29 มิถุนายน 2557 22:26 น.

คิดฮอด

Parinya

  มิรู้ใคร ไหนประดิษฐ์คำ "คิดฮอด"
  ล่องเล็ดลอดม่านฟ้าฝากมาถึง
  วันดอกแก้วบานรับดอกพลับพลึง
  บัวในบึงหน้าบ้านละลานตา
  
  วันฟ้าสวยอวยโชคดอกโมกขาว
  บานพริ้งพราวน้าวใจใสเริงร่า
  สวยตระการบานเบ่งแข่งผกา
  วันชลาฉ่ำเย็นเกือบเป็นไอ
  คล้ายหูแว่วคำหวานจากม่านฟ้า
  ลอยลมมาเข้าหูเหมือนอยู่ใกล้
  มิรู้เป็นถ้อยทิพย์กระซิบใคร
  ดอกหัวใจไหวบานหวานละมุน
  แสงทองทิพย์กระซิบมาว่าหายเหงา
  สายลมเบาเย้าหยอกบอกอบอุ่น
  ความรู้สึกไหวตื่นชื่นอรุณ
  หอมกลิ่นกรุ่นอุ่นไอดอกไม้บาน
  เมื่อคุณค่าของคำทำใจอิ่ม
  เคยเงียบเงียบหงิมหงิมก็ยิ้มหวาน
  จะส่งมากี่หนก็ลนลาน
  กอดไว้ปานของหวงแนบทรวงตน
  หมู่ดอกโมกดอกแก้วแถวหน้าบ้าน
  สดสวยเปล่งเบ่งบานปานได้ฝน
  หัวใจหวานปานเคล้าเสาวคนธ์
  ดัง "คิดฮอด " สอดกล  แนบมนตรา
   
    
   
  
30 มิถุนายน 2557 09:05 น.

เคลิ้ม

Parinya

ยิ้มอิ่มแก้มแย้มยั่วทั่วลานบ้าน
ส่งเสียงหวานอ่านกลอนท่อนสั้นสั้น
ที่เพิ่งแต่งวิบแวบแบบทันควัน
บทประพันธ์ชื่อ "เคลิ้ม" เริ่มถักทอ
"เธออุทธรณ์หรือเปล่า เราฉงน
เราเป็นคนจงใจหรือไรหนอ
ใครจะตั้งจุดประสงค์ได้ลงคอ
ทำอี๋อ๋อพอเคลิ้มเริ่มที่ใคร
หรือว่าเราพลั้งเผลอทำเธอเคลิ้ม
มิรู้เริ่มคดีนี้ตรงไหน
แล้วที่เรานั่งยิ้มอย่างอิ่มใจ
เกิดขึ้นได้อย่างไร ใครหนอทำ
หรือว่าเป็นเพราะเธอเผลอร่วมด้วย
หรือเราช่วยคนละครึ่งจึงน่าขำ
แบ่งเท่าเท่า เจ๊ากันไปไม่ต้องจำ
แค่ลำนำคำว่า เคลิ้ม เริ่มลีลา "
แย้มแก้มอิ่มยิ้มหยอกดอกกล้วยไม้
ซึ่งอยู่ใกล้ "พุทธชาด วาสนา"
"กาซะลอง" มองเห็น แอบเล่นตา
"พระเจ้าห้าพระองค์" งงกับเรา
ยิ้มอิ่มแก้มแต้มใจไหวระรื่น
เหมือนมีคลื่นกรุ่นกรุ่นไออุ่นเป่า
โลกแสนสวยอวยพร่างลมบางเบา
มิอยากเดาว่า"เคลิ้ม " เพิ่มอีกคน
 ( ขอบคุณ ค่ะ คุณคนกรุงศรี ที่กรุณาคอมเมนต์
    ว่าเมากับเคลิ้ม ไม่เหมือนกัน ฉันจึงตัดข้อความ
     ในวงเล็บออกค่ะ)
28 มิถุนายน 2557 00:43 น.

เหลือจาก กระทิงดำแห่งนอร์โรเวย์

Parinya

 "อ่านแล้วก็จะทานอ่านซ้ำอีก
จะอ้อมซีกภูเขาก็เหมาอ่าน
จะคงความเพลิดเพลินอีกเนิ่นนาน
สมเป็นงานที่อดทนของคนแปล"
แม้นิทานจะสนุกก็ฉุกคิด
จนค้างติดจิตใจในหลายแง่
โชคไม่เคยมาหา ถ้าอ่อนแอ
อย่ายอมแพ้ ถ้ายัง หวังโชคดล
การทำนายทายทักด้วยตรรกศาสตร์
สร้างบทบาทของเจ้าหญิงอิงเหตุผล
มิใช่ใช้วิชามายากล
แต่ต้องใช้ความอดทนของคนจริง
และต้องมีเวลามาเกี่ยวข้อง
ตามครรลองโลกสร้างวางทุกสิ่ง
เพราะชีวิตเดินทางต้องอ้างอิง
มิหยุดนิ่ง ในมือ คือเวลา
การละเลยสัญญา ปัญหาเกิด
ผู้ละเมิดต้องรับผล จนคุ้มค่า
เมื่อตอนจบของนิทานผ่านสายตา
ส่วนที่เหลือ ค้างคา มาเป็นกลอน
26 มิถุนายน 2557 19:05 น.

ความกังวล

Parinya

  ดูราว "ต้นผูกพัน"มีปัญหา
ใบโรยราคาต้นจนเฉาหงอย
แม้ตั้งใจใส่ปุ๋ย ดินรุ่ยซอย
แต่ยังเหมือนเลื่อนลอยมิค่อยโต
มีคนติงว่าปลูก "ผูกพัน" ชุ่ย
ดินฤดีมิมีปุ๋ยอย่างคุยโอ่
แม้เป็นคำกล่าวหาเพราะพาโล
มิอาจโต้คำค่อนที่หลอนใจ
มิสามารถอาจหาสาเหตุแน่
คงมีแต่พะวงคิดสงสัย
และลังเลเทกลับสลับไป
ทั้งห่วงใยใบผูกพันอันโรยรา
หรือพื้นดินในฤดีนี้ไม่เหมาะ
ที่จะเพาะ "ผูกพัน" อันมีค่า
ใบซีดเซียวเหี่ยวหมองฟ้องสายตา
จึงกังวลจนล้าคาผูกพัน
จะต้องทำอย่างไร ถอดใจหรือ
ใจก็ดื้อ จะถนอม มิยอมบั่น
จะทนปลอบหัวใจไปวันวัน
แม้กังวลจนฝัน "ผูกพันฟื้น"
แต่ถ้าหากยังคง "ทรงกับทรุด"
คงมิหยุดกังวลจนขมขื่น
ใจยังปลูก "ผูกพัน" ทุกวันคืน
แม้ต้องยืนระแวดระวังกับกังวล
25 มิถุนายน 2557 12:31 น.

เรื่องของฉัน

Parinya

สาวตาคมผมยาวผิวขาวนวล
ร่างสมส่วนธรรมดาประสาหญิง
การศึกษาพอมีดีกรีอิง
ไม่อยู่นิ่งนอกจากตอนนอนและเมา
ฉันร่าเริงแจ่มใสด้วยวัยฝัน
สิ่งแต่งปั้นฉันมาคือป่าเขา
มีทะเลหาดสวยช่วยกล่อมเกลา
ฉันอ่อนเยาว์ด้วยเหตุนั้นเมื่อวันวาน
จึงยามตื่นคืนวันสร้างฝันสวย
ใจร่ำรวยอวยพาสายตาหวาน
ปลื้มดื่มด่ำธรรมชาติวาดวิมาน
เคียงเงื่อนงำตำนานบ้านป่าดง
ฟ้าลิขิตชีวิตง่ายกลับกลายวุ่น
ชะตานำกรรมหนุนบุญเสริมส่ง
ต้องเซซัดพลัดพรากจากไพรพง
ถิ่นดำรงชีวันพลันเปลี่ยนแปลง
เริ่มทำงานครั้งแรกแผกใครเขา
คือรับเหมามากมายหลายตำแหน่ง
ด้วยเหตุผลจนถ้อยร้อยชี้แจง
แค่แสดงสถานภาพทราบกันดี
"เป็นครู ผู้บริหาร ลูกหลานเจ้าของ"
มุมการมองจึงมากจากหน้าที่
มุมปฏิบัติมากมายหลายเท่าทวี
มุมการอ่านยิ่งต้องมีทุกวี่วัน
เวลาบ้านิทานจึงกว้านซื้อ
ทั้งไทยเทศติดมือซื้อไม่อั้น
บทกวีซีไรต์เรียงในชั้น
อีกนิยายขายฝันฉันซื้อมา
วิชาเกินวิชาการอ่านไปทั่ว
จนความรู้ท่วมหัวมั่วไปหน้า
แต่เป็นความรู้ งูงูปลาปลา
ใช้ทำยา อะไร มิได้เลย
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟParinya
Lovings  Parinya เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟParinya
Lovings  Parinya เลิฟ 0 คน
  Parinya
ไม่มีข้อความส่งถึงParinya