กลอนอกหัก

เสียงเพลงรัก

ลูกหว้า


เสียงเพลงรักมาหยุดสะดุดกึก
ความรู้สึกน้ำตาแทบบ่าไหล
อารมณ์รักเรียกร้องของหัวใจ
วอนเธอให้บรรเลงบทเพลงเดิม

เคยกล่อมดาวกล่อมเดือนเลือนรานร้าว
ให้เดินก้าวสะพานเธอสานเสริม
เสียงไพเราะเนิบเนิบเคยเคลิบเคลิ้ม
จะซ้ำเติมใจนี้อีกกี่ครั้ง

เธอจะเป็นเช่นน้ำยามโหยอ่อน
เหมือนมนต์พรเพลงทิพย์กระซิบสั่ง
บนทางเดินขวากหนามข้ามระวัง
ภาพความหลังอันหวานผ่านคืนวัน

ด้วยมือเธอที่ก่อถักทอรัก
จึงรู้จักหนแห่งแหล่งสวรรค์
มิได้อยู่ฟ้าไกลเข้าใจกัน
แต่อยู่นั่นที่เธออยู่ผู้บันดาล

เรามาปันสุขกันฉันคนรัก
เพื่อรู้จักชื่นมื่นวันคืนหวาน
ใจจริงจังหวังให้ได้พบพาน
สู่วิมานสวรรค์อันอำไพ

เมื่อจบการบรรเลงบทเพลงรัก
สุดจะหักห้ามตรมข่มไม่ไหว
แม้เพลงรักเคยหลงจบลงไป
ความรักไม่จบลงคงนิรันดร์

รอย-ยิ้ม-ที่-หาย-ไป

ลูกหว้า


และแล้วน้ำตาแห่งความอ่อนไหว
ก็ย่ำเท้าทิ้งตัวเป็นสายบนใบหน้า
ลบความเข้มแข็งสุดท้ายที่ฉันมีชั่วพริบตา
มันเป็นเกมส์แห่งความปวดปร่า ที่สั่นคลอนน้ำตา จนท่วมใจ
หมากตัวหนึ่ง .. . บนกระดานแห่งความอ้างว้าง
ร่ำไห้กับการถูกทิ้งขว้าง . .. อย่างหวั่นไหว
ช่วยตอบโจทย์ให้กระจ่างสักนิด   ความจริงแล้วฉันทำผิดเรื่องใด
จึงถูกพันธนาการความเหงาไว้ .. . เข่นฆ่ากัน
หรือว่าที่แท้  ~ ฉันเป็น “แค่” คน “ไม่เคยถูกรัก”
คนแสนดีอย่างเธอ จึงไม่อาจจมปลัก . .. เดินร่วมฝัน
ไม่มีสิทธิ์ .. เลือกเอาความรักทั้งชีวิตไปผูกพัน
ควรต้องยอมรับคำพิพากษาลงทัณฑ์ .. . ด้วยความเต็มใจ
ฉันยอมจำนนแล้วล่ะ . .. ที่รัก
ช่วยอยู่ปลอบโยนอีกสักพัก  ~ แล้วค่อยแยกย้ายได้ไหม?
แลกกับรอยยิ้มของคนตรงหน้าที่กำลังหมดไป
พร้อมกับการมาเยือนของความเสียใจ . .. ชั่วนิรันดร์

คิดฮอดกันอยู๋บ่คะ ^_^

แก้วประภัสสร


เก็บดวงใจดวงนี้อย่าทำร้า้ย
ให้เหมือนตายทั้งเป็นเช่นอสูรย์
อย่าให้เจ็บเป็นรอยพลอยอาดูรย์
โปรดเกื้อกูลความรักอย่าหักกัน
เก็บรอยยิ้มฉันไว้ยามไกลห่าง
ก่อนละวางทุกสิ่งอิงตามฝัน
อย่าให้เหือดแห้งไปยามไกลกัน
เหมือนตะวันชิงพลบต้องจบลา
เก็บหัวใจดวงน้อยอย่าปล่อยล่วง
ให้มันคว้างเคว้งไปไกลเลยหนา
ความคิดถึงอยู่ไหมใคร่ถามมา
ก่อนจากลาโปรดตอบ..ขอขอบคุณ

เมื่อความรู้สึกคุยกับความรัก ๒

ดวงจันทร์


ความรู้สึก: “ในความนึกคิดของฉัน
เจ้ากำลังบอกว่านั่นคือความไม่แน่นหนัก”
ความรัก: “ก็เธอไม่เชื่อใจในความรัก
ทั้งที่ไม่รู้จักว่ารักเป็นอย่างไร”
ความรู้สึก: “ฉันเข้าใจดี
ว่ารักที่มีคือการให้”
ความรัก: “แต่เธอก็ไม่เคยรับไว้
กับบางหัวใจที่เขามอบไว้ให้เธอ”
ความรัก: “นั่นหรือคือความรัก
ที่เธอนึกตระหนักอยู่เสมอ
คือทอดทิ้งความห่วงใยที่บางใครมอบให้เธอ
แล้วเอารักไปปรนเปรอให้กับคนที่เธอต้องการ”
ความรู้สึก: “ก็ฉันรัก...”
ความรัก: “แต่ก็ไม่รู้จักที่จะสงสาร”
ความรู้สึก: “ก็ใจฉันทรมาน...”
ความรัก: “หรือจะให้อีกคนร้าวรานกับการเสียใจ”
ความรัก: “คนที่รักเธอยังพอมี
เขาก็ดูดีและพร้อมจะมอบชีวีให้
ความรู้สึก: “แล้วถ้าเขาทิ้งเราไป”
ความรัก: “คงไม่เป็นอะไร ก็แค่กลับไป(ไม่มีใคร)เหมือนเดิม”

ครวญ

แย้ม ไกลวันเกิน


นั่งเหม่อลอย ลำพัง ริมฝั่งน้ำ
ดวงตะวัน แดงช้ำ ชิดขอบฟ้า
ระเรื่อแดง แสงหม่น สนธยา
ผิวธารา เรื่อแดง แสงเดียวกัน
ทั้งผืนฟ้า ผิวน้ำ ยามโพล้เพล้
คล้ายหักเห หักห้าม ทุกความฝัน
ผูกความหวัง รั้งพ่วง ดวงตะวัน
ท้ายก็พลัน วูบดับ แล้วลับเลือน
เหลือความหลัง คั่งค้าง กลางสายน้ำ
ลอยคำถาม แสนไกล...อยู่ไหนเพื่อน?
ฉันอยู่นี่ ที่ใหม่ ไกลจากเรือน
อยู่เสมือน ต้นไม้ ใกล้ฝั่งชล.....แย้ม
เราเหม่อลอยลำพังริมฝั่งน้ำ
สุดชอกช้ำดวงใจไปทุกหน
รินน้ำตาไหลหยดรดกมล
คิดถึงคนอยู่ไกล...ไยไม่มา?.....din
รินความหวังทั้งหลายเป็นสายน้ำ
คอยทวงถามถึงเธอเสมอว่า
กลับมาเถิดคนดีที่ลับลา
สายน้ำตาสายนี้ยังมีเธอ....แย้ม
เห็นนกบิน ผินลับ กลับรังรัก
สร้างน้ำหนัก หน่วงใจ ให้เสมอ
ความไร้คู่เคียงข้าง อย่างที่เจอ
ได้แค่เพ้อ เพียงนก บินวกวน....ย้อย
พี่ครวญคร่ำเคลิ้มคล้อยละห้อยโหย
อาดูรโดยเดียวดายมาหลายหน
ตากน้ำตาผ้ายับกับมือตน
คิดถึงคนเคยเคียงมากเพียงใด....กวีน้อยเจ้าสำราญ
ทุกราตรี ที่หวัง ยังคงเก้อ
จะให้เพ้อ รำพัน ถึงวันไหน?
ตากน้ำตาผ้ายับ ซับอาลัย
เสียดหัวใจ ซ้ำซ้อน นอนละเมอ....แย้ม
ญ...    เพียงยินเสียงครวญคร่ำที่พร่ำบอก
เกรงลวงหลอกให้ใจต้องไผลเผลอ
ความคิดถึงเลอค่ามันพร่าเบลอ
จึงต้องเก้อรอพี่ที่ฝั่งชล....din
เห็นเรือแจว แววหวัง น้องยังอยู่
หวังพี่กู่ เรียกหา มาสักหน
เมื่อเรือน้อย ลอยลับ ก็อับจน
ความมืดมน ยังเสมือน เป็นเพื่อนแทน...แย้ม

กุหลาบแดงดอกเก่า

คนกรุงศรี


กุหลาบแดง เคยได้ หลายปีผ่าน
ทวนเหตุการณ์ วานวัน นั้นสดใส
แทนคำรัก ที่บอก ออกจากใจ
จะอื่นใด สุขสันต์ นั้นมิปาน
หวังว่าสุข คงสม ภิรมย์หมาย
ด้วยมิคลาย คำมั่น แม้วันผ่าน
หากลิขิต ของฟ้า พาร้าวราญ
เจ็บดวงมาน เกินจัก หักใจลง
กุหลาบแดง ดอกสุดท้าย จำได้มั่น
แม้ว่าวัน นี้ยุ่ย เป็นผุยผง
แต่ภาพตาม ความหลัง ยังมั่นคง
อยู่ยืนยง อย่างผ่าน เพียงวานวันมองกุหลาบ สีแดง แทงใจช้ำ
หวนคิดถึง ถ้อยคำ ที่จำมั่น
นับหลายปี ที่เหงา เศร้าอนันต์
แล้วใครกัน นั้นไหน เข้าใจเรา
อยากจะลืม ความหลัง ที่ฝังลึก
ความรู้สึก สับสน ปนหมองเหงา
รับความจริง ปล่อยวาง ให้บางเบา
แล้วใครเล่า เขาหมาย ช่วยคลายตรม
กุหลาบแดง วันนี้ มีไหมหนอ
แอบคอยรอ เราหวัง ยังสุขสม
แต่คิดไป ใจหนอ ท้อระทม
ใจที่ซม มีไหม ใครเยียวยา

แด่คนเคยรัก

ยาแก้ปวด


แด่คนที่ฉันเคยรัก....
คนที่ฉันจมปลักไม่ไปไหน
คนที่ฉันทุ่มเทจนหมดใจ
คนที่ฉันมอบให้หัวใจเดียว
แด่คนที่ฉันเคยรัก...
คนที่ทำอกหักไม่แลเหลียว
คนที่ลืมห้องหอเคยกลมเกลียว
คนที่ปล่อยฉันโดดเดี่ยวเพียงลำพัง
แด่คนที่ฉันเคยรัก...
ทำใจฉันเจ็บหนักกับความหลัง
ทำทั้งสุขทั้งทุกข์มาประดัง
แม้แต่ชื่อเธอยังสะกิดใจ
แด่คนที่ฉันเคยรัก...
พอแล้วเถอะขอพักเลิกหวั่นไหว
หยุดเสียทีเถิดนะ"เจ้าหัวใจ"
คนสุดท้ายที่หัวใจ..ยอมให้ทำ
MV โดนๆ
http://www.youtube.com/watch?v=Wj4SwRdef5o

กอดฉันเถิด

รงค


หากเราสองต้องพรากกันไกลห่าง
มีบางอย่างอยากขอจะได้ไหม
เพื่อระลึกนึกถึงเมื่อครั้งใด
ซาบซึ้งใจอย่างนั้นตลอดกาล
เป็นคำขอสุดท้ายที่อยากขอ
หวังเพียงต่อเวลามาสมาน
บาดแผลลึกเจ็บนั้นทรมาน
เพียงต้องการยืดระยะให้ออกไป
กอดฉันเถิดคนดีอย่าหนีก่อน
จะไม่ย้อนคำถามยังรับไหว
เพียงต้องการสิ่งนั้นชโลมใจ
กอดเอาไว้นานนานอย่าค้านเลย
แม้ทั้งรู้ว่ารักต้องขาดลอย
เกินเอื้อมสอยคืนมาอย่างเปิดเผย
อยากจะเก็บรู้สึกที่เคยเคย
ไว้เขนยกอดนอนทุกวันคืน
ก่อนอำลากันไปนานแสนนาน
กอดประสานไออุ่นไร้ขัดขืน
คงจะช่วยให้ฉันได้หยัดยืน
หลังจากตื่นไร้เงาที่แล้วมา
การร่ำลากันไว้ในคืนนี้
คงจะดีช่วยกอดเช่นปรารถนา
ลดความแรงเสียใจก่อนร้างลา
ที่แล้วมาด้วยผิดฉันเสียใจ
กอดฉันเถิดที่รักโปรดปราณี
ก่อนจะหนีกันห่างหายไปไหน
หวังใช้กอดยอดรักดวงฤทัย
เก็บไว้ในรู้สึกตลอดกาล
31 มกราคม 2556

ลืมแล้วหรือ

รงค


ลืมแล้วหรือสัญญาเมื่อครั้งก่อน
ที่ออดอ้อนคำหวานหว่านความฝัน
จะขออยู่คู่เคียงนิจนิรันดร์
มิมีวันพรากไกลให้ร้าวราน
เพียงผ่านไปมินานพานลืมคำ
ปล่อยให้ช้ำร่ำไห้ไร้สงสาร
สุดจะฝืนกลืนกล้ำทรมาน
กับวันวานผลาญใจให้ระทม
ต้องทนทุกข์อกตรมขนาดไหน
ไยทิ้งไปให้ช้ำสุดขื่นขม
คำสัญญาเก่าก่อนดั่งลอยลม
ถูกพลิ้วปมพัดหายไกลลับตา
ยามห่างไกลใจหวั่นสั่นสะท้าน
ยอดดวงมานห่างหายให้ห่วงหา
สุดระทมหมองไหม้ในอุรา
โปรดรู้ว่าข้าคอยแสนน้อยใจ
หากเมตตาปราณีและสงสาร
อย่าปล่อยให้ทรมานนานได้ไหม
คำสัญญาเก่าก่อนช่างลืมไป
แม้ห่างไกลใจข้ายังเฝ้าคอย
เจ้ารู้ไหมข้าคิดถึงจนร้าวลึก
ยิ่งตกดึกยิ่งเศร้าจนเหงาหงอย
สุดแสนว้างว้าเหว่ให้เลื่อนลอย
คอย คอย คอยคนไกลได้กลับมา
อธิฐานผ่านนภาราตรีนี้
ให้คนดีคืนกลับเรือนเคหา
ขอ ลม ฝน บนฟ้าเดือนจันทรา
โปรดเมตตาปราณีที่ข้าคอย
ณ พื้นดินถิ่นนี้ที่หนาวแล้ว
ขอดวงแก้วคืนกลับอย่าคิดถอย
คืนกลับมาเถอะนะแม่ยอดกลอย
กลับสู่รอยพื้นดินสูดกลิ่นไอ
ลมพัดผ่านพื้นดินกลิ่นไอเก่า
นั่งจับเจ่าเฝ้าคอยข้างคันไถ
รอไออุ่นคนเคยที่ห่างไป
กลับคืนสู่บ้านไร่ตามคำวอน
ลมเหมันต์พัดมาพาหนาวสั่น
ใจหวาดหวั่นกั้นกลัวหัวถึงหมอน
อกสะท้อนทุกข์ทนจนร้าวรอน
อยากขอพรเพื่อให้เจ้าคืนมาฯ
จากเสาร์ที่เศร้าใจ
เดือนมกรา ๕เดือนอ้าย

พรปีใหม่....

คีตากะ


จิบกาแฟถ้วยร้อนในตอนเช้า
ดับความเมาจากฤทธิ์รักหักความหลง
ดีกรีรักสูงเกินเดินมึนงง
เธอรินส่งถึงใจไหวซวนเซ
จากไปแล้ว...โฉมสะคราญแห่งม่านหมอก
ลีลาหยอกเย้ายวนชวนไขว้เขว
เกมรักร้อนแรงเร้าเมาโซเซ
หัวใจเป๋หลงทิศเดินผิดทาง
ลีลาวดีสีขาวพราวหน้าบ้าน
ชวนชมบานสีชมพูอยู่ในกระถาง
กระจาบจับกิ่งกระท้อนอ้อนคู่พลาง
ความอ้างว้างเกาะกุมรุมจิตใจ
เทศกาลงานรื่นเริงเถลิงศก
ทำหัวอกรุ่มร้อนนอนสั่นไหว
ภาพเธอยังติดตรึงซึ้งทรวงใน
ซมพิษไข้รักร้างไม่สร่างซา...

‎---- ใจทัก ว่า รักเธอ ----

victoriasecret


๏ โปรดขานถ้อย..หน่อยเอย..คนเคยซึ้ง
จะมาทำ..อ้ำอึ้ง..ไปถึงไหน
จะให้หัก..รักวาง..หรืออย่างไร
เหตุอันใด..ไหนกัน..ไม่หันมา
๏ โปรดขานถ้อย..หน่อยเอย..คนเคยรัก
ไยหาญหัก..รักหลบ..ไม่พบหน้า
ร้าวฤดี..ที่เห็น..เธอเย็นชา
ราวกับว่า..ฆ่าฉัน..นั้นทั้งเป็น
๏ โปรดขานถ้อย..หน่อยเอย..คนเคยคบ
จะจากจบ..ลบเลือน..เหมือนไม่เห็น
เคยพะนอ..คลอเคล้า..ทั้งเช้าเย็น
กลับต้องช้ำ..ลำเค็ญ..จนเข็ญใจ
๏ โปรดขานถ้อย..หน่อยเอย..คนเคยภักดิ์
จะไสผลัก..หักวาง..อย่างไรไหว
เคยเคียงคู่..อยู่ข้าง..ลืมอย่างไร
เพราะฤทัย..ไม่อาจ..ขาดสัมพันธ์
๏ โปรดขานถ้อย..หน่อยเอย..คนเคยหวง
ฉันระกำ..ช้ำทรวง..แม้ห้วงฝัน
จะมาพราก..จากไป..อย่างไรกัน
หัวใจฉัน..มันทัก..ว่ารักเธอ๚ะ๛

เพ้อ

ร้อยฝัน


ท่ามแสงเทียนวิบวับระยับแสง
มิอาจแข่งดวงดาวที่พราวใส
เย็นน้ำค้างพร่างพรมลมโชยไป
หนาวถึงใจดวงนี้ที่รอคอย
ลมหนาวพัด พัดผ่านสะท้านผิว
ใบไม้ปลิวลอยคว้างอย่างเหงาหงอย
ตามทำนองเพลงเศร้าเจ้าล่องลอย
ดั่งเรือน้อยล่องไปในสายชล
กระชับผ้าโอบอุ่นที่คุ้นชิน
หอมกรุ่นกลิ่นจางจางอย่างสับสน
เมื่อใดหนอคนไกลจะได้ยล
ฤาต้องทนทุกข์สิ้นกินน้ำตา
ขอวงแขนแข็งแรงแกร่งคู่นั้น
โอบกอดฉันเอาไว้ใกล้เถิดหนา
คงลืมสิ้นทุกข์ใดได้เจอมา
ขอเวลาเราอยู่เคียงคู่กัน
อย่าเป็นเพียงแค่เพ้อท่ามลมหนาว
ลืมตาตื่นร่วงกราวราวกับฝัน
ใช่เป็นเพียงแค่ถ้อยร้อยรำพัน
ไม่มีวันเป็นจริงได้ดั่งใจปอง

ความจริง ยามห่างไกล...

Derrida


... ยามห่างไกลใจรำพึงคะนึงรู้
ว่าคำพูดที่เขาพล่ามหลายความหมาย
อาจตีความต่างๆไปได้มากมาย
แต่สุดท้ายรวมความคือ   หลอกลวง
... ยามเจ็บหนักได้ยากได้หวนคิด
คะนึงจิตคะนึงหาไม่ห่างหาย
ใครบอกห่วงใครพร่ำหวงเจียนคลั่งตาย
แต่สุดท้ายยามเกือบตาย  แลใครเจอ?
... ยามพักกาย พักใจ เพื่อพักฟื้น
คิดตื้นตื้นเขาจะมาให้ความหวัง
กำลังใจสักนิดเสริมพลัง
แต่ทุกครั้งกลับเป็นเพียง   ภาพมายา
...เคยมีคำถามที่อยากถาม
แต่ปิดความพรางไว้ไม่เปิดเผย
เพราะเกรงกลัวคำตอบจากจำเลย
คำเฉลยอาจแปรปรวนราว  สายลม
... และวันนี้ฉันได้คิดฉันจึงรู้
ได้มองดูสิ่งต่างๆที่หลากหลาย
อยากขอบคุณความเจ็บจวนเจียนตาย
เพราะเดียวดายจึงกระจ่างใน  ความจริง.

ในความเงียบงัน...

คีตากะ


ดวงตาอันว่างเปล่าเฝ้าจับจ้อง
ยังเหม่อมองเพียงเธอเอ่อความหมาย
แต่ภาพเบลอแห่งฝันพรรณราย
รั้งใจกายเธอสิ้นทั้งอินทรีย์
มืออันอ่อนแรงล้ายังคว้าไขว่
กุมเธอไว้ยามเศร้าเฝ้าถอยหนี
แต่วัตถุฉุดกระชากลากคนดี
จนไม่มีแม้เวลาชายตามอง
บทเพลงซึ้งปนเศร้าเฝ้าขับขาน
เพียงมอบแด่ดวงมาลย์วารหม่นหมอง
แต่เสียงแห่งภูตพรายหมายจับจอง
คงครอบครองโสตเธอจนเพ้อเลือน
หัวใจรักหนึ่งดวงอันห่วงหา
แทรกลมมามอบเธอเสมอเหมือน
แต่รักลวงรุมเร้าเฝ้าบิดเบือน
เธอจึงเชือนแชฉัน...ไม่หันมา...

ผ่านมาเพื่อผ่านไป

jojo24


กามเทพจับศรแผลงสำแดงฤทธิ์
ให้ดวงจิตตกหลุมรักสมัครหมาย
พิษไฟรักทุกข์ทนทุรนทุราย
เจ็บเจียนตายมากี่ครั้งยังไม่จำ
หยุดเถิดหนาอย่าชิดใกล้ให้ใจคิด
ไม่อยากผิดคิดไกลกลัวใจช้ำ
โชคชะตากลั่นแกล้งแฝงเวรกรรม
โหมกระหน่ำซ้ำแผลเก่าเข้าเต็มแรง
เดือนสิบสองน้ำนองเต็มตลิ่ง
พระจันทร์นิ่งลอยเด่นเพ็ญส่องแสง
ยังจดจำวันนั้นได้ไม่เปลี่ยนแปลง
เธอแสดงท่าทีเหมือนมีใจ
กระทงหนึ่งสุดซึ้งสองคนจับ
เธอขานนับให้สัญญาณข้างธารใส
กระทงน้อยถูกปล่อยลอยออกไป
ด้วยหัวใจที่มีหวังอีกครั้งครา
แต่พบกันไม่ทันไรจำใจจาก
ไม่อยากพรากห่างไกลใจห่วงหา
จะจดจำเธอเอาไว้ให้สัญญา
วันข้างหน้าฟ้าเป็นใจคงได้เจอ

บอกแล้วไง..ไม่เป็นไร..สักหน่อย

มวลภมร


o ไม่เป็นไร สักหน่อย เรื่องแค่นี้
ก็แค่อยู่ ดีดี เธอหนีหาย
ไม่เป็นไร ไม่มี แแผลทางกาย
พักสักหน่อย ค่อยหาย อย่าเอ็นดู
o ไม่เป็นไร สักหน่อย ไม่เป็นไร
เจ็บเจียนตาย ก็ยัง หายใจอยู่
ไม่เป็นไร หรอกนะ จงรับรู้
ก็ยังหาย ใจอยู่ ยังไม่ตาย
o ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร จริงจริงจ๊ะ
ก็เจ็บนะ แต่ว่า ยังทนไหว
คำสามคำ จำไว้ ไม่เป็นไร
ไม่ต้องการ ให้ใคร เวทนา
o ไม่เป็นไร บอกว่าไม่ เป็นไรเล่า
ก็ใจเรา ยังอยู่ กับเราหนา
แค่ใจเจ็บ ช้ำหน่อย ธรรมดา
พลาสเตอร์ยา ปิดไว้ ก็หายเอง
o ไม่เป็นไร จริงจริง เชื่อบ้างสิ
แค่ตำหนิ ในใจ ไงคนเก่ง
ไม่เป็นไร มั่นใจ ใจนักเลง
มันเจ็บเอง ก็หายเอง “ไม่เป็นไร”
.....19/11/12....

ประโยชน์อันใดในคำ "สัญญา"

มวลภมร


ประโยชน์อัน ใดหนา สัญญาไว้
ในเมื่อใจ ต่อกัน นั้นหมดแล้ว
ในเมื่อเธอ เปลี่ยนไป ไร้วี่แวว
เมื่อไม่รัก กันแล้ว ก็ต้องไป
ประโยชน์อัน ใดหนา สัญญารัก
ไม่รู้จัก รักษา หัวใจไว้
เมื่อสัญญา แล้วผัน พลันเปลี่ยนใจ
จะยึดถือ ทำไม คำสัญญา
ประโยชน์อัน ไดหนา สัญญาร้าง
เมื่อใจห่าง จากใจ ไปไกลหนา
เพียงแค่จำ ถ้อยคำ ที่สัญญา
คงไร้ค่า หากว่า ไร้จริงใจ
ประโยชน์อัน ใดหนา สัญญานั้น
ไม่รักกัน อยู่ต่อ ก็ไม่ไหว
คนรักกัน ห่างกัน คงหวั่นไจ
แต่คนใกล้ ไม่รัก มันหนักทรวง
ประโยชน์อัน ใดหนา สัญญานี้
เมื่อไม่มี เหลือใจ อย่าได้ห่วง
อยู่กันไป เหมือนใจ โดนหลอกลวง
อย่าได้ห่วง แค่คำ ว่า”สัญญา”
...15/11/55...มวลภมร on facebook
หน้า / 9  
ทั้งหมด 153 กลอน