แท็กซี่หัวใจสาย เอเทรียม ตอนที่ 2

เก่งกาจ


เมื่ออกจากร้านเขาแล้ว ลูกศรคิดถึงวันวานคนเดียว ตอนนั้นเธอเพิ่งเรียนพีดีซีวิชาเครียดที่สุดแล้วมานั่งพักใต้คณะ

“ศร”พี่ปุ้ยเห็นเธอเลยเดินมาทักทาย แต่ปุ้ยก็มีเรื่องตั้งใจมาพูดกับศร

“อ้าว เจ๊นั่งก่อนดิ”ศรชวน

“ชาเย็นเหรอแก”ปุ้ยถามลูกศร

“อือ หลังชั่วโมงพีดีซีทีไร เครียดว่ะ ขออะไรหวานๆหน่อย”ลูกศรบอกปุ้ย พร้อมดื่มชาเย็น

“ยังไงก็อย่าชอบของหวานมากนะจ๊ะ”ปุ้ยพยายามพูดไรบางอย่าง

“โอ๊ย หมูไม่กลัวหวานหรอกเจ๊”ศรทำเป็นไม่เข้าใจ พูดติดตลก

“นังนี่ ฉันจะพูดว่า หวานมาก ระวังโรคหัวใจนะยะ”ปุ้ยว่า

“อะไร”ศรแกล้งทำไก๋ทั้งที่จริง แอบมองไบรท์อยู่

“เห็นนะ นั่งมองทางนั้นตลอด...ไอ้ไบรท์อ่ะ”ปุ้ยรู้ทัน

“อุ๊ยไม่ใช่ มองไอ้นั่นต่างหาก”ศรแกล้งชี้ไปที่ผู้ชายคนที่ปุ้ยชอบ

“อี่นี่ ไข่ของกู”ปุ้ยแหวใส่เข้าให้

“อ้าวนึกว่าตัดไปแล้ว”ลูกศรพูดหมายถึงปุ้ยตัดตรงนั้นแล้วแปลงเพศแล้ว

“เอาเงินไหนตัดยะ เดือนๆ เด็กต้องดูดนมนะ”ปุ้ยว่ากลับ

555”ลูกศรหัวเราะ

“หัวเราะ ฉันพูดหน่อยเหอะ อย่าไปชอบมันเลย ไอ้ไบรท์น่ะ หญิงแท้ หญิงเทียมไม่เว้นนะ นี่ก็ได้ข่าวว่ากำลังคบดาวมหาลัยอยู่”ปุ้ยใส่ไฟไบรท์ทันที

“ใคร น้องเปอร์เซีย แปดปอดน่ะเหรอ”เธอแกล้งพูด แอบรู้มาเหมือนกัน

“ก็ใช่สิยะ ขนาดครบเครื่องอย่างนั้น ไม่กี่เดือนเฮียแกก็ทิ้ง และหางเครื่องอย่างเรา คงเก็บไว้โยนให้หมากิน”ปุ้ยใส่ไฟต่อ ได้ผลศรก็แอบคิด

อยู่ๆเพื่อนไบรท์ที่ชอบแกล้งปุ้ยก็เดินมาแกล้งปุ้ย ใส่หมวกกันน็อคหน้าแมวบนหัวปุ้ย

“อุ๊ย จับได้แล้ว แมวปากหมา ที่รัก ทำอย่างนี้ไม่น่ารักเลยนะ”เพื่อนไบรท์ว่า

“โอ๊ยอะไรเนี่ย”

“หุบปากเดี๋ยวนี้ เวลาที่รักไม่พูดไรเลยน่ารักที่สุดเลย”เพื่อนไบรท์ยังแกล้งปุ้ยปุ้ยทำเสียงอู้อี้ พูดไม่ได้

ไบรท์มองศรอย่างมีความหมาย ศรมีอะไรบางอย่างจะพูดกับไบรท์เหมือนกัน

“ไบรท์ คือ...” แต่เธอก็ไม่พูด “ชามันไม่มันเลยว่ะ ไปขอนมให้หน่อยดิ”

ไบรท์ตั้งใจฟังคำนั้นเต็มที่ แต่เมื่อเห็นลูกศรไม่พูดก็เดินไปจากไปอีกทาง

และส่วนศรเองก็แอบคิดมากตามที่ปุ้ยพูดเหมือนกัน แต่เก็บไว้ในใจไม่บอกใคร

 

เมื่อลูกศรและมิวเดินออกไป ไบรท์จึงสั่งเมนูที่ป่วนชอบให้เด็กหญิงรับประทาน

“อือทอดมันกุ้ง ของโปรดไม่ใช่เหรอ”ไบรท์บอกหลานสาว

“อาก็กินด้วยดิ ดูเหมือนตอนนี้อาไม่ค่อยมีแรงนะ”ป่วนแซวหน้านิ่งๆ

“ยัยเด็กแก่แดด”ไบรท์ว่าหลานสาว แอบอายเหมือนกันที่ใครๆรู้ทัน รู้ใจเขา

“เค้าเรียกว่าเด็กฉลาดต่างหาก”ป่วนบอกหน้านิ่งๆ

“และเรา อาเห็นข่าวแล้วนะ บ้าหรือเปล่า ทำงั้น”ไบรท์ว่าหลานสาวทันที เพราะเขาอ่านข่าวที่เด็กหญิงจี้แท็กซี่แล้วนั่นเอง

หลานสาวยังคงตั้งตากินไม่สนใจที่จะตอบ

“ถามอยู่นะ ทำไมไม่ตอบ”ไบรท์ว่าหลานสาว แต่ไม่จริงจัง

“อะไร เมื่อกี้ยังบอกให้กินอยู่เลย”ป่วนเฉไฉ

“คิดจะทำไร”ไบรท์ถามอย่างห่วงๆ

“ไม่รู้ อยู่ๆอยากนั่งเครื่องบิน ไม่มีใครพาไป ก็เลยหาคนพาไปแม่งเลย”ป่วนกวน

“จะถึงวันเกิดเราอยู่แล้วนะ ไม่อยากให้พ่อเราปวดหัวก่อนวันนั้นหรอกใช่ไหม”ไบรท์พยายามเตือนสติหลานสาว

“พ่อมีเวลามีคิดอะไรนอกจากเรื่องงานด้วยเหรอ”เธอวางส้อมทำหน้าเซ็ง

“ไม่เอา อาไม่ชอบเลยนะ พูดอย่างนี้”ไบรท์ตำหนิหลานสาว

“โอ๊ย อาพูดใหญ่เลยนะ ทีเมื่อกี้เงียบเชียว ว่าแต่พี่คนนั้นใครหรือ”ป่วนแกล้งเปลี่ยนเรื่อง

“ยัยเด็กนี่”ไบรท์เขกหัวหลาน “อ้าวพี่”อาจารย์เดินเข้ามามองป่วนด้วยสีหน้าไม่พอใจสุดๆ

“โทรศัพท์ทำไมไม่รับ แล้วจะไปไหนทำไมไม่บอก”อาจารย์วัชร์ว่าป่วน

“หนูไม่หนีพ่อไปไหนหรอก ทั้งที่อยากไปใจแทบขาด”ป่วนตอบกวนไม่มองหน้า

“ป่วน”ไบรท์เรียกหลานสาว เหมือนพยายามไม่ให้เด็กหญิงโต้ตอบผู้เป็นพ่อ

“แกเคยเห็นความจำเป็นของฉันบ้างไหมฮะ”อาจารย์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“อะไร งานของพ่อ ทำมันเข้าไปสิ”ป่วนว่า ไม่ยอมแพ้เช่นกัน

“ป่วน อย่าพูดอย่างนี้กับพ่อ”อาจารย์เสียงแข็งอีก

“อะไร ก็ทำให้ใครมันตายไปข้างหนึ่งเลย” ป่วนเสียงดัง

พ่อจับมือป่วนขึ้นมาอย่างโกรธๆ

“ฉันเป็นพ่อแกนะ”

“เออ!!!รู้แล้ว”ป่วนตะโกนใส่หน้าผู้เป็นบิดา เหมือนมีบาดแผลในใจ

เด็กหญิงจ้องหน้าพ่อน้ำตาไหล เธอสะบัดมือ แล้ววิ่งไปจากร้านทันที

 

ระหว่างที่ป่วนจากมานั้น ป่วนคิดเรื่องครอบครัวของเธอคนเดียว

เธอนึกถึงวันเกิดเมื่อสี่ห้าปีที่แล้ววันนั้นเป็นวันเกิดของเธอ

“แม่”ป่วนทักแม่จากข้างหลังสวมกอดมารดา

“กลับมาแล้วเหรอ”พิมผู้ซึ่งเป็นแม่ของป่วนบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พิมเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยน อ่อนหวานมาก

“ขยันจัง ทำให้ใครอ่ะ”ป่วนแซวแม่

“ก็เรานั่นแหละ มาทำพูดกวน อย่างนี้เหมือนใครนะเรา”แม่ว่าอย่างเอ็นดูป่วน

“สองคน ไม่แม่ก็พ่อนั่นแหละ”ป่วนตอบกวนๆยิ้มๆ

“ฮึ ไม่ใช่แม่”พิมว่า

“ฮะ เหมือนพ่อหรอ พ่ออะนะ กวนเป็น”ป่วนกล่าวขำๆ

“เด็กคนนี้ เวลาอยู่กับพ่อ พูดให้มันดีอย่างนี้เหอะ”พิมตำหนิป่วน แต่ไม่จริงจัง

“ค่า ว่าแต่แฟนคุณนายไม่มาสักทีนะ”ป่วนถามถึงวัชร์ผู้เป็นพ่อ รอให้ทุกคนมาครบเธอจะสุขใจที่สุด

“อืม...ทำงาน”พิมทำเป็นจัดของ แต่เธอดูเหมือนมีความในใจ

“อยากทำ หรือใครใช้เนี่ย จริงจังขนาดนี้”ป่วนบ่นไปอย่างนั้น

พิมจะตอบบุตรสาว แต่โทรศัพท์บ้านดังขึ้น

เธอรู้ทันทีว่าเป็นสามี สามีต้องบอกว่าไม่ว่าง

แต่เหมือนบุตรสาวจะไม่รู้

“พ่อ หนูนึกแล้วต้องเป็นพ่อ จะกลับมาเมื่อไหร่ คอยอยู่นะแม่นะ”ป่วนคุยกับพ่อเสียงแจ๋ว อารมณ์ดี

“ไปเป็นนักเดาใจคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ฮึ”อาจารยวัชร์พูดขำๆ

“ไม่สักหน่อย ก็คุณนายของพ่อ เก็บอาการเป็นเมื่อไหร่”ป่วนพูด

“พูดมากอย่างนี้นี่เอง แม่ถึงบ่นบ่อยๆ”อาจารย์วัชร์กล่าวอย่างเอ็นดูบุตรสาว

“น่ะ พ่อเสร็จงานแล้วใช่ไหม”ป่วนเข้าเรื่องทันที

“อืม...ก็จะโทรมาบอกว่า...ยังทำงานอยู่นี่แหละ”อาจารย์วัชร์พูดเสียงอ่อย รู้สึกผิดที่กลับบ้านช้าในวันสำคัญ

“น่ะ แม่พ่อกวน ดูดิ”เด็กหญิงหันไปพูดกับพิม

พิมก็ซึมๆ นึกรู้ว่าสามีกลับช้าอย่างนี้ คงจะต้องติดงาน

“ขอโทษนะลูก พ่อยังติดงาน แต่พ่อไม่ลืมของขวัญ”

“ของขวัญของหนู ก็คือ แม่ กับพ่อนั่นแหละ แต่พ่อ..คงลืมไปแล้วใช่ไหม”เธอวางสายซึมๆ

ทันใดนั้นพิมก็หน้ามืดด้วยโรคหัวใจ เธอนั่งบนเก้าอี้

“แม่”ป่วนร้องเสียงหลง

เธอไปหาแม่ประคองไว้อย่างเป็นห่วง

“แม่ กินยายัง”ป่วนถามพิม หน้าป่วนเสียทันที เมื่อเห็นอาการของแม่

แม่เธอพยักหน้า เหนื่อยๆ

“หนูจะโทรบอกพ่อ”ป่วนว่า

สามีเธอรู้ว่าเธอเป็นโรคหัวใจ ตั้งแต่สามปีหลังจากที่ป่วนคลอด แต่ไม่รู้ว่าอาการเธอหนักทุกวัน

“อย่าบอก สัญญากับแม่ก่อนว่าจะไม่บอก”พิมว่า

“แต่แม่ ดูแม่ดิ แม่ไม่ไหวแล้ว”ป่วนไม่เชื่อจะบอกให้ได้

“แม่ไหว”แม่เธอพูดด้วยสีหน้า และน้ำเสียงจริงจัง

“เชื่อแม่ พ่อของลูกน่ะ กำลังพยายามอยู่”

 

 

วันหนึ่งที่ห้องแลปของอาจารย์วัชร์ พี่มนเพื่อนรุ่นพี่ของลูกศรก็บ่นเพราะงานมากมายเหลือล้น

ส่วนมิวก็กำลังบ้าเล่นเกมส์ซึมเครื่องบินอยู่

“โหย งานเร่ง คืนนี้ต้องดึกแน่เลย”พี่มนบ่นกับมิว

“โหพี่ก็ดึกทุนวันนะ ไมพึ่งมาบ่นอ่ะ”มิวบอกแต่ตายังมองหน้าจอ เล่นเกมส์ไม่หยุด

“ทำไรอ่ะ”พี่มนถามมิว มิวไม่ได้ยินตั้งหน้าตั้งตาเล่น

“มันบินอยู่พี่”ศรแกล้งแซวมิว

“เออ เล่นเกมซิมเครื่องบินอีกละ เค้าไปเล่นเกมส์อื่นกันหมดแล้ว”พี่มนว่ามิว แต่ไม่จริงจัง

“โห พี่เกมส์อื่นมันคิดตังค์นี่นา แล้วดีกอย่างนี้หาไรกินกันไหม”มิวเปลี่ยนเรื่องนึกหิวอยู่เหมือนกัน

“ไปกินร้านบุพเฟ่ ข้างมหาลัยไหม”พี่มนออกความเห็น

“เออ ใช่ ไปไหมพี่ศร”มิวบอกกับศร นึกรู้ว่าศรก็อยากเจอใครบางคน

“ไม่ ไม่อยากให้เจ้าของร้านรวย”ศรกล่าวงอนๆเมื่อนึกคงใครคนหนึ่ง

“แหมๆ ให้เค้ารวยๆไปเหอะ จะได้ไปขอใครๆของเขาไง”มิวแอบแซว แอบรู้ว่าชอบกันอยู่

“เออ ไปเหอะ ร้านนี้แหละ ฉันเลือกให้พวกแกเอง หิวแล้วนะเว้ย”พี่มนลงมติ

แต่ขณะที่ลูกศรกำลังเดินตามเพื่อนไป ป่วนก็เข้ามาหาเธอพร้อมพูดว่า

“พี่น่ะ บอกไว้ก่อนนะ อาน่ะคนจีบเยอะนะ ไม่กล้ากว่านี้ เดี๋ยวก็แห้วตลอดกาล”

“พี่... ไม่”ศรอึกอัก ปฏิเสธเด็กหญิง

“พี่ไม่ ไม่อะไรเหรอ ไม่ชอบ หรือ ไม่กล้า”ป่วนพูดแล้วเดินตามมิวไป ทิ้งให้ลูกศรคิดเรื่องในใจของเธอคนเดียว

 

เมื่อถึงร้านบุฟเฟ่ของไบรท์ พี่มนเห็นไบรท์มา ก็ทักทายตามประสาคนรู้จัก

“อ้าวไบรท์ ไปไงมาไงได้เนี่ย”

“ครับพี่ สบายดีนะครับ”ไบรท์ตอบพี่มนอย่างสุภาพ

“ฮึ..ไม่ค่อยอ่ะ งานหนักเลย แต่ก็ดีนะเนี่ยมีคนหาของอร่อยๆมาให้กิน”พี่มนแอบบ่นเรื่องตัวเอง

“เฮ้ยพี่ กินแล้วต้องจ่ายนะ พี่เค้าจะรีบหาเงิน”มิวพูดสองแง่สองง่าม

“โหยมันรวยอยู่แล้วจะเอาอะไรกับมันอีก”พี่มนพูดแซวเล่นๆ

“แหม บางเรื่องก็ต้องใช้เงินตัวเองนะพี่”มิวแซวอีกเช่นกัน

“สาวที่ไหน ใช่น้องเปอร์เซียที่คบกันตอนเรียนอยู่ปะ”พี่มนถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอรู้ข่าวมาว่าไบรท์กับน้องเปอร์อาจเคยคบกัน แต่มนไม่รู้ว่าจริงๆ ไบรท์ชอบคนใกล้ตัวนี่เอง

“....”พระเอกเขินๆขัดๆ

“โอ๊ยอาจจะคนไม่ไกลก็ได้พี่มน”มิวแซวนึกรู้เหมือนกัน

“เฮ้ยมิว ให้ไปๆเหอะ พี่มนหิวแล้วมั้ง”ลูกศรเปลี่ยนเรื่อง

“เดี๋ยวดิ ยังไม่ได้ตั้งเตาให้เลย”ไบรท์ขัดลูกศร

“โห ใจดีจังเนาะ เด็กเสิร์ฟก็มี”ศรว่า

“มี แต่พวกที่ทนๆ ลูกค้าปากมากได้ มีฉันคนเดียวไง...”พระเอกพูดค้อนๆ

“ไปๆ แก”ศรไล่ เพราะไม่รู้จะเถียงอะไร

“เออๆ  ไปหาไรกินกัน ตักได้เต็มที่เลยใช่ไหม”พี่มนถามไบรท์

“เต็มที่เลยพี่ โดยเฉพาะกุ้ง พวกผมเลี้ยงเอง เป็นนาเลย เด็กเอธิโอเปียที่ว่า ผอมๆ ก็อ้วนกลมได้”ไบรท์เล่นมุก

55 ไม่ใช่ชูชกนะพี่ไบรท์ หรือว่าพี่มนใช่วะ”มิวตลกแล้วแซวพี่มน

“อีนี่”พี่มนจิกมิว

ไบรท์เดินตามศรไป มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆ แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้น มันเป็นสายของอาจารย์วัชร์พี่ชายของเขาเอง

“ครับพี่ อ่อ..ป่วนอยู่นี้ครับ”

“ขอคุยหน่อย”อาจารย์วัชร์กล่าวหัวเสียเช่นเคย

“ยัยป่วน พ่อเรา”ไบรท์ยื่นโทรศัพท์ให้หลานสาว

“ไปไหนไม่บอกอีกแล้วนะ สั่งแล้วใช่ไหมไปไหนให้บอก”อาจารย์เสียงดังใส่ลูกสาว แต่ทั้งหมดเพราะห่วงลูกนั่นเอง

“พ่อหนูหิว บ่นทำไมเนี่ย”ป่วนแกล้งทำเป็นไม่รู้ พูดเรียบเฉย

“ฉันก็บอกแล้วไง ว่าเสร็จแล้วจะพาไป”อาจารย์เสียงดัง

“แล้วมันเสร็จยังอ่ะ ก็รออยู่นานมากล่ะนะ”ป่วนพูดเป็นนัยๆ

“ป่วน”อาจารย์วัชร์เรียกเสียงดัง

ป่วนส่งโทรศัพท์ให้อาของตัวเอง ขี้เกียจจะต่อความยาวกับผู้เป็นบิดา

“ครับพี่ อ่ออยู่กันหมดที่ร้านนี้ครับ ครับๆ ผมจะบอกให้”ไบรท์พูดกับพี่ชาย

ศรเดินมาหน้ายิ้มสุดๆไบรท์บอกธุระของพี่ชายกับหญิงสาวทันที

“เธอ พี่ฉันโทรหาเธอหลายครั้งแล้วนะ ไม่ได้ยินสัญญาณเหรอ”

“อ้าวเหรอ ซวยแล้ว จริงด้วย สิบสาย”ศรอุทาน หน้าเสีย

“พี่ฉันรอเธออยู่ ไปที่ห้องพักอาจารย์เหอะ”ไบรท์บอก พร้อมออกความเห็น

 

 

ที่ห้องอาจารย์อาจารย์วัชร์กำลังหัวเสียเรื่องบุตรสาวที่ไม่เชื่อฟังและอาจจะพาลหงุดหงิดมาถึงลูกศร

“คุณสอบเปิดเรื่องพรุ่งนี้แล้วไม่ใช่เหรอ”อาจารย์วัชร์พูดเสียงแข็ง ทันทีเมื่อเห็นหน้าลูกศร

“ค่ะ”ศรกล่าวสั้นๆ นึกรู้ว่าวันนี้จะโดนตำหนิ

“แล้วไหนไฟล์ที่คุณต้องส่งให้ผม”อาจารย์วัชร์ถาม

“ต้องส่งด้วยหรือคะ”ลูกศรถามอ่อยๆ เธอไม่รู้จริงๆว่าต้องส่งก่อน ก็ใครจะรู้ เธอพึ่งมาเรียนปอโทครั้งแรก

อาจารย์ถอนหายใจ เสียงแข็งขึ้น

“คุณคิดว่าไง ส่งสิครับ ถามหน่อย ผมต้องบอกคุณทุกอย่างเหรอ”

“ค่ะ ขอโทษค่ะ”ลูกศรขอโทษตามสไตล์เธอ

“คุณส่งไฟล์ให้กรรมการทุกคนเดี๋ยวนี้”อาจารย์วัชร์สั่งลูกศร

“แล้วกรรมการจะว่าไรหนูไหมค่ะ พึ่งส่ง”ลูกศรแอบกลัวเหมือนกัน

“ผมไม่ทราบ คุณไม่ส่งไฟล์ให้กรรมการดูก่อน เค้าอยากจะให้แก้ ให้ทำอะไร เค้าจะมาบอกคุณตอนนี้ทันไหมครับ”อาจารย์วัชร์เสียงดังหัวเสีย

“ค่ะ”ลูกศรรับคำ

อาจารย์ถอนหายใจ

“ไป ไปเดี๋ยวนี้เลย”

 

ทางด้านลูกศร เมื่อออกจากห้องอาจารย์เธอเดินคอตก เธอซึมทุกครั้งที่โดนตำหนิ

จากนั้นก็ไปนั่งคนเดียวในห้องแลป ไบรท์ มิว

“พี่ โอเคเป่า”มิวถามอย่างห่วงๆ

“...”เธอไม่ตอบ แต่ทำท่าอืออย่างเหนื่อยอ่อน

“เฮ้ย มิวมาช่วยพี่เซตตู้เผาหน่อย แม่งเป็นไรไม่รู้”พี่มนขอความช่วยเหลือมิว

“อือ ไปเดี๋ยวนี้”มิวบอก

“อย่าคิดมากเด้อ”มิวปลอบก่อนไป

“เออน่าแค่นี้เอง ทำงานกับพี่ฉันมันก็อย่างนี้แหละ”ไบรท์อยากปลอบ แต่ออกจะแรงไปนิด

“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย ฉันไม่เก่งเหมือนปากนายนะ”ศรพาลกับชายหนุ่ม

“อดทนดิวะ เดี๋ยวก็ชิน”ไบรท์พยายามปลอบ

ศรเริ่มน้ำตาไหล พร้อมพูดว่า

“ก็ไม่ชอบนี่หว่า โดนด่า ไม่ชิน และไม่คิดจะชินด้วย”ศรกล่าวทั้งน้ำตา พระเอกเข้าไปกอด

“เออๆ ไม่ชิน ก็ไปให้เขาด่าบ่อยๆ”ไบรท์กวนq

“ไอ้บ้าฉันไม่ได้ถึกอย่างนายนะ”ศรแหวใส่ไบรท์

“อ้าวอีนี่ อยู่ๆมาด่ากรูเป็นควาย เดี๋ยวโบกให้กลิ้ง”ไบรท์ว่า ศรทำท่ากลัวๆ ซับน้ำตา

“แล้วที่จะสอบ พร้อมยัง”ไบรท์กลับมาพูดดีอีก อดห่วงไม่ได้จริงๆ ก็คนมันรัก

“ไม่อ่ะ หลายอาทิตย์ก่อน อาจารย์ยังถามฉันอยู่เลย ว่าอาเทรียมทำไมมันไม่มีแรงผลัก”

“แล้วไง”ไบรท์ถามต่อ

“ฉันยังตอบไม่ได้เลย”ศรบอกหน้าเสีย

“เอ้า แล้วพรุ่งนี้ล่ะ”ไบรท์ถามต่ออีก

“ไม่รู้อ่ะ”ศรซึมไบรท์เห็นใจ แต่ก็คิดว่าศรควรจะพยายามกว่านี้ ไม่ควรยอมแพ้

 

ที่ห้องพักอาจารย์ อาจารย์ยังนั่งทำงาน ป่วนเคาะประตูห้องทำงานของพ่อเธอ

“เชิญครับ”อาจารย์ยังหงุดหงิด

ป่วนยังเห็นพ่อทำงาน ก็เคาะประตูแกล้ง

“เชิญครับ”อาจารย์หันไปเจอหน้าลูกหงุดหงิด แอบพาลลูกเพราะงานเหมือนกัน

“อะไรจะบ้าอย่างนี้”ป่วนพูดกับพ่อ

“พูดอะไรหือ”อาจารย์ว่าอย่างไม่เข้าใจ

เธอเดินไปที่แฟ้มที่เขียนว่าอาเทรียม

“อาเทรียมอีกละ นี่พ่อบ้าทำมันมาสี่ห้าปีแล้วนะ”ป่วนว่าพ่อตัวเอง

“ก็มันสำคัญไง ถึงต้องทำ”อาจารย์

“หนูไม่ใช่แม่นะ อย่ามาพูดอย่างนี้กับหนู”ป่วนสวนกลับ

“...”อาจารย์อึ้ง

“อาเทรียม สมบัติใหม่ที่เกิดจากสองหน่วยที่แตกต่างกันสุดขั้ว แต่มันต้องอยู่ด้วยกันไปตลอด แทบจะตลอดกาล มันไม่มีวันหลุดไปสมดุลนี้ โว้...พ่อคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ”ป่วนอ่านผลงาน แล้วออกความเห็น

“ใช่ หรือว่าแม้แต่เด็กฉลาดอย่างแกก็ไม่เข้าใจ”อาจารย์กล่าวพร้อมมองหน้าลูกสาวอย่างเสียใจ

“ไม่ อาเทรียมมันก็เหมือนความกลัวในใจพ่อนั่นแหละ”ป่วนเสียงดัง

“พ่อไม่ได้กลัว”อาจารย์เถียง

“พ่อกลัว!!!     พ่อโกหกว่ากล้า แต่ที่จริงพ่อกลัว พ่อไม่กล้าทิ้งคำสัญญาเหลวไหลของปู่”ป่วนกล่าวเสียงดังทั้งน้ำตา

“ป่วน ลูกมันไม่ใช่อย่างนั้น”อาจารย์บอกเสียงอ่อนโยน มองหน้าบุตรสาว

“คนขี้ขลาด”ป่วนว่าแล้ววิ่งออกไป

 

ทางด้านไบรท์ กับลูกศร ลูกศรตั้งใจจะนั่งแท็กซี่ไปส่งไบรท์ แต่เจอแท็กซี่คันเดิม

“นั่งแท็กซี่ไหม”ศรชวนชายหนุ่ม

“จะรีบไปไหน ไม่เดินอ่ะ”ไบรท์ปฏิเสธ พร้อมชวนเธอเดิน

“ทำไมอยากอยู่กับฉันนานๆเหรอ”ศรแอบแซว

“โห อยู่กับเธอนี่นะ น่ากลัวว่ะ เรียกแท็กซี่เหอะ”ไบรท์ตอบกวนๆ ทั้งๆจริง มันใช่อย่างที่หญิงสาวพูดทุกคำ

“นาย”ศรงอนชายหนุ่ม

ศรเรียกแท็กซี่ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นแท็กซี่คันเดิมที่มีเรื่องกับเธอในวันนั้น วันที่เธอจะตามไปส่งไบรท์ที่สุวรรณภูมิ

“พี่ ไปหอฝั่งตรงข้ามหน่อย”ศรเปิดประตูบอกแท็กซี่

“โหยส่งรถคุณ อ้าวเธอ”แท็กซี่กล่าว พร้อมตกใจเมื่อเห็นหน้าศร

“อ้าว โหถิ่นแกเหรอวะเนี่ย”ศรกล่าวอย่างหัวเสีย

“ไม่ไป”แท็กซี่จะขับหนี

“เดี๋ยว พี่คนนี้ให้สองพัน ไปไหม”ศรหมายถึงไบรท์

“เฮ้ย”ไบรท์อุทาน ไม่คิดว่าหญิงสาวจะแกล้ง

“งั้นก็ขึ้นเลยครับ”แท็กซี่ตอบรับทันที ลืมเรื่องบาดหมางทั้งหมด เพราะเงินเท่านั้น

“เออ น้อง วันนั้นไปสุวรรณภูมิทันไหม”แท็กซี่ชวนศรคุย

“อะไร”ศรทำท่ามึน แต่ไบรท์สนใจ

“อ้าว วันนั้นไง ทำท่าอย่างจะไปตามแฟน จะขึ้นรถพี่ให้ได้”แท็กซี่บอกไต๋ของศร หมดไส้หมดพุง

ไบรท์ยิ้มเมื่อได้ยิน ศรเห็นดังนั้น ก็แก้เขินทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“แล้วนี่ผัวใหม่เหรอ หน้าอย่างน้องเนี่ย หาใหม่ได้เร็วขนาดนี้เหรอ”แท็กซี่แซวกวนๆ

ไบรท์หัวเราะแอบคิดเหมือนกันว่าหญิงสาวขี้เหร่จริงๆ แต่นั่นไม่สำคัญสำหรับเขา ยังไงเขาก็รักอยู่ดี

“ผม ไม่ใช่ผัวเค้าครับ คิดอย่างพี่แหละ หน้าอย่างนี้ใครจะเอา”ไบรท์ตอบกวนๆ

“พี่นี่ตลกเนาะ ดีละเพื่อนหนูให้ทิปอีกสองพัน”ศรแกล้งไบรท์

“เฮ้ย”ไบรท์ทำหน้าเหรอหรา “เออพี่ถึงร้านผมล่ะ ส่งตรงนี้แหละ”ไบรท์บอกแท็กซี่

“พี่ ป้าคนนี้เขาถูกหวย เอาเป็นว่าไปเก็บยัยป้านี่นะ เค้ากลัวรวย”ไบรท์หมายถึงศร

“เฮ้ย”ศรตกใจ ไม่คิดว่าจะโดนเขาแกล้งกลับ

“ไปละ”ไบรท์ยิ้มให้หวานๆที แล้วเดินจากไป

comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน