กลอนคุณครู

ใครไม่มา ยกมือขึ้น (..แด่ ครูดอย)

cicada


แซม มีพ่อเป็นครู พี่ชายเป็นครู และน้องสาวเป็นครู มีแซมคนเดียวที่เป็นได้แค่นักเรียน ตลอดชีวิต.. พี่ชายของแซมตอนจบใหม่ๆ ก็บุกป่าฝ่าดอย ไปเป็นครูดอย ซึ่งพี่ก็ได้เป็นครูดอยตลอดชีวิตของเขาค่ะ.ตอนพี่เป็นครูใหม่ๆ แซมเล่นเป็นเด็กนักเรียน และพี่เป็นครู...นี่เป็นวิธีนับนักเรียนของคุณครูคนใหม่ค่ะ...
ครูขา...
แซมรักคุณครูทุกคนค่ะ....
ครูดอย คอยดู หนูอ่านเขียน
ขยันเรียน  เพียรการ  หาญสู้
เด็กน้อย  คอยรัก  จากครู
เช้าตรู่  เตรียมตน  ด้นเดิน
ข้ามห้วย  ละหาน  ธารขวาง
หนูย่าง  ปีนป่าย  เขาเขิน
กันดาร  ห่างไกล  ความเจริญ
ขัดเขิน  ทุกสิ่ง  ทุกอัน
ครูเป็น  เช่นธาร  น้ำใส
โอบใจ  ห่อหุ้ม  อุ้มขวัญ
ทุ่มใจ  ให้ทั้ง  ชีวัน
ความฝัน  ของครู  สู่ดอย
จบใหม่  ใจแรง  แซงร่าง
บุกฝ่า  โลกกว้าง  ไม่ถอย
เดินหน้า  ฝ่าฟัน  ฝันคอย
เด็กน้อย  ตั้งแถว  รับครู
ในมือ  ถือชอล์ค บอกหนูนั่ง
หันหน้า  มาฟัง  นะหนู
จัดเด็ก  พร้อมสรรพ  นับดู
อยากรู้  คนไหน  ไม่มา
ครูเรียก  เสียงดัง  ฟังชัด
ครูใหม่  เขินขัด  เดียงสา
หนูหนู  คนไหน  ไม่มา
ตั้งท่า  ขานนับ  นักเรียน
"ใครไม่มา ยกมือขึ้น"

สวรรค์บ้านนา(2)

อนงค์นาง


พาแม่ไปในโรงเรียนมิตรภาพ
คุณครูทราบประสงค์จำนงหมาย
โครงการถักพรมห่มน้องห่มกาย
สำเร็จได้ด้วยใจให้ศรัทธา
สายตาของเด็กน้อยร้อยความฝัน
ประกายอันใสซื่อคือเด็กหนา
ขอบคุณครูไทยที่มีเมตตา
แม้เหนื่อยล้าเพียงใดใจฝ่าฟัน
เราถักทอช่วยกันสานฝันด้วย
จะจนรวยไม่แบ่งหรือแข่งขัน
อาชีพใดไม่เห็นเป็นสำคัญ
เพราะใจนั้นกรุณาและปราณี
ทำขนมถั่วแปบกับ บัวลอยเผือกไปเลี้ยงขอบคุณ
ที่สมาชิกของโบสถ์ได้มีโอกาสร่วมทำบุญด้วยกัน
โอกาสหน้าฟ้าใหม่ได้คืนถิ่น
ดั่งนกบินคืนรัังหวังสุขศรี
คืนสู่เหย้าบ้านเกิดเถิดคนดี
ทำหน้าที่ของตนชนชาวไทย
สถานีตำรวจภูธรตำบล
ร้านค้าและตลาด หน้าสถานีตำรวจฯ
โรงเรียนมิตรภาพ ระดับประถมศึกษา(ที่บ้านเกิด)
พาแม่ไปแจกผ้าพันคอที่ช่วยกันถัก
บางคนก็ซื้อแบบสำเร็จรูป แล้วแต่ศรัทธา
มอบทุนอาหารกลางวันให้นักเรียน (เงินเล็กน้อยส่วนตัวค่ะ)
ตอนเป็นนักศึกษา ชอบฟ้อนรำค่ะ ตอนเป็นครูที่ร้อยเอ็ด ได้มีโอกาสสอนนาฎศิลป์ นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจในชีวิต
ตอนนี้เป็นลูกศิษย์เรียนนาฏศิลป์กับครูท่านนี้ที่วัดไทยในนิวยอร์ค
วางแผนจะกลับไปเป็นครูอาสา ทอผ้าไหม เป็นชาวนา อยู่ที่บ้านเกิดค่ะ

สุขสันต์วันเกิดค่ะครูกระดาษทราย

แก้วประภัสสร


ยี่สิบหกมีนาเวียนมาจบ
เป็นวันครบรอบเกิดประเสริฐศรี
กระดาษทรายคุณครูคู่ความดี
ขอให้มีความสุขสถาพร
แม้มั่นหมายสิ่งใดให้สัมฤทธิ์
ทั้งดวงจิตจรัสประภัสสร
ให้การงานก้าวหน้าทุกคราตอน
ขออวยพรจากใจให้คุณครู ( แก้วประภัสสร )
อำนาจใดในหล้าที่กล้าแกร่ง
ช่วยส่งแรงแห่งใจที่งามหรู
จะอยู่ไหนใครเห็นต้องเอ็นดู
แม่โฉมตรูคนดีศรีแผ่นดิน
ให้มีทรัพย์นับเนื่องปราดเปรื่องยิ่ง
กิจทุกสิ่งสมใจใฝ่ถวิล
สงบสุขทุกทิวาเป็นอาจินต์
โฉมยุพิน...ก้าวหน้า...สง่างาม ( คุณครูพิม )
เขียนอักษรอำนวยพรเป็นกลอนแก้ว
ให้เพริศแพร้วแนวรักทักเช้าตรู่
คำอวยพรจรมาให้น่าดู
แม่โฉมตรูจงมีสุขทุกคืนวัน
๐  หากหวังผลสิ่งใดให้บังเกิด
ศุภฤกษ์เบิกไปอย่าให้หวั่น
ทุกข์โรคาก็หายมลายพลัน
ชื่นชีวันวันเกิดเถิดคนดี...( ฉัตรบงกช )
คิดใคร่เห็นให้เห็นเช่นที่หมาย
หวังสิ่งหวังพรูพรายมิหน่ายหนี
สำราญเริงสรรพสิ่งชื่นทวี
มิตรมากมายแลมีไมตรีงาม ( กิ่งโศก )
ยี่สิบหกมีนามาบรรจบ
เวียนมาครบรอบเกิดแสนเฉิดฉาย
นามคุณครูคนสวยกระดาษทราย
นิมิตรหมายวันดีเป็นศรีเรือน
ขอให้สุขเกษมร่ำรวยดี
สุขจงมีทุกข์จงไปให้ไกลเคลื่อน
สุขภาพนั้นแข็งแรงภัยไม่เยือน
เป็นที่รักของผองเพื่อนตลอดไป (  น้ำตาลหวาน )
มีอายุยาวนานผ่านหลักร้อย
ผ่องพรรณพลอยหมดจดงามสดใส
สุขสมหวังทุกอย่างที่ตั้งใจ
พลังกายใดใดพ้นภัยนะ ... ( Daosaddha )
ขอคุณครูกระดาษทรายสมหมายเถิด
สิ่งประเสริฐหวังไว้ได้ดังฝัน
ขอสดใสใจสุข

ด้วยรักและคิดถึง

นรศิริ


มือของเธอแค่นี้แต่มีค่า
สร้างปัญญาลิขิตชีวิตใหม่
เธอมุ่งมั่นเธอกล้าหาญการก้าวไกล
ด้วยซึ้งในจรรยาคำว่าครู
คือดอกหญ้าป่าเหนือเอื้ออุทิศ
คือชีวิตอันอำนวยช่วยทุกผู้
คือบุคคลอันประเสริฐน่าเชิดชู
คือวิญญูนามจูหลิงมิ่งครูไทย
แม่พิมพ์นี้พิมพ์ชีวิตอุทิศมั่น
แม่พิมพ์นี้สร้างสรรค์โลกวันใหม่
ถึงวันนี้กาฬยุคทุกถิ่นไป
ยังอำไพโชนแสงแห่งศรัทธา
เธอคือครูผู้สร้างทางชีวิต
สร้างเพื่อศิษย์เพื่อชาติศาสนา
ไม่ใช่ครูเพียงครูที่มีปริญญา
ไม่ใช่ครูเพียงว่ามีผลงาน
เธอผู้ไม่ใฝ่ฝันเกียรติยศ
ทรหดฟันฝ่าอย่างกล้าหาญ
เธอคือครูผู้สั่งสมอุดมการณ์
จิตวิญญาณแห่งวิญญูผู้ปรานี
เธอจากเพียงร่างกายที่ตายจาก
ความดีหากปรากฏไว้ในทุกที่
หนึ่งครูจุ้ยตายไปในวันนี้
ขอจงเกิดครูดีอุดมการณ์

น้อมจิตวันทา...บูชาคุณครู

ครูพิม


สำนึกในหน้าที่มีภาระ
อุตสาหะบากบั่นปั้นดินเหนียว
ให้รูปสวยด้วยปัญญาค่าหนึ่งเดียว
กลางน้ำเชี่ยวหลากหลั่งท้นฝั่งชล
กระแสความก้าวหน้าพาเสื่อมถอย
เด็กเด็กด้อยความคิดจิตสับสน
เดินตามรอยวัตถุงามยามยินยล
เกิดสับสน...ค้นคว้า...หาความจริง
ค่อยบ่มเพาะเลาะลามตามขอบโค้ง
เพื่อเชื่อมโยงความคิดศิษย์ชายหญิง
ยามหลงเพลินเดินหงอยคอยท้วงติง
เพราะทุกสิ่งย่อมมีผลจากต้นตอ
ท่ามกลางความเจริญเกินจะยั้ง
เฝ้าระวังคุณธรรมตามร้องขอ
สังคมเสื่อมคนทรามลุกลามพอ
ปัญหาก่อ.....ครูคอยแก้.....ดูแลไป
ขอเพียงศิษย์คิดดีเป็นที่ตั้ง
ถึงจะพลั้งพลาดผิดคิดแก้ไข
เป็นคนดีมีคุณธรรมมีน้ำใจ
สร้างชาติไทย...ให้มั่นคง...เสริมส่งกัน
สำนึกใน…คุณครู..ผู้สอนสั่ง
จึงตั้งมั่น…อุดมการณ์...สานสู่ฝัน
ปลูกต้นกล้า...ให้งาม....อร่ามพลัน
ร่วมสร้างสรรค์...แผ่นดิน...ทั่วถิ่นไทย...

กราบคารวะคุณครู

นรศิริ


สิบหกมกราฟ้าไร้หม่น
ขอคุณครูทุกคนจงสุขี
เกริกเกียรติ์ก้องเปี่ยมล้นท้นความดี
อย่าได้มีขุ่นข้องหมองกมล
ที่มีทุกข์จงคลายมลายสิ้น
เป็นอาจิณศีลธรรมน้อมนำผล
มีเมตตาปรานีศิษย์ทุกคน
ส่งศิษย์พ้นวังวนอนธการ
ครูเป็นผู้ชี้ทางสว่างให้
เป็นกำแพงคุ้มภัยทุกถิ่นฐาน
เป็นแม่พระแม่พิมพ์มายาวนาน
ศิษย์จึงผ่านผองภัยได้ด้วยครู
คารวะพระคุณสามงามสง่า
สูงคุณค่าสูงศักดิ์ยอดนักสู้
น้ำใจนั้นเลิศล้ำแสนดำรู
ขอเชิดชูปูชนีย์ศรีบุคคล
ร้อยอักษรกลอนกานท์ผ่านมาไหว้
เป็นมาลัยจากใจที่ท่วมท้น
ด้วยศรัทธาสาธยายหลายถกล
นำศิษย์พ้นโอฆะนทีภัย

กลอนเพลงยาว ***บรรพตวิทยา***

ปติ ตันขุนทด


***ลำนำ***
***บรรพตวิทยาบ้านผาตั้ง
เมื่อก่อนครั้งเป็นครูเคยอยู่สอน
สมัครรักปักไว้ให้บังอร
แต่สะท้อนที่อกพกเพียงลม
คิดถึงรักหักไว้ก็ไม่ลืม
เคยคิดปลื้มปลูกไว้หวังได้สม
แต่นุชน้อยลอยเลื่อนเชือนตามลม
เก็บขื่นขมขังไว้ไร้นางเรียง***
***บรรพตวิทยาศึกษาสถาน
อยู่อำเภอเวียงแก่นแดนกันดาร
ติดเพื่อนบ้านลาวรัฐสังคมนิยม
ใกล้เชียงของผองชนวกวนเที่ยว
ขึ้นเขาคดลดเลี้ยวเหลียวสุขสม
ภูชี้ฟ้าผาตั้งหวังชิดชม
คนนิยมชวนกันสัญจรมา
ปีนสิงขรจรโขดโลดขุนเขา
ชมลำเนาน้ำโขงไหลโค้งขด
ขุนเขาเหลื่อมเชื่อมกันงามหลั่นลด
มองโขงคดเคี้ยวหายลับสายตา
ตะวันรอนอ่อนแสงแดงเด่นงาม
ลาเขตคามขุนเขาเหล่าพฤกษา
ลับวงกตบรรพตวิทยา
ความมืดมาทอดทับให้หลับนอน
หมู่ครูดอยหงอยเหงาเผ้าบ้านพัก
คำนึงรักเคยเคล้าแต่เก่าก่อน
มาอยู่เดียวเปลี่ยวนิทราอาลัยวอน
ต้องกอดหมอนนอนนึกตรึกตรอมทรวง
เดือนธันวาหน้าเหมันต์สั่นเหน็บหนาว
เป็นคราคราวเจ็บจนบนเขาหลวง
เสือโคร่งออกดอกเห็นงามเด่นดวง
คนทั้งปวงชมเล่นเป็นบุญตา
อากาศเย็นเป็นนิจเนื้อเหน็บหนาว
ต้องนอนยาวเอาผ้าห่มถมกายหนา
เมฆหมอกมัวซัวเขาเคล้ากายา
ใส่เสื้อผ้ากันหนาวเหงาอารมณ์
โรงเรียนอยู่สันโดษโขดกันดาร
นักเรียนเพียรเขียนอ่านขับขานขรม
เคยเป็นครูอยู่สถิตพินิจชม
เพียรเพาะบ่มศิษยามาสองนาน
สอนนักเรียนเพียรรุดวุฒิอุดม
ให้ชื่นชมฝึกฝนจนแตกฉาน
หวังเติบใหญ่ได้ดีมีกิจการ
มีหลักฐานเด่นดัดพัฒนา
เด็กเผ่าม้งพงศ์เย้าเขาขันติ
น่

บทไหว้ครู

ขุนศรี


พิธีการงานไหว้ครูดูศักดิ์สิทธิ์
เหล่าลูกศิษย์นั่งนอบน้อมค้อมเกศา
กรวยใบตองของหอมพร้อมบูชา
ประดับดาด้วยข้าวตอกดอกมาลี
ดอกเข็มแดงแทนสมองต้องหลักแหลม
มะเขือแกมดอกม่วงขาวพราวสดสี
ยอดหญ้าแพรกแรกฝนงามงอกงามดี
ความหมายมีรู้อดทนผ่านพ้นภัย
สาธุการบทบรรเลงเพลงประสาน
พิธีการฉลองงานกาลสมัย
ประเพณีมีมานานสืบสานไป
รักษาไว้งานไหว้ครูผู้เมตตา
ขออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ฤทธิผล
ในสากลโปรดปกป้องคุ้มครองหนา
สุขสวัสดิ์พิพัฒน์วัฒนา
ไตรรัตน์มาคุ้มครองครูอยู่จำเริญ
นายทองม้วน  สิงห์ทองห้าว  โรงเรียนบุแกรงวิทยา
ตำบลบุแกรง   อำเภอจอมพระ  จังหวัดสุรินทร์ ๓๒๓๑๘๐

**.. คุรุสักการ ..**

ต่อง (ต้อง) ksg


**..  จรดเกล้า เกริ่นนำ คำอธิษฐาน
รำลึกคุณ ครูอาจารย์ อนันต์ค่า
ประสาทศิลป์ สรรพศาสตร์ ปราชญ์วิชา
สืบปัญญา โรจน์รุ่ง ผดุงธรรม์ ..
**..  ร้อยมาลัย ร้อยกรองกานท์ ผสานจิต
มุ่งอุทิศ ความรู้ ครูสร้างสรรค์
วิชาชีพ สูงค่า จรรยาบรรณ
ต้องยึดมั่น ศักดิ์ศรี มิดูแคลน ..
**..  เทิดคุณครู เด่นฟ้า มหาศาล
วิทยาทาน เอื้อเฟื้อ หลากเหลือแสน
มิสิ้นสุด หาวห้วง ปวงดินแดน
พระคุณแน่น แนบสนิท ศิษย์ทุกคน ...
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล  รักษ์กระแส
ก.ประแสร์  ศิษยาพร  ( ประพันธ์ : 25 พ.ย. 2551 )

ตายอย่างครู

อ.วรศิลป์


มือข้าแจว ข้าพาย หมายส่งศิษย์
สู่ชีวิต สู่ที่หมาย ดั่งใจฝัน
แม้เหนื่อยหนัก ข้าก็ยอม พร้อมฝ่าฟัน
ข้ามุ่งมั่น ส่งให้ถึง ซึ่งปลายทาง
ศิษย์ของข้า มากมาย ตั้งหลายรุ่น
ข้าเกื้อหนุน นำพา ไปถึงฝั่ง
จนวันนี้ เรือน้อย ใกล้ผุพัง
ข้าก็ยัง แจวพาย ไม่หน่ายเลย
หวังเพียงแค่ ศิษย์ข้า จะได้ดี
เพียงเท่านี้ ที่ข้าหวัง ดังเฉลย
สิ่งเลวร้าย อย่าย่างกราย ใกล้ศิษย์เลย
ศิษย์ข้าเอ๋ย เจ้าคือหวัง พลังใจ
มือข้าแจว ข้าพาย จนอ่อนล้า
บ่าของข้า แม้บอบช้ำ ยังรับไหว
จิตแน่วแน่ แค่เรือจ้าง ไม่เป็นไร
ลมหายใจ สุดท้าย.....ตายอย่างครู
(ถ่ายทอดความในใจ....เนื่องในวันครู 2552)

แด่เทียนเล่มน้อยที่ดับไป

อ.วรศิลป์


เทียนเล่มน้อยลาลับเจ้าดับแสง
เหตุลมแรงพัดโหมจู่โจมขวัญ
เทียนเล่มน้อยเกินหยัดยืนฝืนทนทาน
สุดจะต้านกร้านสู้เพียงผู้เดียว
แต่ถึงแม้ตัวเจ้าจะดับแสง
สิ้นเรี่ยวแรงใช่ว่าจะโดดเดี่ยว
หลายมือไทยใจประสานผูกพันเกลียว
เป็นหนึ่งเดียวเพื่อสานฝันของเทียน
เทียนเล่มน้อย....ขอเจ้าจงรับรู้
ภาพของครูผู้มุ่งมั่นสอนอ่านเขียน
ภาพของครูผู้เปี่ยมรักและพากเพียร
ภาพของเทียนเช่นเจ้า....เนานิรันดร์
** อนุสรณ์แด่ครูจูหลิน ผู้จากไป **
08 มกราคม 50

ไม่มีครูก็ไม่มีความสำเร็จในวันนี้

ภูฟ้า


ไม่มีครูปลูกฝังสร้างความคิด
ศิษย์ไม่มีสิทธิ์ที่จะมีวันนี้ได้
เพราะมีครูปลูกฝังสร้างแรงใจ
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่จึงมีจริง

ซึ้งพระคุณครู

ไม้เก็ด


กาพย์สุรางคนางค์ 28
เรียนจบจำจาก        คงคิดถึงมาก       จากโรงเรียนไป
เคยเรียนเคยเล่น       เป็นสุขสดใส        ความรู้ครูให้
สั่งสอนอบรม
ผิดถูกชั่วดี               ครูแนะครูชี้        ทางที่เหมาะสม
วันหนึ่งข้างหน้า            ก้าวหน้าชื่นชม    ศิษย์ขอกราบก้ม
ซึ้งพระคุณครู.

นักสู้ครูไทย

เด็กเมืองยศ


เมื่อครั้งยังเยาว์วัย       ด้วยความใสและความซื่อ
พ่อแม่เฝ้าฝึกปรือ        อบรมเลี้ยงสั่งสอนมา
พอเติบใหญ่วัยเรียน   เข้ามาเขียนอ่านกอกา
อุ่นใจได้พร้อมหน้า      มีเพื่อนใหม่หลายหลายคน
คุณครูผู้หล่อหลอม        ดวงจิตน้อมฤทัยดล
ถึงปูชนียบุคคล            ผู้สอนสั่งครั้งก่อนมา
ไม่เห็นแก่เหนื่อยยาก  เพียงอยากให้ศิษย์ถ้วนหน้า
อ่านเขียนเรียนวิชา      สำเร็จลุตามเป้าหมาย
เป็นลูกศิษย์บ้านนา      หน้าตาซอมซ่อเหลือหลาย
รักครูด้วยดวงใจ          คำสอนใดไม่ลืมเลือน
นมนานผ่านกาเล         พื้นเพเดิมเรายังเหมือน
ศิษย์ได้ดีแล้วอย่าเชือน  เป็นคำเตือนจากคุณครู
หันมองมาทางบ้าน        ถึงถิ่นฐานที่เคยอยู่
พัฒนามาอุ้มชู               หมู่พี่น้องชาวบ้นดอน
ส่วนตัวผู้ครูนี้                ทำหน้าที่เหมือนเก่าก่อน
ยังคงมุ่งสั่งสอน              รอศิษย์ย้อนกลับคืนมา
.....เด็กเมืองยศ....

บทสรรเสริญครูผู้ยิ่งใหญ่

ตโมนุท


ขอสรรเสริญคุณครูผู้ยิ่งใหญ่
สอนศิษย์ให้รู้ก่อนผิดคิดถลำ
ให้เด็กรู้สิ่งใดที่ควรทำ
คอยชี้นำธรรมะสละตน
คอยอบรมบ่มให้ใฝ่ระเบียบ
ให้พร้อมเพรียบในวินัยใฝ่ฝึกฝน
ทั้งสอนให้รู้ค่าการวางตน
การเป็นคนใช่เป็นคนจากตำรา
ครูผู้สอนวิชาใช้ชีวิต
ให้เติบโตที่ความคิดใช่สังขาร์
ให้ดีพร้อมจากข้างในจิตวิญญาณ์
เพื่อที่ว่าไม่ให้ไทยไร้คนดี
ใจโดนบ่มให้ข่มคิดแต่กุศล
ให้เป็นคนคิดเป็นสมศักดิ์ศรี
สอนให้สอนรุ่นลูกหลานในสิ่งดี
ศิษย์คนนี้จึงได้ดีเพราะมีครู
อยากเป็นครูเพราะมีครูคอยสอนสั่ง
เป็นพลังสำคัญยิ่งให้ศิษย์รู้
ว่าศิษย์นี้อยากก้าวย่างตามอย่างครู
อยากเป็นผู้บ่มเพาะชาติผ่านเยาวชน
หน้า / 4  
ทั้งหมด 66 กลอน