15 พฤศจิกายน 2555 02:49 น.

หนาวนี้

กวีปกรณ์

แสงเช้าส่องฉายสายแสง
แดดแรงดอกร่วงดาษดื่น
กลิ่นหอมกล่อมห้วงกลมกลืน
ลมโชยโรยชื่นรื่นรมย์

นาทีนานเท่าเนิ่นนาน
สำเริงสำราญสุขสม
ฉายสรรพชัดสิ่งชวนชม
บึงตมบัวเต้นเบ่งบาน

น้ำค้างนาข้าวหน้าหนาว
ทองพร่างทุ่งพราวถิ่นฐาน
เพชรงามพรรณเงินพบพาน
ช่วยงานชอมเงินชุมชน

หมูเป็ดเหม็นเปื้อนหมักหมม
เล่นตมเลอะแต้มล้มหล่น
ปลากุ้งป่วนกายปลอมปน
ซ่อนตัวสิงตนซุกแซม

จนแดดจมดินจากจร
ลมเย็นลอยย้อนลุ่มแหลม
หมาเป็ดหมูปลามอมแมม
รอยยิ้มรื่นแย้มแรมรัต
				
14 พฤศจิกายน 2555 14:17 น.

เมืองร้าง

กวีปกรณ์

ตัวตึกรามบ้านช่องทั้งห้องหับ
พร้อมเปิดรับแขกเหรื่อเผื่อสังสรรค์
โสตสุ้มเสียงเซ็งสงบและเงียบงัน
ผูกสัมพันธ์ผู้คนด้วยกลใด

เหล่านกน้อยคล้อยบินไปถิ่นอื่น
ต้นหญ้าเหี่ยวแห้งยืนฝืนตนไหว
แล้วสายลมแล้งล้างจนจางไป
ล้วนผู้คนขวักไขว่ในโลกตน

สวมเสื้อผ้าอาภรณ์กันร้อนผิว
กระหายหิวเสรีทุกแห่งหน
หลากวัตถุแต่งแต้มเติมดวงมน
ราวสายชลศักดิ์สิทธิ์แสร้งศรัทธา

ความเห็นอกเห็นใจใครเล่ามี
เพียงเนื้อความเหล่ากวีวาดไว้ว่า
โลกอุดมคติต่างมายา
แต่กลับยากเกินกว่าหาได้พบ

บนถนนทุกสายระโยงยาง
แต่ละคนเดินทางยากบรรจบ
ต่างไขว่คว้าสิ่งฝันกันกว่าครบ
เพื่อเกลี่ยกลบที่ว่างระหว่างใจ

แล้วเอ่ยอ้างความสัมพันธ์ฉันใฝ่หา
ระบายเหงาเต็มแววตาจนพร่าไหล
ทั้งทั้งที่แวดล้อมด้วยใครใคร
กลับหวามไหวเหว่ว้าในอารมณ์

แล้วสร้างโลกเสมือนจริงขึ้นสิงสู่
ผลักหัวใจอาศัยอยู่อย่างสุขสม
สายสัมพันธ์ไร้ขอบเขตช่างชื่นชม
หลอกตัวเองรื่นรมย์อย่างคมคาย

ตัวตึกรามบ้านช่องทั้งห้องหับ
จึงปิดรับแขกเหรื่อเหล่าสหาย
โทรศัพท์คอมพิวเตอร์ตั้งเคียงกาย
ทุกหัวเมืองมากมายกลายเมืองร้าง
				
11 พฤศจิกายน 2555 04:47 น.

ลั่นทมลอยแก้ว

กวีปกรณ์

ดอกลั่นทมลอยคอยคนชม
ดื่มความชื่นขมผสมผสาน
เสียงเพลงขับคลอรัตติกาล
ปลุกมานตื่นคิดชีวิตใคร

แลกเปลี่ยนมุมมองลองสลับ
แปรปรับไปบ้างบนทางใหม่
ดนตรียังกล่อมเกลาดวงใจ
ค่ำนี้นอนไหนอย่างไรกัน

พวกเรายังล่องท่องราตรี
ท่ามกลางแสงสีนีออนฝัน
ปลอบปลง ปลดเปลื้องเรื่องทุกข์พลัน
บอกเล่าแบ่งปันสันทนา

ดอกลั่นทมลอยรอยกลีบช้ำ
ชีวิตกลืนกล้ำช่างล้ำค่า
หลากรสระบายรอยน้ำตา
เสริมสร้างปัญญาพากันไกล

กอดคอพยุงให้รุ่งโรจน์
คว้าฝันอันช่วงโชติช่างสดใส
อาจบางคนพลัดพลากจากบางใคร
ล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ไปด้วยกัน

ชีวิตชีวาลีลาวดี
ลอยกลีบบนแก้วสีอยู่ที่นั่น
หลากบทรสล้ำถ้อยจำนรรจ์
ผ่านไปอย่างนั้นทุกวันคืน
				
10 พฤศจิกายน 2555 05:25 น.

ดอกไม้ในบันทึก

กวีปกรณ์

ปฏิทินพลิกผ่านสู่วารใหม่
อนุทินเต็มไปด้วยเรื่องเล่า
ฟิล์มแผ่นบางบันทึกเรื่องสองเรา
แม้ดอกไม้เหี่ยวเฉายังชื่นใจ

ความคิดถึงมอบให้ขอให้ถึง
หวังวันหนึ่งเราพบคบกันใหม่
บนถนนที่ขนานพาลเราไกล
ต่างต้องแยกจากไปในลำพัง

ความทรงจำดวงใจยังใฝ่หา
อนาคตข้างหน้าพาใจหวัง
ความฝันใฝ่เติมใจเต็มกำลัง
อาจวันหนึ่งสักครั้งสมดั่งจินต์

ดอกไม้แย้มบานบนลานรัก
ช่างหอมหวลอบอวลนักทั่วทุกถิ่น
หวังสักวันคำ รัก คงได้ยิน
ความคิดถึงทั้งสิ้นรดรินใจ

อาจเป็นภาพความฝันอันสวยงาม
ปลุกหัวใจชื่นตามอย่างหวามไหว
ใกล้เราสองความรู้สึกยามห่างไกล
แม้บางครั้งคิดฝันไป...ข้างเดียว
				
8 พฤศจิกายน 2555 20:56 น.

เขา=เรา

กวีปกรณ์

เขาก็คน เราก็คน
ต่างยืนอยู่บนโลกกว้าง
เราก็ต่าง เขาก็ต่าง
อยู่ระหว่างความหลากหลาย

เขาก็หิว เราก็หิว
ต่างเข้าคิวรอความตาย
เราก็หญิง เขาก็ชาย
ต่างร่วมพายใช่ราน้ำ

เขาก็ผิด เราก็ผิด
ต่างร่วมคิดคอยแก้ตาม
เราก็หาม เขาก็หาม
ของในย่ามยอมแบ่งปัน

เขาก็เด็ก เราก็เด็ก
ต่างยังเล็กและช่างฝัน
เธอและฉัน กันและกัน
แล้วโลกนั้นจึงสวยงาม
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีปกรณ์