กลอนข้อคิด

พ่อแก่แม่เฒ่า

skyandsky


พ่อเเม่ก็เเก่เฒ่า   จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววารของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจาก   เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
เเต่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนเเก่ชะเเรวัยคิดเผลอไผลเป็นเเน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า    เพียงเมตตาช่วยอาทร
ให้กินเเละให้นอนคลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง  ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องไห้ยามป่วยไข้ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่เเม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ยลเติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิดขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจเเท้มีเเต่ความหวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่งมีหรือหวังอยู่นานได้
วันหนึ่งคงล้มไปทิ้งฝังไว้ให้วังเวง

งานวันเกิด ( คุณทำอะไรให้พ่อแม่)

ต่อง (ต้อง) ksg


บทประพันธ์นี้เป็นบทประพันธ์ของ
อาจารย์นภาลัย  (ฤกษ์ชนะ)  สุวรรณธาดา
งานวันเกิดยิ่งใหญ่ใครคนนั้น
ฉลองกันในกลุ่มผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศสรรเสริญเพลินทะนง
วันเกิดส่งชีพสั้นเร่งวันตาย
อีกมุมหนึ่งซึ่งเหงาน่าเศร้าแท้
หญิงแก่แก่นั่งหงอยและคอยหาย
โอ้วันนี้ในวันนั้นอันตราย
แม่คลอดสายโลหิตแทบปลิดชนม์
วันเกิดลูกเกือบคล้ายวันตายแม่
เจ็บท้องแท้เท่าไรก็ไม่บ่น
กว่าอุ้มท้องกว่าคลอดรอดเป็นคน
เติบโตจนบัดนี้นี่เพราะใคร
แม่เจ็บเจียนขาดขาดใจในวันนั้น
กลับเป็นวันลูกฉลองกันผ่องใส
ได้ชีวิตแล้วก็เหลิงระเริงใจ
ลืมผู้ให้ชีวิตอนิจจา
ไฉนเราเรียกกันว่า วันเกิด
วันผู้ให้กำเนิดจะถูกกว่า
คำอวยพรที่เขียนควรเปลี่ยนมา
ให้มารดาคุณเป็นสุขจึงถูกแท้
เลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดนะ
ควรแต่จะคุกเข่ากราบเท้าแม่
รำลึกถึงพระคุณอบอุ่นแด
อย่ามัวแต่จัดงานประจานตัว
ผมเคยนำเสนอแล้วครั้งหนึ่งแต่นานแล้วครับ
ตั้งแต่ผมยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกน่ะครับ
ด้วยความหวังดี
ก.ประแสร์  (  ศิษยาพร  )

หัวโบราณ(ver. โคลง)

windsaint


...ชิงสุกก่อนห่ามนั้น..............ไม่ดี
จงรักสงวนศรี.......................ศักดิ์ไว้
จงอย่าปล่อยใจนี้...................ใจง่าย
พิสูจน์รักที่ให้.......................รักแท้หรือลวง
...เขาหลอกควงล่วงเย้ย.........เชยควง
ลวงหลอกปลอกปลิ้นทรวง.....อกช้ำ
หมายคิดพิชิตล่วง.................เลยร่าง
หมายมาตรสวาทซ้ำ..............จะน้ำตาคลอ
...คิดล่อลวงย่างกร้ำ..............กรายกาย
หมายชิดเชยเนื้อทราย......….ผุดเพี้ยง
ผิวผาดผ่องผุดผาย...............เพียงผ่อง
ผิวผ่องใสขาวเกลี้ยง............หมายหล้อลวงนาง
...ระวังชายหนุ่มไว้...............ให้ดี
ชายหนุ่มนั้นหาดี.................ยากได้
ผู้คนสมัยนี้………………..ยากเชื่อ ใจนา
ลวงหลอกกลอกกลิ้งไซร้…ยากรู้ใจคน
…คลอเคลียโลมเล้าซบ……แอบอิง
มือโอบกอดกายหญิง………รุ่มร้อน
คลอเคลียชิดเชยชิง…………ชิมชอบ
เคียงชิดบิดกายซ้อน…………เร่งรู้เร่งรัก
…หญิงร้ายระร่านร้อน………ร่านตน
คงอยากได้ผัวจน…………….อดกลั้น ได้ฤๅ
ทำตัวร่านร้อนรน…………….เยี่ยงแรด
คงกระสันอัดอั้น…………….ปรี่เข้าหาชาย
…อยากเตือนนางให้ห่าง…….ตัวชาย
อย่าเร่งร้อนเสนอกาย………..ร่างเนื้อ
จะไร้ซึ่งความหมาย…………ใจง่าย
จะทอดทิ้งสิ้นเหยื้อ…………..เมื่อเจ้าไร้ค่า

คนแรกที่คิดถึง

ต้ยนุ้ย


เวลาไม่มีเงิน.....คนแรกที่คิดถึงคือพ่อ แม่ แต่พอมีเงิน.....คนแรกที่คิดถึงคือแฟน,เพื่อน
อยากได้รถ.....คนแรกที่คิดถึงคือ พ่อ แม่ แต่พอมีรถ......คนแรกที่จะไปรับคือแฟน,เพื่อน
ร้านอาหารหรู ๆ บรรยากาศคลาสิค.....มีไว้สำหรับแฟนและเพื่อน อาหารบนโต๊ะที่บ้าน.....มีสำหรับพ่อ และแม่
โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า.....มีสำหรับแฟนและ เพื่อน ทีวีและสวนหลังบ้าน.....มีไว้สำหรับพ่อและแม่
พ่อและแม่ คิดบัญชีค่าใช้จ่ายก่อนนอน.....เพื่อความอยู่รอด ลูกนอนคุยโทรศัพท์ เล่นเนต ก่อนนอน.....เพื่อให้หลับฝันดี
เวลาเรามีความสุข.....มักจะมองหาแฟนและเพื่อน เวลาเรามีความทุกข์.....คนที่กังวล หดหู่ และเศร้าสลดใจคือพ่อและแม่
เวลาประสบความสำเร็จ.....เรามักมองหาแฟนและเพือนเพื่อนัดฉลองและสังสรรค์ แต่คนที่ดีใจที่สุดคือพ่อและแม่.....แต่กลับกลายเป็นคนที่เรามองข้ามไป
ลูกไปรื่นเริงตามโรงหนังเธคผับโต๊ะสนุก ฯลฯ..... พ่อและแม่กำลังทำงานหรือนอนหลับเก็บแรงไว้ทำงานหาเงินในวันรุ่งขึ้นเพื่อแลกความสุขของลูกอยากให้ลูกเรียนสูงๆ
เวลาแต่งงาน.....คนที่เป็นธุระหาสินสอดทองมั่นคือพ่อและแม่ คนที่มีความสุขคือลูก
พ่อและแม่ตำหนิ ตักเตือน บางครั้งเต็มไปด้วยอารมณ์.....เพื่อให้ลูกได้ดี แต่ลูกคิดว่าสิ่งที่พ่อและแม่พูด.....เป็นแค่เรื่องไร้สาระ
พ่อและแม่.....คือผู้ฝ่าฟันปัญหาเป็นร้อยพันประการเพื่อลูก แต่พอลูกมีปัญหา.....มักคิดได้แค่ ท้อถอย หดหู่ หรืออยากตาย
*-*

ถ้อยคำ

นกตะวัน


ได้ยินถ้อยแม้น้อยคำชุ่มฉ่ำนัก
หวานคำรักซึ้งสลักปักใจฉัน
ฟังกี่ครั้งยังเพราะดีทุกวี่วัน
หากเธอนั้นเอ่ยทุกวันฉันสุขใจ
กลัวแต่ว่าวาจานั้นพาฉันเศร้า
เพราะคงเขลาไม่เข้าใจถ้อยคำไหน
คำพูดจริงคำพูดเท็จเด็ดจากใจ
พูดอย่างไรพูดไปได้ไม่ต้องตรอง
หากถ้อยคำหวานฉ่ำเลอล้ำนั้น
ถูกกรองกลั่นคั้นจากใจมอบไว้สนอง
ฉันยินดีมีสุขใจใคร่ใฝ่ปอง
เฉลิมฉลองจองเธอไว้มิให้ใคร
ถ้าถ้อยคำพลอดพร่ำจนฉ่ำหวาน
ในวันวานวันนี้หรือวันไหน
เป็นกลอนสดเธอเขียนบทเพื่อเล่นไป
ฉันตัดใจลาจากไปให้ไกลเธอ
ถ้อยคำนั้นสรรค์สร้างหนทางสวรรค์
ทุกคนนั้นต่างพากันใฝ่ฝันเสมอ
หรือเสกสรรปั้นแต่งไว้ให้พร่ำเพ้อ
เพียงแค่เผลอพาลงไปในอเวจี

รักคือ...

Knightbaron


รัก... คือการให้ คงเป็นประโยคที่คุณคงได้ยินมาบ่อยครั้ง
ส่วนความหมายของมัน ก็เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่า
รักคือการที่เราให้ใครสักคนหนึ่ง โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงความรัก คือการให้ ในอีกแง่หนึ่ง นั่นคือความรักนั้น
ให้อะไรกับคนที่รู้จักมันบ้าง
1. รัก...ให้คุณรู้ว่าเขาชอบกินข้าวมันไก่ (ไม่มีหนัง) ที่สุดในโลกเลย
ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องไร้สาระ แต่วิเคราะห์กันลึกๆแล้ว
มันทำให้เราเป็นคนที่ช่างสังเกตและสนใจเรื่องราวของคนรอบข้าง
เพื่อนให้คุณรู้จักเอาใจใส่ผู้อื่นบ้างไงล่ะ
2. รัก...ให้คนซับน้ำตายามท้อแท้ เพราะความรักเป็นเหมือนกำลังใจแห่งชีวิต
ยามที่เรามีปัญหาหรือหมดกำลังใจ เรามักจะนึกถึงคนที่เรารักเป็นคนแรก
แล้วเขาคนนั้นแหละที่จะเป็นคนคอยรับฟังเรื่องราวของคุณยามที่คุณมีปัญหา
ทั้งเรื่องการเรียน เรื่องเพื่อน แม้แต่ปัญหาครอบครัว
3. รัก...ให้คุณรู้จักการสื่อสารอีกทางหนึ่ง
นั่นก็คือการสื่อสารด้วยภาษากายไงล่ะ ทั้งการมองตา การสัมผัส
สิ่งเหล่านี้เป็นการสื่อสารที่มนุษย์รู้จักใช้เป็นอย่างดีตั้งแต่โบราณ
แต่ความรักจะยิ่งทำให้คุณรู้จักใช้มันได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น
4. รัก...ให้คุณยิ้มอยู่ตลอดเวลา
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมคนมีความรักถึงร่าเริง อยู่ตลอดเวลา ในทางวิทยาศาสตร์
ความรักเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นสารแห่งความสุขให้กับร่างกาย
ดังนั้นในเวลาที่คุณนึกถึงคนรักคุณจึงรู้สึกมีความสุขอยู่เสมอ
5. รัก...ให้คุ

เพราะผิดเอง จึงมีสุข

dokkoon


มีเรื่องเล่าขานมานานนัก
ทุกข์หนักหนาทุกเวลาช่างยากเข็ญ
ทะเลาะกันมากมายให้ลำเค็ญ
ทั้งเช้าเย็นไม่สนุกทุกข์จริงจริง
เป็นเพราะสามีภรรยาที่ครองคู่
ทะเลาะอยู่ใครผิดถูกในทุกสิ่ง
ต่างว่ากันฉันนะถูกเธอที่ผิดที่กลอกกลิ้ง
เหมือนกับขิงและข่าจะบ้าตาย
ในที่สุดไม่รู้ว่าใครถูกผิด
ค่อนชีวิตทะเลาะอยู่ไม่รู้หาย
เสียน้ำตาเสียน้ำใจไม่วางวาย
แล้วเมื่อไรจะมีสุขสนุกเลย
มีอีกคู่อยู่กันแสนหวานนัก
คนทั้งหลายต่างทายทักน่ารักเหวย
สักครั้งเดียวทะเลาะกันยังไม่เคย
มีแต่เชยแต่ชื่นกันตลอดมา
ความลับที่หวานกันได้เสมอ
อยู่ที่เธอและเขาเข้าใจหนา
ต่างยอมรับว่าตัวผิดเองขอโทษนา
แย่งกันรับว่าฉันผิดอย่าคิดเคือง
เมื่อต่างคนต่างแย่งเป็นฝ่ายผิด
แย่งกันคิดขอโทษไม่มีเรื่อง
ยิ่งนานวันยิ่งรักกันให้ลือเลื่อง
ช่างฟูเฟื่องชีวิตนี้มีสุขจริง

กำลังใจ จาก.. ซาเล้ง

พงษ์ศักดิ์


เห็นครอบครัวซาเล้งข้างถนน     พ่อแม่ลูกเวียนวนกันค้นหา
เก็บขยะไปขายได้เงินมา     แค่พอเลี้ยงชีวาไปวันวัน
แล้วทำไมตัวฉันต้องท้อถอย     มีคนอีกไม่น้อยด้อยกว่าฉัน
คนที่มีปัญหาสารพัน     มีมากมายใช่ฉันเพียงคนเดียว.

ท้อได้.. แต่อย่าถอย

พงษ์ศักดิ์


เส้นทาง ที่ยาวไกล     สู่จุดหมาย ปลายทางนั้น
ทุกก้าว ล้วนสำคัญ     อย่าไหวหวั่น ต่ออบาย
หากเจอ อุปสรรค       จงแน่นหนัก อย่าหวั่นไหว
ท้อบ้าง ไม่เป็นไร       อย่าถอดใจ ก็แล้วกัน
ถ้าถอย ก็คือแพ้         คนอ่อนแอ น่าขบขัน
ใคร ๆ  คงลือกัน        ว่าเรานั้น ไม่ได้ความ
ถ้าสู้ ก็ชนะ               จงอย่าละ พยายาม
รางวัล อันงดงาม       ก็คือความ มั่นคงเอย.

วาทะหลวงตาแพร เยื่อไม้

ตอ เต่า ตัวเดิม


โยม - หลวงพ่อค่ะ วัดหลวงพ่อทำไมขี้หมาเยอะจังเลย หนูมาหาหลวงพ่อเหยียบขี้หมาไปหลายกองแล้ว
หลวงพ่อ- แค่ขี้หมาก้อนนิดเดียว โยมยังหลบไม่ได้แล้วจะไปหลบปัญหาอะไรในชีวิตได้

สองท่าน ผู้ยิ่งใหญ่

คนธรรมดา


ความรู้สึกของใจในตัวฉัน
หากเปรียบเป็นสีสันคงหลายสี
มีทั้งสุขสดใสในชีวี
อีกทั้งมีหมองหม่นทนระทม
มีคนผ่านเข้ามาหลายประเภท
แล้วแต่เหตุแต่ผลคนประสงค์
องค์ประกอบชั่วดีมีดำรง
ตามแต่ตรงต้องการอ่านใจเอา
หลายคนผ่านเข้ามาในชีวิต
ทั้งความคิดจิตใจ ยากใครเหมือน
บางคนให้ข้อคิด ติดตรึงเตือน
บ้างเป็นเพื่อน เป็นมิตร ชิดเชยชม
แต่ยังมีอีกสองท่านฉันรู้จัก
ท่านมอบแต่ความรักที่สดใส
ให้ทุกสิ่งที่ไม่เคยได้จากใคร
ท่านเป็นแต่ผู้ให้ไม่เคยทวง
ไม่เคยมีผลประโยชน์ร่วมกับฉัน
ท่านเป็นแต่ผู้สร้างสรรค์ไม่ห่างหาย
ไม่เคยทิ้งให้ฉันเดินเดียวดาย
ทั้งใจกายบอก แม่-พ่อ ขอเทิดทูน

ความเป็นฉัน

ไม้เก็ด


ฉันรักเธอมากจนเลอล้นอก
ฉันคอยปกป้องเธอเสมอหมาย
ฉันไม่เคยมีจิตจะคิดร้าย
คนทั้งหลายรู้ซึ้งซึ่งฉันดี
ฉันไม่เคยตระหนี่ มีน้ำจิต
เป็นเหมือนมิตรเหมือนเพื่อนเป็นเหมือนพี่
เป็นเหมือนแม่เหมือนพ่อก่อไมตรี
เป็นเหมือนที่รักเธอเสมอมา
ฉันให้บ้านให้เสื้อผ้าให้อาหาร
ให้ยาทานแก้โรคภัยไม่หนีหน้า
ให้อากาศ ให้น้ำดื่ม ปลื้มอุรา
ให้อีกสารพัดให้ จากใจจริง
แต่เธอกลับไม่ซึ้งซึ่งน้ำจิต
คอยแต่คิดทำลายใจร้ายสิง
บางครั้งจุดไฟเผาเอาฉันทิ้ง
บางครั้งยิ่งโหดร้ายใช้ขวานฟัน
บางครั้งเอาเลื่อยยนต์มาโค่นตัด
ฉันเกินปัดผองภัยให้เหหัน
ยอมเจ็บปวดรวดร้าวเศร้าชีวัน
ยอมให้หั่นให้ทำจนหนำใจ
ไม่มีมือมีเท้าจะเข้าสู้
ต้องยืนอยู่เฉยเฉย เลยหมองไหม้
ขาดน้ำยากล้าสู้กับผู้ใด
เพราะฉันคือ ต้นไม้ ในป่าดง

มองตัวเอง

Jennie


คนที่น่าสงสาร
ไม่ใช่คนหูหนวก ตาบอด เป็นใบ้
แต่กลับเป็นคนตาดี หูดี พูดได้
ที่ไม่ยอมมอง ไม่ยอมรับฟัง และไม่ยอมพูด
ในสิ่งที่ควรเห็น ควรได้ยิน และควรพูด ต่างหาก
นวลศิริ เปาโรหิตย์
จากหนังสือ ค้นหา

ปรัชญาชาวจีน

ปีกฟ้า


ปรัชญาที่ชาวจีนถือว่าเป็นมนตรานำโชคมาสู่ชีวิต
1. จงให้มากกว่าที่ผู้รับต้องการ และทำอย่างหน้าชื่นตาบาน
2. จงพูดกับคนที่ถึงแม้จะอายุน้อยกว่า แต่เขาก็มีความสำคัญเท่ากัน
3. จงอย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน ใช้ทั้งหมดที่มี และนอนเท่าที่อยากจะนอน
4. เมื่อกล่าวคำว่า ฉันรักเธอ จงหมายความตามนั้นจริง ๆ
5. เมื่อกล่าวคำว่า ขอโทษ จงสบตาเขาด้วย
6. ก่อนจะตัดสินใจแต่งงาน จงหมั้นเสียก่อนอย่างน้อย 6 เดือน
7. จงเชื่อในรักแรกพบ
8. อย่าหัวเราะเยาะความฝันของผู้อื่น คนที่ไม่มีฝันก็เหมือนไม่มีอะไร
9. เมื่อรักจงรักให้ลึกซึ้ง และ ร้อนแรง อาจจะต้องเจ็บปวดแต่นั่นคือหนทางเดียวที่ทำให้ชีวิตถูกเติมเต็ม
10. ในเหตุการณ์ขัดแย้ง โต้อย่างยุติธรรม ไม่มีการตะโกนใส่กัน
11. อย่าตัดสินคนเพียงเพราะญาติๆ ของเขา
12. จงพูดให้ช้า แต่ต้องคิดให้เร็ว
13. ถ้าถูกถามด้วยคำถามที่ไม่อยากตอบ จงยิ้มแล้วถามกลับว่า จะรู้ไปทำไม
14. จงจำไว้ว่า สองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือความรัก และความสำเร็จ ล้วนต้องมีการเสี่ยง
15. พูดว่า ขอพระคุ้มครอง เมื่อได้ยินใครจาม
16. เมื่อพ่ายแพ้ จงอย่าสูญเสียบทเรียนไปด้วย
17. จงจำ 3 R :- นับถือผู้อื่น นับถือตนเอง รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ
18. จงอย่าให้ความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ มาทำลายมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่
19. ทันทีที่รู้ตัวว่าทำผิด ลงมือแก้ไขทันที
20. จงยิ้มเวลารับโทรศัพท์ ผู้ฟังจะเห็นได้จากน้ำเสียงของเรา
21. จงหาโอกาสอยู่กับตัวเ

จากเด็กคนหนึ่ง

โคลอน


ไม่เข้าใจความคิดของผู้ใหญ่
ทำไมต้องคาดหวังไปอย่างนี้อย่างนั้น
อยากให้เป็นดั่งใจก็ทนทำไปทุกวัน
แล้วอิสระในใจฉันไปอยู่ที่ใด
พ่อบอกแม่บอกให้เป็นคนดี
เราก็ไม่เคยมีประวัติจะร้ายได้
ผิดที่ไม่เก่งไม่ยิ่งใหญ่อย่างใคร
เราเลยต้องทำใจเมื่อถูกควบคุม
แม้ไม่ใช่คนก้าวร้าวระราน
แต่ความต้องการก็มากองสุม
อยากมีความคิดอิสระมองมุม
ชะตะชีวิตเกาะกุมอยู่ด้วยตัวเอง

ก่อนจากลา

ณธีร์


ที่สุดท้ายก็จบลงที่ตรงนี้
เพียงความดีเหลือไว้ให้กล่าวขาน
เถ้าสู่เถ้าดินสู่ดินสุดสิ้นกัน
เพียงลูกหลานพึงสังวรณ์ก่อนจากลา
ว่าพ่อแม่แก่เฒ่าเฝ้าพันผูก
ถนอมลูกตั้งแต่ยังไม่ประสา
จนเติบใหญ่กล้าแกร่งแรงฤทธา
จึงจากลาเจ้าไปไม่หวนคืน
เจ้าอยู่หลังจงตั้งระวังจิต
จงหมั่นคิดว่ามนุษย์สุดจะฝืน
ในภายหน้าลูกของเจ้าคงมายืน
โหยสะอื้นส่งเจ้าเข้าเตาไฟ
อนิจจาโลกมนุษย์ก็ฉะนี้
เพียรทำดีกันไว้เถิดลูกทั้งหลาย
พ่อแม่สั่งสอนเจ้าจวบชีพวาย
ต่อนี้ไปจะไม่ได้มาเยี่ยมเยือน
จะจากลาเจ้าไปแล้วนะลูกรัก
จงรู้จักรักษาตัวให้ดีเหมือน
ดั่งพ่อแม่รักษาเจ้าเฝ้าตักเตือน
อย่าลืมเลือนที่พร่ำสอนก่อนจากลาฯ

ไม่ได้ว่าใคร ๒

นิติ


เงินทองของบุพการีผู้มีแต่ให้
ก่อนจะใช้พิสมัยใคร่ครวญหนา
ท่านลำบากตรากตรำช้ำอุรา
กว่าจะได้มาแต่ละบาทแทบขาดลม
เพื่อลูกยาพ่อแม่ว่าหาว่าไม่รัก
พอเพื่อนทักตระหนักแท้แม้ตรม
พ่อแม่ทวงห่วงแท้แค่ยาดม
ครันท่านจะอบรมเจ้าก็นิยมแต่ ดี.เจ
ไม่รักพ่อ แม่โง่  โธ่..ไม่ทันโลก
จึงไปโกรกสีผมนิยมเวอร์ซาเช
ไปเที่ยวคลับหลับนอนมากคู่ ดูช่างมีเสน่ห์
แหม่ มันเท่ห์ เพราะได้เกย์มาค้างคืน
หยาดเหงื่อแรงงาน
ได้ข้าวสารกรอกหม้อทุกคร่าที่คุณตื่น
พ่อแม่ท่านทนได้ สบายใจยังหยัดยืน
อดทนและกล้ำกลืนเพื่อหยิบยื่นอนาคตคุณ
สิ่งตอบแทนแสนสมเหตุสมผล
พ่อแม่ทุกข์ทนเราก็ทุกข์ทนอลวนสมดุล
พ่อแม่ลำบากเพื่ออยากให้ลูกอบอุ่น
ลูกรักแทนคุณ เอาเรื่องวุ่นมาทดแทน
หน้า / 28  
ทั้งหมด 467 กลอน