กลอนขอโทษ

แสนงอน

ไผ่ลู่ลมม


จะแสนงอนตัวพี่นี้ถึงไหน
ขอ อภัยดวงแดแม่คุณเอ๋ย
ช่วยทายทักรักชอบมอบดั่งเคย
เลิกเมินเฉย ปล่อยคนหม่นอารมณ์
...
พี่งานเหนื่อยพักผ่อนนอนก็น้อย
รับรู้หน่อยหยุดเรื่องเหตุเคืองขม
ใช่ห่างหายลืมรสหมดนิยม
ยังชื่นชมแน่นหนักรักแก้วตา
ส่งข้อความมากมายหลายอักษร
โฉมบังอรสุดทรวงห่วงจริงหนา
หากอ่านแล้วรีบมอบตอบกลับมา
หยุดเฉยชาเสียเถิดแล้วเปิดใจ
ถึงวันพรุ่งรุ่งขึ้นตื่นอีกหน
น้องยังหม่นหมดทางสว่างใส
ช่วยตอบด้วยนวลนิจคิดอย่างไร
จะแก้ไข...รับปากหากเอ่ยคำ

ดอกกระดาษ

ไผ่ลู่ลมม


ดอกกระดาษวาดกลอนตอนหัวค่ำ
หรือเจ้าช้ำหม่นหมองแล้วน้องเอ๋ย
เลิกทายทักจักเป็นดั่งเช่นเคย
ทำเมินเฉยให้คอยระห้อยรอ
หรือผิดแปลกแตกต่างบนทางอื่น...
อยู่ระรื่นมัวหลงดงใดหนอ
ถึงเวลาหยอกเย้าเฝ้าพนอ
พี่มาง้อยุพิน...เยือนถิ่นเดิม
ไผ่ลู่ลม

เศร้าชิวๆ

อาบูไซยาบ


บนความเหงา เศร้ารัก เกินหักถอน
แม้จะนอน นอนไม่ได้ ใจมันหวิว
ปล่อยใจลอย คอย..!เฮ้อ...!! เศร้าชิวๆ
เวลาหิว ท้องไม่รับ ตับพิการ
ยามอกหัก เพ้อพร่ำ จนเพื่อนเบื่อ
"เมิงจะเพ้อ ไปเพื่อ..."น่าสงสาร
เฝ้าชะแง้ แลเฟส อยู่ตั้งนาน
ใจร้าวราน เธอคงไม่ รับรู้เลย....

แทนคำ รำลึก สำนึกน้อม

หอมดอกลำดวน


แทนหทัยเทวษพิเศษพิศาล
อดีตอะดักประจักษ์ประจาน
ประจำจินต์
เคยประพฤติมิชอบระบอบรบิล
มิคิดสดับจะรับจะยิน
เพราะหมิ่นคำ
บ้างก็คึกคะนองผยองกระทำ
วิพากษ์วิจารณ์ประมาณจะชำ- 
ระคำสอน
หลงฤดีมิวายขจายขจร
ฉะนี้ก็ยังภวังค์สะท้อน
เสมอมา
ลืมพระคุณประคองสนองอุรา
ประสาทประสิทธิวิทยา
ณ ครานั้น
จึ่งผจงลิขิตอิทิสฉันท์
ระบายกระแสสภาวะอัน
ละอายใจ
เถิดนะผู้ประดิษฐ์ชิวิตวิไล
ผจงจริตพินิจฉัย
อภัยเทอญ

พี่ขอโทษ

นักดาบ


..........พี่ขอโทษแม่น้องนางที่เปรียบไว้
ดั่งเทพไท้ที่ ปราบมาร ดุร้ายนี้
เป็นเหตุให้แม่นั้น ระอาที
ตัวพี่นี้ผิดไปแล้ว แม่แก้วตา
..........ขอแม่ จงยกโทษ โกรธสักครั้ง
แม่อย่างรังเกลียดเลยนะแม่หนา
เพียงครั้งแรก แม่อดโทษให้สักครา
ในครั้งหน้าพี่จำไว้พี่ไม่ทำ
...........ทำอย่างไรให้นางฟ้าคืนมาได้
ทำอย่างไร ให้นางฟ้าอย่าได้หนี
บอกหน่อยเถิด นอนได้ยากทุกราตรี
แม่คนดีนางฟ้าข้าอย่าจากไป
............ความผิดนี้ ถึงจะใหญ่แสนหนักหนา
แต่เป็นคราครั้งแรกไม่เท่าถึง
ตัวข้านี้ก็สุดแสนจะลำพึง
แม่อย่าดึงโทสาจนนานที
............เทพองค์ใดหากท่านได้รับรู้
คอยเฝ้าดู มาเห็นทุกข์ข้านี้
ฝากความบอกแม่นางฟ้าของข้าที
ว่าข้านี้สำนึกแล้ว ทิพย์วิภา

ความจริงที่ไม่มีค่า

เชษฐภัทร วิสัยจร


ถึงบอกรักจากใจก็ไม่ซึ้ง
ความคิดถึงทุกนาทีไม่มีค่า
เพราะพูดบ่อยเกินไปไร้ราคา
เธอบอกว่าต้องหารร้อยแล้วค่อยฟัง
เป้นคำพูดเรี่ยราดขาดน้ำหนัก
คำว่ารักปี้ป่นสิ้นมนต์ขลัง
จากปากคนไร้ค่าน่าเกลียดชัง
เพราะไม่ยั้งหัวใจได้แผลเป็น
ไม่ได้อยากบอกเล่าเพื่อเอาชนะ
แค่อยากจะบอกความในให้เธอเห็น
ที่บอกรักมาเล่าทุกเช้าเย็น
ใจลำเค็ญก็ยิ่งท้อยิ่งทรมาน
ยิ่งไม่อาจจะห้ามความคิดถึง
มันหนักอึ้งเกินห้ามความคิดอ่าน
ขอโทษด้วยที่ทำให้รำคาญ
แต่เนื้อสารที่เธอเห็นเป็นความจริง

ดีกันน่ะ

กุ้งหนามแดง


ขออภัยทำให้เข้าใจผิด
เคยใกล้ชิดชื่นมื่นกลายขื่นขม
แค่ขอเว้นระยะใจระทม
กลับสร้างปมขัดแย้งแปลงไมตรี
พรหมลิขิตให้เราได้รู้จัก
เพียงมิใช่คู่รักใยผลักหนี
เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแต่เริ่มมี
สัมพันธ์นี้ฤาลวงจึงทวงคืน
แทนที่จะอาดูรแบบสูญเปล่า
น้ำตาเป็นเผาเต่าเฝ้าฝันฝืน
กลับมาเป็นคู่คำย้ำยั่งยืน
เปลี่ยนจุดยืนสักหน่อยใช่ลอยแพ
จะดีกับทุกฝ่ายคิดหลายเที่ยว
ยังข้องเกี่ยวกันได้มิใช่แถ
เถอะน่ะพ่อรูปหล่อหยุดงอแง
ชายตาแลอย่างเก่าเลิกเศร้าซึม
..

เรียมเหลือทน

เรียมเอง...


เรียมเหลือทนแล้วนั่นพี่ขวัญจ๋า
ตั้งแต่จากพี่มาพาหม่นหมอง
อยู่กับความเจ็บช้ำน้ำตานอง
คิดถึงคลองแสนแสบแทบขาดใจ
คนบางกอกหลอกเรียมจนเกรียมจิต
ให้หลงผิดคิดเพ้อเผลอหวั่นไหว
หอบเสื้อผ้าตามชู้สู่กรุงไกล
ไม่ทันไรเขาเบื่อ...เรียมเหลือทน
มองท้องฟ้าคราใดใจหดหู่
ให้อดสูตัวเราเศร้าสับสน
อยากจะย้อนกลับไปก็อายคน
เหมือนอับจนหนทางจะย่างเดิน
ฝากไปกับสายลมที่พรมแผ่ว
รู้ตัวแล้วว่าผิดคิดห่างเหิน
คำขอโทษมากมายอาจสายเกิน
หากพี่เมินเรียมคงหมองต้องขอลา
***********
เรียมเอง...
21 พ.ย. 2555

ใครคนนั้น

คนกรุงศรี


ใครคนหนึ่ง คนนั้น ฉันคิดถึง
คนที่ซึ่ง ทำให้ ใจสับสน
มิยินเสียง มิเห็นหน้า พากังวล
เคยสุขล้น เมื่อไร ได้พาที
มาหายห่าง ร้างกัน บอกงานเยอะ
จะพบเจอะ อีกไหม เมื่อไรนี่
หรือลืมเลือน เราไป มิใยดี
ทิ้งวลี กานท์กลอน แต่ก่อนมา
ถ้างานหนัก พักกาย สนใจด้วย
เกรงจะป่วย ห่วงถึง จึงถามหา
หรือว่ามี คนใกล้ ใครป้อนยา
ขอโทษที หากถ้า ว่าวุ่นวาย

ขอโทษนะ...

ผู้หญิงไร้เงา


ขอโทษ...นะความเหงา
ที่ตัวเรานั้นหวั่นไหว
หลงลบลืมเจ้าไป
เมื่อบางใครก้าวเข้ามา
ขอโทษ...นะความเศร้า
ที่ตัวเราไม่เห็นค่า
ยามใครให้อุรา
คอยเยียวยารักษาใจ
ขอโทษ...นะความทุกข์
ยามเราสุขรักสดใส
ลืมเลยเฉลยใน
ทิ้งเจ้าไกลไร้อาทร
ขอโทษ...นะความช้ำ
ขอเอ่ยย้ำขอลาก่อน
พอแล้วรักร้าวรอน
ขอตัดตอนไม่ย้อนคืน

...เขียนบทกลอนถึงกันยามหวั่นไหว...

dark side of mind


...
ด้วยรักและปรารถนาดีอย่างที่สุด
แต่มนุษย์บางครั้งอาจพลั้งผิด
ปากเคราะห์หามยามร้ายทำลายมิตร
เธอมีสิทธิ์...ถือโทษโกรธฉันนะ
มิเคยคิดดูหมิ่นให้สิ้นศักดิ์
เพราะใจนี้มีรักเป็นตรรกะ
มิใช่เหยื่อชิ้นโตอันโอชะ
ให้เขาประณามหยัน...ลืมมันเถอะ
หวังอันใดในฝันอันงามงด
มิพ้นกฎเกิดดับ...จับเป็นเลอะ
เพียงสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนอย่าเปื้อนเปรอะ
ดีกันเนอะคนดี...พี่ขอโทษ

สำนึกผิด

ครูพิม


โอ  พี่จ๋า..หันหน้ามาฟังน้อง
ขออย่าหมองเมินหนีน้องนี้หา
ฟังคำอ้อนวอนรสพจนา
อย่าวางท่าหน้างอไม่พอใจ
สำนึกผิดแล้วหนอขออย่าโกรธ
ยอมรับโทษฐานผิดคิดแก้ไข
โปรดฟังถ้อยแห่งคำย้ำความนัย
มิหวังใช้เล่ห์กลให้หม่นตรม
ด้วยใจด่วนหลงผิดไม่คิดถ้วน
อีกใจล้วนด้วยหวงถ่วงให้ขม
เป็นคนขลาดมาดหมายกลัวใครชม
ปล่อยอารมณ์เป็นใหญ่ไม่ทันตรอง
มิทันคิดใคร่ครวญให้ถ้วนถี่
กลับเดินหนีพร้อมจมระทมหมอง
จึงตัดพ้อพี่ไปมิได้มอง
ใจจึงครองแต่ทุกข์ถมตรมฤดี
รอยความหวานแห่งรักจากอกอุ่น
ยังละมุนกรุ่นหอมถนอมศรี
ยามเจ็บไข้พี่หาหยูกยามี
ทุกนาทีห่วงใยมิไกลกัน
จึงวางพจน์แทนสารมาขานไข
ขออย่าได้เคืองข้องโปรดครองขวัญ
ขอไมตรีแห่งศรัทธามากำนัล
สัญญามั่น...รักมอบ...ไว้ตอบแทน

พอ

อินสวน


ขอโทษทีที่ทำไม่เหมือนเก่า
เพราะอยากลบรอยเหงาที่โหยหา
ทุกอย่างคงค้นพบยามสบตา
จึงเลือกจะหลบหน้าห่างเหินไป
ณ วันนี้ที่เดิมคงเดียวดาย
หากไม่ใช่โหดร้ายบอกได้ไหม
เป็นเพราะเธอหรือฉันที่ปันใจ
มีประโยชน์อะไรต้องทบทวน
กับรู้สึกสับสนปนหวาดหวั่น
ความผูกพันรู้ดีไม่มีหวน
อาจเป็นความอ่อนแอที่แปรปรวน
หรือเพราะความไม่ควรทางสังคม
ความรักที่ฉันให้คงมีน้อย
ความท้อถอยทวงถามความเหมาะสม
หรือแพ้ใจอ่อนไหวในอารมณ์
โครงสร้างรักจึงล้มไม่มั่นคง
ขอโทษทีที่ทำเพราะจำใจ
ไม่อาจจะแก้ไขตามประสงค์
เพราะเรื่องราวการพบมันจบลง
อย่าพะวงสงสารเช่นผ่านมา
ณ วันนี้มีสุขตามอัตภาพ
อาจไม่ทาบเทียมใครในวาสนา
แต่ไม่เคยน้อยใจในโชคชะตา
รู้คุณค่าพอเพียงหล่อเลี้ยงใจ

ถ้ากวนใจ ก็...ขอโทษ

คนบางบอน


ถ้าดอกไม้ ไมตรี ที่มอบให้
มันขุ่นข้อง หมองใจ จนไหวหวั่น
ขอโทษเถอะ แก้วตา อย่าว่ากัน
อยากสร้างสรรค์ บรรเลง บทเพลงกลอน
อยากมีใคร ให้สิทธิ์ ได้คิดถึง
อยากพูดคำ ซึ้งซึ้ง จึงออดอ้อน
เขียนคนเดียว เหว่ว้า มาหลายตอน
เหมือนละคร อกหัก รักโรยรา
เจตนา บริสุทธิ์ จุดไฟฝัน
หาคนร่วม แบ่งปัน สุขหรรษา
ในสวนศิลป์ ถิ่นถม คมปัญญา
เทิดคุณค่า ภาษาไทย ให้นิรันดร์
ถ้าต่างคน ต่างมีใจ รักในศิลป์
เทิดกวิน อยู่ใน ใจคงมั่น
อย่าทิ้งร้าง ห่างไป นานหลายวัน
มาร่วมกัน บรรเลง เพลงกวี
คนเดียวดาย ในโลกกว้าง ไร้ทางออก
เคยร้องบอก ออกไป ก็หลายที่
ไม่มีเลย สักหน คนปรานี
ยื่นไมตรี กลับมา เยียวยาใจ
ถ้ารบกวน เกินก็ ต้องขอโทษ
แต่...ได้โปรด พิจารณา...กลับมาใหม่
จะทนเหงา ชอกช้ำ อยู่ทำไม
มาจุดไฟ ความฝัน กันเถิดเราฯ
สมยศ    เปียสนิท

สายไปไหมกับคำนี้

miss.honney


สายไปไหม...ที่จะใช้คำว่าขอโทษกับใครสักคน
สายไปไหม...ที่จะใช้ความอดทนให้มากกว่านี้
สายไปไหม...อยากจะตอบแทนในน้ำใจดีดี
ที่คนคนนี้...เคยมองข้ามไป
สายไปไหม...ที่จะเอ่ยว่าเข้าใจผิด
สายไปไหม...แม้สักนิดจะให้อภัยไหม
สายไปแล้ว...หรือยังพอแก้ตัวได้
ไม่สายไป...ใช่ไหมคนรักกัน
ถ้ามันยังไม่สาย...จะขอโอกาสแก้ตัว
ถ้ามันยังไม่สาย...จะไม่กลัวไม่ไหวหวั่น
ถ้ามันยังเหลือเวลา...ให้แก้ไขมัน
ขอให้ฉัน...ได้พูดว่ายังรักเธอ

~เพราะไม่รู้~

แกงเขียวหวาน


เพราะไม่รู้เลยหนา...ว่าชอบฉัน
พึ่งจะรู้...รักกันวันที่สาย
สมองช้าล้าหลัง...ทั้งขี้อาย
ผลสุดท้าย...เธอไปไม่กลับมา
ฉันขอโทษทำไป...เพราะไม่รู้
ทุกวันอยู่..อย่างเหงาเศร้าหนักหนา
โปรดอภัยให้ฉัน..นั้นสักครา
ใจร่ำร้อง...เรียกหาอย่าไกลกัน
เพราะไม่รู้จริงๆ...สิ่งเธอให้
ซึ่งกลั่นจาก..จิตใจในรักมั่น
คอยห่วงใยไต่ถาม...ถึงทุกวัน
ทำไมฉัน...มองผ่านการกระทำ
พึ่งจะรู้ว่ารัก...ก็มักสาย
มันยากเกินอธิบาย....ใช่เหยียบย่ำ
ฉันมิได้...ตั้งใจให้เธอช้ำ
ขอบอกซ้ำทำไป.....เพราะไม่รู้

เสมอ

ก้าวที่...กล้า


เสมอ
ที่ฉันทำร้ายเธอด้วยถ้อยถลำ
ไม่ยั้งคิดยังทำอยู่ซ้ำซ้ำ
ไม่ยอมจดยอมจำหนอหัวใจ
คำขอโทษ
มันคงเปล่าประโยชน์ เมื่อทำใหม่
รู้ทั้งรู้ไม่น่าทำ ทำทำไม
หรือยังหวั่นยังไหวอะไรนัก
ธรรมดา
มีท้องฟ้ามีเมฆหม่นคนอกหัก
มีน้ำฝนมีน้ำตาประสารัก
เห็นไหมเล่าไม่รู้จักใส่ใจจำ
เสมอ
จึงต้องมาขอโทษเธออยู่ซ้ำซ้ำ
อย่าถือสานะคนดีที่ฉันทำ
ครานี้จะเน้นย้ำจำใส่ใจ
หน้า / 7  
ทั้งหมด 116 กลอน