงตะวันใกล้จะสิ้นแสง คุณอร  ช่อชฎานั่นเอง  คุณช่อรึคะ ปองยังไม่กลับเลยค่ะ บอกว่าจะกลับเย็นๆมีงานพิเศษน่ะค่ะ   คุณอร ฟังช่อนะ มาที่ร.พเดี๋ยวนี้เลย ทำใจให้สงบ แต่รีบมา   มีอะไร ใครเป็นอะไรคะคุณช่อ   มาเดี๋ยวนี้ คุณอร ช่อชฎาวางสายไปแล้วทิ้งฉันไว้กับความงุนงงตลอดการเดินทางอันร้อนรุ่มฉันเพียรติดต่อกับปองทั้งที่ไม่เคยทำหากอยู่ในเวลางานของปองช่อยืนคอยฉันอยู่แล้วเมื่อถึงร.พ ภายในห้องภาพแม่ของปองที่นิ่งสนิทจากทุกอย่าง คุณปานสุมาที่ซบหน้าข้างเตียงเคลื่อนไหวด้วยเสียงสะอื้นไห้ ปกเขตซุกตัวอยู่บนโซฟาร์มุมห้องคงมีแต่ช่อชฎาเท่านั้นกระมังที่คงสติเข้มแข็งทั้งที่ดวงตาแดงช้ำ แม่เป็นอะไรคะคุณช่อ แล้วปองล่ะคะ....ที่สุดฉันก็ได้พบร่างของปองที่ไม่ต่างจากการร่ำลากันเมื่อเช้า อุบัติเหตุคุณอร ยางรถคันที่ปองนั่งระเบิดรถเสียหลักแล้วพลิกคว่ำปองเป็นคนเดียวที่เจ็บหนัก  เสียงของช่อเหมือนเสียงผึ้งบินหึ่งๆอยู่ข้างหูฉันฉันกุมมือไร้สัมผัสของปองไว้ในสองมือของฉัน หันไปหาช่อ หาแพทย์ที่ยืนอยู่รอบเตียงหาคำตอบว่า ปองเป็นอย่างไร คุณอร  หมอดูจากแผล พริบตาเดียวที่ปองไปจากเราทุกคน ปองไม่เจ็บนะคุณอร ฉันยังคงประคองมือของปองไว้ด้วยความรู้สึกที่ดิ่งลึกสู่ความว่างเปล่า  ไม่มีน้ำตา ไร้เสียงหวนไห้ ให้เจ้าหน้าที่เค้าพาปองไปดูแลเปลี่ยนเสื้อผ้านะคุณอร  ช่อชฎาแยกมือของฉันกับปอง ให้ฉันทำนะคะ ได้โปรด ให้ฉันเป็นคนดูแลปอง   ช่อจะช่วยคุณอร เจ้าหน้าที่ของร.พ เลี่ยงไปมุมห้อง..ดับจิตฉัน  ช่อชฏาและคุณปานสุมายืนอยู่รอบอ่างที่มีตะแกรงรองรับร่างของปอง   ทว่าเพียงน้ำหยดแรกที่คุณปานลูบลงบนใบหน้าของปองเธอก็ทรุดตัวลงไม่สามารถที่จะฝืนความรู้สึกโศกเศร้าได้ต่อไปช่อชฏาต้องประคองเธอกลับไปยังห้องที่แม่ของปองยังหลับเพื่อตัดการรับรู้ด้วยฤทธิ์ยา.แล้วปองก็งามสง่าหมดจดอยู่ในเครื่องแบบอีกคร้งในท่ามกลางความสงัดเงียบ คุณอร ร้องไห้สิ  อย่าเก็บ อย่านิ่ง ช่อชฎาพูดกับฉันแต่ฉันว่างเปล่าเสียแล้วกับความรู้สึก
ตลอดช่วงเวลางานพิธีรำลึกถึงปองขวัญที่จากทุกคนไปในหน้าที่ สมเกียรติที่ปองรักเป็นนักหนาฉันไม่สามารถไปร่วมได้เลยนอกจากวันที่ร่างของปองกลายเป็นเถ้าอังคารที่ฉันบรรจงร้อยมาลัยเกลียวที่ปองเคยชอบด้วยว่าชื่นชมกับภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่คิดประดิษฐ์ประณีตศิลปเหล่านี้ให้คนรุ่นหลังฉันฝากมาลัยนั้นไปกราบปองขวัญ..ฉัตรแก้วของฉันเป็นครั้งสุดท้าย..ชีวิตของฉันว่างเปล่าโดยสิ้นเชิงไร้ความรู้สึกใดใด ช่อชฏา ให้เด็กในร้านคนหนึ่งมาอยู่เป็นเพื่อน แวะเวียนมาดูฉันบ้างและไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง คุณอร ช่อพูดแทนปองได้เลยนะว่า ปองจะทุกข์ ปองจะไม่สงบสุขเลยที่เห็นคุณอรในสภาพทุกวันนี้   ถ้าคุณอรอยู่ไม่ได้คุณอรตายตามปองไปเลยดีมั๊ย ช่อชฎาตบพื้นโต๊ะไม้เบื้องหน้าในขณะที่ฉันเขี่ยอาหารในจานอยู่ไปมา .ฉันเงยหน้ามองช่อชฎาอย่างว่างเปล่า พรุ่งนี้ช่อจะไปหาแม่ปองแต่เช้าคุณอรเตรียมตัวไว้ช่อจะมารับ แต่ฉันยังไม่. ..  ช่อจะมารับเก้าโมง วันรุ่งขึ้นแม้จะฝืนความรู้สึกที่อยากอยู่นิ่งๆแต่ฉันก็เตรียมตัวพร้อมเมื่อช่อชฏามาถึง ไปขึ้นรถคุณอร ก้าวแรกเมื่อฉันย่างสู่บ้านเก่าของปองสรรพสิ่งรอบตัวให้ความอบอุ่นจุดเล็กๆที่ก่อตัวขึ้นฉันกราบที่ตักแม่ของปองซึ่งเวลานี้ร่วงโรยกว่าที่ผ่านมา.. หนูขอโทษค่ะที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยตอนงานของปอง .. แม่เข้าใจความรู้สึกหนูนะอรณีแต่เพราะความที่ว่าแม่พบกับการพลัดพรากมาหลายครั้งทำให้แม่คิดว่าครั้งนี้แม่ก็จะผ่านมันไปได้หนูเองก็ต้องผ่านมันไปให้ได้  อรณี มานั่งใกล้ๆแม่..อย่างที่ปองเคยนั่งสิจ๊ะ  ฉันไม่อาจฝืนความรู้สึกทั้งปวงที่สั่งสมไว้ได้อีกต่อไป ฉันซบหน้าลงบนตักของ  แม่  รู้สึกในสัมผัสของความปราณีที่ลูบเส้นผมของฉันอยู่  ทุกคนที่ผูกพันกับปองเศร้าโศกกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ขณะเดียวกันต่างก็ยังห่วงใยซึ่งกันและกันและแม่ลูกๆของแม่รวมทั้งช่อก็ห่วงหนูเช่นกัน  หนูฟังเรื่องที่แม่จะเล่านะจ๊ะ ปองอวดหนูว่าแม่เป็นนักเล่าไม่ใช่หรือ  ตอนที่คุณพ่อเสียทุกคนไม่ต่างกับหนูเวลานี้ทำอะไรไม่ถูก คิดอะไรไม่ออก ปล่อยชีวิตให้ว่างเปล่าแล้วก็วันนึงน่ะจ้ะที่ปองเค้าได้ความคิดจากหนังสืออะไรสักอย่างที่แม่ก็ลืมเสียแล้ว ปองพยายามดึงส่วนที่เป็นพ่อกลับมาสู่บ้านปองเค้าเลือกส่วนของอารมณ์ดีของพ่อ  บนโต๊ะทานข้าวในวันที่ไม่มีพ่ออีกต่อไปปองพยายามเหลือเกินที่จะทดแทนสิ่งนี้ให้ทุกคนเล่าเรื่องราวต่างๆที่ปองคิดว่าทุกคนจะได้หัวเราะเหมือนที่พ่อเคยทำแม้มันจะได้เพียงหัวเราะฝืนๆแต่ทุกคนก็ได้คิดความเป็นพ่อไม่ได้ลับหายตายจากไปเลยยังอยู่รอบๆตัวทุกคนจากนั้นทั้งปาน เขต แม้กระทั่งช่อพยามยามทำส่วนที่พ่อเคยทำเพื่อทุกคน..ความอุ่นใจจะกลับมาความเศร้าแม้จะมีบ้างแต่ก็เบาบางลงไป  แม่อยากให้หนูคิดตามให้ได้นะอรณี ปองไม่ได้ลับหายไปจากเราทุกคน ความเป็นปองยังอยู่รอบๆตัวเรา  แม่ยังจำหมอนอิงผ้าไหมสีแดงที่ปองเอามาอวดว่าหนูสอนให้เค้าทำตั้งแต่เตรียมนุ่น..จนมันสำเร็จมาเป็นหมอน ซึ่งก็ยังอยู่ใกล้ๆหนูไม่ใช่หรืออรณี  ..ฉันก้มลงกราบแม่ด้วยจิตใจที่สว่างกว่าที่ผ่านมา  สิ่งใดที่ปองเคยรักเคยทำหนูพยายามทำให้ได้สิจ๊ะ แล้วหนูจะรู้สึกดีขึ้น เริ่มจากเป็นลูกของแม่อย่างที่ปองเคยเป็นได้ไหม อรณี   และคืนนั้นเมื่อฉันกลับถึงบ้านมองไปรอบๆตัวจริงสินะ ปองยังคงอยู่รอบๆตัวฉัน เทปเพลงเนวี บลู ที่ปองรักที่จะเปิดคลอยามทำงาน  ลายมือของปองที่คัดบทกลอนที่ฉันแต่งใส่กรอบไว้อยู่ตามมุมต่างๆของบ้าน แม้แต่เครื่องแบบของปองพร้อมเครื่องยศก็พับเก็บไว้เหมือนเดิมภายในตู้ของเรา
 ปัจฉิมบท
วันนี้ครบ๕๐ วันแล้วที่ปองจากไป  หนังสือเล่มสุดท้ายที่ปองจับต้องยังอยู่บนหลังตู้ไม้มะฮอกกานี..ฉันทิ้งชายม่านให้ระบายลงตามเดิม.. ต่อหน้าภาพของปอง   ปองขวัญ ฉันสัญญานะคะฉันจะทำชีวิตในส่วนที่เหลือของฉันให้ดีงามเหมือนเวลาที่ยังมีปอง  แม้ว่าฉันจะไม่รู้สึกเป็นสุขอีกเลยยามนี้ แต่ฉันจะหล่อเลี้ยงชีวิตของฉันด้วยความสุขที่ผ่านมาความสุขที่ปองนำมาสู่ฉัน 
ปลิดเจ้ากลีบดอกมณฑามาจุมพิต
แล้วตั้งจิตถึงวธูผู้ดับสูญ
รับกระแสจากวนิดาว่าอาดูร
จะมิพูนเกษมสันต์จวบวันปลาย				
comments powered by Disqus
  • ...สียะตรา..

    28 พฤศจิกายน 2549 13:32 น. - comment id 76045

    บทที่ ๑ 
    
    ........................................เรือนหอ.............................................. 
    
    
    ......กล่อมเอย..เจ้าเรือนทองห้องหอ 
    เคยชะลอเป็นนิวาสสวาสดิ์สอง 
    คงรื่นรินสุคัณธาลดากรอง 
    โสตทำนองของเสียงสังข์..ยังบรรเลง 
    
    
    
    ......ใกล้เช้าแล้วค่ะแต่ดวงจันทร์ยังเต็มดวงคิดถึง  ปอง  เต็มหัวใจ เรือนน้อยของเรายามนี้ ทุกเม็ดฝนทำให้ต้นไม้งามกว่าที่เคย ต้นพุดช้อนริมรั้วที่แนมด้วยเถาต้นโปร่งฟ้าและต้นบานบุรีสีเหลืองสดดอกเล็กๆหอมระรื่นที่ฉันเคยเล่าให้ปองฟังไงคะว่าแม่รักมากหอบหิ้วเอาต้นไปปลูกทุกที่ที่แม่ไปอยู่ไปทำงาน มะลิ๒กอก็แข่งกันแย้มดอกขาวกับต้นเขี้ยวกระแตซึ่งแต่ก่อนจะมีดอกสักทีแสนยากเย็น ชมนาดอยู่ตัวดีแล้วค่ะไต่โครงไม้ที่ปองทำไว้หน้าหนาวปีนี้คงมีช่อแรกให้ได้เห็น  ผ่านม่านสีขาวฉันมองสรรพสิ่งข้างนอกที่ยังคงอยู่รอบตัวฉันแล้วปองล่ะคะเป็นอย่างไร  มอง  และซึมซาบสิ่งเหล่านี้พร้อมๆกับฉันเหมือนที่ผ่านมาได้หรือไม่ 
    ปอง  ปองขวัญ และฉัน  อรณี  พบกันบ่ายวันหนึ่งในร้านขายเฟอร์นิเจอร์เก่า ที่เงียบมากจนฉันไม่คิดว่าจะมีลูกค้าคนอื่นๆอีก สัมผัสแรกที่ทำให้ชีวิตของเรา๒คนมาร่วมกันคือมือของฉันและ ปอง ที่ไล้อยู่บนตู้ไซด์บอร์ดไม้มะฮอกกานีที่เจ้าของร้านเอ่ยว่าเป็นของเก่ามาจากอังกฤษปองนั้นนั่งสำรวจอยู่ด้านหลังตู้ส่วนฉันชื่นชมลายไม้สวยอยู่ด้านหน้า สัมผัสจากมือนั้นแปลกแม้จะเพียงปลายก้อยที่บังเอิญมาสบกันและเมื่อ ปอง ยืนขึ้นประโยคแรกที่เราพูดพร้อมกันคือ  สวยมากนะคะ  
    ปองเป็นผู้หญิงที่สง่า มีบุคลิกบางอย่างที่ฉันคิดในเสี้ยวแรกของการพบกันว่า  ปอง  เหมือนทหาร 
     สวยมากนะคะ ปองยังย้ำประโยคเดิม  คุณจะซื้อไหมคะ  
    .นั่นคือการเริ่มของการรู้จักกัน เราออกจากร้านโดยไม่มีใครได้ซื้อตู้เล็กๆใบนั้นด้วยราคาที่ต้องกลับมาทบทวนระหว่างประโยชน์ใช้สอยกับความอยากเป็นเจ้าของสิ่งที่พึงใจ 
    เมื่อฉันขอแยกตัวจาก  ปอง  ในวันนั้น หลังจากผลัดกันเอ่ยชื่นชมกับตู้ใบสวยพอสมควร 
     คุณอรโปรดบอกปองด้วยถ้าคุณอรตัดสินใจซื้อเจ้าตู้ใบนี้ปองจะได้ไม่มาเก้อและถ้าปองเป็นเจ้าของมันวันไหนปองจะบอกคุณอรเหมือนกันค่ะ  ฉันจำได้ดี  ปองสาละวนกับกระดาษเล็กๆมากมายในกระเป๋าสตางค์แล้วก็ใด้กระดาษโนตแผ่นเล็กๆเพื่อนำมาเขียนหมายเลขโทรศัพท์ให้ฉัน  นี่ค่ะหมายเลขของปองขอของคุณอรด้วยค่ะ   ฉันเองแม้จะงุนงงกับวิธีของคนแปลกหน้าแบบปองแต่ดวงหน้าเรียบๆ ที่มีแววตาแบบเด็กเกเรยามคิดว่าหลอกล่อผู้ใหญ่ได้ของปอง ทำให้ฉันวางใจพอที่จะยื่นนามบัตรที่มีเพียงชื่อและหมายเลขที่ติดต่อได้ให้ปองไป 
    กว่า๓เดิอนทีเดียวที่ฉันเฝ้าพลิกกระดาษแผ่นน้อยที่มีเพียงตัวเลขและลายมือที่เขียนชื่อ  ปองขวัญ ลายมือตัวใหญ่ เส้นหนักแน่นตวัดปลาย ฉันเฝ้านึกว่าฉันเคยเห็นลายมือแบบนี้ที่ไหน แล้วฉันก็นึกออกเมื่อรื้อกระดาษเก่าๆที่ตั้งใจเก็บไว้อย่างถนอม ปองเขียนอักษรเหมือนคนรุ่นปู่ย่าไม่มีผิด และแล้วในตอนสายของวันหนึ่งหลังจากนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงของปองอีกครั้ง 
     คุณอร ปองโทรมาบอกว่าปองยังไม่ได้ซื้อตู้ใบนั้นนะคะ  
     ไหนว่าจะโทรมาเมื่อเป็นเจ้าของแล้วไงคะ  ฉันตอบปอง ไป 
     ปอง เหนื่อยจังค่ะ คุณอร ว่างมาทานข้าว คุยกับ ปองไหมคะ  
     ไม่เห็นเกี่ยวกับตู้นี่คะ  
     เกี่ยวค่ะ  ปองเงียบไปครู่หนึ่ง  ปองว่าปองเห็นรอยแตกด้านหลังน่ะค่ะ ทานข้าวกับปองนะคะ please my lady ฉันรู้สึกวาบกับคำวิงวอนของปอง  ปองจะนัดที่ไหนเมื่อไหร่ล่ะคะ ฉันไม่ปฏิเสธตัวเองเมื่อปองบอกสถานที่และเวลา แม้จะไม่คุ้นเคยนักกับสถานที่ที่ปองนัดหมายสำหรับคนที่ชีวิตส่วนมากในบ้านอย่างฉัน แต่ฉันคิดว่า ปองเป็นผู้ที่ฉันอยากเดินเข้าไปหา 
    ร้านเล็กๆริมถนนไม่หรูหรามากนักหาได้ไม่ยากจนเกินไป ฉันออกจะประหม่าเมื่ออยู่ในสายตาของผู้คนที่นั่งอยู่เกือบเต็มร้านแม้ก่อนถึงที่หมายฉันจะนั่งนึกทบทวนถึงปองขวัญที่ฉันกำลังจะได้พบเพื่อหาความมั่นใจ 
    ฉันมองหาปองไปทั่วร้านท่ามกลางผู้คนที่นั่งอยู่มากมาย  
     คุณอร แล้วฉันก็ได้พบปอง อีกครั้งปองขวัญ ที่ทำให้ฉันยืนนิ่งอยู่เป็นครู่ปอง อยู่ในเครื่องแบบแสนสง่า ปองที่ฉันรู้สึกในเสี้ยวแรกว่า ปองเหมือนทหารปองเป็นทหารจริงๆและอยู่ในเหล่าที่ฉันชื่นชมปองเดินมารับฉันไปที่โต๊ะริมหน้าต่างกระจกที่เมื่อมองผ่านความสลัวลางของยามเย็นออกไปเห็นแนวของต้นโมกที่ผลิดอกราวโคมสีขาวเล็กๆ 
     ปองมีความสุขจังค่ะที่พบคุณอรอีกครั้ง หาร้านไม่ยากใช่ไหมคะ 
    ฉันให้คำตอบปองด้วยรอยยิ้ม. ร้านเพื่อนปองเองค่ะชื่อเดียวกับร้านนี้น่ะค่ะ..ช่อชฎา บ้าน..มัน ..เอ๊ย คือเจ้าช่อน่ะค่ะอยู่ลึกเข้าไปในซอยนี้เองแต่วันนี้ช่อไม่อยู่ ไม่งั้นปองอยากให้ช่อเห็น ได้รู้จักคุณอรจังค่ะ นี่ค่ะเมนู คุณอรสั่งอะไรดีคะ  
    ฉันละสายตาจากเมนูอาหารขึ้นมา และก็ได้พบกับสายตาของปองที่จ้องมองมาที่ฉัน ..สั่งสิ่งที่ปองคิดว่าดีที่สุดของที่นี่เถอะค่ะฉันเชื่อการตัดสินใจของปอง  
    อาหารที่ร้านคุณช่อชฎา เพื่อนของปอง เป็นเลิศตามที่อาหารไทยควรเป็นอย่างที่ปองยกย่อง ฉันนั่งฟังปองเล่าเรื่องราวต่างๆโดยไม่เบื่อหน่าย เรื่องงานในหน้าที่ของปอง พี่สาวของปอง  คุณปานสุมา  น้องชายของปอง  ปกเขต  แม้แต่เรื่องราวของช่อชฎาเพื่อนสนิทของปอง 
     เจ้าช่อกับปองเหมือนคู่แฝดตั้งแต่ประถมจนมหาวิทยาลัยค่ะคุณอร ปองได้เห็นได้สัมผัสความละเมียดละไมแบบไทยๆนอกจากที่บ้านปองเองก็มีที่บ้านของช่อนี่ล่ะค่ะอีกแห่งหนึ่ง เมื่อยังเด็กเราชอบมาว่ายน้ำในท้องร่องสวนที่บ้านของช่อทานข้าวกลางวันแบบง่ายๆฝีมืออาหญิงแม่ของช่อและบางครั้งก็แอบย่องไปดูในโรงปั้นของคุณพ่อ ประติมากรรมอ่อนละมุนยังอยู่ในใจปองเสมอแม้จะไม่ได้เห็นของจริงอีก 
     คุณอรทานน้อยจังค่ะ ไม่ชอบรึเปล่าคะ  ปองถามฉัน 
     อร่อยมากค่ะ แต่ฉันทานน้อยแบบนี้เอง  
     โล่งใจค่ะคุณอร วันอาทิตย์เราสองคนไปดูตู้ของเรากันไหมคะ  
     ฉันตั้งใจจะไปอยู่เหมือนกันแต่ไปดูต้นไม้ ไม่อยากไปกวนคุณลุงเจ้าของร้านอีกถ้ายังไม่ตัดสินใจซื้อน่ะค่ะ  
     ให้ปองไปด้วยนะคะ ปองชอบต้นไม้ ดอกไม้ไทยๆหอมเย็น สวย อย่างเรียบๆ ปองรักดอกมณฑา หลงรักตั้งแต่ช่อชี้ให้ดูในสวนน่ะค่ะ   ฉันเคยได้ยินแต่ชื่อ ไม่เคยได้เห็นดอกจริงๆเลย  
    ๒วัน ถัดมาฉันและปองได้เดินดูต้นไม้หลากชนิด เราชอบต้นไม้เหมือนๆกัน ปองตื่นเต้นกับ ไฮย์ซิน  ต้นเล็กๆที่มีช่อดอกสีม่วงคราม แต่ฉันไม่ใคร่ชอบนักด้วยสีที่ดูเศร้าแม้กลีบดอกจะสวยงาม แล้วปองก็ชอบใจเป็นนักหนาเมื่อฉันเก็บดอก  สร้อยอินทนิล  สีม่วงที่ร่วงเกลื่อนลานของร้านหันหลังให้ปองเพียงครู่ดอกโรยจากต้นก็กลายเป็นกระต่ายตัวน้อยเท่าปลายก้อย 
     คุณอรทำอย่างไรคะ สอนปองบ้าง น่ารักจังค่ะ  
     ไว้จะสอนให้ทำค่ะแต่วันนี้เย็นมากแล้ว เราแยกย้ายกันกลับบ้านนะคะ   ปองไปส่งนะคะ คุณอรจะขนยังไงไหวตั้งมากมาย แล้วเพิ่งจะบ่ายอ่อนๆเอง เผลอๆปองลงต้นไม้ให้คุณอรได้นะคะ  
    มิใช่น้ำเสียงและสายตาของปองเท่านั้นที่ทำให้ฉันใจอ่อนหากเป็นเสียงจากหัวใจของฉันเองที่นำปองเข้ามาใก้ลชีวิตของฉันมากขึ้นทุกทีปองช่วยขนต้นไม้ที่ฉันซื้อลงมา รวมทั้งไฮย์ซินที่ปองอดใจซื้อมาไม่ได้ หิวไหมคะ ฉันจะทำกับข้าวง่ายๆให้ทาน ปองทำยืนตัวตรงตบเท้าชิดแบบทหาร ซึ่งฉันถือเป็นคำตอบรับ 
     เชิญข้างในค่ะ จะล้างหน้าก็ตามสบาย ทิ้งต้นไม้ไว้ก่อนก็ได้ค่ะ ฉันว่างเมื่อไหร่จะจัดการเอง ปองเดินตามเข้ามาภายในบ้านเล็กๆของฉันเสียงปองแผ่วนักเมื่อมองไปรอบๆภายในบ้าน เหมือนปองเดินเข้ามาอีก ยุคสมัยค่ะคุณอร คุณเล่นคนตรีด้วยรึคะ ขออนุญาตปองดูหน่อยได้ไหม   เชิญค่ะ ซอด้วงกับซอจีนของพ่อฉันค่ะ ส่วนฉันน่ะเล่นไม่เป็น จะเล่นได้ก็แต่ขิมก็แค่ไม่กี่เพลง ฉันจะหาน้ำเย็นให้นะคะ  ฉันปลีกตัวเข้าครัวหลังบ้านเพื่อหาน้ำและดูว่าพอจะมีอะไรเป็นกับข้าวรับรองปองได้บ้างไม่นานเลยฉันก็ได้ยินเสียงซอจีนท่วงทำนองสนุกสนานเหมือนเมื่อครั้งพ่อของฉันเล่นในยามเย็นแบบนี้ดวงตะวันอ่อนแสงลง ลมรำเพยพากลิ่นดอกแก้วที่โปรยกลีบเกลื่อนเฉลียงหน้าบ้าน ดอกบัวผันสีม่วงและชมพูดอกเล็กๆหรุบกลีบบางสะท้อนรูปสวยอยู่เรี่ยผิวน้ำ 
     ทานข้าวค่ะปอง ที่เฉลียงนี่นะคะลมเย็นดี  
    ปองเก็บซอเรียบร้อย ดวงหน้าแช่มชื่นจากหยดน้ำที่พร่างพราว 
     มีความสุขจังค่ะคุณอร ปองพบคุณปองรู้สึกแบบนี้ ทุกครั้งตั้งแต่ครั้งแรก ฉันตักข้าว เลื่อนกับข้าวที่มีเพียง๒อย่างเทียบให้ปอง อยากเอ่ยกับปองว่าฉันเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน ดวงจันทร์สว่างทั่วฟ้าแล้วเมื่อฉันยืนส่งปอง  ขอปองมาหาคุณอรอีกได้ไหมคะ มาลงต้นไม้ มาขอข้าวทาน ขอฟังคุณอรเล่นขิม มานั่งนิ่งๆก็ได้ค่ะ  
     ส่วนมากฉันจะอยู่บ้านค่ะ ถ้าว่างก็เชิญ  ฉันตัดดอกพุดซ้อนช่อหนึ่งห่อใบตองให้ปองไปถวายพระแล้วปองก็มาพบฉันยามเลิกงานบ้าง วันหยุดบ้าง ช่วยฉันทำสิ่งเล็กๆน้อยๆ นั่งทำงานที่ปองหอบมาทำบ้าง และบางครั้งเฝ้ามองในขณะที่ฉันนั่งทำงาน...... 
    
    
    
    
     
    
     
     โดยคุณ ...ช่อมะกอก.. [01-01-2006 18:34]  
     
    
    
    
    --------------------------------------------------------------------------------
    
    โดยคุณ ...ช่อมะกอก.. [01-01-2006 18:53] #11898 (1/19)   
    
    
    
    บทที่ ๒ 
    
    และในตอนสายของวันหยุดวันหนึ่ง ปองมาพร้อมกับดอกไม้เล็กๆ ๒ ดอก ดอกมณฑาค่ะคุณอร จากสวนของช่อน่ะค่ะ  ปองทำท่าลึกลับ ฉันเลิกคิ้วเหมือนฉงน ลึกๆ ในใจปองที่ปองเคยบอกคนเดียวคือช่อปองอยากชื่อมณฑาค่ะ  ฉันขันจนต้องเลี่ยงจากปองว่าขอตัวไปทำงานที่ค้างไว้ฉันสอดเส้นไหมลงบนผืนผ้าได้ไม่นานเลยเมื่อปองเดินเข้ามาทรุดตัวนั่งบนพื้นใกล้ๆฉันในห้องทำงาน ไม่มีรางวัลให้ปองบ้างรึคะที่เอาดอกมณฑามาให้คุณอร ฉันคิดอยู่เป็นครู่ก่อนปักเข็มลงบนหมอนพักเข็ม  ปองรักที่จะมองเวลาคุณอรทำงาน แต่ปองขออนุญาตนะคะ เกินกว่าที่ฉันจะคาดคิดปองเอนตัวลงหนุนตักฉัน ปองนิ่งมองฉันเป็นครู่แล้วเอ่ยว่า  คุณอรสวย   เหมือนนางงาม พ.ศ.ไหนคะ  ฉันถามเย้าปอง. คุณอรสวย สวยเหมือนลูกไม้ริมผ้าเช็ดหน้าที่คุณอรใช้น่ะค่ะ เล็กๆ ละเอียดลออ   เป็นคำชมที่แปลกแต่ฉันก็ยินดีค่ะ คุณอรกลัวไหมคะที่อยู่คนเดียว  
    ฉันก็กลัวบ้างกล้าบ้างตามสถานการณ์น่ะค่ะ เพื่อนบ้านใกล้ๆก็มีน้ำใจต่อกันดี   คุณอรมีความสุขกับชีวิตเลยดูนิ่งๆ ไม่ร้อนรนเหมือนคนอื่นๆ   ฉันก็เคยร้อนรนค่ะ กับความปรารถนากับสิ่งรอบตัว แต่เวลาที่นำวัยมาให้ฉันทำให้ฉันเป็นอย่างที่ปองเห็น  
     ตอนบ่ายคุณอรไปหาแม่กับปองได้ไหมคะ คุณอรจะได้เห็นบ้านเก่าที่ปองเคยอยู่ปองอยากให้คุณอร ได้รู้จักพี่ปานกับเขตด้วย  
     ได้ค่ะ  ฉันให้คำตอบปองพร้อมกับย้อนคิดถึงคำพูดของปองที่เคยเล่าให้ฟังในครั้งหนึ่ง ปองกับเขตตกลงใจยกบ้านให้พี่ปานเป็นเรือนหอตอนที่สมรส พี่ปานก็ดูแลแม่ที่ยังอยู่บ้านเดิม ปองกับเขตหาได้บ้านเล็กๆไม่ไกลที่ทำงานของเรา๒คนนัก ปองคิดนะคะ วันหนึ่งถ้าเขตมีครอบครัวปองก็จะทำแบบเดียวกัน ปองไม่คิดว่าเป็นการเสียสละอะไรเลยกับการที่ทำให้คนที่ปองรักมีความสุข วันหยุดปองกับเขตก็ไปหาแม่ หาพี่ปานพี่ปานใช้ที่ว่างข้างๆบ้านเปิด ร.ร. อนุบาลเล็กๆแม่ก็เลยสนุกใหญ่แทนที่จะมีหลานสาวคนเดียวทีนี้เลยมีเป็นสิบ พี่ปานน่ารักนะคะ พยายามรักษาทุกอย่างให้เหมือนเดิมแม้แต่มะม่วงทองดำสักต้นก็ไม่ยอมตัด ยอมให้ตึกมันแหว่งไปหน่อย  ปองเล่าถึงครอบครัวอย่างมีความสุขในวันนั้น 
     คุณอร  คิดอะไรคะ  ปองพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง 
     ครอบครัวปองน่ารักนะคะ เวลาที่ฉันได้รู้จักผู้คนที่ดีงาม ฉันมักคิดว่าเป็นบุญของฉัน ฉันอยากไปพบครอบครัวของปองค่ะฉันกับคุณปานพี่ของปองก็รุ่นเดียวกัน ปองจะเรียกฉันว่าพี่ก็ได้ไม่ต้องเรียกคุณหรอกค่ะปองส่ายหน้า มือที่เคยสัมผัสกันเพียงปลายก้อยในวันแรกวันนี้ได้ประคองมือของฉันเอาไว้  ปองอยากเรียก คุณอรแบบนี้   ตามใจค่ะ แต่ทำไมล่ะคะ  ปองทำหน้าขรึมแล้วบอกว่า เพราะคุณอรตัวเล็กนิดเดียว จะให้ปองเรียกพี่ได้ไงคะ  
    ฉันขันกับเหตุผลของปองจนต้องหัวเราะ 
    แล้วฉันก็ได้พบภาพงดงามในความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่ยากจะลืมเลือนปองแนะนำฉันกับแม่ของปอง สตรีสูงวัยคงเค้าของความงามที่เคยมีในเวลาที่ผ่านมา คุณปานสุมาพี่สาวรุ่นราวคราวเดียวกับฉันกับลูกสาวตัวเล็กๆ  สายกสินธุ์  และ ปกเขตน้องชายที่ทำงานด้านศิลป คุณอรนั่งคุยกับแม่ก่อนนะคะ ปองไปเตรียมกับข้าวกับพี่ปานเอง    นั่งพับเพียบเรียบร้อยจริง ถนัดรึเปล่าล่ะหนู ปองคุยเรื่องหนูให้แม่ฟังบ่อยๆจ้ะ  แม่ของปองเอ่ยกับฉัน  ฉันยิ้มให้ท่านเป็นคำตอบ  ทำงานแบบหนูก็น่ามีความสุขนะจ๊ะ อยู่กับสิ่งสวยงามประณีต อยู่บ้านไม่ต้องไปผจญภัยนอกบ้านเหมือนคนอื่นๆตอนนี้ปักอะไรอยู่ล่ะจ๊ะ  .. เป็นฉากกั้นห้องค่ะ   ปองเล่าว่าหนูชอบของเก่าๆโต๊ะ ตู้ หนังสือเหมือนกัน  ค่ะ แต่ที่มีอยู่ก็เป็นของเดิมนานๆถึงจะมีโอกาสซื้อชิ้นใหม่สักครั้งค่ะ  
     งั้นมาดูภาพเก่าๆสมัยที่คุณพ่อของปองยังอยู่ไหมล่ะจ๊ะ  
     ค่ะ แม่ของปองเลื่อนตัวลงมานั่งที่ผืนพรมเดียวกับฉัน 
    สมุดภาพเล่มหนาหนักเปิดออก ภาพนายทหารเรือในชุดสีขาวสะอ้าน สง่างาม เป็นภาพแรก  คุณพ่อของปองจ้ะ  ดวงตาและช่วงปากของปองละม้ายบิดาเหลือเกิน ฉันคิด  ปองเค้าเหมือนพ่อแทบทุกอย่างความคิด รูปร่าง หน้าตา หนูว่าไหม   
     ปองเหมือนคุณพ่อช่วงปาก กับดวงตาค่ะ  ฉันตอบไปแบบนั้น  หนูช่างสังเกต เป็นแบบนั้นจริงๆจ้ะ  ปองติดพ่อเป็นลูกพ่อตั้งแต่รู้ความ แต่เค้าก็มีความคิดบางอย่างเป็นของตัวเอง เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมองแม่ของปองฉันได้พบดวงหน้าเปี่ยมสุขของผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้มองได้พูดถึงบุคคลที่รัก  พ่อของปองสอนให้ลูกๆรู้จักระเบียบในชีวิตแต่ไม่ตีกรอบให้ลูกๆเป็นแบบนั้นแบบนี้จ้ะ พ่อกับแม่คิดเหมือนกันว่าตราบใดที่เราเป็นแบบอย่างที่ดีงามพวกเค้าจะมีต้วอย่างให้เห็น และบางครั้งถ้าแต่ละคนจะมีแนวทางที่ต่างไปจากพ่อและแม่เคยประพฤติปฎิบัติเราจะใช้ความเชื่อมั่นว่าทุกคนจะเลือกสิ่งที่ดีเหมาะสมกับชีวิตตัวเอง  แม่ของปองเล่าพร้อมๆกับพลิกสมุดภาพภาพแล้วภาพเล่าที่ผ่านสายตาฉันแสดงให้เห็นความผูกพันธ์ สายใยแน่นแฟ้นของบุคคลในครอบครัว 
     นี่ตอนปองรับปริญญาจ้ะ นี่ตอนเค้าเริ่มงานใหม่ๆ พ่อน่ะภูมิใจนักหนาเชียวที่ปองเจริญรอยตาม ปองเค้ามุ่งมั่นมาแต่เด็กว่าจะเป็นทหารเหมือนพ่อ ตลกดีนะหนูแทนที่จะเป็นนายเขต  
     นี่ตอนปานแต่งงานจ้ะ  สมัยที่ปานเค้าเริ่มคบหาสาธิต ตอนเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัย พ่อกับแม่ก็ห่วง แค่ห่วงนะจ้ะ ว่าปานจะปรับตัวได้ไหมกับสังคมสิ่งแวดล้อมที่ต่างกันมากๆ สาธิต สามีปานเค้ามาจากครอบครัวจีนรุ่นเก่าน่ะจ้ะ ก็ต่างกันมากกับที่ปานเค้าคุ้นเคย แต่ด้วยความรักนะหนู มันมี ..เส้นทางสายกลาง ..เสมอแม้จะต่างกัน ทุกวันนี้วันตรุษวันสารทปานเค้าเตรียมเครื่องไหว้ได้สวยงามพร้อมเพรียง สาธิตเองเค้าก็ปล่อยให้แม่ให้ปานอบรมยายสายให้เป็นไปอย่างที่บ้านนี้เคยอบรม แต่ตัวเค้าเองก็สอนลูกให้รู้ภาษาจีนวันละคำเหมือนกันนะจ้ะ ยายสายก็เอามาสอนน้าสอนยายอีกต่อหนึ่ง แม่ของปองเล่าอย่างมีความสุข 
    เสียงวิ่งหยอกล้อของปองกับหลานสาวดังใกล้เข้ามามาจากอีกห้องหนึ่ง  จวนเสร็จแล้วค่ะแม่ หิวกันรึยังคะคุณอร   จะทำเลี้ยงกองทัพกันรึไงจ๊ะ  เขตเกิดอยากจะทำกุ้งชุบแป้งสูตรใหม่น่ะค่ะ แป้งขาวเต็มครัวไปหมด ทุกคนอดหัวเราะไม่ได้เมื่อนึกถึงภาพที่ปองเล่า   แม่ได้คนฟังเรื่องเล่ารายใหม่แน่ๆเลยลงได้เปิดสมุดภาพแบบนี้ นี่นะคะคุณอรถ้าเป็นช่อล่ะก็ ก่อนแม่จะเล่าช่อจะบอกว่า แม่จ๋าขอหมอนใบนึง แล้วจากนั้นจะได้ยินเสียงเล่าเสียงปลุกให้ตื่นไปตลอดล่ะค่ะ   หาว่าแม่พูดมากเรอะเดี๋ยวเถอะ   ปองบอกคุณอรว่าแม่เป็นนักเล่าเรื่องชั้นเยี่ยมต่างหากค่ะ ปองกอดแม่พร้อมแนบแก้มกับแก้มแม่อย่างรักใคร่ 
    อาหารเย็นมื้อนั้นสมบูรณ์ในความเป็น ครอบครัว ซึ่งฉันไม่ได้สัมผัสมานาน เมื่อของหวานถูกยกออกมา วุ้นกรอบสีอ่อนสวยรูปร่างต่างๆในจานกระเบื้องขาวใบเล็ก ทำให้หลานสาวตัวน้อยของปองส่งสายตาอย่างสนใจ  คุณอรทำเองค่ะ ลองทานสิคะไม่หวานมากอย่างที่ขายทั่วไป ปองแบ่งไว้ในตู้ให้พี่สาธิตกับยายสายอีกจานด้วยนะคะพี่ปาน   อืมม อร่อยจ้ะหนู วุ้นหนาน้ำตาลบางเป็นกระจกเชียว ต้องสอนแม่ทำบ้างแล้ว  อาหารมื้อนั้นจบลงอย่างสมบูรณ์ ปองพาฉันเดินชมรอบๆบ้าน ต้นไม้ร่มครึ้มส่วนใหญ่เป็นไม้ผลยืนต้น  แม่ชอบคุณอรนะคะ ก่อนปองจะพาคุณอรมาวันนี้ปองบอกแม่ว่าว่าจะพาลูกสาวเรียบร้อยเป็นผ้าพับมาให้แม่ แม่อยากได้ลูกสาวแบบคุณอรน่ะค่ะ   ฉันก็รู้สึกเคารพท่านมากค่ะ เคารพความคิด การสั่งสอนของท่าน และรู้สึกนิยมกับความเปิดกว้างของจิตใจในการมองผู้คนและสิ่งรอบๆตัว  ปองยิ้มรับอย่างภูมิใจในมารดา  แม่กับพ่อปองมองคนที่ความคิด มากกว่ารูปแบบภายนอกที่เค้าเป็นน่ะค่ะคุณอร อย่างช่อนี่ หลายคนจะกล่าวหาว่าช่อทำตัวแปลกๆ พูดจาก็ตรงเป็นไม้บรรทัดจนกลายเป็นระคายหู แต่พ่อกับแม่กลับเอ็นดูช่อเพราะเห็นในน้ำใสใจจริงความรักเพื่อนรักโน่นรักนี่ไม่เคยคิดร้ายกับใครๆเลยนอกจากปากร้าย กับความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่เหมือนทั่วๆไป  ฉันมีความสุขค่ะที่มาทานข้าวที่นี่วันนี้..เหมือนกับว่าฉันได้ความรู้สึกเก่าๆที่แทบจะเลือนหายไปแล้วกลับคืนมา ขอบคุณค่ะ ตลอดทางกลับบ้านปองยังสนุกที่จะเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฉันฟังจนถึงบ้าน..ปองช่วยฉันเก็บสิ่งของต่างๆเรียบร้อย คุณอรให้ปองนั่งทำงานต่อที่บ้านคืนนี้ได้ไหมคะ  ปองลุกมาคุกเข่าเบื้องหน้าฉัน .. ปองอยากอยู่ใกล้ๆคุณอรและก็มีอีกหลายอย่างที่ปองอยากพูดอยากถามถ้าคุณอรอนุญาต ฉันนิ่งคิดไม่นานเลยสำหรับคำตอบ ฉันอนุญาตค่ะเพราะฉันก็มีสิ่งที่อยากถามปองเช่นกัน 
     ปองทำงานของปองนะคะ ฉันขอตัวขึ้นขัางบนสักครู่จะเตรียมเสื้อผ้าให้ปองด้วยค่ะ เมื่อฉันลงมาข้างล่างอีกครั้งก็ได้เห็นปองที่ขมักเขม้นกับแผ่นกระดาษมากมายตรงหน้า ฉันเลี่ยงเข้าครัวเตรียมโกโก้ร้อนที่ปองชอบ  หอมจังค่ะคุณอร   หอมก็ดื่มเสียก่อนที่จะเย็นนะคะ   ปองว่าหอมคุณอรต่างหากค่ะ  
     งานมากรึคะ ดื่มเสร็จแล้วอาบน้ำก่อนดีไหมจะได้ไม่เพลียฉันจะนั่งทำงานเป็นเพื่อนปองค่ะ   คุณอรเลี่ยงบาลีเก่ง  
     นี่หรือคะสำนวนอาจารย์ภาษาอังกฤษฉันยังอายเลยค่ะ  ปองอยู่ในอาณัติคุณอร ปองนั่งตัวตรงตั้งใจดื่มจนหมดถ้วย  คุณอรอยากถามอะไรปองคะ  ฉันสงสัยน่ะค่ะว่าหลังจากพบกันวันแรก แล้วปองก็เงียบหายไป แล้วทำไมปองถึงติดต่อกลับมาด้วยเหตุผลที่ไม่เป็นเหตุผลเลย   คุณอร เป็นคำถามที่ปองอยากตอบคุณอรเหลือเกินค่ะ แต่คุณอรบอกปองก่อนได้ไหมคะว่าช่วงเวลานั้นคุณอรล่ะคะนึกถึงปองบ้างไหม   กระดาษแผ่นเล็กๆที่สามารถติดต่อปองได้อยู่ในสัมผัสของฉันทุกวันค่ะ แต่ฉันคิดไม่ออกเลยว่าจะติดต่อปองได้อย่างไรนอกจากเงื่อนไขที่ปองตั้งไว้  คุณอร นี่คือสิ่งที่ปองอยากบอกคุณอรนะคะ และก็มีคำถามอีกคำถามด้วยเช่นกันปองมีความหวังมานาน นานมากที่จะมีคนสักคนที่ปองได้ดูแล ได้รัก อย่างที่พ่อมีต่อแม่และเมื่อพบคุณอร ปองรู้สึกได้ว่าคุณอรคือคนๆนั้น ตลอดเวลาที่ปองเงียบหายไปปองหายไปเพื่อ  คิด  ค่ะ คิดว่าปองพร้อมหรือยังที่จะรับผิดชอบชีวิตคนอีกคนที่ปองปรารถนา เมื่อปองตอบตัวเองได้ทุกอย่างว่าปองพร้อมปองถึงได้เดินเข้ามาหาคุณอร และแม้ปองจะมั่นใจในความรู้สึกต้วเองกว่าครึ่งแต่ปองก็ยังอยากรู้จากคุณอรเองว่าคุณอรคิดและรู้สึกในเส้นทางสายเดียวกับปองหรือไม่  
    ฉันให้ความรู้สึกทั้งปวงผ่านสายตาเป็นคำตอบให้ปอง... 
    
    
    
    
     
     
    
    
    --------------------------------------------------------------------------------
    
    โดยคุณ ...ช่อมะกอก.. [01-01-2006 18:56] #11899 (2/19)   
    
    
    
    บทที่ ๓ 
    
    อรุณแรกของความเป็น  เรา  งดงามนัก บนระเบียงที่ฉันยืนอิงร่างสูงของปองนั้นเบื้องหน้าแสงสีชมพูระบายจางๆบนขอบฟ้าดอกไม้นานาแต้มสีสันทั่วบริเวณ 
     คุณอร  ปองกระซิบกับฉัน  เราไปทำบุญที่วัดเลยดีไหมคะ แทนที่จะใส่บาตรหน้าบ้านอย่างที่คุณอรทำอยู่ให้เช้าแรกของเราเป็นกุศลร่วมกันเถิดนะคะ  น้ำตาของปิติรื้นในดวงตาฉันก่อนออกจากบ้านปองขอเข้าไปกราบพระและอัฐิบุพการีของฉันอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้มิใช่เพียงขออนุญาตพักอาศัยตามธรรมเนียมทั่วไปหากครั้งนี้ปองกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจต่อหน้าโกศ  ปองขอสัญญาไม่เฉพาะกับคุณอร แต่กับทุกท่านที่ให้กำเนิดคุณอรมาเพื่อปอง ปองขอรัก ขอดูแลคุณอร นับแต่นี้จนกว่าปองจะหมดความสามารถ 
    เช้านั้นเราแวะวัดใกล้ๆแห่งแรกที่พบ แล้วเราก็ได้ผู้ให้ศีลและพรและประพรมน้ำพระพุทธมนตร์เป็นสงฆ์ผู้ชราและอาพาธเกินกว่าที่จะออกบิณฑบาตร วันเกิดหรือโยม   วันมงคลค่ะหลวงพ่อ  ปองตอบท่านไปเช่นนั้น  ดีจ้ะโยม คิดดี แล้วก็ทำตามที่คิดก็เป็นวันดีวันมงคลทั้งสิ้น  
    .. ไม่กลับบ้านรึคะปอง เกเรแบบนี้งานไม่เสร็จนะคะ  ฉันท้วงเมื่อออกจากวัดแล้วปองออกนอกเส้นทาง  ไม่นานหรอกค่ะคุณอร ดุจัง  ปองออดอ้อนฉันด้วยสายตา 
     ปองอยากให้สิ่งแรกที่นำเราสองคนมาพบกัน เป็นสิ่งแรกที่เรามีร่วมกันค่ะ  ปองพาฉันมาที่ร้านเฟอร์นิเจอร์สถานที่แรกที่ได้พบกัน คุณลุงเจ้าของร้านหาอยู่เป็นนานกว่าจะคิดออกว่าเป็นตู้ใบไหนมันถูกร่นไปไว้เกือบหลังร้านฝุ่นจับหนาเมื่อฉันและปองสัมผัส.และแล้วตู้ใบสวยที่เราได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของเราทั้งสองก็มาตั้งอยู่ในบ้าน แม้จะยังหาที่เหมาะไม่ได้ ที่จะตั้ง 
     เดี๋ยวปองไปเอาเครื่องแบบที่ร้านซักรีดตอนเย็นๆนะคะ คุณอรอยากได้อะไรไหมคะ  แม้จะขวยเขินอยู่บ้างแต่ฉันก็เกาะแขนปองพามาที่ตู้ข้างบันไดและเมื่อเปิดออก  ฉันไม่ทราบนะคะว่าฉันจะทำได้ดีเหมือนที่ปองคุ้นเคยรึเปล่า แต่ฉันอยากทำให้ปองค่ะ  เครื่องแบบสีขาวน้ำเงินของปองที่ฉันนำมาซักรีดเรียบร้อยด้วยมือของฉันเองโดยที่ปองไม่รู้อยู่บนราวแขวนเบื้องหน้าเราทั้งสอง  คุณอร ไม่เหมือนค่ะ ไม่เหมือนเลยกับที่ปองคุ้นเคยแต่ที่ต่างคือความรู้สึกค่ะคุณอร ปองอยากให้ทุกสิ่งที่เป็นชีวิตปองอยู่ในมือคุณอรแต่ปองไม่อยากให้คุณอรลำบากงานก็มากอยู่แล้ว   ฉันสุขใจที่จะทำค่ะ   เราปาดน้ำตา..ของความตื้นตันกระมังให้กันและกัน  เป็นวันแรกที่รับราชการนะคะคุณอรที่ปองสวมเสื้อไม่เรียบไปทำงาน  ปองแหย่ฉันแบบนั้นแล้วก็ได้รอยหยิกเล็กๆเป็นรางวัล 
    
    
    
    
    บทที่ ๔ 
    
    
    
    .เวลาเดินผ่านไป เป็นเดือน ปี และ ย่างเข้าปีที่๔ ที่ร่วมชีวิตกัน บางขณะยามที่อยู่ลำพังฉันเคยนึกอัศจรรย์ใจนักว่าสิ่งใดนำฉันและปองมาพบกัน ปองที่เสมือนแสงอุ่นในฤดูหนาว เสมือนท่วงทำนองคนตรีหนักแน่นทว่าอ่อนหวานเรื่อยรินอยู่รอบตัวฉันทุกวินาที เสมือนร่มไม้ใหญ่ที่ทอดเงาร่มเย็นให้ฉัน ปองมิได้ทำให้ชีวิตเราทั้งสองเป็น  ครอบครัว  ขึ้นมาเท่านั้น หากทว่าปองถักทอเชื่อมโยงครอบครัวของเรากับสรรพชีวิตรอบตัวมิได้หลบเร้นอยู่ในมุมมืดเพียงสองคน ด้วยเส้นไหมอันงดงามของความอาทร ในบางเช้าของวันหยุดเสียงกริ่งหน้าบ้านของเราดังขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็น เด็กเล็กๆหลายคนถามหาพี่ปอง เมื่อฉันถามไถ่จึงได้ความว่าเด็กเหล่านี้ในยามเช้าที่พวกแกไปโรงเรียนปองจะรับทุกๆคนติดรถไปส่งในที่ๆสะดวกที่สุดและปองทำให้ฉันรู้สึกไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปเมื่อยามที่ฉันได้รับหน้าที่พาแม่ของปองพบแพทย์ตามนัดบ้าง หรือในบางครั้งเพียงไปเป็นเพื่อนยามท่านอยากไปวัดที่ศรัทธาในขณะที่คุณปาน เขต หรือปองอยู่ในหน้าที่เกินกว่าจะพาท่านไปได้ ฉันได้หัวเราะยามคุณช่อเพื่อนของปองมาที่บ้าน  ช่อชฏา  ที่ฉันนิ่งไปเมื่อพบครั้งแรกกับภาพลักษณ์ที่ในใจคุณช่อปราถนาจะเป็นไม่ว่าผมที่สั้นเกรียน การแต่งกายทะมัดทะแมงก็ดูต่างจากปองกระมังแต่เมื่อฉันเฝ้ามองยามทั้งสองนั่งคุยวางแผนสิ่งที่อยู่ในอนาคต แลกเปลี่ยนทัศนะ ไม่มีอะไรที่แตกต่างระหว่างข่อชฏากับปองขวัญ ความคิดและหัวใจของทั้งสองต่างหากที่เหมือนกัน 
     คุณอร อยู่ไหนเอ่ย เสียงเรียกของปองดึงฉันกลับจากความคิด  เหนื่อยไหมคะ ..ปองหอบหนังสือหลายเล่มไว้ในมือสายใยในสายตาที่ส่งมาที่ฉันนับแต่วันแรกจนถึงเวลานี้ยังเช่นเดิม  เห็นหน้าคุณอรแล้วหายเหนื่อยค่ะ ปองมีหนังสือมาฝากด้วยค่ะ แวะไปที่บ้านน่ะค่ะค้นเจอหนังสือเก่าๆหลายเล่มคิดถึงคุณอรเลยขนมาค่ะ  เรารักการอ่านเหมือนๆกันแม้จะคนละแนวแต่ก็ผสานกันได้ ปองรักที่จะฟังเรื่องราวเก่าๆประวัติศาสตร์ที่ฉันชอบอ่าน ในขณะที่ฉันรักที่จะฟังแนวคิด ปรัชญา ของบุคคลต่างๆที่ปองถ่ายทอดให้ฟัง  วันนี้กับข้าวมีแค่กุ้งทอดกระเทียมกับแกงจืดเต้าหู้นะคะ ต้องรีบเก็บงานให้เสร็จน่ะค่ะ วันนี้ดูปองเหนื่อยจัง ฉันละมือจากจานเบื้องหน้า ดึงผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยที่เหน็บสะเอวจนชินมาเช็ดหน้าให้ปอง  ปองเพลีย เท่านั้นคุณอรอย่ากังวล  งั้นทานข้าวเสร็จปองนอนเลยนะคะฉันส่งปองเข้านอนด้วยความรู้สึกเคว้งคว้างอย่างไม่เคยเป็น ลงมาทำงานต่อด้วยสมาธิอันน้อยนิดแต่ก็เสร็จสมบูรณ์ตามหน้าที่และเมื่อฉันก้าวสู่ห้องนอนของเราอีกครั้งฉันก็พบปองที่ดวงหน้าสดใสขึ้นจากเมื่อหัวค่ำ  ตื่นมาทำไมคะน่าตีจริงๆ  ฉันอังมือกับหน้าผากปองว่ามีไข้หรือไม่  คนดีปองไม่ได้ป่วยแค่เหนื่อยกับงานเท่านั้นเอง  ปองจุมพิตมือที่ห่วงใยของฉันด้วยลมหายใจของความรัก  ปองว่าถ้าเกินเที่ยงคืนไปแล้วสัก5นาทีจะลงไปตามคุณอรค่ะ อ่านหนังสือเล่มนี้อยู่ ปองอยากให้คุณอรอ่านนะคะ A girl who was Life  ( เขียนโดย นิโคไล ชูคอฟสกี้ )เธอคือชีวิต คือหนังสือที่ปองยื่นให้ฉันเรื่องของแอสยาในเรื่องนี้ทำให้ปองได้คิดตอนที่ปองทุกข์เพราะเสียพ่อน่ะค่ะคุณอร มันคิดได้หลายมุม อย่างเวลานี้ที่ปองมีความสุข คุณอรเหมือนพลังให้ปองเหมือนๆกัน ให้มีจุดมุ่งหมาย ให้ภาคภูมิใจที่ปองสามารถนำพาและรับผิดชอบชีวิตคุณอรได้ปองว่ามันต่างกันนะคะถ้าในขณะที่เราดำรงชีวิตอยู่เราทำอะไรแม้มันจะถูกต้องดีงามแต่ลำพังตัวเพื่อเราเพียงคนเดียวกับเพื่อคนที่อยู่เคียงข้างเรา  ..ฉันลูบผมสีน้ำตาลเข้มเส้นบางของปองด้วยความรู้สึกทั้งมวลของฉัน  ความคิดของฉันอาจจะไม่เป็นสากลนักฉันบอกปองได้เพียงว่า ฉันรู้สึกเหมือนมี..ฉัตรแก้วกั้นเกศ..นับแต่ปองเข้ามาในชีวิตของฉัน .  แปลกจังค่ะทำไมปองคิดถึงคุณอรจับใจทั้งที่คุณอรอยู่ตรงนี้  ปองกอดฉันไว้ราวกับยื้อแย่งกับสิ่งใดตอนใกล้เที่ยงของวันต่อมาเสียงปองที่ดังมาตามสายสดชื่นนัก  คุณอรปองลาพักร้อนแล้วนะคะ อาทิตย์นึงเต็มๆค่ะคุณอรอยากไปไหนเดี๋ยวปองพาไป   ปองได้พักตามใจปองดีกว่าไหมคะ   อืมมม งั้นเราไปนอนอ่านหนังสือที่สัตหีบกัน2วันแล้ววันที่เหลือปองโทรไปนัดช่างมาทำเรือนกล้วยไม้ยาวไปจรดกำแพงให้คุณอรดีไหมคะ คุณอรรู้ไหมปองดีใจที่คุณอรเชื่อปองรับงานน้อยลง ปองอยากเห็นคุณอรมอมแมมอยู่กับต้นไม้แต่พักผ่อนได้มากขึ้นมากกว่าเพ่งอยู่กับเส้นไหมสีสวยของคุณอร ปองแอบเอากล้วยไม้ที่คุณอรแยกไว้มาเป็นรางวัลให้ลูกศิษย์ของปองตั้งหลายกระถางแล้วนะคะ ยิ่งเจ้าต้น  ม้าวิ่ง  ที่ออกดอกสีขาวหอมชื่นทั้งที่กิ่งนิดเดียว ทำให้ลูกศิษย์ของปองขยันแข่งกันเก็บคะแนนเพราะอยากได้เจ้าต้นนี้ค่ะ ฉันหัวเราะอย่างสุขใจนัก  ฉันดีใจค่ะที่มีส่วนร่วมในงานของปอง .เย็นวันนั้นปองกลับบ้านแต่วัน พร้อมกับข้าวที่แม่ของปองฝากมาเป็นพิเศษ  แม่ทำแกงเผ็ดเป็ดย่างค่ะเลยฝากมาให้เราทานเสร็จคงต้องวิ่งรอบบ้าน10รอบไม่งั้นลงพุงแน่เลย สงบและมีความสุขเหลือเกินที่ได้นั่งเคียงกันวางแผนสิ่งที่จะทำร่วมกัน1อาทิตย์เต็มๆ  ฉันส่งงานทุกชิ้นเรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้าปองอยากอยู่กับทะเลตลอดวันหยุดก็ได้นะคะอย่าห่วงเรื่องเรือนกล้วยไม้เลยทำเมื่อไหร่ก็ได้   2วันก็พอแล้วค่ะ ปองรู้คุณอรกลัวแดดแล้วปองก็อยากอยู่บ้านมากกว่าด้วยค่ะ   คุณอร เล่นขิมให้ปองฟังหน่อยสิคะ ตั้งนานแล้วที่ไม่ได้ฟัง ฉันเล่นเพลง  ลาวแพน   คุณอรเล่นลาวดวงเดือนเถอะค่ะ ปองขอเล่นซอจีนของพ่อคุณอรนะคะ  .หากความสุขในวันนั้นเหมือนสายน้ำ ที่หลากหลั่งมันก็ล้นปรี่ในความรู้สึก . ดูสิปองลืมจนได้ วันเสาร์ นี้ปองต้องทำงานแทนพี่พงศ์พานายทหารฝรั่งไปอยุธยาเค้าอยากเห็นน่ะค่ะนายเลยจัดให้พี่พงศ์พักนี้สุขภาพแกก็แย่พอนายถามปองก็เลยไม่ปฎิเสธ เย็นๆปองก็กลับ แต่พรุ่งนี้ต้องออกจากบ้านแต่เช้าหน่อย ตลอดคืนที่ฉันเหมือนหลับๆตื่นๆยามใดที่รู้สึกตัวฉันก็ผวาเข้าโอบปองไว้ด้วยความหวงแหน 
    
    
     
     
    
    
    --------------------------------------------------------------------------------
    
    โดยคุณ ...ช่อมะกอก.. [01-01-2006 19:01] #11900 (3/19)   
    
    
    
    บทที่ ๕  อวสาน
  • patty

    16 มกราคม 2548 11:37 น. - comment id 82006

    เศร้า แต่ ประทับใจมาก
    รอ อ่านเรื่องต่อไปนะคุณ
  • ...สียะตรา..

    19 มกราคม 2548 10:41 น. - comment id 82179

    
    
    ......อยากขอคำวิจารณ์ตรงๆตามคิด ความรู้สึกของผู้ที่เข้ามาอ่านจนจบบทนี้น่ะค่ะ...
    
    
  • zodiac

    22 มกราคม 2548 09:39 น. - comment id 82248

    คุณยูคะ..
    
    มาอ่านแล้วค่ะ  อีกครั้งหนึ่งอย่างตั้งใจ
    (( ละอายใจเหลือเกินที่จะบอกว่า คราวก่อนนั้นง่วนกับการแปะกระทู้จึงอ่านเรื่องนี้แบบผ่านๆ  ขอโทษนะคะ ))
    
    ชอบมากค่ะ กับการดำเนินเรื่องที่กระชับ  ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
    รู้สึกดีและอบอุ่นกับความละมุนละไมในการใช้ภาษาที่บอกเล่า
    สอดแทรกกลิ่นอายของอดีต..ที่งดงาม และสมควรจรรโลงไว้ได้ดี
    
    \" อ่านแล้วน้ำตาปริ่มๆ..ในตอนท้ายของเรื่อง \"  ถ้าบอกไปแบบนี้ จะเชื่อไหมคะ?
    
    ดีค่ะ  ชอบมากๆ  อยากเขียนให้ได้แบบนี้..อย่างนี้..
    
    เป็นกำลังใจให้นะคะ สำหรับงานเขียนครั้งต่อไปและ หนังสือทำมือที่คุณยูหมายมั่นปั้นมือที่จะทำ
    
     ^_^
  • zodiac

    22 มกราคม 2548 09:41 น. - comment id 82249

    อ้อๆๆ เมื่อคืนบอกผิดไปค่ะ คุณยู
    
    ที่ถูกต้อง คือ  winter_blue1@hotmail.com

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน