4 ตุลาคม 2549 17:32 น.

อาศิรวาทมหาราชภูมิพล

กรวิกสีม่วง

ยอกรก้มเกศเกล้าเผ่าไอศวรรย์		พระทรงธรรม์ภูมิพลสกลเสถียร
ร้อยเลบงต่างดวงมาลย์พานธูปเทียน		วาระเวียนบรรจบครบอีกครา
แผ่นดินวางต่างพาดกระดาษพื้น		พฤกษาดื่นทั่วแคว้นแทนภาษา
ประดับประดิษฐ์วิวิธอรรถวัจนา			ปวงเหล่าข้าฯแซ่ ซ้องสรรเสริญคุณ
ธ ทรงสรรค์เสกสร้างทางไสว		ทุกถิ่นไทยทรงเอื้อ ธ เกื้อหนุน
ให้ร่มเย็นวัฒนาด้วยการุณย์			ยิ่งวิบุลย์พ้นวิบัติสวัสดิ์ไทย
ยากจะสรรคำใดในเขตด้าว		เกริกอะคร้าวองค์บพิตรพิศิษฏ์สมัย
ชนทั้งชาติภิวาทพร้อมน้อมดวงใจ			คุณเกริกไกรมหาราชชาติบูชา
	ขอพระองค์ทรงพระเจริญถ้วน		สราญล้วนทรงเกษมพระพรรษา
ครองสมบัติไอศวรรย์อนันตา			พระบุญญาแผ่ภพจบถิ่นไทย
	ปวงข้าฯ น้อมสำนึกระลึกมั่น		ขอทรงธรรม์จงสวัสดิ์นิรัติศัย
พระบุญบารมิ์แห่งองค์พระทรงชัย			จุ่งปกป้องผองไทยนิรันดร์เทอญ ฯฯ

						ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ				
4 ตุลาคม 2549 17:31 น.

วีระชาติ ศิริไกรวัฒนาวงศ์

กรวิกสีม่วง

วี		สติพรหมภาคย์พื้น		ดาลอุบัติ
ระ		ยับระยิบวิบวาม		เก็จแก้ว
ชาติ	เชื้อเช่นชนชคัต-		ประภาส
ศิริ		พิศิษฏ์แผ้วแพร้ว		ศุภางค์
ไกร		สิทธิ์ไกรลาสเพี้ยง		บุญบารมิ์
วัฒ-	กโรจน์รางชาง			คู่หล้า
นา		รายณ์ร่วมเสกสมาน	เสมอเทพ
วงศ์	เวี่ยแว่วเวิ้งฟ้า			จบแดน				
4 ตุลาคม 2549 17:28 น.

รักเธอ

กรวิกสีม่วง

รักเธอนะรักเธอ
รักเสมอรักหมดใจ
รักเธอตลอดไป
จะยังไงก็รักเธอ				
4 ตุลาคม 2549 17:26 น.

หญิงผู้นี้โลกกล่าวขานว่า “มารดา”

กรวิกสีม่วง

โอ้ล่ะเห่เอ่เอ๊ ไกวเปลกล่อม		มอบไออุ่นโอบอ้อมเจ้าจอมขวัญ
จงรู้ว่ารักเจ้าเท่าชีวัน				ด้วยผูกพันแก้วตาเอื้ออารี
ยุงจะไต่ไรจะตอมจอมขวัญเจ้า			แม่คอยเฝ้าดวงใจไม่หลีกหนี
แม้เหลือบริ้นบินมาหมายราวี			สองมือนี้แม่ป้องผองภยัน
ลูกสะดุ้งหวาดกลัวกลั้วสะอื้น			แม่ต้องตื่นกับเจ้าด้วยช่วยปลอบขวัญ
ทั้งน้ำ-นม  หยูกยาสารพัน			แต่ละวันแต่ละคืนแม่ฝืนกาย
รัตติกาลอำลาขอบฟ้ากว้าง			แม่มิว่างสาละวันต้องขวนขวาย
ล้างขวดนมต้มน้ำทำเรียงราย			ใช่สบายแต่แม่นี้ยินดีทำ
ครั้นตอนสายแม่ผสมชงนมเสร็จ			ลูกนอนหลับสำเร็จแม่สุขล้ำ
แม่มิได้ว่างเว้นเป็นประจำ			ทั้งเช้าค่ำทำไปเพื่อใครกัน
เจ้านอนหลับครู่ใหญ่ตกใจตื่น			แม่ต้องปลอบขวัญชื่นให้คืนขวัญ
พาเจ้าเดินเพลินกายคลายจาบัลย์			แต่แม่นั้นปวดล้ายิ่งกว่าใคร
ไหนเจ้านี่ขี้ก็อ้อน นอนก็เยี่ยว			หนึ่งเพียงเสี้ยวทุกข์ของแม่แน่ใช่ไหม
ต่อให้ทุกข์สุขแสนเท่าที่เข้าใจ			ยังมิได้เท่าครึ่งแม่แน่นิรันดร์
ตั้งน้ำอุ่นรอไว้ให้เจ้าอาบ				ลูกกำซาบผ่อนคลายได้สุขสันต์
น้ำจะอุ่นเท่าใดไม่สำคัญ				อกแม่นั้นโอบอุ่นละมุนละไม
ยามสายัณห์ตะวันลับดับแสงส่อง			แต่แสงทองของชีวิตวิจิตรใส
ทุกโมงยามแม่ทำประจำไป			แม่มิได้หยุดพักเลยสักครา
แม่กางมุ้งหลังใหญ่ไว้รอเจ้า			แม่คอยเฝ้าฟูมฟักคอยรักษา
หลับเสียเถิดกล่อมขวัญแล้วนะแก้วตา		ปวงเทวาจงคุ้มเจ้าเนานิรันดร์
แขนของแม่ต่างหมอนนอนเถอะเจ้า		ทั้งสองเราเคียงข้างอยู่กลางฝัน
กายของแม่โอบอุ้มคอยคุ้มกัน			ให้เจ้านั้นปลอดภัยใครราวี
กว่าจะคลานแต่ละครั้งจนตั้งไข่			แม่มิได้ห่างเหินเดินหลีกหนี
เจ้างอแงแม่มิว่าหรือด่าตี				ดวงชีวีของแม่หรือคือลูกยา
พอวันเคลื่อนเดือนคล้อยแม่คอยเฝ้า		ให้ตัวเจ้าพากเพียรเรียนศึกษา
มรดกของแม่คือวิชา				เพราะมีค่าเกินทรัพย์นับอนันต์
ค่าเล่าเรียน เสื้อผ้า ค่าใช้จ่าย			แม่ขวนขวายเพื่อลูกได้สุขสันต์
คนอื่นมีสำหรับเจ้าต้องเท่ากัน			แม่บากบั่นเพราะรักบุตรสุดดวงใจ
เช้าจรดค่ำทำได้แม่ไม่เกี่ยง			ไม่หลีกเลี่ยงแม้จะหนักสักเพียงไหน
ถึงอาบเหงื่อต่างน้ำก็ทำไป			เพียงลูกได้มีสุขเหมือนทุกคน
แม่ต้องกินน้ำต้มผสมผัก				เพียงลูกรักได้กินเนื้อเจือโภชน์ผล
แม้ต้องนอนเกลือกทรายไม่กังวล			ขอลูกตนได้นอนเตียงแม่เลี้ยงมา
ผิวแม่คล้ำหมองหม่นจนแตกกร้าน		ลูกของแม่ต้องสราญสุขหรรษา
บำรุงผิวลูกรักผ่องพักตรา				ทั่วกายาแม่ถนอมเจ้าจอมใจ
เสื้อจะปะอย่างไรแม่ใส่หมด			ยอมรันทดเพื่อลูกสุขสดใส
เสื้อของเจ้าต้องหรูดูวิไล				เจ้าจะได้ไม่น้อยหน้าว่ายากจน
อนุบาลเพียงพอต่อประถม			มัธยมเสร็จสิ้นสำเร็จผล
ด้วยความหวังตั้งไว้ในกมล			ลูกของตนคือหนึ่งที่พึ่งพา
ตัวแม่นั้นปัญญาน้อยคอยบอกเจ้า			ลูกจงเฝ้าเล่าเรียนเพียรศึกษา
แม่จะทำจนลับดับชีวา				ส่งลูกยาเรียนต่อจนพอใจ
เมื่อเจ้ามีงานทำประจำแล้ว			ร่มฉัตรแก้วก็มิพรากจากไปไหน
คอยดูแลตัวเจ้าดั่งเยาว์วัย				งานใดใดแม่ผ่อนพักทั้งหนักเบา
ครั้นเจ้าถึงเวลาครามีคู่				แม่ก็อยู่ให้ไออุ่นดั่งขุนเขา
ปัญหาใดแม่นั้นช่วยบรรเทา			ดูแลเราทุกทางมิห่างไกล
เจ้ามีลูกหรือหลานมารดาเลี้ยง			แม่กล่อมเกลี้ยงคอยเฝ้าเอาใจใส่
แม้คืนวันหมุนเวียนแปรเปลี่ยนไป			แม่มิได้ลืมลาหน้าที่ตน
ต้นไม้ใหญ่คอยแผ่ใบคอยให้ร่ม			ปะทะลมแดดกล้าอีกท้าฝน
วันเวลาเปลี่ยนไปก็คล้ายคน			ใบร่วงหล่นเฒ่าชแรแก่ชรา
ก่อนเคยทำงานหนักไม่พักผ่อน			เดี๋ยวนี้แม่เหนื่อยอ่อนขอวอนว่า
ลูกจงได้เห็นใจในมารดา				อย่าดุด่าแม่หนอขอเห็นใจ
เพียงคำหนึ่งคำนี้ที่แม่ขอ				ลูกเล่าหนอยินดีหรือนี่ไฉน
จักรำลึกคุณค่ามารดาใคร				เพื่อเจ้าได้สำนึกตรึกกระทำ
แม่จะนอนเคยไหมใครถามแม่			หญิงแก่แก่กรำงานผ่านเช้าค่ำ
แม่จงนอนผ่อนกายคลายระกำ			เพียงหนึ่งคำเคยไหมได้พูดจา
และสายมุ้งหลังนี้ที่สี่สาย				ที่แม่หมายกันยุงให้ลูกข้า
มีไหมหนอลูกนี้ที่หันมา				กางมุ้งให้มารดานอนสบาย
ยามแม่ป่วยแม่เขารอเจ้าช่วย			เรียกเจ้าด้วยสำเนียงเสียงแหบหาย
แต่คราวนี้เปลี่ยนปรับต้องกลับกลาย		ลูกทั้งหลายหลีกลี้หนีมารดา
ซึ่งแต่ก่อนเจ้านอนแม่นอนเฝ้า			อยู่กับเจ้ามิร้างเร่ให้เหว่ว้า
ไฉนเลยลืมแล้วหรือแก้วตา			หรือลูกยาเห็นแม่แก่เกินไป
ครั้นแม่ตื่นหวังไว้ได้อิ่มหนำ			แต่สุดท้ายคนที่ทำ-แม่ใช่ไหม
ทั้งเสื้อผ้าของเจ้าแม่เข้าใจ				ลูกคงไม่มีเวลามาจัดการ
แม่ก็ต้องซักผ้าเหมือนคราก่อน			แม้เหนื่อยอ่อนใครหนามาสงสาร
จากผ้าอ้อมสู่เสื้อผ้ามานมนาน			แต่ตัวท่านมิเคยแยกว่าแปลกไป
มีไหมหนอมีใครทำให้แม่				ที่ตั้งใจแน่วแน่คอยแก้ไข		
เคยไหมเจ้าซักผ้าว่าอย่างไร			บอกมาให้ยินดีสักทีนา
เหล่าเสื้อผ้าทั้งผองเป็นของเจ้า			ช่างพริ้มเพราน่าดูเลิศหรูหรา
เสื้อเก่าเก่าขาดวิ่นสิ้นราคา			ยังดีกว่าเสื้อของแม่จริงแน่นอน
ทุกข์ของแม่มิใช่ใส่เสื้อเก่า			รู้ไหมเจ้าช้ำชอกเหมือนหลอกหลอน
นั่นคือแม่สิ้นค่าลงถาวร				ความอาทรจากใครก็ไม่มี
ใครจะว่าอย่างไรแม่ไม่สน			เพียงลูกตนไม่ซ้ำทำบัดสี
ถึงแม่ทุกข์ทั้งสิ้นแม่ยินดี				เพียงลูกนี้เห็นค่ามารดาตน
ทุกข์ของแม่คนนี้มีมากนัก			แจ้งประจักษ์ยิ่งใหญ่ในเหตุผล
ทุกข์กี่แสนล้านเท่าเศร้าระคน			ไม่ทุกข์ทนเท่าแม่แน่จำนรรจ์
ถ้าลูกทุกข์แม่ก็ทุกข์กับลูกด้วย			แม่คอยช่วยมิรวนเรหรือเหหัน
ถ้าแม่เห็นลูกยาต้องจาบัลย์			ดั่งชีวันแดดิ้นแทบสิ้นไป
เมื่อลูกตายแม่นั้นยิ่งรันทด			เหมือนน้ำกรดโลกันต์มันเผาไหม้
ชีวิตแม่หลงเหลืออยู่เพื่อใคร			ถ้าดวงใจของข้ามาแหลกลาญ
คิดกันเถิดพวกท่านในวันนี้			เพราะยังมีแม่ไว้ได้สุขศานติ์
ก่อนที่สิ่งทั้งหลายกลับกลายการณ์			แทนคุณท่านก่อนเวลาคลาดคลาไกล
เพียงหยดหนึ่งธารถันที่ท่านมอบ			เกินเขตขอบคุณค่ากว่าคุณไหน
แม้เลือดเนื้อของเราเข้าแลกไป			ก็มิได้เท่าคุณแม่แน่นิรันดร์
กรองสิบนิ้วพลิ้วราบกราบเท้าแม่			ด้วยดวงแดตรึกล้ำน้ำธารถัน
จึงก่อนเกิดชีวาค่าอนันต์				พระคุณนั้นเลิศยิ่งกว่าสิ่งใด
หยิบสายรุ้งบนฟ้ามาเป็นสร้อย			หยิบดาวน้อยเดือนสกาวพราวสดใส
มาประดับเป็นมงกุฎสุดวิไล			มอบจากใจสุดซึ้งถึงมารดา
จักรวาลต่างกระดาษวาดจารึก			ความรู้สึกเกินบรรยายมากมายค่า
นพเคราะห์ปั้นวางต่างปากกา			รักแม่ข้าเต็มเปี่ยมยากเทียมทัน
ทั้งวาจา กาย ใจ ได้เลินเล่อ			เพราะพลั้งเผลอด้วยจิตคิดโมหันธ์
ถ้าแม่นี้ยังโกรธยกโทษพลัน			ตัวลูกนั้นผิดแล้วแก้วดวงใจ
เชิญพระไตรรัตน์จำรัสโลก			มาเปลื้องโศกแม่นี้มีสดใส
ปวงเทวาเทพสถานชั้นใดใด			ขอจงได้ปกป้องครองมารดา
ให้แม่นี้มีสุขหมดทุกข์โศก			นิราศโรคโพยภัยคลายปัญหา
อายุยืนหมื่นปีมีเงินตรา				พรนานาที่ประเสริฐบังเกิดมี
แม่กรำงานนานหนักจงพักผ่อน			แม่เหนื่อยอ่อนก็ประจักษ์สมศักดิ์ศรี
แต่ก่อนลูกนี้ไซร้ทำไม่ดี				นับแต่นี้ขอสัญญาว่าไม่ทำ
แม่จ๋าแม่ แม่รู้ไหมใครรักแม่			รักแน่วแน่นานเนาทั้งเช้าค่ำ
อยากจะบอกแม่นักสักหนึ่งคำ			ไม่หวานล้ำแต่รู้สึกลึกข้างใน
คำคำนี้มอบให้จากใจบุตร			คำคำนี้สิ้นสุดหามีไม่
คำคำนี้สุดซึ้งตราตรึงใจ				คำนี้ไซร้แจ้งประจักษ์ รักแม่ เอย  

							12     สิงห์    44				
4 ตุลาคม 2549 17:21 น.

เทพชุมนุม

กรวิกสีม่วง

อินทวสันตดิลกฉันท์


	ข้าขอประนมกร				ชินวรพิศุทธิ์ใส
อีกธรรมะอำไพ				ชินบุตรวิสุทธิ์ศิล
	เทพไทสถิตทศทิศา			คคนาง์และธาตริน
ไพรสณฑ์สมุทรศิขริน			ษฏกาม์วจรสรวง
	ตรีโลจน์และตรีเนตร			สุรเชษฐ์สุร์ทั้งปวง
นารายณ์ ก็บำบวง				ศุภมังคลาเกียรณ์
	จุ่งมาประสิทธิวรศักดิ์			อภิรักษ์ ณ เหนือเศียร
กิจใดก็สมมนจำเนียร				มนน้อมพิสิฐคุณ  ฯฯ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกรวิกสีม่วง
Lovings  กรวิกสีม่วง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกรวิกสีม่วง
Lovings  กรวิกสีม่วง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกรวิกสีม่วง
Lovings  กรวิกสีม่วง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกรวิกสีม่วง