28 กุมภาพันธ์ 2550 05:35 น.

ยาขนานเอก

pigstation

เรือนร่างนั้นลดรูปลงไปกว่าเดิม แต่จิตใจนั้นเล่าค่อยเยือกเย็น จนอาจถึงขั้นสุขุมคัมภีรภาพ
การงานนั้นหรือ เห็นถึงมุมมองที่กำลังเล็งถึงองค์กรในรูปโฉมใหม่ อาจก้ำกึ่งระหว่าง ความหรูหราสวยงามน่าชม กับ ความสะดวกสบายตามแต่อัตภาพ
สิ่งเหล่านี้ ต้องใช้สมการนาฬิกากับดัชนีปฏิทินพิสูจน์ถึงทฤษฎีบทส่วนบุคคลในการทำงานเพื่อรัฐกิจ
หากองค์กรหนึ่งในชุมชนของสังกัดเรา   ต้องกัดกินกันเองแล้วจะคงอยู่ได้อย่างไร ?
ลำพังแค่ทรงสภาพเดิมก็ง่อนแง่น
มีบ้างไหมที่ทุกหน่วยย่อยของเรือนร่างหน่วยงานของเราจะได้ยาขนานเอกไปบำรุงรักษาอาการแบ่งแยกทางความคิด
ทั้งที่จริงอุดมการณ์ที่แท้จริงจะไม่มีหลายขั้วเหมือนแบตเตอรี่มือถือ
แล้วอุดมโกงอะไรเล่าที่คดงอฉ้อฉลในกระบวนการทำงานเพื่อสาธารณประโยชน์
รอวันให้ใครสักคนปรุงยาขนานเอกให้เสร็จสักหม้อหนึ่งจะเอาไปกรอกพวกผีดื้อยาให้หายสิ้นซาก
เหมือนเสกเนื้อร้ายให้กลายเป็นเนื้อดี เพื่อสุขภาพขององค์กรจะได้แข็งแรง มีสมรรถนะในการสร้างสรรค์สุขภาพชุมชน				
28 กุมภาพันธ์ 2550 05:34 น.

สมุนภัย

pigstation

แผ่นหลังของคุณช่างโอ่โถง แผ่แบนได้รูปโค้งมน น่าจะเอาอะไรไปแทงข้างหลังคุณดูสักฉึก สองฉึก
เก้าอี้ที่คุณนั่งอยู่นั้นก็มีขาเก้าอี้ตั้ง 4 ขา เหลือเฟือ ถ้าจะเลื่อยขาเก้าอี้คุณเล่นก็คงไม่เป็นไรหรอก




นโยบายที่คุณสั่งการมาก็ดีมาก แต่ถ้าลองฝ่าฝืนนโยบายแล้วทำตามนโยกูก็คงสบายใจกว่า
ประชุมกันหรือไร  คงไม่ต่างจากการยุทธหัตถีทางน้ำลายมากกว่า มติที่ประชุมจริงไม่เกิดผล เพราะใครจะปั้นน้ำ(ลาย)เป็นตัวได้ล่ะ คุณ
ขนหน้าแข้งคุณมีดกดำ คงไม่ร่วงไปกี่มากน้อยหรอก ขอสักหน่อย แผล็บ ๆ จากสอพลอ โปรดั๊กชั่น
การอดออมเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้นวันหนึ่งกินแค่สองชามตอนเช้า ตอนเย็นก็น่าจะเพียงพอแล้ว จริงไหม คุณ
ขอให้คุณจงเป็นผู้นำต่อไป ส่วนผู้ตามนั้นแม้จะพากันไปสู่ความหายนะก็ไม่สำนึก เพราะสมุนภัยคือวัชพืชองค์กรทุกสถาน.				
28 กุมภาพันธ์ 2550 05:32 น.

แพทย์ทางเลือก/ทางเลือกแพทย์

pigstation

อาจเป็นเรื่องสั่นสะเทือนวงการแพทย์ได้ หากบุคลากร
ในสังกัดต้องถูกจิกกัดจากลมปากคนในสังคมมายา
แล้วความเป็นจริงในเนื้อตัวของตัวเองนั้นเล่า
ใครเขาจะมาแยแสใส่ใจ
ทำงานเต็มเวลา เรียนมาจนได้ปริญญา ภาษีก็เสียครบ
ทุกบาททุกสลึง
แล้วทำไมจะแสดงออกมาอย่างใจปรารถนาไม่ได้
ใครมันมาสวมหัวโขนให้วิชาชีพอย่างเราต้องมีมาด มีฟอร์ม
ทั้งที่ก็คนเหมือนกัน
แสนอึดอัดนัก จนไม่รู้จะอยู่เพื่อใครกันแน่
พ่อ แม่ก็จากลาไปตั้งแต่อายุสามสิบแล้ว เหลือแต่ญาติผู้ใหญ่
กับญาติปากปีจอที่คอยติติง
ความรักมันมีเพศด้วยหรือ ?
ตามหลักกายวิภาคหัวใจมันมีตัวผู้ ตัวเมียด้วยหรือ ?
สงสัยไปทำไม เมื่อหัวใจมันร่ำร้องก็ต้องปลดปล่อยออกไปให้สมกับเกิดมาเป็นคนชาติหนึ่ง
เมื่อเวลางานที่รับผิดชอบหมดไป ต่อไปก็เวลาส่วนตัวที่ต้องรักสนุก
แพทย์จะเพลย์บอยไม่ได้หรือ ?
หรือจะอนุญาตให้แต่ดารา นายแบบหนุ่ม เท่านั้น
พยาบาลจะเซ็กซี่อะร้าอร่ามไม่ได้หรือ ?
หรือจะให้น้องหยาดราชปาล น้องเป้ยปานวาด อึ๋มส์เท่านั้น
แล้วการงานที่หนาหนัก ตึงเครียดเล่าจะให้แบกไว้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กิริยาเคร่งครัดอยู่ตลอดเลยหรือ
อย่าให้เส้นประสาทต้องขมึงเกลียวเลยในวิชาชีพแห่งเกียรติยศอันเมตตาปราณีที่ต้องต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่ต้องทุ่มเทใจนับวินาทียื้อยุดกับพญายม

หมอก็มีหัวใจและฮอร์โมนที่ตามแต่โครโมโซมกำหนดในรหัสพันธุกรรม
ก็มันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิดแล้วนะยะ..

( อุทิศให้กับกรอบมโนทัศน์แบบนิวตันที่แข็งเป๊ก ด้วยความเห็นใจในเพศที่สาม แพทย์นะยะ/พยาบาลทอมกับเจอรี่/เภสัชเกย์ )				
24 กุมภาพันธ์ 2550 23:21 น.

อ่านแฮรี่ พอตเตอร์แล้วอยากเขียนหนังสือกันไหม ?

pigstation

หลายคนคงเคยทั้งอ่านหนังสือเรื่องแฮรี่  พอตเตอร์ พ่อมดน้อยมหัศจรรย์กับทั้งดูภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ถือว่าเป็นโชคดีสองต่อ เพราะเวลาเราอ่านหนังสือนั้นจะทำให้เรามีสมาธิและจินตนาการถึงตัวละครและเรื่องราวตามที่ผู้เขียนได้บรรยายไว้ 
ซึ่งการชมจากภาพยนตร์ก็จะสร้างความเพลิดเพลินสนุกสนานในแสง สี เสียง ที่ผู้กำกับภาพยนตร์ตั้งใจนำเสนออย่างสุดฝีมือ
	แต่ก็น่าเสียดายเพราะบางคนไม่ยอมอ่านหนังสือแฮรี่  พอตเตอร์เลยแม้แต่เล่มเดียว คอยแต่รอดูภาพยนตร์ ทำให้อดรู้ถึงความมหัศจรรย์ในเวทมนต์ของพ่อมดน้อยคนนี้ไม่ครบถ้วน เพราะการฉายภาพยนตร์นั้นใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษก็ต้องจบเรื่อง 
เนื่องจากการสร้างภาพยนตร์แต่ละครั้งต้องใช้เงินมหาศาลเป็นร้อยๆล้านบาท  จึงต่างจากหนังสือเล่มหนึ่งที่เราจะอ่านตอนไหนก็ได้ ตอนไหนไม่เข้าใจ หรือเราลืมไปว่าตอนที่ผ่านมาแล้วเป็นอย่างไรก็สามารถพลิกกลับไปอ่านใหม่ได้
	ความเป็นจริงแล้วผู้เขียนหนังสือแฮรี่  พอตเตอร์ใช้กระดาษธรรมดาๆที่ไม่แพงเหมือนฟิล์มถ่ายภาพยนตร์เลยในการเขียนเรื่องราวนี้ด้วยลายมือของเธอ  แต่ด้วยความตั้งใจจริงบวกกับจินตนาการที่ผู้เขียนซึ่งเป็นคุณครูสอนเด็กมาก่อน จึงมีประสบการณ์เกี่ยวกับการอ่านมามากมาย และรู้ลึกซึ้งถึงความใฝ่ฝันในใจของเด็กน้อยทุกคน
	ด้วยเหตุนี้ เจ เค โลวริงจึงได้รับความสำเร็จอย่างท่วมท้น และมีรายได้จากยอดขายหนังสือแฮรี่  พอตเตอร์ทุกๆตอนที่มีความหนาหลายร้อยหน้าวางแผงขายได้เงินร้อยล้านบาทเลยทีเดียว
	เด็กหลายๆประเทศต่างสนุกสนานที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก่อนจะมีภาพยนตร์มาให้ชมภายหลัง และตอนนี้มีเด็กๆหลายคนรับแรงบันดาลใจจากคุณครูผู้มากด้วยจินตนาการที่แสนสนุกสนานหมั่นฝึกปรือการเขียนนิยายผจญภัย  เขียนนิทานสอนใจลงในอินเตอร์เน็ต  จนบางคนได้รับการติดต่อจากสำนักพิมพ์ขอซื้อผลงานการเขียนไปตีพิมพ์จำหน่าย และขายดีเสียด้วย
	เราคงจะเห็นแล้วว่า การอ่านนั้นอาจให้ทั้งความเพลิดเพลิน และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้ลุกขึ้นมาเขียนหนังสือกันอย่างสร้างสรรค์
	ไม่แน่สักวันข้างหน้า...เราอาจได้เป็นนักเขียนชื่อดัง รายได้ดี  ใครจะรู้ ?				
24 กุมภาพันธ์ 2550 22:57 น.

“ห้องสมุดคือธนาคารความรู้ของโรงเรียน”

pigstation

เราคงรู้จักกันดีว่า ธนาคารนั้นคือสถานที่ฝากและถอนเงิน แต่ก่อนที่เราจะถอนเงินจากธนาคารได้นั้นเราต้องมีเงินฝากก่อน ซึ่งเราต้องทำงานเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่าของเงิน เพราะถ้าเราใช้เงินอย่างไม่ประหยัดแล้ว เราอาจต้องกู้ยืมเงินเป็นหนี้ธนาคาร ต้องเสียดอกเบี้ยให้ทุกธนาคารทุกงวด  และธนาคารก็ไม่ใจดีให้เราในการผัดผ่อนหนี้สิน ทางที่ดีเราต้องยึกหลักประหยัดและอดออมไว้จึงจะเกิดผลดีต่อตัวเราที่สุด
	แต่ยังมีธนาคารอีกประเภทหนึ่งที่อยู่ในโรงเรียนของเรา นั่นคือธนาคารความรู้ หรือ ห้องสมุดนั่นเอง เพราะธนาคารความรู้แห่งนี้มีหนังสือมากมายหลายประเภทให้เราเบิกอ่าน เพื่อช่วยเสริมสร้างความรู้ให้เราได้รอบรู้กว้างขวางยิ่งขึ้น
	หากเรามีเวลาว่างควรจะเข้าห้องสมุดแทนการวิ่งเล่นหรือคุยกันสนุกสนานไปมาอย่างไร้สาระ เพราะเรามีวิชาพละศึกษาให้เราได้ออกกำลังกายอยู่แล้ว ซึ่งการใช้ห้องสมุดนั้นถือว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเราและจะมีส่วนช่วยให้เราเรียนเก่งขึ้น มีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆในโลกเรามากขึ้น
	มีคนเก่งหลายคนอย่างเช่นคุณหญิงหมอพรทิพย์  ก็เป็นบุคคลที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือเป็นพิเศษ  และสามารถเขียนหนังสือออกมาได้ด้วยความสามารถจากการทำงานอย่างเสียสละ หนังสือที่คุณหญิงหมอพรทิพย์เขียนนั้น ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมจากผู้อ่านเป็นอย่างดี  เพราะหนังสือของคุณหญิงหมอพรทิพย์นั้นจะให้คติสอนใจเรื่องความอดทน,ความเสียสละ และความยุติธรรมให้ผู้อ่านได้ยึดถือเป็นตัวอย่างในการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี
	สำคัญที่สุดจะหาที่ใดในโลกนี้เหมือนเมืองไทยของเราที่มีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พระผู้มากด้วยพระอัจฉริยภาพทั้งการสนพระทัยในการทรงอ่านหนังสือของทุกชาติทุกภาษาด้วยพระประสงค์นำความรู้เหล่านั้นมาพัฒนาประเทศชาติของเรา
	อีกทั้งพระราชนิพนธ์จากพระองค์ท่าน เป็นเสมือนธนาคารความรู้ที่ให้คุณประโยชน์อเนกอนันต์  หากเราปรารถนาจะเป็นคนดีของชาติบ้านเมือง การอ่านหนังสือในพระราชนิพนธ์ถือได้ว่าเป็นมงคลชีวิตอย่างยิ่งที่จะน้อมนำให้เราได้มีประทีปส่องทางให้ไปสู่อนาคตที่ดีงามได้
	ดังนั้น ห้องสมุดคือธนาคารความรู้ของโรงเรียนเรานั้น คงไม่เงียบเหงาเกินไปในวันนี้ เพราะเราจะเป็นลูกค้าที่ดีของธนาคารความรู้แห่งนี้ เพราะคุณครูบรรณารักษ์ของห้องสมุดก็ยินดีจะให้เราเบิกถอนความรู้อย่างเต็มใจยิ่ง
	เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว.....ไปธนาคารความรู้กันเร็วๆไวๆอย่ามัวชักช้า.				
Lovers  0 คน เลิฟpigstation
Lovings  pigstation เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟpigstation
Lovings  pigstation เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟpigstation
Lovings  pigstation เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงpigstation