28 ธันวาคม 2547 21:41 น.

ไปเถอะไป

ketana

อย่าดูหมิ่น เชิงชาย ให้อายเขา
อย่าได้เอา หัวใจ ใครล้อเล่น
แม้นลำบาก ยากจน ทนลำเค็ญ
เพราะแค่เห็น สนุกนึก คึกคะนอง

หาใช่ผู้ วิเศษ ด้วยเดชฤทธิ์
เพราะชีวิต ต่างคน ต่างหม่นหมอง
ไม่โทษฟ้า โกรธสวรรค์ มิหันมอง
จะสมปอง ทุกอย่าง นั้นไม่มี

อยู่อย่างนี้ ภูมิใจ ไม่เคยท้อ
มิได้รอ โชคชะตา เสริมราศี
มีความสุข กับสิ่งนั้น ที่ฉันมี
ในฤดี มิหลอกลวง ล่วงเกินใคร

แม้สิ่งใด ก็พร้อม ยอมถวาย
ทั้งใจกาย น้อมนำ จำได้ไหม
หากราคา ค่านั้น น้อยเกินไป
มากเท่าไหร่ ถึงจะพอ ขอสักคำ

หรือเพราะไม่ คู่ควรกัน จึงหันเห
ทำเกเร เที่ยวเหน็บ ให้เจ็บช้ำ
ทนไม่ไหว หรือใจไม้ ไส้ระกำ
คอยเหยียบย่ำ พร่ำมา ว่าฉันจน

ฉันเป็นฉัน ต่ำต้อย ด้อยค่านัก
แค่ความรัก  หาญหัก กันสักหน
ทรมาน ร้าวราน อย่าทานทน
ไปให้พ้น หาคนดี ที่คู่ควร
				
28 ธันวาคม 2547 20:04 น.

ขอพระคุ้มครอง

ketana


มหันตภัย ในสายน้ำ
โหมกระหน่ำ ซ้ำมนุษย์
ทนทุกข์เข็ญ เป็นที่สุด
มายื้อยุด ฉุดวิญญาณ

แม่คงคา ท่านโกรธเกรี้ยว
คลื่นเป็นเกลียว สูงตระหง่าน
ซัดชายฝั่ง จนแหลกราญ
ทรมาน ชาวประชา

ขอวิงวอน เพื่อนร่วมชาติ
จิตมุ่งมาด ปรารถนา
จงช่วยกันซับน้ำตา
ด้วยศรัทธา ทั้งหัวใจ

ขออุทิศ ส่วนกุศล
จงบันดล บันดาลให้
ผู้ที่พบ ประสบภัย
พระรัตนตรัย โปรดคุ้มครอง				
18 ธันวาคม 2547 12:24 น.

สมดุลย์

ketana

เอาความสุข ใส่แอก แบกขึ้นบ่า
ลากมันมา ตามทางลาด บาทวิถี
หลบหลีกเลี่ยง เกี่ยงเศร้า เหงาฤดี
อยากมุ่งมี แต่สุข ทุกข์ไม่เอา

คอยเลือกแต่ ชื่มชม โสมนัส
ที่ข้องขัด ไม่นำ ทำโง่เขลา
จะบ่ายเบี่ยง อย่างไร ไม่พ้นเรา
ต้องเก็บเศร้า ไปบ้าง สร้างสมดุลย์

มีหรือที่ ภิรมย์ สมใจนึก
ลองนั่งตรึก ตรองกัน มันว้าวุ่น
ไม่เลือกรรม หวังค้ำ นำแต่บุญ
จงคิดครุ่น มองย้อน สอนหัวใจ

เลยต้องเอา ทุกข์ใส่ ที่ไหล่ขวา
ลากมันมา กับแอก แบกให้ไหว
สู่หนทาง ชีวิต อีกยาวไกล
สุขทุกข์ใจ เก็บไว้ ไปด้วยกัน

เหมือนทรงตัว บนกระดาน ผ่านห้วยหนอง
ข้ามคูคลอง ไปได้ ดั่งใจฝัน
ประคองย่าง สร้างสมดุล ศูนย์ถ่วงกัน
ให้แม่นมั่น ค่อยวางเท้า แล้วก้าวเดิน  
				
15 ธันวาคม 2547 01:35 น.

ซบ

ketana

ห่างกันไม่ เท่าไหร่ แค่ปลายฟ้า
ผืนนภา กั้นขวาง ทางเอาไว้
ไม่เกินกว่า คิดถึง พึงข้ามไป
ฝากลมให้ พิทักษ์ รักของเรา

คำหวานชื่น แผ่วหาย กลายเป็นขม
หรือพระพรหม เสแสร้ง แกล้งให้เหงา
เพียงพระพาย โบกสะบัด ก็พัดเอา
ซึ่งความเศร้า แทนรำพึง คิดถึงเธอ

ธารน้ำตา ถาโถม โหมกระหน่ำ
หทัยช้ำ กายมันเก็บ เจ็บเสมอ
เหมือนวิงวอน อ้อนคำ พร่ำละเมอ
นั่งคอยเก้อ ทั้งทิวา และราตรี

เปิดหัวใจ เธอหน่อย ช่วยคอยรับ
เพียงสดับ ได้ไหม อย่าหน่ายหนี
ความห่วงหา อาทร ซ่อนวจี
จากฟ้านี้ ถึงสุดหล้า ว่ามีใคร

นิททรารมณ์ ขมขื่น สะอื้นหา
ในอุรา เทิ้มสั่น มันหวั่นไหว
หนาวสะท้าน ไม่หาย ทั้งกายใจ
โศกาลัย กับหมอน ก่อนหลับตา				
11 ธันวาคม 2547 20:01 น.

เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

ketana

เพราะดวงจิต พิสมัย ในสันโดษ
มิเคยโกรธ พรหมลิขิต ชีวิตฉัน
ข้ามเวลา ผ่านขมขื่น ทุกคืนวัน
หรือสุขสันต์ จดจำ เพียงลำพัง

ความสนุก ด้วยสลับ จับอักษร
เป็นบทกลอน เรียงถ้อย ร้อยความหวัง
คราวแห้งแล้ง หัวใจ ไร้พลัง
ช่วยรินหลั่ง พอชุ่มชื่น ฟื้นชีวา

  สหายบางคน บนถนนของคนอยากเขียนด้วยกัน
เคยถามผมว่า
ทำไมไม่เขียนเรื่องที่จบลงด้วย ความสนุกสนานบ้าง
มีความสุขบ้าง ทำไม
เพราะว่าความทุกข์นั้น มากมายบรรยายไม่หมด
แต่ความสุขมันน้อยนิด จึงอยากเก็บมันไว้ข้างใน ลึก ลึก
กลัว ไม่อยากให้ใครรับรู้
กลัว จะถูกแย่งมันไป กลัวจะถูกแบ่งปัน

สะบัดปลาย ปากกา เหว่ว้าจิต
ยังคงติด ความช้ำ ร่ำเรียกหา
ผ่านร้อยแก้ว เรียงถัก อักษรา
ปรารถนา เขียนบรรยาย คลายอารมณ์

วนเวียนว่าย เวิ้งฝัน วรรณกรรม
ร้อยลำนำ บทนิยาม ความขื่นขม
จะมีบ้าง สุขเลือนลาง วางบนตรม
เหมือนคอยบ่ม ความแกร่ง แห่งหัวใจ

ยิ่งผ่านร้าย เรื่องราว ร้าวกี่หน
จะหมองหม่น อกแตก แหลกแค่ไหน
เมื่อสักวัน ทุกข์ดับ มองกลับไป
สิ่งยิ่งใหญ่ คือเรานั้น ผ่านมันมา
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
  ketana
ไม่มีข้อความส่งถึงketana