30 ตุลาคม 2547 18:07 น.

นางอิจฉา

ketana

ดั่งนางฟ้า จุติ นิมิตมา
จากนภา สรวงสวรรค์ ที่ชั้นไหน
เป็นเทวี คู่อุรา เทวาใด
นางถึงได้ งามซึ้ง ตรึงฤดี

เมื่อคราแรก ที่พบ จ้องสบตา
ปรารถนา คนึงหวล นวลฉวี
คอยหายใจ ไร้สุข ทุกนาที
หัวใจพี่ แทบวอดวาย มลายลง

เป็นนางเอก ในใจ ให้ฉันบ้าง
ความอ้างว้าง จางหาย คงไหลหลง
จิตระกำ เพ้อครวญถึง นวลอนงค์
ใจเจ้าคง สิ้นศรัทธา พาวกวน

ดวงหทัย เธอคง ทรนงนัก
ไม่เคยปัก รักใคร ได้สักหน
ทั้งที่เธอ งดงาม หวามกมล
แต่ไร้คน ข้างกาย หมายภิรมย์ 

วิปริต จิตใจ ให้ผันแปร
ไร้รักแท้ ฤทัยนาง ช่างขื่นขม
คงห่างชาย ร้างคู่ เป็นชู้ชม
จิตเจ้าบ่ม ริษยา อิจฉากัน

เป็นขวากหนาม ตามตำ ให้ช้ำชอก
มาแกล้งหลอก ผลุบโผล่ โอ้จอมขวัญ
จะอิจฉา กันไป ถึงไหนกัน
กระทั่งฝัน ยังรังควาน ผลาญหัวใจ

เห็นดอกรัก บานที่ไหน ไปถากถาง
คอยขัดขวาง เกินคน จะทนไหว
ให้เหมือนตัว เวียนวน คนไร้ใจ
แล้วเมื่อใด จะเลิกคิด ริษยา

คงเป็นกรรม ทำมา แต่คราก่อน
จึงมาย้อน ให้เธอวาด ปรารถนา
พรหมลิขิต ขีดเส้น เกณฑ์ชะตา
ให้เกิดมา อิจฉา ทุกชาติไป 
 
หวังพระธรรม คำสั่งสอน วิงวอนว่า
โปรดเถิดหนา เพื่อนาง ปล่อยวางได้
รู้ถูกผิด สมาทาน วานเห็นใจ
เผื่อวันใด หน้ามน พ้นทรมาน 
				
28 ตุลาคม 2547 00:02 น.

เก็บเอาไป

ketana



อย่ามาวุ่นวายกับฉัน
เก็บความฝันของเธอไว้
ความปรารถนาคืนไป
มันไม่ใช่สำหรับฉัน

หรือธูปดอกสุดท้าย
ก็อย่าหมายจะได้มัน
โปรดเถิดจงลืมกัน
ไร้นิรันดร์แห่งสองเรา

ปล่อยฉันไปได้ไหม
อย่าให้ร้ายใจคงเศร้า
หมองหม่นทนปวดร้าว
ความหลังเก่าเฝ้าหลอกหลอน

ความจริงใจอยู่ไหน
เธอบอกไว้ซบหลบซ่อน
ถ้าหากยังอาวรณ์
อย่ามาหลอนด้วยวาจา

อนิจจาฟ้าใหม่
หวังดั่งใจปรารถนา
เธอไปให้ไกลตา
อย่ากลับมาหาอีกเลย
				
20 ตุลาคม 2547 23:33 น.

เรือข้ามฟาก

ketana


ดั่งเรือน้อย ทอดสมอ รอที่ท่า
เที่ยวอาสา พาคนข้าม ตามธารฝัน
บ้างก็ถึง จุดหมาย ปลายทางทัน
บ้างไม่ทัน ก็เก้อ เพ้อพรรณณา

บ้างบาดเจ็บ เหน็บความช้ำ นำมาด้วย
ขอให้ช่วย ข้ามฝั่ง หวังรักษา
รอยแผลลึก ทั่วกาย ในอุรา
หวังเยียวยา ให้หายคืน ฟื้นชีวี

บ้างก็รีบ ร้อนรน จนตกน้ำ
บอกให้จ้ำ ข้ามไป ให้เร็วรี่
มีความหลัง ครั้งเก่า เฝ้าราวี
เหมือนหลีกลี้ หนีความหลัง ที่ฝังใจ

ถึงฝั่งฝัน เรือน้อย ค่อยคืนท่า
พายกลับมา รอคนข้าม ตามฝันใฝ่
คอยเวียนวน ถึงเหนื่อยล้า ก็พาไป
หนักเพียงไหน ใกล้ไกล ไม่เคยบ่น

ในบางเที่ยว เรือไหวเหวี่ยง เอียงวูบวาบ
จนถึงกราบ ขนาบไป ใกล้สายชล
ผู้โดยสาร มากมาย หลากหลายล้น
เกินจะทน เกือบอับปาง แทบวางวาย

เรือข้ามฟาก ฝากถึง คนโดยสาร
ยามเมื่อท่าน ถึงฝั่ง ดังใจหมาย
ถีบเรือส่ง จะให้ล่ม จมวอดวาย
คิดทำลาย เพื่อไม่ให้ ใครตามมา
				
16 ตุลาคม 2547 01:11 น.

ท่าสุดท้าย

ketana



ดั่งสำเภา กางใบ ในนที
ตามวิถี ทางกรรม นำชีวา
ผ่านเกาะแก่ง แข่งกับลม พรหมพัดพา
หรือเทวา แกล้งทำ ช่างกระไร

ฝ่ามรสุม คลื่นกระหน่ำ ลำนาวา
บนธารา แห่งชีวิต ลิขิตไว้
ทนลำบาก ยากเย็น ใครเห็นใจ
ลอยล่องไป ในกระแส แม่คงคา

ผ่านท่าไหน ไม่มี ที่ให้จอด
จนแล้วรอด จนสายโยง กระโดงล้า
จึงเก็บใบ ให้ลอยไป ในธารา
รอเวลา พบศาลา ท่าพักใจ

ล่องเรือผ่าน ร้อยเอ็ด เจ็ดย่านน้ำ
ทะเลดำ ทะเลแดง ทะเลไหน
ทะเลขาว ทะเลดาว ทะเลใจ
ล่องลอยไป เคว้งคว้าง ร้างแรมรอน

ยามทะเล คลุ้มคลั่ง หวังใช้เกาะ
ค่อยค่อยเล่าะ หาเงา เข้าพักผ่อน
หวังอาศัย ขุนเขา เข้าแอบนอน
เมื่อลมอ่อน ค่อยล่อง ท้องชลา

จึงตั้งเข็ม เบนหัวเรือ เพื่อจำจาก
ลมกระชาก พัดใบ ไกลภูผา
ฉุดสำเภา แล่นลิ่วลง หลงธารา
มาถึงท่า เจียนจม ล่มละลาย

ทอดเสมอ ขออาศัย พึ่งใบบุญ
โปรดการุณ หนุนหวัง ครั้งสุดท้าย
จะเทียบท่า ขอเป็น เช่นเรือนตาย
เป็นที่หมาย ชายคา ท่าพักใจ
				
12 ตุลาคม 2547 02:29 น.

ฟ้าใหม่ หัวใจเดิม

ketana



บนวิถี ของคน ถนนชีวิต
บางครั้งผิด พลาดพลั้ง ครั้งยังเผลอ
เมื่อก้าวมา หยุดทำ เหมือนพร่ำเพ้อ
เดินละเมอ ตามกรรม ที่นำเรา

ละอองฝน ใกล้หมด หยดสุดท้าย
ชำระกาย ล้างใจ ให้หมดเศร้า
ล้างคราบไคล เคยพินพัง ความหลังเก่า
ล้างใจเรา รดกาย หายโศกตรม

เมื่อฟ้าเปิด เกิดพลัง ความหวังอีก
เสี้ยวกะผีก ซีกหทัย ได้สุขสม
เคยก้มหน้า เงยมองฟ้า น่าอภิรมย์
เมฆสีหม่น ปนหมอก ออกจากใจ

ชีวิตใหม่ เริ่มต้น เมื่อฝนซา
เรี่ยวแรงล้า กล้าฝืน ขืนเอาไว้
เปิดประตู สี่ห้อง ของหัวใจ
กุญแจไข ลั่นดาน บานประตู

อยากรักใคร ก็จะรัก ปักใจหมาย
ไม่เสียดาย หัวใจ หายอดสู
จะคอยคน ร่วมสร้าง หวังเชิดชู
คอยมาอยู่ คู่หทัย ในบั้นปลาย

ขอไขว่คว้า หวังใหม่ อีกสักหน
จะยอมทน สู้อีกครั้ง ยังไม่สาย
ขอสลัด ปัดเอา เศร้าเดียวดาย
ถึงดีร้าย จะหมายปั้น ฝันภิรมย์				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
  ketana
ไม่มีข้อความส่งถึงketana