26 มกราคม 2556 18:09 น.

เหมันตาการ

กวีปกรณ์

วูบวูบไหวไหวใจสั่นหนาว
อีกกี่ร้อยก้าวทั้งยาวสั้น
ก้มหน้าหลบลมเกินชมจันทร์
หรือสิบร้อยพันดวงดารา

ผืนผ้าอาภรณ์สวมซ้อนทับ
กลัดดุมกระชับปรับแน่นหนา
เพราะเพียงลมพลิ้วปลิวพัดมา
ผิวพรรณกายาเกินกว่าทน

เหลียวหลังแลหน้าสถานี
หลบใต้ดินหนีทั้งลมฝน
หลีกความวุ่นวายหลายกลุ่มชน
หรือความสับสนยนต์ยวดยาน

รอเสียงรถด่วนขบวนหน้า
เหน็บหนาวจนชายามเคลื่อนผ่าน
ยิ่งช้ายิ่งใกล้รัตติกาล
เนิ่นนานเกินนับหนาวจับใจ

สถานีต่อไปจึงใกล้กัน
ปุยหิมะเหมันต์หนาวสั่นไหว
อีกไม่กี่ช่วงตึกที่ห่างไกล
หวังบางใครรอรับการกลับมา
				
8 มกราคม 2556 14:20 น.

แผ่นดินไหว

กวีปกรณ์

แล้วโลกคลั่งสั่นไหวเสียใหญ่หลวง
ตึกรามร่วงล้มทับพังยับพ่าย
อันโครงสร้างเหล็กเส้นไม่เว้นวาย
คอนกรีตหินหลากหลายทลายลง

คล้ายผืนดินผินแผกจนแยกขาด
ผู้คนหวาดหวีดหวั่นเสียงพรั่นหลง
หาทางรอดหนีตายบ่วายปลง
โลกไร้ความยืนยงมั่นคงใด

ความสัมพันธ์ผูกไว้ใครเล่าเห็น
สิ่งจับต้องมิอาจเว้นยังเอนไหว
พ่อแม่ลูกล้มตายแยกย้ายไป
สายเลือดไหลนองพื้นกลืนชีวิน

ความทรงจำจารึกสำนึกรู้
ความเจ็บปวดฝังอยู่ยามถวิล
ใช่เพียงความสั่นไหวในดวงจินต์
คือความทุกข์กัดกินกว่าสิ้นลม

ชาติมิอาจล่มสลายวายอำนาจ
ความสำคัญผูกขาดมิอาจสม
ทุกโครงสร้างผ่านกาลมินานนม
ก็อาจล้มร่วงลับยากกลับคืน

เสียงแผ่นดินไหวสั่นน่าพรั่นพรึง
แว่วเสียงใครคนหนึ่งนั้นสะอื้น
ใต้ซากปรักหักพังเคยยั่งยืน
เหลียวหาใครคนอื่นใต้พื้นอาคาร				
30 พฤศจิกายน 2555 16:10 น.

อาศิรวาท: สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙

กวีปกรณ์

เบญจาธันวดิเรกเฉลิมอดุลย์เดช
เทอดจอมนราเรศ.............บดินทร์
ข้าฯขอกรานสดุดีพระเกียรติสุรนรินทร์
เทอดไท้พระองค์อินทร์-	....ธิราชย์
สองหัตถ์ทรงบริบาลประชาบุรณชาติ
เสริมสรรพศิลป์ศาสตร์......ประชา
สองบาททรงลุเสด็จผไทพิพฒนา
เปี่ยมล้นพระเมตตา..........กรุณ
โอวาทวิทยเจิดจรัสสุริยชุณห์
พอเพียงสิค้ำจุน................จรูญ
ขอจงทรงสุเกษมสราญพลพิบูลย์
กรองฉันทลักษณ์ทูล..........ถวาย
ทุกการณ์ทรงลุประสงค์พระกรณิยหมาย
สมบูรณ์ศุภางค์กาย...........เจริญ
น้อมอาราธนองคพุทธคุณเชอญ
ทีฆายุโกเทอญ.................ทวี

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมฯ ข้าพระพุทธเจ้า
นายเอกชล  ดุลณกิจ (กวีปกรณ์) 
และสมาชิกบ้านกลอนไทย
				
30 พฤศจิกายน 2555 09:51 น.

เส้นสายความทรงจำ

กวีปกรณ์

 ปุยเมฆหมอกลอยเยือนเคลื่อนคลอเคล้า
ปลุกภาพแห่งวันเก่าให้ลุกตื่น
แม้เนิ่นนานกาลผันผ่านวันคืน
บรรยากาศปลุกฟื้นรื้อวานวัน

แม้คอนกรีตตึกสูงไร้ยูงทอง
ไร้ทิวเขาคาดคล้องลำธารสั้น
ช่างแตกต่างจากผืนพนาพรรณ
แต่ความคิดถึงนั้นพอบรรเทา

ลายละเอียดเอ่ยอ้างอย่างมากมาย
บางทรงจำหนีหายผลัดกันเล่า
เพียงสายเมฆกลายหมอกมาหยอกเย้า
หรืออาจเป็นความเหงาเข้าทักทาย

เราไม่อาจหยุดวันให้ผันผ่าน
ในทุกฤดูกาลมากความหมาย
อาจเป็นความคิดถึงที่ทักทาย
ก่อนซีดจางจนหายจากทรงจำ

เรายังหลับและตื่นฟื้นวันใหม่
ดอกไม้บานผลัดใบให้ดื่มด่ำ
ต่างภาระรับผิดชอบใครมอบทำ
กลับทุกยามงามล้ำกำลังใจ

จวบมาจนวันนี้กี่ปีผ่าน
จนวสันต์สิ้นกาลสู่วารใหม่
อาจคิมหันต์หอบหิ้วปลิวดอกใบ
ความทรงจำหวามไหวให้หลงลืม

หากหัวใจเราคงคิดถึงกัน
ผลัดเล่าขวัญเรื่องราวคราวปลาบปลื้ม
เสียงหัวเราะเปื้อนยิ้มให้หยิบยืม
ต่างยกความทรงจำขึ้นดื่ม...ยากลืมเลือน
				
22 พฤศจิกายน 2555 18:36 น.

แด่พุทธรักษ์

กวีปกรณ์

สุดโศกเศร้าโศกกาแสนอาดูร
ซากดอกไม้ป่าปูนกองพูนเพิ่ม
เหลือเพียงเศษความช้ำคอยซ้ำเติม
ท่ามกลางความฮึกเหิมทรชน

ช่อดาวเรืองเคยเหลืองเรืองอร่าม
พุทธรักษ์เคยงามทุกแห่งหน
วัชพืชรานเกลือกกลั้วทั่วตำบล
ประกาศกร้าวแผ่นดินตนไม่สนใคร

ทั้งหญ้าแฝกหญ้าแพรกรุมแดกดิน
สูบสายสินธุ์เจ้าพระยาข้าเป็นใหญ่
สนามหลวงสวนลุมฯ ทุกลุ่มใด
จ่ายจัดสรรแบ่งไปตามใจตัว

ก่อนแผ่นดินผืนเดิมจะเทิ้มสั่น
พลิกหน้าดินกลบมันเสียถ้วนทั่ว
ขุดรากหญ้าฝ้าฟางให้ควายวัว
แบ่งหมักปุ๋ยหว่านทั่วทั้งแผ่นดิน

แล้วดาวเรืองจึงเหลืองแลเรืองรอง
เสียงแซ่ซร้องพุทธรักษ์มิพักสิ้น
สุพรรณหงส์ทรงประทับเย้ยนาคิน
ท่ามสายกระแสสินธุ์เจ้าพระยา
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีปกรณ์