ตะวันตกดิน!

พุด


 ตะวันตกดิน!    
พุดพัดชา!  
ที่รัก
ผมกลับมาเกาะแสนรักของคุณอีกคราครั้ง..ในวันนี้
ทั้งๆที่ผมเพียรพยายามหนีใจตัวเองมาตลอดระยะเวลาหลายปี
ที่ผ่านมานี้..
ผมคิดถึงคุณทุกนาที ทุกสถานที่ที่คุณเคยไปกับผม
บนภูหินสูงเสียดฟ้า..ที่คุณบอกว่ามีบางมุมเร้นลับ
หากอยากสัมผัสงามดั่งสวรรค์ลอย..เลื่อน..เยือนหล้า
คุณจำได้ไหม..
ที่เราต้องจอดรถไว้แค่เชิงเขา
แล้วเดินลัดเลาะฝ่าดงหนาม
ฝ่าเข้าไปในเส้นทางงามเรียบง่ายแสนยากลำบาก
ที่คุณบอกว่าแสนมีเสน่ห์
แต่ผมกลับสงสารคุณที่ถูกหนามเกี่ยวเลือดซิบๆ
แต่คุณกลับหัวเราะและกระซิบบอกผมว่า
*
ในความยากลำบากในความยากไร้นั้น
ทุกเส้นทางไม่ว่าเส้นทางใจหรือเส้นทางจริงบนถนนแห่งชีวิต
จะมีคุณค่าเป็นบทเรียนสอนชีวิตให้เรียนรู้จักความอกทน
เพียรสู้เพื่อทนรอ..นาทีที่ยิ่งใหญ่
ที่มีบางสิ่งที่แสนงดงาม
ที่แสนดีมีค่ารอเราอยู่บนเส้นทางข้างหน้า
ก่อนที่เราจะฟันฝ่าดั้นด้นไปถึง..นะที่นั้น
คุณบอกผม..ก่อนที่ผมจะได้อ่านผ่านตาถึงหนังสือแปล
แสนมีค่าทางใจทางจิตวิญญาณเสียอีก..
หนังสื่อเล่มที่คุณส่งมาให้ผมอ่าน*อัฐิอาจารย์*
วันนั้น..
ผมได้แค่เดินตามหลังคุณ ใช้คำว่าปีนเขาไต่เขา
ตามหลังคุณที่คล่องแคล่ว.คงเหมาะกว่า
ผมไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงแสนบอบบางผิวละเมียดละไมอย่างคุณ
จะทนให้หนามไหน่เกี่ยวผิวใสใส จนเลือดซิบๆได้อย่างไร
โดยไม่สนใจ ไม่บ่นสักคำ..
คุณรู้ไหม..
นี่กระมังที่เป็นความพิเศษในตัวคุณ
ที่ทำให้ผมทึ่งผมประหลาดใจ
คุณ.บอกว่า..
ชีวิตคุณ จะเล่นบทไหนก็ได้ของชีวิต
สาวนักธุรกิจ...อาจารย์..เลขานุการ..หรือแม่บ้านผู้รับบทหนัก
แต่ที่คุณแสนถนัดคงเล่นบทนี้กระมัง
บทสาวไพรใจสู้ผู้รักผืนดินเกิด
และหวงแหนความงามเงียบเรียบง่าย
สงบสมถะทุกตารางนิ้ว
ที่คุณบอกว่ามันงามเสียยิ่งกว่าจะบอกเล่าผม
ผู้มาเห็นผืนดินมาทีหลัง..ห่าง
คำว่าแสงตะเกียงเจ้าพายุที่วับแวมในยามค่ำทั่วทั้งทุกหลังคาเรือน
ห่างกับคำว่า..กุ้งหอยปูปลามากมายว่ายแหวกราวไม่กลัวคน
ในท้องทะเลงามน้ำเขียวดั่งมรกตเนื้อดี..
และมากมีความทรงจำ
ที่งามงดหมดจดใจ
ผมจำได้...
ในยามค่ำริมฝั่งฝันทะเลงามยามหน้าหนาว
ยามเข้าไต้เข้าไฟ
ที่อาทิตย์ส้มแจ๊ดดวงใหญ่เท่ากระด้งฝัดข้าว
กำลังจะลาลับฟ้า
ที่เราก่อกองไฟเล็กๆให้อุ่นพอละมุนหัวใจ
ทะเลสวยใสที่นะบัดนี้ราวจะกลายเป็นทะเลหมอกแสนงาม
ที่หว่านสีหวานสวยเศร้าเคล้าเทาทึม
งามซึ้งตรึงใจด้วยส้มอมชมพูคละๆเคล้าๆกัน
ราวทองทาทาบอาบไปทั้วผืนน้ำยามอาทิตย์อัสดง
คุณนอนบนผืนทรายให้คลุกเคล้าร่างงามอะคร้าวดั่ง
ทาทาบด้วยสีเงินยวงละเลื่อมพราย
ผมสยายไปเบื้องหลัง
ผมตะลึงตัวชา..เห็นเสน่หาในเรือนร่างที่ไร้จริตมายานั้น
แต่ทว่าคุณคงกลับไม่รู้ตัว
ยังคงดื่มด่ำในภวังค์ฝันและฝัน
หลับตาเล่าเรื่อง
อดีตวัยเยาว์ที่ผ่านผันอันเป็นความจริงอันแสนหวาน
ผ่านหัวใจสวยใสงดงามอ่อนโยนของคุณ
คุณบอกผมว่าอยากให้ผมผู้มาใหม่
ได้รู้จักผืนดินที่ราวไข่มุกแห่งอ่าวไทยนี้
ให้ละเอียดละออทุกซอกทุกมุม
ให้คุ้มกับที่พระเจ้าประทานพร
ให้คนหัวใจสะออนอ่อนไหวอย่างผมได้มานอนนับดาว
เคียงเคล้าเคียงข้างคุณ ได้มาฟังเสียงคลื่นลมเคล้า
เฝ้าพนอหยอกล้อหาดขาวที่เนียนนุ่มราวแป้งเนื้อดี 
ที่ฝรั่งทั่วโลกอุตส่าห์บินฝ่าโศกฝ่าโลกสับสนวายวุ่น
ข้ามมาสัมผัสความสุขงามง่ายไร้มายานี้
ที่ดั่งมีมนตรา..จากฝ่ามือของพระเบื้องบนที่กำนัลให้แด่มวลมนุษย์
ผู้ยังมีหัวใจพิสุทธิใส ยังมีดวงตาดวงใจมองเห็นธรรม..ธรรมชาติ
อันสดสะอาดงามทุกอณูเนื้อใจ
มาตรแม้นว่าโลกอารยะกำลังกลายกล้ำมาล่วงล้ำรานรุกทำร้าย
ให้ทุกผู้คนหิวกระหายขายแผ่นดินแลกโลหะและคำว่า
การยอมรับในสังคมเล็กๆ..
คุณบอกว่า..
คนเรามีสิทธิ์ที่จะคิดและเลือกทางเดินชีวิต
บางคนอาจจะอยากนอนบนฟูกก่อนตาย
ได้เดินใช้เงินอย่างปรารถนาสักคราครั้ง
ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างเมามันส์
แทนความฝันที่จะมีชีวิตดิบเดิมติดดินถวิลไพร
ใช้เพียงหัวใจของความพอเพียงเพียงพอเสพงาม
แม้นเพียงชั่วโมงยามแห่งชีวิตก็สุขพอ..ตามอัตภาพ..
มิจาบจ้วงทำลายคิดขายสิ้นธรรมชาติ..ขายขายขาย
แลกเงินงามมาซื้อความสุขเปลือกนอก
ที่หลอนล่อหลอกใจไปวันๆให้ฝันร้าย
เพราะบานปลายจากความโลภจากขายแค่ผืนดินถิ่นเกิดเป็นขายชาติ
ขายยาเสพติด..ที่อาจจะระบาดไปทั้งเกาะสวรรค์
ให้พลันกลายเป็นเกาะนรกในชัวพริบตา ..
โอ้ว่าละหนอหัวใจมนุษย์ผู้ตกเป็นทาสเงิน!
*******
คุณพาผมมาถึงภูหินงามจนได้
บนชะง่อนผาสูง....คุณทำให้ผมตะลึงตะไล...
แทบลืมหายใจ...ไปกับทัศนียภาพรายรอบที่แลเห็น.......... 
จากลานหินกว้าง..ที่ข้างล่างคือถ้ำ 
จะมีทางเล็กๆ เลาะลัดเลียบทอดลงไป........ 
.แลไกลออกไป....คือโลกสีคราม...กว้าง...ไกล....สุดตา.....
เวิ้งทะเล..สีน้ำเงิน...เขียวมรกต.....
และโทนสีทะเลที่ค่อยๆไล่สีอ่อนจางลงมาตามลำดับ......... 
แทรกด้วยฟองคลื่นสีขาว.....เป็นระลอกงาม.............. 
เรือลำน้อย...ค่อยๆวิ่งฝ่ากระแสชลแตกฟองขาวนวล......
ตรงมายังอ่าวท่าเทียบเรือ......... 
.ตรงหน้าจะมีเกาะสมุย.....
ชิดใกล้ขนาบด้วย..เกาะแตนอก..แตใน..
ราวกับจะห่วงใยว่าเกาะพะงัน จะเหว่ว้า.......... 
แลลงไปเบื้องล่าง จะมองเห็น...
ทิวมะพร้าวสลับซับซ้อนเป็นหมื่นหมื่นต้น......... 
บ้านเรือนซ่อนตัวอยู่ในดงไม้..เงียบสงบ....
มีก็แต่ควันไฟลอยอ้อยอิ่ง ขับฟ้างามอย่างช้าๆ.............. 
บนหน้าผา..ชะโงกง้ำ..ลอยเลื่อน..ราวทายทักเมฆ....
จะมีหอระฆัง...และพระพุทธรูป.... 
ให้กราบไหว้...อธิษฐานจิต......
มีลั่นทมขาวออกดอกพราวไปทั้งต้น..บนชะง่อนผางาม.......... 
ส่งกลิ่นหวานเศร้า..อบร่ำให้ใจ..นิ่ง..เยือกเย็น..ล้ำลึก..
อวลมากับสายลมเย็น.......กับบรรยากาศ 
เงีบบงาม..ที่รายล้อม.......
ที่รัก....ผมกอดคุณไว้แนบแน่น....
ราวกลัวคุณจะหลุดลอยจากสรวงสวรรค์ตรงหน้า........ 
จากสวรรค์ในอก...ในอ้อมแขน..ในอ้อมใจของผม............... 
ผมหยิบลั่นทมทัดหู..ให้คุณ..
พร้อมพรมจูบไรผมงาม อ่อนหวาน อ่อนโยน 
เท่าใจที่ แสนสุขล้ำจะทำได้...
ผมพร่ำบอกคุณว่า...สวรรค์มีจริง.....
ด้วยใจทั้งดวงที่เต็มอิ่ม..จากทุกสิ่ง 
ที่สวรรค์หยิบยื่นและประทานให้ผม.....
ในนาทีของชีวิตที่ผมปรารถนาจะให้โลกทั้งโลกหยุดหมุน 
ผมจำ....... 
คืนวัน ที่มีคุณ..ไม่ว่าบนภูสูงแห่งนี้....
หรือแม้แต่....กลางทะเล....ในค่ำคืน.... 
ที่ร่างของคุณถูกแสงจันทราอาบไล้.....
นุ่มนวล..งามสล้าง..ราวกับเทพีจากแดนสรวง....*
..........
นะวันนี้
ผมกลับมาเยือนมายืนเดียวดายที่นี่
มายืนดูทะเลหมอกห่มทะเลเหว่ว้าหัวใจ
มายืนรอฟังเสียงหัวใจตัวเองเต้นว่าคิดถึงๆๆคุณ..ทุกนาที
....
หัวใจผมอ่อนไหวอย่างสุดทน
จนผมต้องหาทางเยียวยาใจดวงระบมไปวัดเก่า
ที่คุณเคยพาผมเข้าไปกราบพระในโบสถ์เก่าคร่ำ
คุณค่อยๆจุดเทียน..จากแสงรำไรๆวูบวับ
จับพระพักตร์พระพุทธองค์ดูผ่องผุด..
บริสุทธิธรรม..น้อมนำใจเราสองก้มลงกราบนิ่งนาน
อธิษฐานใจพร้อมกันอย่าง
ดำดื่มล้ำลึกในงามเงียบ
คุณจำได้ไหม..
ผมเพียรถามคุณว่าคุณอธิษฐานอะไร
คุณตอบผมว่า..
*ชาติหน้าชาติใดหากบุญกุศลใดที่คุณเพียรทำ
จงน้อมนำให้หัวใจคุณสะอาด สว่าง สงบ
พบชาติ..พระพุทธศาสนา..พระมหากษัตริย์ไทยแบบในหลวงทุกชาติไป 
ให้หัวใจมีทาน ศีล สมาธิ ปัญญา 
พาให้หลุดพ้นจากเหตุแห่งทุกข์
ได้พบแค่ทางสีขาวที่ว่างร้างไร้เงียบงามในทุกโมงยามแห่งชีวี
และได้มีชีวีที่เรียนรู้การ*ให้*
แบบไร้ร้องขอแก่ผองเพื่อนผองชนผู้ทนทุกข์ยาก
ในกระแสโลกย์กระแสวิบากกรรม..และที่สำคัญ
คุณบอกไม่อยากเกิดมาเพื่อรัก..อีกแล้ว*
ที่รัก..
ผมรู้และสวดมนต์ภาวนาให้คุณ
ตลอดมาทุกคืนค่ำและตราบชั่วนิจนิรันดร์กาลตลอดไป
ให้หัวใจแสนดีแสนงามของคุณหอมกรุ่นด้วยพลังแห่งการคิดดีคิดให้
ได้พบทุกโมงยามนำทางดวงชีวีคุณอย่างที่คุณต้องการ
ให้..กุศลจิตที่ดี
ที่คุณมอบที่ดินเป็นทานเพื่อแผ้วถางสู่แดนวิปัสสนากรรมฐาน
เป็นดั่งงามดวงใจใครจะรู้
แด่ทุกดวงใจเพื่อนมนุษย์นี้
ที่พร้อมพลีจิตวิญญาณและร่างอยากหลุดพ้นทุกข์
จากรักจากการพรายพลัดพรากจากวิบากกรรมเก่า
ให้เป็นจริงนะดวงใจ..นะคนดี
ที่ผมแสนรักเอยแสนรักในกมล
ที่หัวใจผมก็พร้อมพลีหลีกทาง..
แม้นจะอ้างว้างดายเดียวเปลี่ยวเหงา
ในหัวใจในลำพัง..สักเพียงใด..!ก็ตามที
*************

รจนาสด ต่อจาก*ตะวันลา*http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_33679.php
ภาคหนึ่ง..ค่ะ..
จะมีบทพรรณาตรงกลาง..ในผางามที่หยิบมาเติมเต็ม
ให้สมบูรณ์..ลงตัว..
บันดาลใจจากบางสิ่งในหัวใจ
ที่ยิ่งใหญ่แสนงามมานานวัน
และลาลับดับฝันไปตามกาลกรรมเวลา..ล่วงเลย..
พุดพัดชา..อ่อนล้าในดวงใจ..
ในทุกขณะนับนาทีพรากลาในโลกฝัน..
เพียงหวังและฝันรจนา..มามากมาย
หวังเพียงได้รับเมตตาน้ำใจรินรด
และทุกหยาดหยดสายน้ำใจ
จากสายไยรักจากทุกดวงใจ
เปรียบประดุจดั่ง
หยาดฝนพรำบนหัวใจดวงนี้
ดับแห้งผาก...! 
				
comments powered by Disqus
  • ผู้หญิงไร้เงา

    14 ธันวาคม 2546 10:51 น. - comment id 190959

    เขียนได้ดีมากๆๆๆๆเลยค่ะ  ชอบประโยคนี้มากเลยด้วยค่ะ
    
    ในความยากลำบากในความยากไร้นั้น
    ทุกเส้นทางไม่ว่าเส้นทางใจหรือเส้นทางจริงบนถนนแห่งชีวิต
    จะมีคุณค่าเป็นบทเรียนสอนชีวิตให้เรียนรู้จักความอกทน
    
    ความหมายอยู่ในคำดีค่ะ
    
  • Rainsummer

    14 ธันวาคม 2546 13:36 น. - comment id 191028

    อืม  เขียนได้ดีทีเดียวค่ะ  อ่านแล้วรู้สึกดีดี
  • แม่จิตร

    14 ธันวาคม 2546 14:27 น. - comment id 191041

    เวลาเปลี่ยนสิ่งที่ดี ๆ  ไม่เปลี่ยน เนี่ยแหล่ะความทรงจำอันมีคุณค่าทางจิตใจ ของคุณ พุดพัดชา ใช่ไหม อิอิ 
    เนื้อหาดีมากครับ ไม่รู้ว่าเรื่องจริงของคุณเองหรือเปล่านะ
  • อัญชา

    14 ธันวาคม 2546 16:03 น. - comment id 191100

    บรรยายได้ดีจังค่ะ
    
    :D
  • ลำน้ำน่าน

    14 ธันวาคม 2546 17:20 น. - comment id 191140

    เมื่อตะวันตกดิน บางครั้งเราพยายาใคร่ครวญถึงทุกวันที่ผ่านมา และก็จะจบลงตรงที่เก็บไปฝันไปใฝ่ ตะวันตกดินเพียงเพื่อจะกลับมาใหม่ในวันรุ่ง  เราปรารถนาที่จะเห็นแสงอรุณเมื่อรุ่งลาง พอๆ กับปรารถนาที่จะเห็นแสงอาทิตย์อัสดง
    
    บทร้อยแก้วพรรณาถึงความรู้สึกภายใน ที่เป็นเอก ไม่มีอีกแล้วเนื้อใจแบบนี้
    
  • tiki

    14 ธันวาคม 2546 17:39 น. - comment id 191145

    อิอิ
    รู้สึกจะ RATE R นะเนี่ย
  • ชัยชนะ

    14 ธันวาคม 2546 19:01 น. - comment id 191173

    เมื่อวานกะว่าจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาว (หน้าแตก)
    ก็อินกับบทอยู่เรื่อย
    
    มาคราวนี้ขออินกับชื่อเรื่อง เลยมาโพลสเวลาตอนตะวันตกดิน
    
    เรื่องเนื้อหาก็อิจฉาตัวพระเอกของเรื่อง ที่ออดอ้อนพูด ที่รัก ซะจริง ๆ
    
    ไม่คุยเรื่องเนื่อหาก็แล้วกัน ก็ถือโอกาสแวะมาคุยเล่นวันหยุด
    
    ตามปกติแล้ว วันอาทิตย์พุดมักไปวัดเป็นประจำ
    หวังว่าบุญกุศลที่พุดได้เข้าวัดปฏิบัติธรรม จงพบกับความสุข ที่สงบเยือกเย็น
    
    ตราบใดที่ยังมีความฝัน ชีวิตย่อมไม่สิ้นความหวัง
    
  • นิติ

    15 ธันวาคม 2546 00:14 น. - comment id 191303

    มาเยี่ยมเยียนคิดถึงกันเหมียนเดิมครับ
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    15 ธันวาคม 2546 01:04 น. - comment id 191319

    ชอบตะวันตกดินที่เกาะพงัน ไปเห็นมาแล้ว
  • ยอด

    8 มกราคม 2547 09:13 น. - comment id 199503

    ดีมาก
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน