2 มิถุนายน 2545 08:53 น.

ท่านผู้รู้...

:+: ? ? ? :+:

เมื่อคืนฝัน ว่ามี ท่านผู้รู้
ถาม...เจ้าหนู ยังสงสัย เรื่องใดหนอ
ท่านจะตอบให้ทุกเรื่องไม่รั้งรอ
แต่ท่านขอให้ถามเพียงข้อเดียว

     นึกในใจ ใยให้ถาม ข้อเดียวนะ
ปากจะอ้า ถามไป กลัวเสียความ
เลยคิดตามถามใจ เรื่องไหนดี
ก็มันมีหลายเรื่องยังข้องใจ

      ท่านผู้รู้ เจ้าคะ อยากจะถาม
ท่านตอบ  ตามสบายนะ ว่ามาสิ
เอาล่ะ เราเลือกได้ สะทีนิ
ก็ความรัก น่ะสิ คืออะไร

      อยากให้ท่าน เปรียบเทียบ ให้กระจ่าง
ท่านตอบ  ต่างกันไปในนิยาม
แต่ถ้าถาม ก็จะเทียบ ให้เข้าใจ
แล้วแต่ใคร จะคิด จะติดตาม

      ท่านบอกรัก นั้นดั่ง การพนัน
เพราะรักนั้น จะคู่กัน นิรันดร์หรือ
อาจมีฝ่ายที่เสียใจ ร้องไห้ฮือ
ก็เจ้ามือกินเรียบ เสียหมดตัว

      หรือชีวิตอาจพบพานแต่ความสุข
แสนสนุก คลายเหงา เฝ้าหรรษา
เช่นเวลา เราได้รับ รางวัลมา
เหมือนฝันพา พบสวรรค์ นั้นชื่นใจ

      อ้าว...อย่างงี้ เราจะได้ หรือจะเสีย
ท่านบอก เนี่ย การพนันนะเจ้านู๋
เจ้าต้องดูให้ดีก่อนเดิมพัน
ผลอย่างไรนั้น ต้องลุ้นเอง

      แล้วอย่างนี้ดีหรือจะมีรัก
การพนันมักทำ คนเดือดร้อน
ผิดกฎหมาย พนันเลข พนันบอล
ทำคนจร เสียคน เสียหมดตัว				
27 พฤษภาคม 2545 10:18 น.

----->> ทำไงดี......

:+: ? ? ? :+:

ทำไงดีน้าาาา    บอกหน่อยเถอะ
อยากจะเจอะเจอใคร มารักแท้
เป็นแค่ ชายธรรมดา ไม่อ่อนแอ
โถ..รักแท้   ของเรา   อยู่ที่ใด

     พยายาม เต็มที่แต่ หญิงไทย
จะแสดงมากไปก็ใช่ที่
อยากจะบอก ใจยังว่างนะ คนดี
มองทางนี้..เจอะแน่ รับประกัน

      ยิ่งได้ยินรักแท้ แพ้ใกล้ชิด
คนสนิททุกคนเราเฟ้นหา
ใครจะพอมีเราในสายตา
โถ..ใจจ๋า..สักคนก็ไม่เจอ

      พยายาม  หารักแท้ หาใกล้ชิด
เพียงชีวิต มีเพียงหนึ่ง ที่ซึ้งใจ
จะมีแฟนเพราะแฟชั่นนั่นไม่ใช่
หาต่อไป เมื่อใด ใจจะเจอ

      ทำไงดี หาต่อไป จะเจอหรือ
เปิดหนังสือ หรือต้องหา ณ แห่งใด
จบสุดท้ายถ้ายังไม่เจอใคร
ไม่หาก็ได้...เพราะหาไปก็ไม่เจอ

        เชอะ   เชอะ   เชอะ				
16 พฤษภาคม 2545 20:38 น.

นกไนติงเกล และ ดอกกุหลาบแดง

:+: ? ? ? :+:

นกไนติงเกล และ ดอกกุหลาบแดง 


            นกไนติงเกล และ ดอกกุหลาบแดง 
            บ่ายวันหนึ่ง ใต้ร่มเงาของต้นโอ๊คใหญ่... 
            เธอบอกว่าจะเต้นรำกับฉัน ถ้าฉันสามารถหาดอกกุหลาบสีแดงมาให้เธอได้ 
            เด็กหนุ่มนักศึกษาคนหนึ่งนั่งบ่นกับตัวเอง แต่จะทำยังไง 
            ในเมื่อสวนดอกไม้ที่บ้านฉันไม่มีดอกกุหลาบสีแดงเลย 
            บนต้นโอ๊คต้นเดียวกันนั้น 
            มีนกไนติงเกลตัวหนึ่งทำรังอยู่...เธอได้ยินทุกสิ่งที่เขาพูดและกำลังแอบมองเขาอยู่ด้วยความสงสัย 
            ไม่มีกุหลาบแดงในสวนดอกไม้ของฉัน! 
            เขาคร่ำครวญ...ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความโศกเศร้า โอ...ความสุขของฉันขึ้นอยู่กับสิ่งเล็กๆ 
            สิ่งเดียวเท่านั้นหรือ...ฉันได้อ่านตำรามากมายที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายได้เขียนไว้ 
            และล่วงรู้ถึงความลับต่างๆ 
            ในศาสตร์แห่งปรัชญา...แต่สิ่งที่ทำให้ชีวิตของฉันต้องยากลำบาก คือดอกกุหลาบแดงแค่ดอกเดียว 
            ฉันอยู่ที่นี่แล้วไง...คนรักที่แท้จริงของเธอ นกไนติงเกลรำพัน 
            คืนแล้วคืนเล่าที่ฉันเฝ้าร้องเพลงถึงเธอ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอไม่ได้ยิน 
            คืนแล้วคืนเล่าที่ฉันเล่าเรื่องเธอให้ดวงดาวได้ฟัง...และในตอนนี้ฉันก็ได้พบเธออีกครั้ง...ผมของเธอสีเข้มเหมือนดอกไฮอะซิน1 
            ริมฝีปากของเธอเป็นสีแดงราวกับดอกกุหลาบแดงที่เธอต้องการ...แต่น่าเสียดายที่ความรักของเธอทำให้เธอดูซีดเซียว 
            และความเศร้าโศกก็ฉายมาจากใบหน้าของเธอ 
            เจ้าชายจะจัดงานเลี้ยงเต้นรำในคืนพรุ่งนี้ เด็กหนุ่มพูดเบาๆ 
            และคนที่ฉันรักจะยอมเต้นรำกับฉันถ้าฉันหาดอกกุหลาบแดงให้เธอได้...ฉันจะโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน 
            และเธอก็ซบไหล่ฉัน 
            ในขณะที่เรากุมมือกันไว้...แต่ความจริงแล้วฉันไม่มีกุหลาบแดงในสวน ฉันต้องนั่งอยู่คนเดียว เฝ้ามองเธอที่ห่างออกไป 
            เธอคงไม่สนใจใยดีฉัน และใจฉันคงแหลกสลาย 
            คนรักที่แท้จริงของเธออยู่ที่นี่ นกไนติงเกลพูด 
            ฉันจะร้องเพลงอะไรให้เธอฟังดี...สิ่งที่ทำให้ฉันมีชีวิตชีวา 
            กลับเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวด...แต่มันเป็นเรื่องจริงนะ ที่ว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม 
            มันมีค่ามากกว่ามรกต เป็นที่ต้องการมากกว่าเพชรพลอย ไข่มุกและทับทิมก็แลกไม่ได้ 
            มันไม่มีขายตามท้องตลาด แม้แต่ทองก็เทียบกันไม่ได้ 
            นักดนตรีคงจะนั่งในที่สำหรับพวกเขา เด็กหนุ่มพูดต่อ 
            พวกเขาจะเริ่มบรรเลงเพลง และคนที่ฉันรักก็จะเต้นตามเสียงไวโอลิน เธอจะเต้นอย่างช้าๆ 
            และพลิ้วไหวราวกับเธอกำลังล่องลอยอยู่เหนือพื้นดิน 
            ในขณะที่ผู้คนซึ่งอยู่ในชุดที่สวยงามต่างก็ห้อมล้อมเธอ...แต่สำหรับฉันเธอคงไม่ยอมเต้นรำด้วย 
            เพราะฉันไม่มีดอกกุหลาบแดงให้เธอ เขาเอนตัวลงบนพื้นหญ้า ซบหน้าลงกับแขนและร้องไห้ 
            กิ้งก่าสีเขียวตัวเล็กๆ วิ่งผ่านมาพร้อมกับชูหางขึ้นและถามว่า 
            เขาร้องไห้ทำไมน่ะ 
            จริงๆ ด้วย...ทำไมล่ะ ผีเสื้อถามต่อ ในขณะที่กำลังบินร่อนใต้แสงอาทิตย์ 
            จริงๆด้วย...ทำไมล่ะ ดอกเดซี่ที่อยู่ใกล้ๆ ก็ถามย้ำด้วยเสียงกระซิบเบาๆ 
            เขาร้องไห้เพราะดอกกุหลาบสีแดงน่ะซิ! นกไนติงเกลพูด 
            เพราะดอกกุหลาบสีแดง! กิ้งก่า ผีเสื้อ และดอกเดซี่อุทานพร้อมกัน 
            ช่างน่าขันอะไรเช่นนี้ กิ้งก่าพูดเยาะเย้ย 
            อย่างไรก็ตาม 
            นกไนติงเกลก็ยังเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของเด็กหนุ่มคนนั้น 
            เจ้านกน้อยจึงได้แต่นั่งลงและเฝ้าครุ่นคิดเกี่ยวกับความเร้นลับของคำว่ารักต่อไป 
            ทันใดนั้นเอง เจ้านกไนติงเกลก็คิดได้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป 
            เธอกางปีกสีน้ำตาลออก และบินขึ้นไปบนท้องฟ้า 
            บินร่อนผ่านทุ่งหญ้าอย่างรวดเร็วไปยังสวนดอกไม้ของเด็กหนุ่ม เมื่อพบแปลงดอกกุหลาบแสนสวย 
            เธอจึงร่อนลงไปที่ต้นกุหลาบกอหนึ่ง 
            ขอดอกกุหลาบแดงให้ฉันบ้างได้ไหม นกไนติงเกลถาม 
            แล้วฉันจะร้องเพลงเพราะๆ ให้เธอฟัง 
            ต้นกุหลาบส่ายหัว และตอบว่า 
            กุหลาบของฉันเป็นสีขาว...ขาวเหมือนฟองคลื่นในทะเล...ขาวยิ่งกว่าหิมะบนยอดเขา...แต่พี่ชายของฉันที่ยืนต้นอยู่ข้างนาฬิกาแดดโบราณนั่น 
            อาจจะให้ในสิ่งที่เธอขอได้นะ 
            นกไนติงเกลได้ยินดังนั้น 
            จึงบินไปยังต้นกุหลาบที่ขึ้นอยู่ข้างนาฬิกาแดดโบราณ 
            ขอดอกกุหลาบแดงให้ฉันบ้างได้ไหม นกไนติงเกลถาม 
            แล้วฉันจะร้องเพลงเพราะๆ ให้เธอฟัง 
            ต้นกุหลาบส่ายหัว และตอบว่า 
            กุหลาบของฉันเป็นสีเหลือง...เหมือนเส้นผมของนางเงือกที่นั่งอยู่บนบัลลังก์สีเหลืองอำพัน...เหลืองยิ่งกว่าดอกแดฟโฟดิล2 
            ที่เบ่งบานในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่...แต่พี่ชายของฉันที่ยืนต้นอยู่ริมหน้าต่างนั่น 
            อาจจะให้ในสิ่งที่เธอขอได้นะ 
            นกไนติงเกลได้ยินดังนั้น 
            จึงบินไปยังต้นกุหลาบที่ขึ้นอยู่ริมหน้าต่างของเด็กหนุ่ม 
            ขอดอกกุหลาบแดงให้ฉันบ้างได้ไหม นกไนติงเกลถาม 
            แล้วฉันจะร้องเพลงเพราะๆ ให้เธอฟัง 
            ต้นกุหลาบส่ายหัว และตอบว่า 
            กุหลาบของฉันเป็นสีแดง...มันแดงเหมือนเท้าของนกพิราบ...แดงยิ่งกว่ากอปะการังสีแดงสดที่พลิ้วไหวล้อคลื่นในทะเล 
            แต่ฤดูหนาวทำให้เส้นใยของฉันแข็งตัว มันปลิดดอกตูมของฉัน 
            และทำลายกิ่งก้านฉันด้วยพายุอันเหน็บหนาว...ฉันคงไม่สามารถออกดอกได้ในปีนี้แน่นอน 
            ฉันต้องการดอกกุหลาบแดง...แค่ดอกเดียวเท่านั้น 
            นกไนติงเกลร้องถามด้วยความสิ้นหวัง นี่ฉันไม่มีทางที่จะได้ดอกกุหลาบแดงจากเธอเลยหรือ 
            มันก็พอมีวิธีนะ ต้นกุหลาบพูด 
            แต่มันน่ากลัวเกินกว่าที่ฉันจะกล้าบอกเธอ 
            บอกมาเถอะ...ฉันไม่กลัวหรอก นกไนติงเกลตอบ 
            ถ้าเธอต้องการกุหลาบแดง... ต้นกุหลาบพูดต่อ 
            เธอต้องสร้างมันขึ้นมาจากเสียงเพลงภายใต้แสงจันทร์ 
            และแต้มสีมันด้วยเลือดจากหัวใจของเธอ...เธอต้องร้องเพลงให้ฉันฟัง 
            ในขณะที่หนามของฉันที่แทงไปที่อกของเธอ...เธอต้องร้องเพลงทั้งคืน โดยปล่อยให้หนามของฉันปักเข้าไปที่หัวใจของเธอ 
            และเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตเธอก็จะไหลผ่านเส้นใย 
            และกลายมาเป็นของฉันในที่สุด...อย่าลืมว่าเธอต้องทำให้สำเร็จก่อนพระอาทิตย์ขึ้นด้วยนะ... 
            นี่ฉันต้องจ่ายค่าดอกกุหลาบด้วยชีวิตอย่างนั้นหรือ นกไนติงเกลรำพัน 
            ชีวิตเป็นสิ่งมีค่าสำหรับทุกคน...มันคือความสุขที่แท้จริงเมื่อเราได้นั่งอยู่บนต้นไม้ 
            เฝ้ามองดวงอาทิตย์สีทอง และดวงจันทร์ที่ส่องแสงนวลราวไข่มุก 
            สดชื่นกับกลิ่นของดอกฮอธอร์น3 ริมรั้วและดอกบลูเบล4 ตามหุบเขา 
            รวมถึงการได้บินร่อนรับลมร้อนที่พัดผ่านมาด้วย...แต่ถึงอย่างไร ความรักก็สำคัญกว่าชีวิต 
            ยิ่งความรักจากหัวใจของมนุษย์ด้วยแล้ว 
            มันคงจะยิ่งมีค่ามากกว่าความรักจากหัวใจของนกตัวเล็กๆ อย่างฉันแน่นอน 
            เมื่อคิดได้ดังนั้น เจ้านกไนติงเกลก็ได้บินกลับไปที่ต้นโอ๊คใหญ่อีกครั้ง 
            แสงอาทิตย์ยามเย็นดูอ่อนล้า 
            เจ้านกไนติงเกลมองไปที่เด็กหนุ่มซึ่งเผลอหลับไปพร้อมคราบน้ำตาบนดวงตาที่งดงามคู่นั้น 
            ดีใจด้วยจ๊ะ! นกไนติงเกลร้องบอกเด็กหนุ่ม 
            ดีใจด้วย...เธอจะได้กุหลาบแดงที่เธอต้องการแล้ว ฉันจะสร้างมันขึ้นมาจากบทเพลงภายใต้แสงจันทร์ 
            และแต้มสีมันด้วยเลือดจากหัวใจของฉัน เพราะเธอคือคนที่ฉันรัก 
            และฉันคือคนรักที่แท้จริงของเธอ...ความรักเป็นเรื่องที่ฉลาดมากกว่าวิชาปรัชญาที่เธอได้เรียนรู้มา 
            มันเปี่ยมไปด้วยอำนาจและพลัง... 
            เด็กหนุ่มมองตรงมาที่นกไนติงเกลและตั้งใจฟัง 
            แต่เขาไม่เข้าใจว่าเจ้านกน้อยพูดอะไร 
            และพูดกับใคร...เขารู้เพียงแต่ว่าจะต้องเขียนบันทึกอะไรลงในสมุดของเขาเท่านั้น ต้นโอ๊คต้นใหญ่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด 
            เขาเข้าใจที่นกไนติงเกลพูด...เขารู้สึกซาบซึ้งในกับสิ่งที่เจ้านกน้อยพยายามทำ 
            ต้นโอ๊คพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า 
            ร้องเพลงให้ฉันฟังเป็นเพลงสุดท้ายได้ไหม...เพราะฉันคงจะเหงามากถ้าไม่มีเธอ... 

            นกไนติงเกลจึงร้องเพลงให้ต้นโอ๊คฟังเป็นเพลงสุดท้ายด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะจับใจ...เมื่อร้องเพลงจบ 
            เด็กหนุ่มก็เตรียมตัวเก็บสมุดบันทึกและดินสอใส่กระเป๋า 
            เธออาจจะรู้จักวางตัว เด็กหนุ่มพูดปลอบใจตัวเอง 
            แต่นั่นก็ไม่ทำให้ฉันเลิกรักเธอหรอก...อันที่จริง เธออาจจะมีอารมณ์ศิลปินที่ยากจะเข้าใจ 
            เธอดูมีเอกลักษณ์ ซึ่งบางครั้งอาจดูเหมือนเย่อหยิ่งและเห็นแก่ตัว 
            แต่ฉันรู้ว่าจริงๆ 
            แล้วเธอไม่ใช่...ฉันสัมผัสได้จากน้ำเสียงของเธอ...ฉันถือว่ามันเป็นแบบทดสอบที่ดีสำหรับฉัน เมื่อกลับถึงห้อง เด็กหนุ่มก็ล้มตัวลงนอน 
            และเฝ้าคิดถึงคนที่เขารักจนเผลอหลับไป 
            เมื่อแสงจันทร์สาดส่องลงมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน 
            นกไนติงเกลจึงบินไปที่แปลงดอกไม้นั่นอีกครั้ง เธอหยุดที่ต้นกุหลาบแดงและจับหนามกุหลาบมาทาบไว้ที่อก 
            เธอเริ่มร้องเพลงแรก 
            ดวงจันทร์สาดแสงสีเงินอันหนาวเหน็บพร้อมกับตั้งใจฟังเสียงเพลง ในขณะที่หนามกุหลาบก็ทิ่มแทงลึกเข้าไปทุกทีๆ 
            เลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตเธอเริ่มเหือดหายไปทีละน้อย 

            เพลงแรกที่เธอร้องมีเนื้อหาเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นและการก่อเกิดของความรักในใจชายหนุ่มและหญิงสาว ทันใดนั้นเอง สิ่งอัศจรรย์ได้เกิดขึ้น 
            ช่อสูงสุดของต้นกุหลาบเริ่มผลิดอก เธอร้องเพลงต่อไปเรื่อยๆ 
            ท่ามกลางกลุ่มหมอกที่หนาวเหน็บรอบกายเธอ 
            แม้จะได้ผลบ้าง แต่ก็ยังไม่น่าพอใจ เข้ามาอีกสิ...เจ้านกน้อย 
            ต้นกุหลาบร้องบอกให้เธอดันหนามให้ลึกเข้าไป หรือจะรอให้อาทิตย์ขึ้นก่อนจะทำสำเร็จ 
            ได้ยินดังนั้น 
            เจ้านกไนติงเกลก็ขยับเข้าใกล้ต้นกุหลาบเข้าไปอีกและร้องเพลงให้ดังยิ่งขึ้น ทันใดนั้น...ประกายสีชมพูระเรื่อได้ไหลผ่านกลีบดอก 
            ทำให้มองเห็นเป็นสีชมพู...ชมพูเหมือนแก้มเจ้าสาวที่เขินอายเมื่อเจ้าบ่าวประทับรอยจูบ 
            แต่จนบัดนี้ หนามของต้นกุหลาบก็ยังแทงเข้าไปไม่ถึงหัวใจของนกไนติงเกล 
            ทำให้หัวใจของดอกกุหลาบยังคงเป็นสีขาวอยู่ 
            เพราะสิ่งที่จะทำให้ดอกกุหลาบเป็นสีแดงสดคือ เลือดจากหัวใจของเจ้านกน้อยนั่นเอง 
            เข้ามาอีกสิ...เจ้านกน้อย ต้นกุหลาบร้องเตือนเธออีกครั้ง 
            หรือจะรอให้อาทิตย์ขึ้นก่อนที่จะทำสำเร็จ 
            ได้ยินดังนั้น นกไนติงเกลจึงขยับเข้ามาและดันหนามเข้าไปยังหัวใจของเธอ 
            ความเจ็บปวดแล่นผ่านเข้าสู่หัวใจ 
            ยิ่งเจ็บเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องร้องเพลงให้ดังยิ่งขึ้น 
            เนื้อเพลงที่เธอร้องอยู่ตอนนี้มีความหมายเกี่ยวกับความรักอันสมบูรณ์แบบที่ได้จากการสละชีวิต 
            สิ่งมหัศจรรย์ได้เกิดขึ้นแล้ว 
            ดอกกุหลาบกลายเป็นสีแดงสด...แดงเหมือนดวงอาทิตย์ทางทิศตะวันออก...สีแดงเหมือนทับทิมที่แพร่กระจายไปทั่วกลีบดอกนั้นเป็นสีจากเลือดในหัวใจของเจ้านกไนติงเกลนั่นเอง 
            เสียงของนกในติงเกลดูอ่อนล้าและปีกก็ขยับได้ช้าลง 
            ตาของเธอพร่ามัวและรู้สึกคอแห้ง...เธอหายใจไม่ค่อยสะดวก 
            นกไนติงเกลพยายามเปล่งเสียงร้องถึงเพลงสุดท้าย 
            ดวงจันทร์สีนวลที่ตั้งใจฟังก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มจนเคลื่อนตัวช้าลง ทำให้เธอมีเวลาเพิ่มขึ้น 
            ดอกกุหลาบสีแดงได้ยินเสียงเพลงก็รู้สึกอบอุ่น ตื้นตันใจ 
            และแย้มกลีบดอกออกมารับอากาศยามเช้า เสียงเพลงของเจ้านกน้อยดังก้องไปทั่วหุบเขา 
            มันลอยผ่านต้นอ้อสีขาวที่พลิ้วไหวล้อลมอยู่ริมน้ำคล้ายจะฝากความรู้สึกเหล่านี้ออกสู่ทะเลกว้าง 
            ดูนั่นซิ...ดูซิ! เหล่าต้นไม้ตะโกนบอก 
            เธอทำสำเร็จแล้ว...มันเป็นกุหลาบแดงที่สวยที่สุดเลย! 
            ...ไม่มีเสียงขานตอบ......มีเพียงร่างของเจ้านกไนติงเกลที่นอนตายอยู่บนพื้นหญ้าที่ทอดยาว โดยมีหนามปักอยู่ที่หัวใจของเธอ 
            เที่ยงของวันใหม่ เด็กหนุ่มเปิดหน้าต่างห้องออกมา 
            เขาตื่นเต้นมากเมื่อได้พบบางสิ่ง 
            โอ!...ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้ 
            นี่เป็นดอกกุหลาบแดงแบบที่ฉันไม่เคยพบมาก่อนเลยในชีวิต มันช่างสวยเหลือเกิน อาจจะเป็นพันธุ์ละตินก็ได้ 
            เขาพูดพลางเอื้อมมือไปเด็ดดอกกุหลาบ 
            เขารีบสวมหมวกและวิ่งไปบ้านศาสตราจารย์พร้อมดอกกุหลาบในมือ 

            ที่บ้านศาสตราจารย์...ลูกสาวของเขานั่งอยู่ที่ระเบียงบ้านพร้อมด้วยลูกสุนัขตัวเล็กๆที่นอนอยู่แทบเท้าของเธอ...เธอคือคนที่เด็กหนุ่มหลงรักนั่นเอง 
            เธอจำได้ไหม ที่บอกว่าจะยอมไปงานเต้นรำกับฉัน 
            ถ้าฉันหาดอกกุหลาบแดงมาให้เธอได้ เด็กหนุ่มถามพร้อมถือดอกกุหลาบอยู่ในมือ 
            นี่คือกุหลาบที่แดงที่สุดในโลก เธอสามารถนำมันไปประดับที่อกเสื้อ และเราก็จะได้เต้นรำด้วยกัน 
            เขาคิดจะบอกรักเธอต่อจากนั้นด้วย 
            เสียใจ...มันคงเป็นเครื่องประดับให้ฉันไม่ได้แล้วล่ะ เด็กสาวปฏิเสธ 
            หลานชายของท่านมหาดเล็กได้ส่งอัญมณีแท้มาให้ฉัน และทุกคนต่างก็รู้ดีว่า 
            มันมีค่ากว่าดอกไม้มาก 
            เอาล่ะ! ฟังฉันนะ...เธอมันคนไม่มีสัจจะ เด็กหนุ่มโกรธมาก 
            เขาเขวี้ยงดอกกุหลาบแดงไปที่พื้น มันตกลงไปริมฟุตบาธ และถูกรถทับซ้ำอีกที 
            ไม่มีสัจจะหรือ เด็กสาวพูด เธอหยาบคายมาก และอีกอย่าง 
            เธอมันก็แค่เด็กหนุ่มนักศึกษาคนนึง 
            ฉันเชื่อว่าเธอไม่สามารถให้ในสิ่งที่ฉันต้องการได้เหมือนกับหลานชายท่านมหาดเล็กหรอก เธอลุกขึ้นอย่างไม่พอใจและเดินเข้าบ้านไป 
            ความรักช่างเป็นสิ่งที่โง่เขลาสิ้นดี เด็กหนุ่มพูดพร้อมเดินจากไป 
            มันไม่มีประโยชน์ ไม่มีการพัฒนา 
            ไม่เหมือนวิชาตรรกศาสตร์ที่ทุกอย่างต้องมีเหตุผล 
            ฉันควรจะกลับไปอ่านหนังสือปรัชญาและศึกษาเรื่องอภิปรัชญาดีกว่าจะมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระพวกนี้ 

            เด็กหนุ่มกลับไปที่ห้องของเขาและเริ่มอ่านหนังสือต่อไป.................... 

            #####The End##### 

        1 ไฮอะซิน (Hyacinth) n.c. ไม้ดอกชนิดหนึ่ง ดอกสีน้ำเงิน ม่วง มีกลิ่นหอม 
        2 แดฟโฟดิล (Daffoodil) n.c. ไม้ดอกชนิดหนึ่ง มีดอกสีเหลือง 
            บานในฤดูใบไม้ผลิ 
       3 ฮอธอร์น (Hawthorn) n.c. ต้นไม้ชนิดหนึ่ง มีดอกสีขาวและชมพู 
            มักปลูกไว้เป็นรั้ว 
       4 บลูเบล (Bluebell) n.c. พืชที่มีดอกสีฟ้าคล้ายระฆัง 
            #####@#####				
16 พฤษภาคม 2545 20:35 น.

Thai Language 2 English

:+: ? ? ? :+:

Thai  Language  2  English 
> > > หนุ่ม คงกะพัน 
> > >young forever 
> > > 
> > >ทราย เจริญปุระ 
> > >sand developed city 
> > > 
> > >เก่ง ชาติชาย 
> > >good male nation 
> > > 
> > >ชวน หลีกภัย 
> > >Join de Escape. 
> > > 
> > >คุณวันฉัตร 
> > >A-umbrella 
> > > 
> > >คุณทักษิณ 
> > >Mr. South 
> > > 
> > >บินลาดิน 
> > >Fly goodbye soil 
> > > 
> > >พานทองแท้ 100% 
> > >gold dish 
> > > 
> > >พีท ทองเจือ 
> > >pete little gold 
> > > 
> > >ทาทา ยัง 
> > >double brush yet 
> > > 
> > >ศรราม เทพพิทักษ์ 
> > >arrow of rama protect by angel 
> > > 
> > >สายัณห์ สัญญา 
> > >evening promise 
> > > 
> > >อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 
> > >Privilege MedicineTeaBio 
> > > 
> > >ศักดิ์สิทธ์ แท่งทอง 
> > >sacred gold bar 
> > > 
> > >นัท มีเรีย 
> > >Bean Has Lick 
> > > 
> > >สมบัติ อุทัยสาง 
> > >Property Sky Morning 
> > > 
> > >ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ 
> > >City Victory Full and Perfect 
> > > 
> > >เฉลิม 
> > >celebrate 
> > > 
> > >วันเฉลิม 
> > >celebrate Day 
> > > 
> > >ดวงเฉลิม 
> > >celebrate spot 
> > > 
> > >อาจหาญ 
> > >May dare 
> > > 
> > >ไอ้ปื้ด 
> > >A sheep !!!! 
>				
15 พฤษภาคม 2545 16:51 น.

มีแฟนแล้วก็น่าจะบอก 2

:+: ? ? ? :+:


มีแฟนแล้วก็น่าจะบอก   
                                                                                       burst 
ถึงวันนี้สองปีที่รู้จัก
เปลี่ยนจากชอบมาเป็นรักแล้วรู้ไหม
ฉันสวีทกับเธอมากเท่าไร
ในสายตาใครใครเค้ารู้ดี
เดินควงแขนเป็นแฟนใครก็รู้
เธอก็ดูสง่ามีราศรี
ฉันก็ดูเหมาะสมกับเธอดี
เห็นแล้วช่างสุขีเมื่อมีเธอ
จากเราสองเห็นต้องเหลือเพียงหนึ่ง
นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าฉันเผลอ
สองปีผ่านหลงปลื้มลืมถามเธอ
ถึงได้พบได้เจอเรื่องแปลกใจ
แล้วแฟนเธอก็กลับมาตรงที่เก่า
ตรงที่เรายืนอยู่เธอรู้ไหม
เธอมัวอมความลับไว้ทำไม
แล้วฉันเป็นตัวอะไร...ระหว่างเรา
มีแฟนแล้วก็น่าจะรีบบอก
ไม่ใช่หลอกให้ฉันเป็น..คนโง่เง่า
เราสามคนคงไม่พ้นต้องเป็นเรา
มือที่สามที่เขาไม่ต้องการ
จากเป็นคนที่ปลื้มลืมความทุกข์
เคยมีสุขจนล้น..ก็พ้นผ่าน
ถึงตอนนี้เธอมาบอกก็ป่วยการ
ฉันสับสนและลนลานเพราะคำเธอ  


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

   จะให้บอกตอนไหนใยไม่ถาม
พูดตอนจามตอนนั่งฟังหรือเปล่า
ฉันก็ปลื้มกับเรื่องทั้งหมดของเรา
จะให้เล่าเรื่องเขาช่วงไหนดี
    อยากจะบอก อยากจะเล่าให้ละเอียด
กลัวจะเครียดเรื่องนี้ไม่มีมุข
ฉันกับเขาเราพบทุกวันศุกร์
แล้วกี่ ศุกร์ กับ 2 ปี ที่ผ่านมา
     แล้วทำไมเองเธอไม่เคยรู้
เธอน่ะอยู่ใกล้ฉันเกินสนิท
แต่เขานั้นอยู่ไกลกว่ากันนิด
เลยใกล้ชิดได้อาทิตย์ละวัน
      แล้วที่บอกใครก็คิดเราเป็นแฟน
เธอมาดแมน ฉันสง่า ควรคู่กัน
ก็อยากคิด ให้จริงเป็น อย่างนั้น
แต่มันติดนิดหน่อยจะบอกเธอ
      ก็ทั้งหมดที่ผ่านมาก็ขอโทษ
อย่าพึ่งโกรธ พึ่งเคืองไปเลยนะ
ฉันก็ผิดที่ไม่บอกไปไงอีกล่ะ
แต่เธอน่ะ ก็มีส่วนต้องบอกออกไป
      เรื่องทั้งหมดก็เธอไม่เคยถาม
ไม่เคยเอ่ยความ  ว่ารักเลยสักหน
แล้วจะให้บอกไงถึงอีกคน
จะให้บ่นให้พูดไปตอนไหนดี

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

**ขอบคุณ คุณ  burst ด้วยค่ะ**				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ:+: ? ? ? :+:
Lovings  :+: ? ? ? :+: เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ:+: ? ? ? :+:
Lovings  :+: ? ? ? :+: เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ:+: ? ? ? :+:
Lovings  :+: ? ? ? :+: เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึง:+: ? ? ? :+: