กลอนบอกรัก

..รู้นะ..!

bananaleaf


คล้ายแจ้งความนัย..ดังใฝ่ฝัน
ปรารถนาต้องกันหรือไรเจ้า
เถิด..เร้นละห้อยตามรอยเงา
รูป..เฝ้าแลเห็น..เช้า,เย็น,ไป
รู้ไหม..คำนึงหนึ่งผู้นี้
หามีผ่อนน้อย..ถอยลงไม่
ทุกถ้อยอาวรณ์เกินซ่อนนัย
หวามไหวผ่านแผ้วด้วย..แววดา
ลอบ..สบดวงนัยน์ใครหนึ่งนั้น
อกเอ๋ย..ไหวหวั่นกับทีท่า
เสมือนเผย..เลศรับตอบกลับมา
แทนวาจา..รู้แล้ว..นะแก้วเอย

จันทร์แทนใจ

ไหมแก้วสีฟ้าคราม


เธอถามว่าฉันรักเธอมากเพียงใด
จะเชื่อไหมถ้าบอกไปเหมือนในฝัน
แม้เนินนานกาลผ่านไปใจตรงกัน
โปรดมองจันทร์แทนใจฉันไม่ผันแปร
ประทับใจใครจุมพิตยังคิดถึง
ตราบตราตรึงคนึงครวญใต้นวลแข
ความหลังเตือนเดือนรูปเคียวเฝ้าเหลียวแล
ยังแน่วแน่ไม่ปรวนแปรแม้ไกลกัน

เพราะเธอคือบทกวีมีชีวิต

ก้าวที่...กล้า


เพราะเธอคือบทกวีมีชีวิต
ที่ร้อยเรียงความคิดและความฝัน
งามซาบซึ้งตรึงทรวงดั่งดวงจันทร์
ส่องแสงปันรัศมีกลางดวงดาว
จึงเนิ่นนานต่อไปอีกไกลนัก
ที่ความรักเหมือนวางอยู่กลางหาว
ให้อบอุ่นหนุนเนื่องในเรื่องราว
เสน่หายืนยาวอยู่กับใจ
เพราะเธอคือบทกวีมีชีวิต
ที่วิจิตรแวววาวสกาวใส
และเธอคือความหมายของสายใย
ที่หัวใจผูกพันในวันนี้
จึงเนิ่นนานต่อไปอีกไกลโพ้น
ที่อ่อนโยนจำหลักเป็นศักดิ์ศรี
งามผุดผ่องตรึงตราในท่าที
เพราะเธอคือบทกวีที่ฉันรัก

สุขสันต์วันแห่งรัก

ขุนศรี


วันแห่งรักประจักษ์จิตลิขิตฝัน
มอบแบ่งปันความรักจักสุขศรี
อายกลิ่นรักปักกลางทรวงดวงฤดี
ปลื้มเปรมปรีดิ์วันแห่งยิ้มกระหยิ่มใจ
มองใบหน้าตาโปรยยิ้มภาพพิมพ์สวย
ประดับด้วยความกระจ่างสว่างใส
ดุจโลกนี้สีชมพูดูกว้างไกล
เชื่อมโยงใยสายรักถักทอกัน
รักสองเราเฝ้าคอยค่อยห่วงหา
เฝ้ารักษาใยรักเราเข้าสู่ฝัน
คอยถนอมกล่อมรักชื่นทุกคืนวัน
แสนสุขสันต์อิ่มเอมปะเปรมปรีดิ์
คำว่า " รัก " มีค่าใจในประโยค
อำนวยโชคแก่เราสองต้องสุขศรี
สิ่งประเสริฐเกิดก่อเกื้อเผื่อแผ่ดี
สุขล้นปรี่มอบแก่กันฉันเฝ้ามา
ดอกกุหลาบอาบใจใฝ่ฝันถึง
คิดคำนึงความจริงสิ่งหรรษา
แทนความรักสลักจิตติดอุรา
ยอดบุปผาคือกุหลาบซาบซึ้งใจ
กุหลาบบานวารวันฝันถวิล
หอมรวยรินกลีบกลิ่นชวนหลงใหล
กลิ่นความรักตระหนักหนาอย่าปล่อยไป
อย่าหวั่นไหวจงไตร่ตรองลองคิดกัน
นายทองม้วน  สิงห์ทองห้าว
โรงเรียนปทุมรัตต์พิทยาคม  จังหวัดร้อยเอ็ด

♥ บ้ารัก...จนชักเลอะ ♥

cicada


คล้ายกับดักหนักอึ้งดึงไม่ออก
ไม่กล้าบอกกับใครให้อึกอัก
มองอะไรก็เห็นเป็นคำรัก
พอใครทักนึกว่าเธอ..เผลอหัวเราะ
จิตใจมันชุ่มฉ่ำเหมือนน้ำแฉะ
ดังถั่วแระคลุกเคล้ามะพร้าวเฉาะ
คงเพราะรักหวานจังกระมังเนาะ
แค่เบาะเบาะทำเอาเราบ้าเนอะ
ใกล้วันวาเลนไทน์ใจเสียวสั่น
รักเธอนั้นล้นมานจนบานเบอะ
แม้เธอไม่รู้ตัวมัวเซ่อเซอะ
ช่างมันเต๊อะขอฝันแล้วกันนะ
ร้อยมาลัยดวงดาวเอามาฝาก
อยู่บนฟากฟ้าเด่นเห็นกระจะ
มอบแด่เธอด้วยใจไร้พันธะ
รักนะคะ..วาเลนไทน์บอกให้รู้

อ้อนรัก

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


ฤกษ์ ชัยพฤกษ์
เธอมองผ่านข้ามฉันทุกวันคืน
ฉันขมขื่นซึมเศร้าเหงานานช้า
เธอวางปึ่งขึ้งขัดชัดเย็นชา
ฉันเหว่ว้าไร้สุขเหมือนถูกดอง
ในสายตาเธอนั้นมีฉันไหม
ในหัวใจคำนึงถึงสมอง
ในดวงจิตรู้ไหมฉันใฝ่ปอง
ในครรลองความรักมักเล่นกล
เธอเย้าหยอกหลอกล้อตัดพ้อฉัน
เธอตัดรอนความฝันมาหลายหน
เธอมองฉันเหมือนเช่นเป็นเดนคน
เธอไม่สนถึงหัวใจใฝ่รักเธอ
ฉันเป็นฉันเช่นนี้หลายปีผ่าน
ฉันอยากสานความรักถักเสนอ
ฉันเพียบพร้อมหัวใจไว้บำเรอ
ฉันรักเธอคนเดียวอยากเกี่ยวใจ
เพียงพลิ้ว
เธอเป็นเธอ....ฉันเป็นฉัน...ทุกวันต่าง
เธอควรวางหัวใจกับใครอื่น
เธอเสนอรักสลักคำย้ำจุดยืน
เธอคงชื่นสมหวังดั่งต้องการ
ไม่เป็นไรรักของฉันค่านั้นศูนย์
ไม่ควรจูนคลานคืบให้สืบสาน
ไม่เป็นไรคงทนไหวเจ็บไม่นาน
ไม่ร้าวรานเท่าไรใจแสนกล
ฉันเป็นฉันเช่นนี้ที่เธอเห็น
ฉันยังเป็นคนนี้ที่สับสน
ฉันไม่เห็นเธอเป็นเช่นเดนคน
ฉันเห็นผลแห่งรักร้ายไม่หมายครอง
ฤกษ์  ชัยพฤกษ์
เห็นว่ารักฉันร้ายไม่หมายครอง
ขอให้ลองคิดใหม่ใจแน่วนิ่ง
มองทะลุภายในได้ความจริง
ว่าทุกสิ่งที่เห็นเป็นภาพลวง
ความรักฉันเหมือนเป็นเช่นไม้ใหญ่
แผ่กิ่งก้านร่มใบออกใหญ่หลวง
กิ่งใหม่งอกกิ่งเก่าใช่หลุดล่วง
ยังงอกงามพุ่มพวงตระหง่านไกล
รุ่งจำเริญพร้อมกันต่างหรรษา
เหล่าวิหคนกกาได้อาศัย
หากวิเคราะห์มองซึ้งถึงความนัย
คงไม่ตัดเยื่อใยให้เศร้าตรม
มาเถิดหนาคนดีมีรักรอ
มาร่วมกันถักทอให้รักสม
มาลงเรือลำเดียวเกี่ยวรักบ่ม

อโรคยา ปรมา ลาภา..

แก้วประภัสสร


ธรรมดาผู้ชายทั้งหลายแหล่
ทั้งหนุ่มแก่โสดโฉดมักโปรดหญิง
วัยแรกรุ่นขบเผาะดังเป๊าะจริง
ไม่สุงสิงคนชราว่าแสนเชย
ทั้งขี้เหล้าเมายาเห็นมาหมด
ใช่พูดปดจริงนะเจ้าข้าเอ๋ย
ถึงคบหาดูใจไม่นานเลย
ต้องลงเอยวัยสาวคราวลูกตน
แม้จะกินลำบากยากแสนเข็ญ
ทุกเช้าเย็นเฝ้ามองจ้องหลายหน
เหมือนมะม่วงขบเผาะเสาะท้องตน
ก็ยังทนรสเปรี้ยวเคี้ยวเข็ดฟัน
ชายทั้งหลายพินิจพิจารณาเถิด
หญิงที่เกิดรุ่นราวคราวเดียวฉัน
เหมือนมะม่วงสุกหอมพร้อมทานกัน
เสาะท้องนั้นไม่มีนี่เรื่องจริง
ส่วนอาหารนั้นสบายอย่าได้ห่วง
เราพร้อมควงกะทะนะเชื่อหญิง
อันรสชาดยอดเยี่ยมกระเทียงจริง
ใส่ทุกสิ่งเป็นยามาชูใจ
อโรคยา ปรมา ลาภา..
เปลี่ยนใจมาคบฉันนั้นดีไหม
หมดปัญหาความต่างระหว่างวัย
ถ้าถูกใจกดไลท์สักหมื่นที  ....^_^

ไม่จำเป็น...

คีตากะ


ไม่จำเป็น...ต้องมากหากเห็นค่า
เพียงสบตาก็สุขทุกข์ห่างหาย
ยิ้มให้กันวันเหงาเศร้าเดียวดาย
ก็มากมายเพียงพอต่อชีวิน
ไม่จำเป็น...ต้องใกล้ไปกว่านี้
ก็ยังรู้สึกดีที่ถวิล
คิดถึงกันวันท้อรอยลยิน
เรื่องราวสิ้นเป็นไปในเส้นทาง
ไม่จำเป็น...ต้องเกินเดินล้ำเส้น
ในความเป็นตัวตนบนความต่าง
คอยรักษาระยะไว้ในหนทาง
ไม่ไกลห่างไม่ใกล้ให้พอดี
ไม่จำเป็น...ต้องรักให้หนักจิต
หากชีวิตดำเนินเดินสุขี
ความสัมพันธ์แห่งใจยังไมตรี
ทุกอย่างดีเรียบร้อยปล่อยเป็นไป
ไม่จำเป็น...ต้องย้ำคำขอบคุณ
เลิกวายวุ่นตอบแทนแม้นสงสัย
ถึงเหตุผลที่ฉันนั้นทำไป
เพียงเพราะใจ...รักเธอ...จะทำไม...

เธอว่าความรักมีปีกไหม

ก้าวที่...กล้า


เธอว่าความรักมีปีกไหม
แล้วมันจะบินไกลถึงไหนหนอ
หรือบินมาบินไป-ให้ใครรอ
จนย่ำเย็นตะวันทอแล้วเลือนราง
เธอว่าความคิดถึงจะถึงไหม
เมื่อฉันส่งแรงใจไสวสว่าง
ไปในความมืดมิดทุกทิศทาง
หรือรุ่งเช้าหมอกจางก็ห่างหาย
เธอว่า เธอว่าไหม
ความคิดถึงพัดใบไม้ไม่ใช่ง่าย
ความรักแน่นเหนียวยังเดียวดาย
ผู้คนมากมายคล้ายคล้ายกัน
.
.
เธอว่าความรักมีปีกไหม
จะบินมาบินไปให้ไหวหวั่น
หรือว่าจะหลุบปีกอยู่ตรงนั้น
ให้ความจริงความฝันมันนิ่งนาน

อกหักใช่หนักหนา(กลบทวัวพันหลัก)

สุนทรวิทย์


เจียมตนว่า  อ่อนด้อย  ในถ้อยรัก
รักหน่วงหนัก  เพียงไหน  จึงไม่สม
สมควรหรือ  ยังเขลา  ยอมเฝ้าจม
จมในหล่ม  หลุมรัก  ซึ่งหลักลอย
ลอยอยู่ใน  ความฝัน  อันเวิ้งว้าง
ว้างเวิ้งคว้าง  สุดไขว่  ไกลเกินสอย
สอยมิถึง  ควรหรือ  จักยื้อคอย
คอยอย่างกร่อย  หงอยจิต  หลงทิศทาง
ทางกองสุม  ด้วยขวาก  ยากฟันฝ่า
ฝ่าทิวา  ราตรี  ฤดีหมาง
หมางบนความ  พร่อมพร้อ  รออับปาง
ปางก่อนสร้าง  บุญน้อย  จำถอยลา
ลาจากขวัญ  ชีวี  ที่เคยหลง
หลงทะนง  งงเยี่ยง  ไร้เดียงสา
สาแก่ใจ  หน่ายเบื่อ  เมื่อถึงครา
ครารู้ว่า  เธอมี  ที่หมายปอง
ปองแล้วพลาด  อาจช้ำ  ระกำจิต
จิตรู้ผิด  เตือนตัว  มิกลัวหมอง
หมองอยู่ไย  หญิงอื่น  ดื่นก่ายกอง
กองให้จอง  ให้หวัง  ยังมากมี

มาเถอะ

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


เห็นเธอเศร้าเหงาหงอยคอยลังเล
จะหันเหเปลี่ยนแปลงขัดแย้งหนัก
เพราะส่วนลึกหัวใจยังใฝ่รัก
ด้วยความภักดิ์หากจะไปใจอาวรณ์
ช่างเถอะนะเรื่องรักพักเอาไว้
ช่างเถอะนะเรื่องใจที่ไหวอ่อน
ช่างเถอะนะเรื่องฝันนิรันดร
ช่างเถอะนะทุกข์ร้อนปล่อยส่างซา
มาเถอะนะรับได้ทุกเรื่องราว
มาเถอะนะบางคราวแม้ห่วงหา
มาเถอะนะมีฉันบ้างบางเวลา
มาเถอะนะแขนฉันอ้ารองรับเธอ
ค่อยปรับตัวปรับใจมาให้กัน
ค่อยหวงห่วงสัมพันธ์สม่ำเสมอ
ค่อยปรับทุกข์ปรนสุขสนุกบำเรอ
ค่อยหาสิ่งเลิศเลอบำรุงกัน
หากถามหาความรักจักมอบให้
หากถามใจมั่นคงดำรงมั่น
หากถามถึงความหลังให้ช่างมัน
หากถามขวัญไม่หวั่นไหวมีใจเดียว
มาเถอะหนาคนดีมีรักรอ
มาร่วมก่อร่วมสร้างแม้ทางเปลี่ยว
เราสองคนระคนรักสลักเกลียว
หัวใจเกี่ยวสองใจไปด้วยกัน...

..กลับมาจุดเริ่มต้น.หลงทาง.

มวลภมร


อาจเคยผ่าน คืนวัน อันไร้สุข
เคยต้องทุกข์ จากรัก ไม่สมหวัง
ผ่านคืนทุกข์ เศร้าตรม ถมประดัง
อย่าสิ้นหวัง อย่าโทษ โกรธหัวใจ
.
หากวันวาน รักเก่า เคยทำเจ็บ
อย่าไปเก็บ สิ่งทำ ใจหวั่นไหว
จำแค่ความ รู้สึกรัก ในหัวใจ
ถึงอย่างไร ความรัก ก็สวยงาม
.
อย่างที่ว่า ที่ผ่านมา คืออดีต
ถึงแม้คิด ถึงได้ อย่าไหวหวาม
เปิดใจรับ รักใหม่ ที่สวยงาม
แล้วปล่อยตาม หัวใจ จะบัญชา
.
มาเสนอ รักให้ ได้โปรดรับ
มาอยู่กับ ปัจจุบัน กับฉันหนา
จะมั่นคง คงมั่น ด้วยศรัทธา
ว่าความรัก มีค่า สุดหัวใจ
.
จะไม่บอก ว่ารัก เธอเท่าฟ้า
แต่สัญญา ว่าจะ ไม่หวั่นไหว
จะขอมี แค่เธอ ตลอดไป
หมดทั้งหนึ่ง หัวใจ ให้แค่เธอ
.23.09.55.

...กลัวหรือเปล่า...

มวลภมร


กลัวหรือเปล่า.หากเขา.ไม่คงมั่น
กลัวหรือเปล่า.รักนั้น.หมดความหมาย
กลัวหรือเปล่า.หากเขา.มากลับกลาย
กลัวหรือเปล่า.หากสาย.เกินถอนตัว
..
กลัวหรือเปล่า.หากเรา.ตัดไม่ได้
กลัวหรือเปล่า.หนักใจ.จนปวดหัว
กลัวหรือเปล่า.หากเรา.ต้องเมามัว
กลัวหรือเปล่า.หากกลัว.รีบถอนใจ
..
กลัวหรือเปล่า.ถ้าวัน.หนึ่งต้องเจ็บ
กลัวหรือเปล่า.หนาวเหน็บ.เกินทนไหว
กลัวหรือเปล่า.ต้องช้ำ.ทั้งกายใจ
กลัวหรือเปล่า.บอกใคร.ก็อายคน
..
กลัวหรือเปล่า.กลัวไหม.ใจต้องถาม
กลัวหรือเปล่า.ตามย้ำ.อย่าสับสน
กลัวหรือเปล่า.หัวใจ.คนวกวน
กลัวหรือเปล่า.ใจคน.ไม่จริงใจ
..
กลัวหรือเปล่า.ถ้ากลัว.ขอให้หลบ
กลัวหรือเปล่า.หากพบ.ความหวั่นไหว
กลัวหรือเปล่า.กลัวรัก.พี่หมดใจ
ถ้าหากไม่.ลองไหม.มารักกัน..(ฮิ้ววว....)

ความรักที่ฉันมี

กีตาร์เก่า


รักคุณเท่าฟ้า รักหม่าม้าเท่ามหาสมุทร
รักพ่อไม่เคยหยุด รักสุดสุดด้วยใจของฉัน

ที่นี่มีรัก

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


เธออ้างว้างหมดหวังนั่งอมทุกข์
หมดสนุกในชีวิตคิดแต่หนี
จะไขว่คว้าหาใครไม่เห็นมี
ต้องยอมพลีหัวใจให้เป็นทาน
คว้าทำไมเส้นฟางอันสุดท้าย
แถมอยู่ปลายฟากฟ้าน่าสงสาร
เขาคงลืมไปแล้วเรื่องวันวาน
มาสืบสานเรื่องใหม่กับใจนี้
ความหลังเก่าลืมสิ้นอย่าผินมอง
มาให้คว้าจับจองได้เต็มที่
ถ้าหากมองให้เห็นแง่มุมดี
ได้เปรมปรีดิ์สุขใจไม่ไกลเกิน
คว้าเอาฟางสุดสายที่ปลายเส้น
อาจพลัดหลุดกระเด็นต้องเก้อเขิน
มือสองมือคว้ามั่นพากันเดิน
ใช่บังเอิญตั้งใจด้วยหมายปอง
มาเถิดหนาคนดีมีรักรอ
มาร่วมก่อร่วมสร้างทางเราสอง
เป็นนักสู้แกร่งกล้าต้องมาลอง
ไอละอองรักกรุ่นเป็นทุนแล้ว...

คนใช่ที่ใจรอ

มนต์กวี


.
เพียงผู้หญิงอีกคนที่หม่นเศร้า
แบกความเหงาร้าวรานมานานเนิ่น
หากมีใครสักคนควงแขนเดิน
สู้เผชิญทางใจไปด้วยกัน
.
ใครคนนั้นเขาคนนี้จะมีไหม
ได้ซบไหล่หนุนตักถักทอฝัน
อยู่เคียงข้างยามสับสนหนทางตัน
เช็ดน้ำตาปลอบขวัญวันปวดใจ
.
จะมอบใจทั้งดวงลงบ่วงรัก
แม้อกหักรักหม่นก็ทนไหว
กอดสัญญาที่ใจเขียนมิเปลี่ยนไป
ลองรักใครฉันพร้อมยอมจำนน
.
หวังฝากผีฝากไข้ไว้กับเขา
คนตัวเปล่าเหงาเกินเดินถนน
คงโดดเดี่ยวหากไร้ใครสักคน
เป็นกันชนความหวั่นไหวในใจเรา
.
เพียงอยากพบคนใช่..ที่ใจรอ
แล้วถักทอความฝันแม้วันเหงา
เกี่ยวก้อยเดินร้องเพลงเรามีเรา
จะบอกเขาทุกวัน.."ฉันรักเธอ"

♥ ฝากบอกรัก...ครั้งที่ร้อย ♥

cicada


แม่อยู่บนดวงดาวหนาวไหมคะ
เดี๋ยววันพระหนูจะทำยำมะเขือ
เตรียมของหวาน..ผลไม้ใส่ลำเรือ
วัดคุ้งเหนือมีงาน..ทำทานบุญ
คิดถึงแม่ทุกวันยามสั่นหนาว
ใจปวดร้าวร่ำไห้..หาไออุ่น
หนูว้าเหว่...เดียวดายไร้ร่มบุญ
ชีวิตวุ่นวกวน..ขาดคนเตือน
หยิบซิ่นไหม..สีกลีบบัวใจรัวสั่น
ผ้าผืนนั้นนุ่มละไมหาใดเหมือน
แม่ซื้อให้เป็นของขวัญวันคืนเรือน
วันนี้เปื้อนหยาดน้ำตา...อาลัยรัก
ห่มสไบสีนวล..ยังอวลกลิ่น
บุหงาริน..รำไปใจประจักษ์
พระคุณแม่ท่วมท้นล้นใจนัก
ฝากบอกรัก..แม่อีกที..ครั้งที่ร้อย
หน้า / 13  
ทั้งหมด 220 กลอน