28 เมษายน 2550 02:01 น.

ขอมอบดอกไม้แด่ใครคนนั้น

กวีปกรณ์

เมื่อวันที่ไม่มีแม้ใคร
มองอะไรอะไรช่างเงียบเหงา
โลกสดใสของใครกลายสีเทา
เป็นอยู่อย่างนั้น...ยากเข้าใจ

แต่ในโลกล้านสีที่ดูสวย
อาจไม่ช่วยกันมากสักแค่ไหน
ก็ทนอยู่อย่างเหงาบ้างเป็นไร
คงมีคนที่ห่วงใยคือตัวเอง

จึงขอมอบดอกไม้แด่ใครคนนั้น
แบ่งความหวังความฝันใช่คว้างเคว้ง
อ่านบทกลอนกำลังใจ ฟังบทเพลง
ปลูกความรักด้วยตนเองเพื่อสักวัน

ไม่มีใครรักให้รัก รักยังอยู่
เหงาเพียงครู่เพราะรักคงปลอบขวัญ
รักไม่ทำร้ายใครขอยืนยัน
ยิ่งความรักที่เรานั้น รักตัวเอง				
23 เมษายน 2550 21:14 น.

กวินทร์วนา

กวีปกรณ์

 ค่ำลงแล้วหรือไร ค่ำนี้
ยินเรไรร่ำกวีระหว่างค่ำ
แด่นักฝันผู้ฟังขาประจำ
ท่วงถ้อยล้ำลอยลมระงมงาม

อาจเป็นเพียงเสียงร่ายไม่ได้ศัพท์
ยามยินกลับก้องดังฟังไหวหวาม
บทสังคีตของกวีนิรนาม
ดวงจินต์เจ้าจับความคล้ายเข้าใจ

รสกวีกังวานร้างกังวล
จักยินสักกี่ครั้งหนบ่หม่นไหม้
เสียงศิลปินแห่งผืนพนาไพร
จะป่านั้นป่าไหนก็คล้ายกัน

ถึงที่รักศิลปินแผ่นดินหลวง
เจ้าลอบล้วงอารมณ์ใครจนไร้ฝัน
แสร้งเข้าใจใครต่อใครเขาหลายพัน
แต่ทุกท่วงถ้อยนั้นสุดกลั้นกลืน

ศิลปินป่าคอนกรีตกลางกรุง
อย่ามัวมุ่งมอมเมาใจเขาขื่น
ไหม...ลองฟังกวีงามยามค่ำคืน
ใช่หยิบยื่นโศกเศร้ามาเร้าจินต์

รสกวีกังวานนั้นหวานไหม
เคยกล่อมโลกทั้งใบแล้วทุกถิ่น
ปลุกความฝันจากใจให้โบยบิน
ตระหนักเถิดศิลปินกวินทร์วนา
				
23 เมษายน 2550 02:31 น.

รักแท้

กวีปกรณ์

(องค์ ๑)
หลากล้นคนครื้นเครงเพลงละคร
พระเอกฟ้อนเกี้ยวนางสร้างรอยยิ้ม
หยาดคำรักออกรสตามบทพิมพ์
กกกอดอิ่มอุ่นไอในสายตา

นางเอกอายขวยเขินขับเดินหนี
จากจุดนั้นสู่จุดนี้นอกแนวป่า
ร้องระบำตามระเบียบดั่งตำรา
จบเกี้ยวพาเหนื่อยนักจึงรักกัน

(องค์ ๒)
อุปสรรคแสร้งสร้างมาขวางคู่
จำแยกอยู่อย่างสลดจำอดกลั้น
หาหนทางคลึ่คลายหมายฝ่าฟัน
ด้วยรักนั้นยิ่งใหญ่จึงไม่ยอม

(องค์ ๓)
คำสัญญาหยอดเติมเพิ่มเชื้อไฟ
ความคิดถึงห่วงใยใช้ถนอม
ผู้คนชื่มชมนักในรักปลอม
ด้วยรสรักหวลหอมให้ดอมดม

น้ำตาไหลหลั่งรินจนสิ้นฉาก
เมื่อรักพรากพลันพบจบสุขสม
คู่พระ-นางห่างใกล้จึงไร้ตรม
อุปสรรคลมลมผ่านพ้นไป

(ม่านปิด)
เสียงปรบมือชื่นชมคู่ชู้ชื่น
มีรักมั่นมิเป็นอื่นเลิกรักไม่
แม้มากอุปสรรคสร้างถึงห่างไกล
กลายที่ว่างเว้นไว้ยากได้เจอ

(ห้องแต่งตัวนักแสดง)
"แค่นิยายน้ำเน่าเอามาเล่น
โธ่! ทำเป็นสะเทือนใจน้ำตาเอ่อ
ช่างสมจริง! จำคำเขามาออเออ
จบเช่นนี้เสมอเสมือนแสร้ง

นี่ยังดี ค่าเข้าชมยังสมเหนื่อย
ยืนจนเมื่อย ไฟส่องเสียหน้าแห้ง
โธ่! รักแท้ล้ำค่าราคาแพง
หาซื้อจากงานแสดงได้ชั่วคราว"				
21 เมษายน 2550 03:44 น.

กวีนิพนธ์เล่มเก่า

กวีปกรณ์

'ชีวิตคือความอ้างว้างอันแสนอุ่น' *
ในม่านฝุ่นบนปก สัน ชั้นหนังสือ
วันเวลาแสนนานเหล่านั้นคือ
ความหลงลืมที่กระพือเข้าปกคลุม **

ค่อยค่อยคลี่ทีละหน้า-ทีละหน้า
บางทรงจำล้ำค่าคล้ายรอยหลุม
กลายสีซีดเหลืองจางในบางมุม
ครั้งน้ำตาชื้นชุ่มสะเทือนใจ

คือหนังสือกวีนิพนธ์ของคนเศร้า
ระบายเหงางดงามยามหวามไหว
กลายรสแห่งความหมางของบางใคร
ถ่ายทอดไว้วาดคำย้ำอารมณ์

ค่อยปัดฝุ่น ฟุ้งเหงาจนเข้าใจ
รสอักษรตอนใดให้โศกสม
นึกภาพผ่านฝุ่นอักษรที่นอนจม
เจ้าโศกตรมเสียใจเพียงไรแล้ว
 
-------------------------------------------------------------------
* อักษรตัวหนา 
จากเรื่องสั้น 'นัยน์ตากระต่าย' ของ ชัชวาลย์ โครตสงคราม
** ทั้งบทแรก
จากกวีนิพนธ์ คนรักของความเศร้า ของ อังคาร จันทาทิพย์ 
ในบทกวีที่ชื่อ 'ฝุ่นบนชั้นหนังสือ'				
20 เมษายน 2550 02:49 น.

ฝัน

กวีปกรณ์

มองม่านฟ้าฝันฟ้อนร่อนระบาย
บ้างคลับคล้ายของเธอและของฉัน
บางทีมองละม้ายก็คล้ายกัน
แตกต่างบ้างก็เท่านั้น ฝันกันไป

ฟากฟ้านั้นวรรคเว้นให้เฟ้นฝัน
บ้างระบายวาดกันแต้มกันใหญ่
ฟ้าว่ากว้างก็กว้างน้อยกว่าดวงใจ
หยิบเอาฝันเขามาใช้บ้างก็มี

เห็นเขาทำทุกอย่างเพื่อสร้างเมฆ
กลายร่างเรขลอยขาวเปล่าฟอกสี
ตั้งใจทำก็ทำด้วยเจตนาดี
มาแบ่งปันคนนั้นนี้ให้ชื่นชม

อยากหยิบฝันฝากไว้ในฟ้าบ้าง
ให้กลายหยาดน้ำค้างอย่างสวยสม
จากหมอกฝันฟ่องฟูลอยลู่ลม
สู่เมฆม่านพร่างพรมจนสมใจ

ฝนเทสาดความฝันให้จับต้อง
ปลดปล่อยจินต์บินล่องท่องที่ไหน
ตามแต่จินตนาการครั้งสานไว้
สำเร็จไหม หรือฝันไปก็ไม่รู้ !				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีปกรณ์
Lovings  กวีปกรณ์ เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีปกรณ์