กลอนเสียใจ

เป็นหลักฐานประจานจำประจำไป เป็นใคร.. ใครก็คล้ายตายทั้งเป็น

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


แผ่วแผ่วโหยโรยระทมลมหายใจ
สะอื้นไห้ก่อนวายวางอย่างค่อย-ค่อย
สิ้นสุดแล้ว สิ้นสุดล้ากว่ารอคอย
คงลบรอยครั้งร้าวราญ แห่งวารวัน
ไร้อาลัย ใจแหว่งวิ่นสิ้นสภาพ
เต็มด้วยคราบน้ำตาไหลคราวไหวหวั่น
เกรอะตะกอนน้ำตากรัง ฝังตะกรัน
หัวใจนั้น ไม่คล้ายเป็นเช่นหัวใจ
เป็นก้อนเนื้อซีดจางๆอย่างหมางหมอง
เป็นแค่ของเขาทิ้งขว้างอย่างหม่นไหม้
เป็นหลักฐานประจานจำประจำไป
เป็นใคร ..ใครก็คล้ายตายทั้งเป็น
ก่อนภาพสุดท้ายสายตา จะลาลับ
ก่อนปิดดับขอเพียงแค่ได้แลเห็น
แววตาสงสาร หวานและเย็น
ให้เป็นเช่น ..แสงสุดท้ายก่อนวายวาง

สวรรค์แกล้ง

(น้ำตาลหวาน)


น้ำคำบอกแรกเจอละเมอฝัน
พบหน้ากันวันแรกแปลกหนักหนา
เพียงได้พบสบพักต์ประจักษ์สายตา
สุดคำนึงถึงหน้าทุกวี่วัน
บอกรักฉันครั้งแรกแปลกที่เห็น
ทุกค่ำเย็นโทรย้ำพร่ำคำมั่น
ว่ารักมากรักจริงทุกสิ่งอัน
พร่ำบอกกันบั้นปลายหมายชีวา
ฟังคำเพ้อละเมอเธอบอกรัก
ซาบซึ้งนักมั่นหมายคล้ายดังว่า-
ทางเดินยาวว่างเปล่าเคล้าน้ำตา
พบเจอแล้วคนกล้าร่วมฝ่าฟัน
จูงมือร่วมทางฝันวันข้างหน้า
ชีวิตชีวามีค่ามิได้ฝัน
จริงหรือนี่ที่เราเฝ้ารอวัน
คนเคียงกันมีแท้ได้แก่เธอ
มาวันนี้คนดีอยู่ที่ไหน
เคยอยู่เคียงชิดใกล้ไยให้เพ้อ
ทางสายเปลี่ยวคนเดียวเหลียวไม่เจอ
ปล่อยฉันเก้ออ้างว้างอย่างเดียวดาย
นี่หรือคำพร่ำบอกหลอกลวงแท้
หัวใจเธอมีแน่หรือห่างหาย
เอ่ยคำลวงร้อยเล่ห์เพทุบาย
เธอมุ่งหมายทำร้ายฉันได้ลง
ฉันไม่สวยไม่รวยไม่มีสิทธิ
เธอเห็นฉันนั้นผิดวัตถุประสงค์
เธอพบคนพร้อมกว่าที่มั่นคง
ปล่อยทิ้งเราวางลงมิร่วมทาง
นี่สวรรค์บัญชาหรือว่าโง่
เชื่อคำลวงคำโตแล้วลาร้าง
สวรรค์แกล้งแรงไปไม่เป็นกลาง
ทางสายเปลี่ยวแรมร้างเหมือนอย่างเคย

"พบ - พราก"

แมงกุ๊ดจี่


๑.หยดน้ำตาไหลนองเปื้อนสองแก้ม
เกินจักแย้ม...สดับยอมรับผล
กอรปด้วยเหตุผลักไสเพื่อไกลตน
มิอยากยลรอยหมองเข้าครองใจ...
ขอผลบุญเคยสร้างทุกปางบรรพ์
คุ้มครองขวัญจงปราศจากหวาดไหว
พ้นแคล้วคลาดจากบ่วงผลาญทรวงใน
หยุดอาลัย...รอยเกลียวร่วมเกี่ยวพัน...
๒.เนิ่นนานนับกี่กาลขับขานถ้อย
ร่วมเรียงร้อยผ่านเพรงบรรเลงฝัน
คล้องสายใยจากปี-เดือนเลื่อนสู่วัน
กลับแปรผันเคลื่อนคล้อยไร้รอยจำ...
ภาพมองเห็นซ่อนเล่ห์ด้วยเสน่หา
ม่านพรางตาย้อนยอกหลอกให้หนำ
สลับสร้างปราดเปรื่องเพียงเรื่องขำ
คิดว่ากรรม...เผาหลอมพร้อมรับมา...
ด้วยตราตรึงคำหวานฝากผ่านพจน์
เพียรจารจรดคำโปรยคล้อยโหยหา
หยาดน้ำผึ้งประสานพิษเจือฤทธิ์ยา
เปรียบหมายฆ่าพร่าผลาญให้ราญรอน...
เขาปราศจิตเมตตาปรานีดอก
ลอบเวียนป้อนคำหยอกเพียงหลอกหลอน
หลอมรสหวานตรึงแน่นสิ้นแคลนคลอน
เทียวปลิ้นปล้อนพร่างคำคล้ายย้ำยี...
๓.หัวใจหนึ่งรานแหลกร่วงแตกแล้ว
เคยเพริศแพร้วรักหวงเก็บทรวงนี้
อยากเกี่ยวคล้องป้องไว้..ด้วยไมตรี
พร้อมยอมพลีด้วยศักดิ์...จำหลักคอย...
ดำเนินเรื่องเลือนลางจริงหว่างฝัน
ร้าวเคียงขวัญจิตเศร้าปนเหงาหงอย
ตระหนักรู้...ใช่เพชรเพียงเกล็ดพลอย
จึ่งควรปล่อยคลายเกลียวสิ้นเกี่ยวใด...
ตระหนักแน่ "เพียงพบพานเพื่อผ่านภพ"
เกินบรรจบ...ร่วมสายลมหายใจ
"วาสนา" แนบเคียงเพียงไกลไกล
ปราศบ่วงทัณฑ์พันไว้ให้อยู่ครอง...
ประจักษ์แล้ว "พบ-พราก" ไม่อยากฝืน
ปล่อยวัน-คืน เลือนลับ ยอมรับหมอ

คนนั้นแสนดี-คนนี้สงสาร

ชากร


เธอคนหนึ่งแสนดีเป็นที่สุด
มิอาจหยุดรักเธอสิ้นลงได้
ความอ่อนหวานน่ารักปักตรึงใจ
แม้อยู่ไกลโทรหาทุกวันคืน
อีกคนหนึ่งอยู่ในที่ทำงาน
เธอร้าวรานจากรักจึงขมขื่น
มีชีวิตชอกช้ำสุดกล้ำกลืน
รักครั้งแรกเป็นอื่นสะอื้นทรวง
ทำให้เธอกับฉันมาใกล้ชิด
อยู่ออฟฟิตเดียวกันแสนเป็นห่วง
สงสารเธอด้วยใจไม่หรอกลวง
อยากยื่นช่วงดีๆมอบให้เธอ
ตอนนี้ใจของฉันมันสับสน
รักสองคนพร้อมกันจึงพร่ำเพ้อ
แสนสงสารคนใหม่ที่ได้เจอ
หัวใจเผลอรักไปไม่รู้ตัว
ความอยู่ใกล้ใจฉันเริ่มไหวหวั่น
ความผูกพันงดงามตามมายั่ว
ความใกล้ชิดทำให้ใจเริ่มกลัว
จิตสำนึกดีชั่วหลงลืมไป
ฝากขอโทษคนไกลให้เธอทราบ
อยากก้มกราบผิดนี้เกินแก้ไข
อยากขอโทษโปรดอย่าให้อภัย
กับผู้ชายหลายใจไม่แน่นอน
14/10/2554

แพ้ใจเธอ

คนกรุงศรี


ฟังเสียงขลุ่ย โหยหา พาใจหวน
จึงรัญจวน รักจาง อย่างใจหาย
รู้ว่าเจ็บ เหน็บร้าว หนาวใจกาย
แต่ก็สาย แล้วหนอ ท้อใจเกินคำสัญญา ยังอยู่ คู่ใจสาว
ครั้งที่กล่าว เธอให้ ด้วยใจเขิน
มาวันนี้ เหตุใด ดวงใจเมิน
ต้องเผชิญ ความหม่น จนใจตรม
อยากบอกว่า ยามนี้ มีใจภักดิ์
เกรงเจ็บหนัก หมองไหม้ จนใจขม
กลัวจะจาก พรากไป จนใจซม
ทุกข์ระทม จริงแท้ แพ้ใจเธอ
พอดวงจิต คิดไป พาใจหน่าย
ยังเสียดาย ตัวที่ มีใจเผลอ
ต้องผิดหวัง เพราะเขลา เราใจเบลอ
จึงมาเจอ คนซื่อ หรือใจเก
บางครั้งที่ คิดถึง จึงใจหม่น
เจ็บเสียจน หม่นไหม้ ดวงใจเขว
เพราะยังจำ สัญญา พาใจเซ
เพราะรวนเร หรือไม่ ดวงใจนี้แว่วเสียงขลุ่ย อีกคราว สาวใจหวั่น
อยากลืมวัน เคยรัก หักใจหนี
ทนระทม ตรมเศร้า เข้าใจดี
ด้วนมิมี คนใด รู้ใจเรา

ชั่วนิรันดร์ อาจนานยาว-หนาวกว่าเดิม

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


เธอเลิกรักหักสัมพันธ์ในวันก่อน
กลับมานอนหมองไหม้ใจหมองหมาง
คงต้องลาคราต้องไกลในเส้นทาง
ต้องลาร้างจางจากกันนิรันดร์ไป
เป็นนิรันดร์ที่แสนยาวแสนหนาวเหน็บ
หากนับเจ็บเจ็บปวดป่นทนไม่ได้
หากนับหนาวหนาวก็ใกล้จับใจวาย
ที่สุดร้ายคือไม่มีที่สิ้นเลย
ฤดูหนาวไม่สิ้นสุดมีจุดเริ่ม
และต่อเสริมเติมต่อไปไร้เฉลย
ว่าต้องหนาวนานแค่ไหนใจไม่เคย
ความเศร้าเอ๋ย คงครองใจไปนิรันดร์
ขอได้ไหม แค่คำลวงว่าห่วงบ้าง
เพื่ออำพรางบางห้วงใจให้เหหัน
หากหวงแค่แม้คำลวงว่า ห่วงกัน
ชั่วนิรันดร์ อาจนานยาว-หนาวกว่าเดิม

นิยายรัก...ขาดตอน

อินสวน


ฟ้าวันนี้สีจางเมฆบางแต้ม
สัญญาณแรมเลือนร้างจะห่างฝน
จะผ่านพร้อมฝันจางของบางคน
อีกหนึ่งความอดทนผ่านพ้นไป
ดอกแก้วร่วงกรูกราวอีกคราวนับ
การลาลับร้างเลื่อนความเคลื่อนไหว
เก็บกวาดซากเศษซอกออกจากใจ
ตัดเยื่อใยหอมห่างเจือจางตาม
มองราวฟ้าภูผาฝ้าม่านหมอก
มีข่าวบอกนำฝากฟากตรงข้าม
ว่าทางโน้นฟ้าคลี่เป็นสีคราม
แต่หนาวเริ่มรุกลามทุกยามนอน
พลิ้วเพลงเหงาเว้าวอนย้อนปลายทุ่ง
ดอกผักบุ้งขอบคุ้งเคล้าแดดอ่อน
วูบลมหวนชวนฝันวันอาทร
ภาพสะท้อนซ้อนลายแลชายเงา
เหลืองอร่ามดาวเรืองเล่าเรื่องผ่าน
เป็นตำนานใจคนหวานปนเหงา
ครบรอบลากันยาฝนบางเบา
นิยายรักเรื่องเก่า...ก็ขาดตอน

** รอเธอ **

ราชิกา


**  ฟังน้ำคำ  พร่ำพรอด  อ้อนออดเสียง
สื่อสำเนียง  ลำนำ  ถ้อยคำหวาน
เฝ้าคิดถึง  คนึงหา  มาช้านาน
แม้ว่ากาล  ผ่านไป  หทัยครอง
**  คอยรอเธอ  เพ้อครวญ  รัญจวนเศร้า
มีเพียงเรา  เฝ้าทน  ใจหม่นหมอง
ยังรำพัน  ฝันหา  น้ำตานอง
ได้แต่มอง  ฟากฟ้า  ยามราตรี
**  ศศิธร  จำลา  เมื่อหน้าฝน
ความทุกข์ทน  ครอบครอง  ให้หมองศรี
ภวังค์รัก  หวานซึ้ง  ตรึงฤดี
ถ้อยวจี  ประทับไว้  ไม่ลืมเลือน
**  ขลุ่ยล้อลม  พรมแผ่ว  ยังแว่วหา
คำสัญญา  คนดี  ที่เสมือน
ดั่งคู่คิด  ร้อยเรียง  คู่เคียงเรือน
กลับมาเยือน กลอยใจ  ไม่ระทม
**  รอคอยวัน  เธอกลับ  มารับขวัญ
รอความฝัน  เราสอง  ครองสุขสม
รอดั่งเคียว  เกี่ยวรัก  จักชื่นชม
รอภิรมย์  รักแท้  ที่แน่นอน........ฯ

รักไม่ใช่...

กวีปกรณ์


คงได้ยินเรื่องราวเธอที่รัก
ยังชื่นสุขทุกข์หนักรับรู้เสมอ
กับรักใหม่ไม่นานที่พบพบเจอ
เฝ้ายินดีกับเธอทุกคืนวัน
เมื่อได้พานได้พบคนที่ใช่
เขาที่มอบสิ่งใดได้ดั่งฝัน
ชายคนนี้มีเพียงรักให้กัน
เพราะรักนั้นใช่ทุกสิ่งฉันเข้าใจ
ที่รัก
อย่าคิดหนักเรื่องเราดีกว่าไหม
พบเจอกันทักทายบ้างเป็นไร
สองเรานั้นห่างไกลเพียงสัมพันธ์
ส่วนตัวฉันตอนนี้ดีเหมือนเดิม
อาจมีเพิ่มความเหงาเข้าข่มขวัญ
กว่าผ่านพ้นคืนว้างอย่างบางวัน
ดุจดังฉันดั่งดาวหนาวค่ำคืน
ขอยอมรับตามตรงว่าคิดถึง
ความคำนึงมีให้ไม่อาจฝืน
มอบยิ้มให้แต่ใจน้ำตารื้น
บ่อน้ำตาตันตื้นแต้มทรวงใน
เพราะเธอคือคนที่ใช่สำหรับฉัน
เพราะเธอคือคนปลอบขวัญวันอ่อนไหว
เพราะเธอคือความคิดถึงยามห่างไกล
เพราะเธอคือความห่วงใยในทุกยาม
แล้วคำเธอที่บอกล้วนเป็นจริง
รักไม่ใช่ทุกสิ่งที่ไถ่ถาม
ไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ฉัน ทุกผู้นาม
รักไม่ใช่ทุกความนามารมณ์
รักของฉัน ของเธอ ไม่เหมือนกัน
เราต่างคนต่างปั้นตามใจสม
สร้างสรรค์รักสวยงามแล้วชื่นชม
แต่งเติมตามความนิยมในยามนั้น
จนถึงวันที่เธอจากฉันไป
น้ำตานองร้องไห้หัวใจสั่น
ด้วยยอมรับและเข้าใจไม่โกรธกัน
รักไม่ใช่ เธอ-ฉัน ไม่ยั่งยืน
ยังรับรู้เรื่องราวข่าวของเธอ
สุขและทุกข์ที่เจอปลุกเราตื่น
รักไม่ใช่ความฝันยามค่ำคืน
รักอาจเป็นเพียงฟืนช่วยเติมใจ

ดาวก็หม่น คนก็เมา เหล้าก็หมด.. (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม)

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


.. ดาวหม่น คนเริ่มเมา เหล้ายังมี
ณ คืนนี้ถ้าไม่เมาเราไม่หยุด
เหตุด้วยเรื่องเปลืองใจคิด ..จิตมนุษย์
ที่มันสุดลึกล้ำเหลือรำพัน
เมื่อรักเขา เขาไม่รักหนักอกเธอ
เลยรักเก้อเพ้อพกตกสวรรค์
เศร้าแสนเศร้าเพียงแค่ไหน รู้ใจกัน
เธอกับฉันมันเพื่อนเก่า ฉันเข้าใจ
...
ดาวก็หม่น คนก็เมา เหล้าเกือบหมด
เพื่อนยกซด ราวเป็นน้ำหลามรินไหล
รับสภาพ ตราบนี้หนอ ต่อนี้ไป
คงสิ้นไร้สุขแล้วในแววตา
เมื่อรักเขา เขาไม่รักหนักแดเดียว
เปล่าใจเปลี่ยวแสนอนาถวาสนา
มองยังเห็นเป็นความรักประจักษ์ตา
แต่ไร้ค่าเมื่อสิ้นรักประจักษ์ใจ
...
ดาวก็หม่น คนก็เมา เหล้าก็หมด
ราดรันทดรดดวงแดแก้หมองไหม้
คนเมาเหล้าคงหลับลงปลงใจไป
คนเมาใจยังตาค้างอ้างว้างจินต์
น้ำตาคนแอบรักมันหนักหนา
หนักเกินกว่ากำลังใจยกได้สิ้น
..ต้องคอยรับซับน้ำตาที่บ่าริน
จากใจวิ่นแหว่งเว้า รักเขาข้างเดียว..
ฉบับนี้ เรียบเรียงเรื่องใหม่ ให้สมบูรณ์กว่าเดิม แต่ไม่รู้ว่า มันเผยตัวมากเกินไปกว่าฉบับก่อน หรือเปล่า จนทำให้วรรคจบอ่อนแรงกว่าฉบับที่แล้ว

ดาวก็หม่น คนก็เมา ..เหล้าเกือบหมด

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


.. ดาวหม่น คนเริ่มเมา เหล้ายังมี
ณ คืนนี้ถ้าไม่เมาเราไม่หยุด
เหตุด้วยเรื่องเปลืองใจคิด ..จิตมนุษย์
ที่มันสุดลึกล้ำเหลือรำพัน
เธอรักเขา เขาไม่รักหนักอกเธอ
เมื่อรักเก้อเพ้อพกตกสวรรค์
เศร้าแสนเศร้าเพียงแค่ไหน รู้ใจกัน
เธอกับฉันมันเพื่อนเก่า ฉันเข้าใจ
...
ดาวก็หม่น คนก็เมา เหล้าเกือบหมด
รินเหล้ารดราดดวงแดแก้หมองไหม้
..จะคอยรับซับน้ำตาทุกคราไป
แม้ที่เธออยากอยู่ใกล้ ไม่ใช่ฉัน
คำเตือน : สุราไม่ใช่ยาแก้อกหัก เด็กและเยาวชน ควรพิจารณาในการอ่านกลอนขี้เมาแต่ง.. หุ หุ

มีอะไร ก็บอกมา

แทนคุณแทนไท


ถ้าน้องเจ็บ
พี่ไยจักจะเก็บอารมณ์ไหว
น้ำตาว๊ะ เป็นบ้าไหลทำไม
หรือบอกความขื่นไข้ในใจเรา
เขาไม่รักเราอย่างที่ควรรัก
แน่นอนนัก ผลักเราเป็นคนเศร้า
ความทุกข์นั้นแม้เพียงแค่แผ่วเบา
แต่สะท้านสะเทือนเข้าไปถึงทรวง
เมื่อน้องเจ็บ
ไยพี่ต้องกดเก็บความเป็นห่วง
ถ้อยที่เคยพร่ำย้ำทุกสิ่งปวง
มาถามทวง ว่ายังจำสักคำไหม
คนหมองหม่น
ไม่แปลกหรอกหากหมองจนอยากร่ำไห้
เพราะบางคนยังแกล้งแสดงใจ
ร้องร่ำไห้ได้ทั้งที่ไม่มีใจ
ไม่ถามว่าวันนี้ สบายดีหรือ
เพราะข้อความที่สื่ออารมณ์ไว้
ในนามของคนที่คอยห่วงใย
ขอถามว่า มีอะไรก็บอกมา

รักเขานานๆ

คืนแรมสามค่ำหน้าร้อน


เพราะรักดอกจึงบอกมาว่ารักมาก
ต้องจำพรากจากนี้ไป  ไม่มีหวัง
ยินบ้างไหมใจยังเต้นเป็นเสียงดัง
เพียงลำพังยังรำพึงคิดถึงเธอ
วันผ่านไปใจไม่ผ่านไม่ผันเปลี่ยน
วันผ่านเวียนเพียรระลึกนึกเสมอ
เทียบวันเก่าเท่าวันก่อนตอนเราเจอ
น้ำตาเอ่อปริ่มๆรื้น ชื้นนัยน์ตา
ยังรักมาก มากเท่าที่พี่เคยรัก
ใจยังภักดิ์ แม้ไม่คาดปรารถนา
ว่าคนดีจะมีวันหันกลับมา
รู้ดีว่าสิ้นแล้วแววหทัย
เมื่อความรักหักบิ่นสิ้นความรัก
ใจเคยภักดิ์กลับแพ้เขาที่เข้าใกล้
เคยคิดแค่ รักแท้จะชนะใจ
ไม่เตรียมไว้ รักจะพลาดเกินคาดเดา
รักเขาแล้วก็รักไปให้หมดดวง
อย่าเป็นห่วงดวงใจใครจะเหงา
ให้สมที่พี่ยอมใจให้ซบเซา
อย่าสนใจใครจะเศร้า ..รักเขานานๆ

นี่คือรักเรา

sombody@krajokngao


เงียบเหงาใจข้างกายไร้คนคู่
มีฉันอยู่หรือไม่ในใจเขา
ที่เอ่ยคำบอกรักมาเบาเบา
จริงหรือเปล่าถ้อยคำที่พูดมา
ต่อหน้ากันห่วงใยใส่ใจรัก
ไม่เหหักเสแสร้งทำห่วงหา
แต่พออยู่ห่างไปจากสายตา
กลับบอกว่าโสดสนิทไม่มีแฟน
น้อยใจนะรู้ไหมใครที่เจ็บ
จำต้องเก็บกดไว้ความหวงแหน
ยังรักมั่นไม่คิดหาใครทดแทน
คำว่า"แฟน"สงวนไว้เพียงแค่เธอ

ขอโทษ

ปติ ตันขุนทด


พุทธองค์ว่าไว้           รักกัน
ยามเมื่อพลัดพรากพลัน   ห่วงเศร้า
เห็นตกแก่ตัวฉัน             หนักแน่
พลัดคู่สวาทเคล้า            ครุ่นเฝ้าโศกหา
นอนในกระท่อมร้าง        โนนนา
อกเปลี่ยวทุกข์ทรมา       หม่นไหม้
จิตสับส่ายโหยหา            มิตรแม่
ผิดพี่ขอโทษไว้               อย่าได้ลาหนี

ลูกไอ้ใบ้

ไร้อันดับ


เพราะพ่อเป็นคนใบ้ใช่ไหมลูก
เจ้าจึงถูกเพื่อนล้อหัวร่อเล่น
เจ้าอับอายใช่ไหมที่ได้เป็น
เจ้าจึงเว้นช่องว่างระหว่างเรา
ลูกไอ้ใบ้เขาเหน็บเจ้าเจ็บปวด
พ่อก็รวดร้าวใจที่ใครเขา
ใช้วาจาล้อเล่นเหมือนเป็นเงา
ติดตามเจ้าเช้าเย็นพ่อเห็นใจ
ด้วยวัยเยาว์เจ้านั้นในวันนี้
น้ำตาที่เอ่อล้นเกินทนไหว
พ่อเพียรเช็ดน้ำตาทุกคราไป
พ่อเพียรใช้ท่าทางต่างวาจา
พ่อชี้เจ้าแล้ววกชี้อกพ่อ
สองมือห่อหัวใจส่ายใบหน้า
แทนคำบอกรักเจ้าเท่าชีวา
รักมากกว่าผู้ใดหาใครปาน
พ่อขอโทษที่ไม่เหมือนใครอื่น
ไม่อาจยื่นคำรับหรือขับขาน
ไม่อาจปลอบขวัญเจ้าเล่านิทาน
ให้เจ้าผ่านความสุขไร้ทุกข์ใจ
พ่อไม่ใช่พ่อที่ดีที่สุด
อยากให้หยุดคิดต่างได้บ้างไหม
ให้คิดถึงความหวงและห่วงใย
รักที่ให้มากกว่าเหนือฟ้าดิน....
------------
(ไร้อันดับ)
http://www.youtube.com/watch?v=Ou7WHhtxcM4

อย่า!ได้ไหม

แทนคุณแทนไท


อย่าเห็นฉันนั้นเป็นคนกั้นเหงา
หัวใจใช่ว่างเปล่าเท่าที่เห็น
ถ้าเธอเห็นในแววตาที่ฉันเป็น
เธอจักรู้ว่าฉันเร้นลำเค็ญใจ
โทรศัพท์รับสายปลายทางนี้
คนโทรมายังมีหัวใจไหม
ถึงไม่รู้ว่าเรื่องราวที่เป็นไป
คนรับสายปวดใจไม่ต่างกัน
เถิดอย่าเพียงแค่เหงาจึงโทรหา
อยากระบายก็โทรมาเวลานั้น
มีไหมคำ คิดถึง ห่วงใยกัน
ให้หัวใจซ่านสั่นวันได้ฟัง
ถ้าเป็นได้แค่คนไว้แก้เหงา
ค่าแค่เบอร์ให้คลายเศร้าไร้ความหวัง
ถ้ามีนะ แค่น้อยหนึ่งคงซึ้งจัง
คำที่ทำให้คนฟังรู้สึกดี
สบายดีหรือเปล่าเหงาหรือไม่?
เจ็บป่วยหรืออย่างไรในวันนี้?
เป็นอะไรไยเสียงไม่เข้าที?
หรือเธอมีปัญหาใดให้บอกมา?
คิดถึงนะ ไม่เห็นหน้าหลายวันแล้ว
ฉันนับวันคืนแพร้วจะไปหา
คืนนี้พบกันในฝันตามสัญญา
หนาวฉันก็จะห่มผ้า เหมือนห่มเธอ
อย่าเห็นฉันนั้นเป็นคนกั้นเหงา
รู้หรือเปล่าเธอสำคัญมั่นเสมอ
ขออย่าเอาความภักดีไปบำเรอ
อารมณ์เศร้าของเธอยามเหงาใจ
MV ส่งใจ ...
http://www.youtube.com/watch?v=zsV4AJKPooI
หน้า / 17  
ทั้งหมด 281 กลอน