กลอนเพื่อน

แด่เพื่อน

din


ยังคิดถึงกันอยู่รู้บ้างไหม
ปรารถนาแห่งใจอยากไปหา
เพื่อพบเจอกันบ้างในบางครา
แม้เวลามาพรากให้จากไกล
คืนและวันผันเปลี่ยนเวียนบรรจบ
หากทวนทบ...ย้อนเวลา...คืนมาได้
แม้เพื่อนจะอยู่ห่างหนทางไกล
ยังยื่นไมตรีเกื้อโอบเอื้อกัน
พอฝนตกไอดินส่งกลิ่นหอม
ยังถนอมความรู้สึกผนึกขวัญ
ดอกคิดถึงซึ้งสลักปักแจกัน
มากำนัลเพื่อนยาก่อนลา(ไปนอน)

น้ำใจแห่งมิตรแท้

พฤหัส กฤษชยรักษ์


เมื่อต้องมีศัตรูผู้อาฆาต
ชะตาชีวิตเกือบขาดคมกระสุน
กลับฟื้นคืนมาได้คงเพราะบุญ
และพระคุณของมิตรคิดเกื้อกูล
 
สวัสดิการของรัฐช่วยจัดให้
สิทธิประโยชน์ได้ใช้ไม่เป็นสูญ
ได้อาศัยพึ่งพาพ้นอาดูร
ด้วยไออุ่นน้ำใจและไมตรี
 
ไม่คาดคิดได้พบได้คบเพื่อน
คนบ้านกลอนเป็นเสมือนดั่งน้องพี่
ได้ช่วยเหลือเจือจุนคุณความดี
ฝังติดตรึงชั่วชีวีมิเลือนไป
 
กลับมาแล้วหนุ่มใหญ่ใจกล้าแกร่ง
พร้อมเรี่ยวแรงแข็งขยันและฝันใส
ทุกข์ที่ผ่านมาแล้วให้แล้วไป
มุ่งตั้งต้นชีวิตใหม่ด้วยใจตรง
 
ไม่ขอฟื้นความหลังแต่ครั้งเก่า
ประคองตัวให้เข้าเป้าประสงค์
ด้วยสองมือฟันฝ่าเข้าหาธง
ความมั่นคงของชีวิตคิดมานาน...
 
 
 
 
 

ถึงเพื่อน

เฌอมาลย์


คิดถึงเพือนเหมือนกันฉันขอบอก
เคยเย้าหยอกคุยกันในวันเหงา
เคยค่อนแคะ-แขวะ-แซว-ตามแนวเรา
เคยสุข-เศร้า-เมามายมาหลายปี
มาตอนนี้ห่างเหินเกินต่อติด
เพราะชีวิตบนทางต่างวิถี
ต้องดิ้นรนขวนขวายวุ่นวายมี
เพื่อสิ่งดีกว่ากันในวันวาน
อีกเศรษฐกิจฝืดเคืองบ้านเมืองแย่
เป็นตัวแปรเกินใจจะไขขาน
จึงหมดไฟไร้ฝันจะบันดาล
เขียนกลอนกานท์เหมือนเก่าโปรดเข้าใจ
คิดถึงเพื่อนเหมือนก่อนขอย้อนบอก
มิได้นอกใจกันอย่าหวั่นไหว
มิได้ติดเฟซบุ๊คสนุกไลน์
ที่หายไปเพราะว่า..ฉันบ้าเกมส์ 555

เพื่อนทะเล

ฝน


 ฟังเสียงคลื่นทะเลยามพัดหวนทำให้ชวนน่าฟังน่าหลงใหล
เหมือนกับใจคน ที่อ้างว้างอยากมีใคร
คอยห่วงใย ใกล้ใกล้ดูแลกัน
แต่ทั้งนี้มันก็ได้ แค่เพียงฝัน
นานนับวันยิ่งอยู่ใกล้ เหมือนยิ่งห่าง
เหมือนเส้นทาง ที่ยังอีกยาวไกล
        ถึงอย่างไรก็ยังดี..ที่มีเธอ
คอยส่งเสียงเป็นคลื่นลมยามฉันเหงา
แม้ว่าเราไม่สามารถคู่กันได้
แต่ใจนั้นยังสัมผัสได้ถึงกัน
ยามที่ฉันอ้างว้างและเดียวดาย
เธอก็คือแสงสุดท้าย..เป็นเพื่อนกันยามคิดถึง

บอดใบ้

บุญพร้อม


 บอดกับใบ้ คุยกัน  น่าขันนัก
ใบ้อ้างหลัก บอดแจงทาง ไว้อย่างหรู
ต่างก็ว่า  เอ็งน่า   เอาอย่างตู
เราคนดู   ยังขำ    ช่างทำกัน
   
     อดไม่ได้ ต้องกระเซ้า เจ้าบอดใบ้
จะมีใคร   ยอมได้ กันไหมนั่น
เอาหลักทาง วางไว้ อย่าใกล้มัน
กอดคอกัน   เหมือนเก่า ที่เราเคย
    ทำหน้าหงิก หน้างอ ต่อเพื่อนเก่า
เดี๋ยวก็เหงา ทั้งเรือน  ละเพื่อนเอ๋ย
มาปลอบขวัญ แบ่งปัน กันเหมือนเคย
เธอเป็นเนย  ฉันหนมปัง   ยังได้กิน
  

หนึ่งกำลังใจ

เพียงพลิ้ว


หลากปัญหาสารพันจะผันผ่าน
รอยร้าวรานเรื่องร้ายจะหายสูญ
กำลังใจจากตรงนี้ทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนพลังฝันวันท้อใจ
 
เธอใจยอกชอกช้ำแสนลำบาก
รับรู้จากแววตาว่าอ่อนไหว
ขอเป็นเพื่อนเคียงข้างเดินทางไกล
เหนื่อยแค่ไหนกับปัญหาร่วมฝ่าฟัน
 
อย่ายอมแพ้เรื่องแค่นี้มีทางออก
เชิญเล่าบอกเรื่องราวอันร้าวขวัญ
ร่วมทบทวนแก้ไขไปด้วยกัน
คงสักวันอุปสรรคจักคลี่คลาย
 
ยิ้มให้กับปัญหาอย่าท้อถอย
ลบริ้วรอยรันทดให้หดหาย
ต่อสู้สิ่งกีดขวางอย่างท้าทาย
จุดประกายให้ขวัญเพื่อวันดี
 
ขอจงมีปัญญาความกล้าหาญ
เพื่อก้าวผ่านอุปสรรคหนักวิถี
ขอหัวใจเปี่ยมพลังดั่งเคยมี
ณ ตรงนี้มิตรนับร้อยคอยห่วงใย

คิดถึง

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์


คำนึงถึงน้องเคยข้องสัมพันธ์
บ้านเกิดก่อนนั้นแรกรุ่นชันษา
เคยเรียนเคยเล่นเคยเห็นกันมา
ห่างหายไกลตาเธอเป็นฉันท์ใด
 
ฉันเล่นเป็นพ่อเธอเล่นเป็นแม่
สำเริงจริงแท้สร้างเพิงห้องใหญ่
ใช้ผ้าขาวม้ากั้นฝาเอาไว้
พ่อแม่อยู่ในกะหนุงกะหนิง
 
ประสาเด็กน้อยพาพลอยรื่นเริง
เพื่อนมารื้อเพิงพังบ้านล้มกลิ้ง
มีเกลียดมีก่นแต่ไม่โกรธจริง
สุขใจไล่วิ่งร่วมเล่นเป็นเกม
 
มาถืงวันนี้น้องพี่อยู่ไหน
คงเป็นสาวใหญ่ไร้ทุกข์สุขเกษม
ครอบครัวอยู่ดีสุขศรีปรีเปรม
หรือทุกข์ท่วมเต็มลำบากยากจน
 
โปรดรับรู้ด้วยแล้วช่วยส่งข่าว
ให้รู้เรื่องราวเพื่อนเก่าสับสน
ไม่ลืมไม่เลือนเพื่อนพ้องทุกคน
ยิ่งน้องหน้ามลยังตรึงซึ้งใจ

โถ เพื่อนเรา

cicada


แค่เส้นคั่นบางบางระหว่างเขต
อุบัติเหตุเพลิดเพลินเดินผิดที่
เพียรรักษาหัวใจให้ดีดี
ต้นไมตรีถนอมไว้อย่ากลายพันธ์
 
ด้วยน้ำใจใสพิสุทธ์หยุดความหลง
ชื่นดำรงรักงามท่ามความฝัน
สองห้วงใจใสสนิทนิจนิรันดร์
เธอเพื่อนฉัน..ฉันเพื่อนเธอเสมอใจ
 
สู้อุตส่าห์อดใจไม่ไหวหวั่น
เธอรำพันแอบอิงยิ่งหวั่นไหว
เนื้อแนบเนื้อพัลวัลก็สั่นไกว
เสียงหัวใจตูมตามคุกคามตน
 
คือกฎเกณฑ์ของมนุษย์หยุดตัณหา
ผิดกาละ..เวลาพาหมองหม่น
ความสัมพันธ์ภินท์พังหลงวังวน
โลกสับสน โถ..เพื่อนเรามาเผาเรือน..
* แซมเปล่านะ... *

แด่ เพื่อนไพร

เปลวเพลิง


เพื่อนรัก
ฉันคิดถึงเธอยิ่งนักเพื่อนรักเอ๋ย
ด้วยมีเพียงภาพเก่าให้เฝ้าเชย
ว่าเธอเคยเกิดก่อบนธรณิน
วันนี้เธอล้มหายตายหมดแล้ว
ปราศวี่แวว-ยิ่งให้อาลัยถวิล
เหลือชื่อคงยงอยู่คู่แดนดิน
ย้ำให้ยิน-คิดถึงเธอเสมอมา
เนื้อสมัน
ฉันคิดถึงเธอนั้นมากนักหนา
หวังเห็นเธอสง่างามตามธรรมดา
เล็มยอดหญ้าเขียวขจีที่ลออ
ปลาหวีเกศ
ทั่วประเทศเธอไปอยู่ไหนหนอ
ทั้งค่ำเช้าฉันละห้อยอยู่คอยรอ
หวังแค่ขอเห็นเธอว่ายกลางสายธาร
นกตาพอง
ฉันนี้ปองยลเธอเพลินเหินสนาน
เธอโบยบินลับหายไปแสนนาน
หวังเห็นวารเธอกลับมาร่อนฟ้าไทย
และเพื่อนรักอีกมากมายในโลกนี้
ฉันคิดถึงเธอเหลือที่เกินขานไข
เธอล่วงลาอาสัญ-ฉันอาลัย
เหลือเพียงภาพประทับใจทิ้งให้ยล
ฉันคิดถึงเธอจริงจริงมิ่งมิตรรัก
และตระหนัก “มนุษย์” หนอผู้ก่อผล
แม้นใจหวังปลุกเธอฟื้นคืนชีพชนม์
ก็ต้องหม่น-รักเธอได้ในทรงจำ

เพื่อนรักแอบรัก

นักสืบไร้ชื่อ


 
    เมื่อก่อนความรู้สึกฉันคือเพื่อน   
คอยตักเตือนเพื่อนรักสนุกสนาน
เราเป็นเพื่อนรักกันแสนยาวนาน        
ภาพวันวานยังจดจำตลอดมา
ฉันรู้สึกมีความรักปักกลางอก            
เหมือนตกอยู่ในภวังค์ของเวหา
ความเป็นเพื่อนที่ฉันให้เธอมา           
กาลเวลาสร้าความรักปักกลางใจ
อยากจะถามเธอทุกครั้งเมื่อเจอหน้า    
 ในอุรามีฉันอยู่บ้างมั้ย
ที่ฉันคอยดูแลคอยห่วงใย                  
หรือว่าเธอมีใครที่หมายปอง
แต่ก็คงสุดแต่ฟ้าจะกำหนด                
จะอดทนดูแลคอยปกป้อง
รักครั้งนี้ไม่มีสิทธิ์จะเรียกร้อง             
เราจึงต้องเสียน้ำตาทุกค่ำคืน
แต่ก็คงเป็นฝันเมื่อยามหลับ          
เพราะต้องกลับความคิดพอครั้งตื่น
เก็บอาการความเจ็บล้มทั้งยืน        
 ไม่อาจฝืนชะตาของฟ้าดิน
คอยแอบเตือนหัวใจทุกๆครั้ง     
ว่าจงอย่าพลาดพลั้งคิดผิดศิล
อาจจะต้องขาดใจสิ้นชีวิน              
ชั่วฟ้าดินจะไม่สิ้นคำรักเธอ....

เขาและฉัน

อัลมิตรา


1.
ถอดหัวใจใส่กลอนอักษรสื่อ
ขอเลื่องลืออีกหนกลอักษร
ด้วยซาบซึ้งหนึ่งชายใจอาวรณ์
อยากสะท้อนความรู้สึกลึกภายใน
2.
เขาชื่อเรียงเสียงใดฉันไม่รู้
อีกที่อยู่หลักแหล่งแห่งหนไหน
เป็นผู้ดีหรือตกยากลำบากใด
เคยสงสัยเหมือนกันในวันวาน
3.
ด้วยเนิ่นนานการสนิทดุจมิตรแท้
ฉันก็แค่เลิกสงสัยไม่ฟุ้งซ่าน
ไม่คิดสืบเสาะหาสถานการณ์
หลายปีผ่านวางใจในไมตรี
4.
เคยมีบ้างปวดร้าวคราวห่างเหิน
ถ้อยดำเนินเป็นกลอนย้อนสักขี
แอบเหงาหงอยน้อยใจในบางที
ไดอารี่ลายพร้อยรอยน้ำตา
5.
ในตอนนั้นฉันเศร้าคล้ายเขาทิ้ง
ซ้ำโลกจริงโรคร้ายลอบกรายหา
ที่เจ็บป่วยเจียนตายวายชีวา
เจ็บน้อยกว่าตรงนี้ที่หัวใจ
6.
ผ่านเหตุการณ์วันนั้นฉันฉุกคิด
ฤๅ คนผิดเป็นฉันที่หวั่นไหว
มิตรภาพตราบสิ้นฟ้าแม้นคราใด
สำนึกได้แต่บางครั้งจิตลังเล
7.
ตนเองที่พลาดพลั้งมิยั้งคิด
กลับโยนผิดโทษเขาว่าเจ้าเล่ห์
แถมกริ้วโกรธก่อกวนป่วนเกเร
แสนสนเท่ห์แปลกใจไยฉันทำ
8.
คิดเป็นเพื่อนผู้เดียวที่เกี่ยวข้อง
โลกทั้งผองเทียบค่ากะลาคว่ำ
ถ้อยที่เขาเรียงร้อยเป็นรอยคำ
แอบเพ้อพร่ำซาบซึ้งตรึงอุรา
9.
แต่โลกใช่เทียบค่ากะลาคว่ำ
วรรณกรรมสูงเกินประเมินค่า
เขาเชี่ยวชาญสุนทรีเลิศลีลา
เทียบศักดากวีเอกเสกสุนทร
10.
ยามเขาจรดบทกานท์ ณ ลานกวี
ช่างมากมีมิตรสหายสายสมร
ซึ่งบางคนสนใจกว่านัยกลอน
เฉกละครฉันเห็นความเป็นไป
11.
เขายังคงเป็นเขาเทียบเท่าเดิม
ฉันกลับเพิ่มความรู้สึกนึกคิดใหม่
หากยึดมั่นฉันท์เพื่อน

"อย่า ทิ้ง กัน ! "

อัลมิตรา


ภายใต้กรอบกฏเกณฑ์เช่นกรงขัง
ฉันวาดหวังเสมอว่าทุกคราไหน
เธอยังคงเป็นเสมือนเพื่อนรู้ใจ
แม้นห่างไกลยังสนิทมิตรไมตรี
"อย่า ทิ้ง กัน ! " วันก่อนวิงวอนขอ
สัมพันธ์ก่อเนิ่นนานอย่าพาลหนี
ฉันเพียงคนบนโลกโศกมากมี
คล้ายริบหรี่หนทางช่างมืดมน
ขอได้โปรดสัญญา "อย่า ทิ้ง กัน !"
เวทนาฉันได้ไหมใคร่หวังผล
หากฉันมีเพื่อนแท้แม้อับจน
ถึงทุกข์ทนเท่าไรคงไม่แคร์
ขอเธออย่าทิ้งฉัน..อัลมิตรา
ตราบสิ้นฟ้าใช่นิยามตามกระแส
สิ่งเดียวที่อยากได้ในดวงแด
ขอเพียงแค่เห็นฉันสำคัญพอ
ภายใต้กรอบกติกาสัญญาใจ
อักษรสาส์นสื่อนัยจากใจหนอ
อาจมีน้ำตาพร่างระหว่างรอ
จำร้องขอเพราะกลัวเธอ "เผลอทิ้งกัน"
ค ว า ม เ ดี ย ว ด า ย ใ น คื น เ ห น็ บ ห น า ว
แ ห ง น ม อ ง ฟ้ า ยั ง นึ ก ถึ ง วั น เ ก่ า
มั น ค ง จ ริ ง ที่ ท า ง ย า ว ไ ก ล 
  . .   ก ร่ อ น หั ว ใจ

กลับมาเยี่ยม

เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย


วันวานผ่านไปไหลเลื่อน
จิตเตือนเรื่องมิตรอีกหน
ย้อนทางเก่าเก่าวกวน
ผจญหนทางลางเลือน
คลำทางจนมาได้เจอ
เหล่าเกลอยังอยู่ไหมเพื่อน
จากไปทำงานหลายเดือน
มาเตือนความจำอีกครา
ห่างหายไปนานบ้านนี้
น้องพี่คงสุขหรรษา
โรคภัยมิกล้ำกายา
สุขาอารมณ์ทุกวัน

สุดปรารถนา กัลยาณมิตร

อนงค์...นาง


สุดปรารถนา กัลยาณมิตร
กลับเมืองไทยคราวนี้มีสุขใจ
เพื่อนแท้ได้มาพบประสพขวัญ
อยู่ห่างไกลแค่ไหนไม่สำคัญ
ฟ้ามิกั้นดวงใจให้เหงาฤดี
ต่างเดินทางด้วยใจให้เมตตา
ปรารถนาเพื่อนพ้องอย่าหมองศรี
รู้จักกันมานานผ่านหลายปี
เพื่อนรักมีหัวใจให้แก่กัน
เพื่อนเก่าสุดคนงามนามกุลธิดา
ต่างคบหาวัยเยาว์เราสุขสันต์
อายุเพียงสิบสี่ดีต่อกัน
สามสิบเก้าปีอันจริงใจไม่ลืมเลือน
เพื่อนรักเพื่อนสนิทคนนี้รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมต้นและปลายด้วยกัน5ปีที่โรงเรียนสายน้ำผึ้งค่ะ จนเรียนจบ ตอนที่ทำงานในกรุงเทพฯ รักกันมากขนาดซื้อบ้านอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันในซอยวัชรพล  เมื่อรู้ว่าอนงค์นางจะกลับเมืองไทย เพื่อนไปรอที่โรงแรมตั้งแต่ 6โมงเย็น
แต่พลาดกันเพราะกว่าจะถึงโรงแรมก็สามทุ่ม แต่เราก็นัดเจอกันอีกจนได้ก่อนกลับในคืนวันที่
11 ที่ครัวริมน้ำหน้าโรงแรม รับประทานอาหารและคุยกันนานหลายชั่วโมง ลูกสาวของเราได้รู้จักกันและคุยกันอย่างสนุกสนาน
ระหว่างอนงค์นางกับกุลธิดา เราคือเพื่อนแท้ รู้จักและคบกันมา39ปี ไม่ต้องการเรตติ้ง ไม่มีอักษรหรือบทกลอนใดที่มีค่ามากไปกว่าหัวใจของความเป็นกัลยาณมิตร ที่ผ่านทุกข์ สุข มาด้วยกันแต่เยาว์วัย
ไม่เคยทอดทิ้งกันในยามเดือดร้อน มีแต่ความรัก กรุณาปราณีต่อกัน เกิดมาโชคดีค่ะ
มีพ่อแม่พี่น้อง คู่ครอง ลูกสองคน มีเพื่อนแท้ มีครบทุกทิศที่เป็นกัลยาณมิตร ไม่มากมายในปริมาณแต่มากด้วยความรัก ความเมตตาต่ออนงค์นางมาตล

เพื่อนๆ เยือน น่าน

ไหมแก้วสีฟ้าคราม


วันที่แปด-เก้า ธันวา มาสังสรรค์
พบปะกัน ณ น่าน ต้านลมหนาว
จัดต้อนรับ อาหาร หวานมันคาว
เพื่อนหนุ่มสาว ครึกครื้น รื่นเริงกัน
บ้างร้องรำ ฮัมเพลง ตระเบ็งเสียง
เต้นตัวเอียง เตะขา ดูน่าขัน
กังนัมสไตล์ อายป้า ทำท่ามันส์
หฤหรรษ์ ลอยโคม ประโลมใจ
นานนานที เจอกัน วันแสนสุข
สุดสนุก หน้าอิ่ม ยิ้มผ่องใส
สามสิบปี ลางเลือน เพื่อนห่างไกล
พบกันใหม่ สูงวัย นั่นใครกัน
ค่อยรื้อฟื้น ความหลัง ครั้งก่อนเก่า
ยังมีเค้า หลงเหลือ เชื่อไหมนั่น
ปลงสังขาร กาลเวลา ถ้ารู้ทัน
โปรดอย่าหวั่น เราผูกพัน กันที่ใจ (เนืองนิจ..เขียน)

แด่...ดอกไม้ในวันโน้น

เปลวเพลิง


เราหยิบยื่นมอบดอกไม้ในวันโน้น
ดวงตาโชนประกายฝันอันเฉิดฉาย
เราจะเป็นเพื่อนกันจนวันตาย
คอยคลี่คลายทุกข์นานาที่ราวี
แย้มรอยยิ้มหยาดเยิ้มเติมดวงจิต
ใช้ชีวิตร่วมทางไม่ห่างหนี
ในมือสองที่ถือคือไมตรี
จะไม่มีโรยร้างจางหายไป
ฉันยังเก็บดอกไม้ในวันนั้น
ปลุกปลอบขวัญยามยาตราฝ่าไศล
ทุกกลีบ สี ผลิสะพรั่งพลังใจ
ให้จิตไม่หงอยเหงา เศร้า เอกา
เธอเล่าเก็บดอกไม้ไว้หรือไม่
ดอกไม้ในวัยวันที่ฝันหา
วันโน้นมีน้ำค้างพร่างมาลา
วันนี้ร้างโรยราแล้วหรือยัง
เพื่อนจ๋า
คิดถึงวันเวลาแต่หนหลัง
หมายดอกไม้ไมตรีงามจีรัง
จวบกระทั่งอนาคตคดเคี้ยวไกล
ดอกไม้เราบานไสวในวันนี้
พร้อมกับมีน้ำค้างพร่างไสว
แต่ถ้าหากหมางเมินกัน ณ วันใด
เราอาจพบดอกไม้ฟายน้ำตา

...แด่มิตรในโลกฝัน...

din


ความดายเดียวเปลี่ยวคว้างและว่างเปล่า
อาจรุมเร้าทุกทีที่จินต์เหงา
อย่าปล่อยมันให้เป็นเหมือนเช่นเงา
ที่ตามเร้าตามรุกให้ทุกข์ตรม
อาจมีบ้างบางทีที่ว้าเหว่
ดุจเรือเร่เห่คลื่นอย่างขื่นขม
เมื่อไร้มิตรเคียงใจไว้ชื่นชม
เพียงเกลียวคลื่นพัดถมก็จมธาร
อย่าปล่อยใจไปตามความว่างเปล่า
ให้ความเหงา...รุมอุรา...อย่างกล้าหาญ
เผชิญหน้ากับทุกข์ที่รุกราน
ถึงซมซานไปบ้างก็ช่างมัน
ขอบฟ้ากว้างทางไกลถ้าใจท้อ
คนที่รอมีได้แค่ในฝัน
ความจนยากไม่ใช่สิ่งสำคัญ
หากใจมั่น...คิดว่า...เขาเข้าใจ
ในโลกฝันออนไลน์มากมายเพื่อน
มาเยี่ยมเยือน...เตือนเธอ...จะได้ไหม
เป็นแค่ลมเย็นรื่นชื่นหทัย
เป็นเพื่อนในโลกฝันเท่านั้นเอง
หน้า / 6  
ทั้งหมด 93 กลอน