11 พฤศจิกายน 2554 09:41 น.

***ดวงจันทร์-ดวงดาว วันเดียวดาย*** ( กลบททศประวัติ)

Hathaikarn

ดวงจันทร์เอ๋ย......เผยเด่น......เห็นอร่าม
ดวงจันทร์เอ๋ย......เผยงาม......ท่ามเวหา
ดวงจันทร์เอ๋ย......เผยหว่าง......กลางนภา
ดวงจันทร์เอ๋ย......เผยลา......ข้าหรือไร

ดวงจันทร์เอ๋ย......เผยพรุ่ง......รุ่งคืนแรม
ดวงจันทร์เอ๋ย......เผยแย้ม......มิแจ่มใส
ดวงจันทร์เอ๋ย......เผยเหงา......ร้าวทรวงใน
ดวงจันทร์เอ๋ย......เผยใจ......ใคร่ครวญลา

ดวงจันทร์เอ๋ย......เผยเปลี่ยว......เดียวโดดเด่น
ดวงจันทร์เอ๋ย......เผยเร้น......เช่นเมฆหนา
ดวงดาวเอ๋ย......เผยกล่าว......มิพราวตา
ดวงดาวเอ๋ย......เผยมา......เมฆาคอย

ดวงดาวเอ๋ย......เผยลบ......กลบกลายเกลื่อน
ดวงดาวเอ๋ย......เผยเดือน......เลื่อนเศร้าสร้อย
ดวงดาวเอ๋ย......เผยยิ่ง......สิ่งเล็กน้อย
ดวงดาวเอ๋ย......เผยหงอย......ไร้รอยจันทร์

ดวงดาวเอ๋ย......เผยเพื่อน......พร่าเลือนหาย
ดวงดาวเอ๋ย......เผยคล้าย......ตายจากฝัน
ดวงดาวเอ๋ย......เผยเหงา......เศร้าเหมือนกัน
ดวงดาวเอ๋ย......เผยนั้น......วันเดียวดาย

               ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔

                                                   กลบททศประวัติ (ศิริวิบุลกิตติ์)
                         ซ้ำ ๓ คำต้นวรรค คำที่ ๓ จะต้องเป็นคำว่า "เอ๋ย"
                                                    เปลี่ยนกระทู้ใหม่ทุก ๑๐ วรรค				
7 พฤศจิกายน 2554 18:14 น.

***คิดถึง "กระทงดอกไม้"***

Hathaikarn

คิดถึงซึ่ง,กระทง,ปีกลาย
เพื่อนหญิงเพื่อนชาย
ร่วมลอยเรียงรายริมคลอง

เพ็ญเดือนสิบสอง,น้ำนอง
เต็มตลิ่ง,บึงหนอง
แม่น้ำหลักรอง ล่อง,กระทง

ปีนี้,น้ำมาก,น้ำทรง
น้ำมายืนยง
ดำรงคงอยู่คู่นาน

กระทง,ขอขมา,สายธาร 	
นับแต่โบราณ
ในอดีตกาลก่อนเก่า

ปู่ย่าตายายต่างเล่า
เรื่องราวนานเนา
จุดธูปเทียนเผาเพื่อใคร

แสงพลุเรืองรองวิไล
สีสันไสว
ส่องคุ้งแควไกล, ใกล้ฝั่ง

กระทงดอกไม้ความหวัง
ขอพรพลัง
ขอขมา,ข้าพลั้ง,ผิดไป

พระแม่คงคานั้นไซร้
ประชา,ทุกข์ใจ
โปรดให้อภัยในกรรม

บางสิ่งล่วงเกินเพลินทำ
ไม่รู้สูงต่ำ
ดีชั่วถลำทำมา

ปีนี้น้ำนองครองนา
เต็มทุก,ตารางวา
พระแม่คงคาบันดล

วิงวอนขอพรสายชล
แหล่งน้ำทุกหน
ที่ท่วมล้นพ้นเอ่อนอง

จงไหลลงสู่,ทะเลทอง
มหาสมุทรสอง
ที่เคยเคียงครองคู่สม

ประเพณีเก่า,ที่นิยม
ประชาเคยชม
ร่วมสืบร่วมสานนานวัน

กระทงวิจิตร...มหัศจรรย์
จับจีบกลีบชั้น
พิถีพิถันฉันคอย

กระทงปีกลายแช่มช้อย
เพื่อนหญิงชายปล่อย
กระทงล่องลอยตามธาร

ขอพระแม่คงคา,บันดาล
กระทงกลอนกานท์
ลูกช้างวางสาส์นสืบคำ

ขอพรดังกลอนลำนำ
ทุกบทจดจำ
ข้าจะกระทำดีเอย

๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔				
5 พฤศจิกายน 2554 12:37 น.

กลอนกานท์...สาส์นน้ำตา

Hathaikarn

อาลัยในน้ำ...ช้ำในอก
หลังง้อคอตก...ยกข้าวของ
ตีกุญแจล็อก....ตอกตราจอง
ปิดบ้านร้านช่อง...ล่องเรือพาย

ออกเรือเพื่อย่าง...ทางข้างหน้า
หาปู่คู่ย่า....คือจุดหมาย
กลับนาป่าเขา...เฝ้าวัวควาย
มีตาติดยาย...คล้ายมารอ

อำลาเมืองกรุง...มุ่งกลับบ้าน
พื้นดินถิ่นลาน.....ย่านของพ่อ
แม่ดูข่าวคราว...น้ำตาคลอ
นั่งเหงาจดจ่อ....รอลูกยา

วันเสาร์อาทิตย์...จิตสับสน
เดินทางวกวน..ทนฝันฝ่า
ทุกถนนปิด...ติดน้ำมา
หยดใสในตา...ต่างล่วงริน

เสาร์อาทิตย์นี้..มิได้กลับ
หนทางเลื่อนลับ...ดับทุกถิ่น
น้ำหลากมืดมัว...ทั่วแผ่นดิน
ใจแถบแดดิ้น...สิ้นลมปราณ

เรือน้อยค่อยหัน...พลันทิศเก่า
มองดูน้ำเน่า...เศร้าอยู่บ้าน
ข้าวของเปียกปอน..ไปตามธาร
เหลือเพียงกลอนกานท์...สาส์นน้ำตา

๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔				
4 พฤศจิกายน 2554 17:45 น.

โลกเปลี่ยนสัตว์เปลี่ยน

Hathaikarn

โลกาภิวัตน์.....ซัดความโศก
จากมนุษย์โลก...วิโยคเปลี่ยน
ขาวเห็นเป็นดำ...คำของเซียน
พลิกหัวคั่วเหรียญ...เวียนกลับกัน

เส้นผมปริ่มไหม...ใช่บังเขา
พ่อแก่แม่เฒ่า....ต่างเล่าฝัน
ในอดีตขีดเรื่อง...เฟื่องโจษจัน
แสนสุขทุกวัน...ฉันและเธอ

วันนี้ที่เห็น..เช่นที่ว่า
ค่ำคืนตื่นมา...น้ำตาเอ่อ
ไหลอาบทาบแก้ม...แซมละเมอ
ความดีที่เพ้อ....เห้อ “อะไร”

หลายสิ่งยิ่งหาย...คล้ายแตกหัก
คลื่นซ้ำกรรมปัก...เสาหลักใหญ่
เรือน้อยลอยลำ....กลางน้ำไกล
เปรียบชั่วมั่วไป....ในทะเล

น้ำซัดพัดเรือ...เชื่อว่าแตก
กราดเกรี้ยวเชี่ยวแหลก...แยกหักเห
นอนบนชลอ่าว...ราวตังเก
หนุ่มสาวสรวลเส...เซลงกอง

ความคิดจิตนี้..ที่แตกต่าง
เรือเดินเพลินทาง...ทะเลสอง
เปรียบชั่วมั่วถึง...ซึ่งน้ำนอง
เป็นบึงเป็นหนอง...คลองกระจาย

เผยแผ่แพร่พันธุ์...นั่นทั่วถิ่น
สัตว์ร้ายคล้ายกิน..หินสลาย
น้ำลดปลาหมด...อดเจียนตาย
น้ำมาปลาหาย...ตามสายธาร

สัตว์เอยที่เผย...เปรยเปรียบว่า
มนุษย์มนา....น่าประหาร
ความเลวผุดผ่อง...ส่องสันดาน
หมดหมึกผลึกจาร...ขานขับคำ

สุดท้ายหมายความ...ตามที่กล่าว
คนหนุ่มกลุ่มสาว...ราวเลื่อนล้ำ
น้ำเฉื่อยเอื่อยไหล...ใครที่นำ
กลับบ้านลานช้ำ...กลืนน้ำตา

ทะเลเปรียบชั่ว....ทั่วไพศาล
เรือน้อยลอยนาน...สาส์นห่วงหา
โลกเปลี่ยนสัตว์เปลี่ยน...เวียนหมุนมา
ความเลวชั่วช้า...ข้าทุกข์ใจ.....				
3 พฤศจิกายน 2554 09:21 น.

ฟ้างามท่ามประชา

Hathaikarn

น้ำฝน...
    เธอมีสิทธิ์ที่จะหล่นเกลื่อนกล่นพื้น
    ที่จะพร่ำชุ่มฉ่ำยามค่ำคืน
    ที่จะฟื้นฟูป่าเมื่อลาใบ

         ที่จะส่งเสียงร้องทำนองสินธุ์
         ที่จะรินโรยร่วงสู่ห้วงไหน
         ที่จะตกบกธารพ้นผ่านไป
         ที่จะไหลรดหลั่งถึงฝั่งหิน

             ที่จะเลี้ยวเคียวคดเพื่อหยดน้ำ
             ที่จะร่ำร่ายลงดงกระถิน
             ที่จะพราวเม็ดขาวดั่งดาวดิน
             ที่จะบินโบกโบยหรือโปรยลง

                  ที่จะร่างรากฐานของลานป่า
                  ที่จะรักปักพนาที่พร่าผง
                  ที่จะสานธารแหลกแรกดำรง
                  ที่จะคงคลายร้อนเร่าผ่อนเย็น

                       ที่จะวาดโลกกว้างสร้างทางฝัน
                       ที่จะสรรค์โลกสวยอำนวยเห็น
                       ที่จะช่วยโลกฉ่ำยามจำเป็น
                       ที่จะเซ็นโลกนี้จนคลี่คลาย
               
                              เพื่อฟ้าสวยหลังฝนร่วงหล่นซ้ำ
                              เพื่อคืนค่ำจันทร์ส่องผ่องมิหาย                     
                              เพื่อตะวันทอแสงแสดงกาย
                              เพื่อเช้าสายฟ้างามท่ามประชา				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟHathaikarn
Lovings  Hathaikarn เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟHathaikarn
Lovings  Hathaikarn เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟHathaikarn
Lovings  Hathaikarn เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงHathaikarn