28 เมษายน 2551 23:15 น.

น้ำเน่าในเน่าเงาจันทร์ ลมหายใจสุดท้ายฝากไว้ในสายลม

กระต่ายใต้เงาจันทร์

ตอนที่ 2

เปลี่ยนมุมมองและเปลี่ยนชีวิต


ฉัน   ตัวตน  มีเลือดเนื้อ    มีความคิดและจิตวิญญาณ        ในส่วนของชีวิตจริงฉันผ่านจุดสูงสุดในชีวิตมาแล้ว
ไม่ว่า  หน้าที่การงาน   ฐานะทางสังคม    การยอมรับนับหน้าถือตา ฉัน  ขีดเขียนและฉีกกระดาษทิ้งหลายครั้ง   เพราะอาย  ไม่อยากเล่าประสบการณ์ชีวิตตัวเอง   ย้ำคิดกับตัวเองตลอดเวลา   ฉันล้มเหลวทุกอย่างโดยสิ้นเชิง

แต่เพราะด้วยจิตวิญญาณหรือไม่เพราะความทุกข์ที่ทับถมจนฉันต้องวนเวียนมาหาเพื่อนใจ   ตัวตัวอักษร   ที่ไม่เคยทำร้ายฉันสักครั้งมีแต่ตรงกันข้ามที่คอยรักษาและเหมือนยาวิเศษณ์รักษาใจฉันเสมอมา

ฉันแต่งงานกับคนที่เรียกว่า   เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ   นามสมบัติ  เรียกว่า  ถ้าลงนามสกุลคงรู้จักค่อนประเทศกระมังแต่ความยึดติด   กับรูปภายนอกและเพราะต้องการรักษาครอบครัวทำให้ฉันมารับกรรมในส่วนที่ฉันไม่ได้ทำจนกระทั่งบัดนี้
ฉันเคยมีบริบัท  มีลูกน้องมากมาย   เขาให้ฉันเป็นเจ้าของ    มีรถ  มีบ้าน   ไปไหนมีคนขับรถประจำตัว    แต่ฉันต้องแลกทั้งชีวิต    ถ้าคุณยอมใครครั้งหนึ่ง  ทั้งชีวิต  คุณต้องยอมเขาตลอดเพราะเพียงแค่ว่า   ต้องการรักษาครอบครัวไม่ต้องการให้ลูกมีปัญหา    ทั้งชีวิตฉัน   มีแต่คำนี้    กูสั่งให้มึงทำอะไร   มึงต้องทำ    ไม่ต้องถาม   
ถ้าไม่พอใจเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋ากลับบ้านมึงไป      ระยะเวลาเกือบยี่สิบปีฉันไม่รู้ฉันทนมาได้อย่างไร      เลี้ยงลูกก็ส่งเสียเลี้ยงดูเพียงคนเดียว        ความรับผิดชอบในบ้านก็ต้องรับผิดชอบ    ใครอีกคนมีแต่ออกคำสั่ง   ไม่พอใจ   บินต่างประเทศ  ติดต่อไม่ได้   เหตุผลคำเดียว   เครียด        หายไปเหมือนตายจากเป็นเดือนจนถึงที่สุดฉันต้องยอมรับ   คดี   ฉ้อโกงเจ้าหนี้    ทั้งศาลเพ่งและอาญา   จวบจนถึงกระทั่งถึงปัจจุบันเพราะฉันไม่รู้เลยว่า  ใครอีกคนเอาเงินไปทางไหน  ในรูปบริษัทมีชื่อฉันก็จริง   แต่คนอีกคนเก็บเช็คเก็บตราบริษัท   จะใช้เงินในส่วนของเขาฉันมีหน้าที่เซ็นต์เท่านั้น  มิเคยได้แตะต้องเงินส่วนนี้  มีบัญชี  จีน   มาปกปิดฉันอีกที    ตลกดีไหมในส่วนที่ฉันขาย  ฉันต้องส่งเงินบริษัทตัวเองนี่คือข้อตกลงที่ยื่นให้ฉัน  
หนี้  กับคดี   เพียงเหตุผลว่า  เธอเป็นคนไทยเวลาให้การในศาลพูดคล่องหน่อย   ไม่เคยถามแม้แต่ว่าฉันเต็มใจไหมถ้าคุณการซื้อใจใครสักคน   อย่าโง่เหมือนฉัน    ขอเตือน  อย่าเอาชีวิตไปผูกติดกับใคร     ผลสุดท้าย    มีแต่สูญเสีย
บอกได้เลยว่า   จากมีเงินเป็นล้านจนไม่เหลือแบงค์สักใบในชีวิต                คนอีกคนหอบเงินหนีไปอยู่กับผู้หญิงอีกคน   เหรียญจะช่วยชีวิตคุณเพราะฉันไม่เคยเห็นคุณค่าของเหรียญ    จนวันหนึ่งไม่มีเงิน  สิ่งนี้จะประทั่งชีวิตฉันและลูกไว้   ฝึกไว้เถอะ    หยอดออมสินไว้   ไม่แน่สักวันคุณอาจได้ใช้เหมือนฉัน

ร้องไห้   มากมาย   ถามตัวเองว่าผิดอะไรถามเขาก็ถาม   ก็ได้   คำตอบเดิม   ฉันไม่เคยผิดอะไรบกพร่องตรงไหนเป็นเดือนไม่กล้าออกไปไหน  อาย     เสียใจ  ร้องไห้      สะอื้นอยู่ในอกคืนแล้วคืนเล่าไม่ยอมเปิดไฟ   ไม่ยอมอาบน้ำสามวันเต็มๆ    ความคิดแวบเข้ามา     ตายดีกว่า
ฉันเทยาพารากรอกใส่ปากเป็นขวดลูกซึ่งเป็นเพื่อนฉัน   บอกเพียงว่า   คุณแม่ ตายหนูตายด้วย       และมีเสียงกรอกข้างหู   คุณแม่มีชีวิตอยู่เพื่อหนู   พร้อมกับอ้อมแขนเล็กๆที่อบอุ่น
ฉันมาคิด    ทั้งชีวิตฉันคนนี้อยู่กับฉันสักเท่าไรกัน    ไปๆมาๆๆหายๆๆมาทีไรก็มีแต่เรื่องเดือดร้อนให้ฉันช้ำใจทั้งคำพูดและการกระทำ   บอกตามความสัจจริงฉันอยู่กับคนๆนี้ไม่มีสักคืนที่ฉันนอนหลับแบบมีความสุขหรือมีความสบายใจสักครั้ง

อย่าขาดกันเป็นปี  ฉันก็ยังยอมชีวิตอยู่เพื่อลูก  จนผลสุดท้าย  บังคับขู่เข็ญที่ดินเอาเงินเก็บและทองฉันไปจนหมดตัวเหตุผลเพื่อสร้างโรงเหล้า   แล้วสุดท้ายฉันก็เสียรู้สูญเสียทุกสิ่งฉันไม่เหลืออะไรเลย    แถมยังโดนขู่เข็ญให้เซ็นต์รับถ้ามีคนมาตรวจโรงเหล้า   ฉันเริ่มโวยวายและพูดและสุดทน   มีคำตะคอกสวนกลับ  มึงก็โดนคดีอยู่แล้วโดนอีกสักคดีเป็นอะไร      ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อลูกเพื่อคนอื่น     แถมยังไม่สะใจ   เอาภรรยาเมืองจีน  มาเดินในเขตตำบลที่ฉันอยู่คำซุบซิบนินทาจึงตามมามากมาย    แวลาชาวบ้านเห็นฉัน   คงสมเพชและสงสารเพราะฉันเคยเป็นกำนันในตำบลนี้   ฉันต้องป่าวประกาศบอกไปว่า    ฉันหย่ามาเกือบสามปีแล้ว    ที่ฉันไม่พูดเพราะฉันคิดว่าต่างคนต่างอยู่  ชีวิตคงจะสุขสงบได้

ถ้าคุณต้องทน  ที่ต้องรับคำสั่งใครทั้งชีวิต   แม้กระทั่ง     ลมหายใจแทบไม่ใช่ของคุณ    ทนเพื่อรักษาครอบครัว   จนลืมตัวเอง    ทนแม้กระทั่งบังคับตั้งท้องให้คนอื่น    ทนแม้กระทั่ง   ต้องรับคดีเพ่งและอาญาคนเดียวจนแม้กระทั้งเหมือนถูกปล้นทุกอย่างในชีวิตเกียรติยศศักดิ์ศรีคำดูถูกแม่ของคุณครอบครัวของคุณ     ผลสุดท้ายคุณจะไม่ได้อะไรกลับมามีแต่ทุกข์    และโรคหัวใจที่เกิดจากความเครียดและการสะสมมานานปี    

ฉันทนจนเหลือทน   มาแต่งงานกับคนที่รอคอยฉันสิบกว่าปี   ไม่มีอะไร   ไม่มีบ้าน   ไม่มีบริษัท  ไม่มีรถ     บ้านเช่า   ข้าวซื้อ   ไปไหนขึ้นรถเมล์แต่มีมือเล็กๆที่อบอุ่น   และอ้อมกอดที่ห่วงใย   ฉันจึงเปลี่ยนมุมมองและเปลี่ยนชีวิตใหม่ฉันนอนหลับอย่างสุขในชีวิตอย่างไม่เคยเป็นกับมุ้งที่ฉันไม่เคยนอนมาทั้งชีวิตแปลกน่ะ  เมื่อก่อนฉันนอนเตียงหนานุ่มห้องปรับอากาศชั้นดี  แต่ในวันนี้  ฉันนอนกับผ้าปูเก่าๆกับมุ้งหมอนผ้าห่มและพัดลมมีมือมาเกาะกุมเวลาฉันหลับฉันเพิ่งรู้ว่า   ความสุขที่แท้จริงคือแค่นี้แค่ฉันยอมรับและมีคนเคียงข้างที่เข้าใจ

ให้อภัยและอโหสิกรรมคิดว่า    เป็นกรรมเก่า   ทุกวันนี้ฉันมีชีวิตที่ฉันเป็น   แค่ขอให้ชีวิตลมหายใจเฮือกสุดท้ายแบบเรียบง่าย  แต่ฉัน  ก็ยังเป็นเพียงแค่คนธรรมดา    คงแค่ให้อภัยแต่ไม่ให้เผา
ถ้ามีใครได้อ่านเรื่องนี้   ลองเปลี่ยนมุมมอง   และการใช้  ชีวิต เสียใหม่    จงรวบรวมความกล้าเดินหน้าออกจากความกลัว

ในส่วนของความจริงฉันยังต้องขึ้นศาลจนทุกวันนี้    แม้บริษัทโรงสีไฟไทยพันธ์จะขายทอดตลาดอยู่ที่บริษัทสินทรัพย์สุขุมวิทแต่ต้องมารอคนซื้ออยู่ดี   แบงค์ยังคงให้ฉันโดนคดี  ทั้งเพ่งทั้งพาณิชย์ทั้งที่ฉันหลักทรัพย์ค้ำประกันมากกว่าวงเกินกู้

ฉันคิดเสมอ   ฉันโชดดี   ที่ฉันได้เจออะไรมากมาย  ในชีวิต   ที่น้อยคนอายุเท่าฉันจะเจอได้      ขอฝากไว้เป็นข้อคิด   ลูกหลานคุณมีปํญหาจงช่วยเขาแก้อย่าผลักไส  อย่ายึดติด  กับธรรมเนียมเก่าๆว่าเป็นเรื่องน่าอายสำหรับการที่ผู้หญิงหย่าร้างแล้วแต่งงานใหม่    อย่าเอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้ง   หรือคิดแทนคนอื่น   ในเรื่องที่คุณไม่รู้  ไม่งั้นบางที  คุณอาจจะฆ่าคนตายโดยไม่รู้ตัว


สุดท้าย   สิ่งที่ทำให้ฉันมีชีวิตต่อมาได้จนบัดนี้    คือบ้านกลอนไทย    ที่คำให้ฉันได้กลับมาสัมสัมผัสตัวอักษรอีกครั้ง
พี่ทิกิ   ที่ฉันพบในช่วงฉันสับสนกลับชีวิต    และเรื่องดีๆที่ฉันได้อ่าน   ของพี่ดอกแก้ว และอ่านเขียนของพี่พุด  ที่เขียนถึงเรื่องราวในธรรมชาติและเกี่ยวกับบ้านสวน  ซึ่งเหมือนเป็นความผูกพันธ์ของฉันกับพ่อทำให้ฉันเองนึกถึงคำสอนและคำสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อก่อนที่พ่อจะจากฉันไป     ทำให้ฉันเลิกคิดฆ่าตัวตายได้ตั้งแต่บัดนั้น   ขอบคุณ  เรไร   ที่ช่วยกล่อมเกลาและเปิดโลกสู่งานกลอนของฉัน    ขอบคุณปักษาวายุ  ที่เป็นเพื่อนที่ดีและมีบทกลอนที่อบอุ่นให้ฉันได้อ่านเวลาเครียดๆในหลายๆเรื่อง ขอบคุณแทนคุณแทนไทที่ให้ข้อคิดดีๆในชีวิต      ขอบคุณต้นกล้า   อันดามัน   ที่ห่วงใยกันเสมอมา   ขอบคุณร้อยฝันที่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทุกวันนี้  และสุดท้าย  คงต้องขอบคุณ  คุณอัลมินตรา  ที่พาไปพบแต่สิ่งดีๆในการไปร่วมทางทำกิจกรรมร่วมกันในแต่ละครั้งทำให้พบลุงแก้วประเสริฐที่บางครั้งคำพูดผ่านตัวอักษรหลานกลับลุงบางอย่างทดแทนคำพูดของพ่อเสมอมา
เจ้ากระต่ายน้อย     สิ่งที่จะละเลยไม่ได้คือปีกฟ้า     ต้องบอกผ่านไปเลยว่า    เวปของคุณได้ช่วยต่อชีวิตและลมหายใจของคนๆหนึ่ง   คนๆนั้นไม่ใช่ใคร   กระต่ายใต้เงาจันทร์
ฉันเอง  ไม่รู้ตัวเองเลยว่า    จะอายุยืนยาวเพียงใด  เพียงอยากฝากข้อคิด  และบางสิ่งบางอย่างเตือนใจทิ้งไว้บ้างก็เท่านั้น

ขอเพียงความหวังและสิ่งสุดท้าย    ลมหายใจสุดท้ายฝากไว้ในสายลม 
				
28 เมษายน 2551 23:10 น.

น้ำเน่าในเงาจันทร์

กระต่ายใต้เงาจันทร์

 ตอนที่1
จงขอบคุณเมื่อมีคนกล่าวลา
และฉลองพร้อมกับกล่าวคำว่า   สวัสดี   ที่ชีวิตนี้คุณจะเป็นไทยไม่เป็นเมืองขึ้นใครอีกแล้ว



มีคนกล่าวว่า     การที่คนสองคน   มาจากชีวิต  ที่แตกต่างกัน    การเลี้ยงดู   สภาพ  แวดล้อมต่างกันมิใช่เรื่องง่ายและถ้าถึงที่สุด  ลงเอย  ด้วยการแต่งงาน  โดยที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เต็มใจ  แต่เพราะต้องการรักษาสถานะทางสังคม    ความยอมรับ   หรือเพื่อหลีกหนีคำนินทา  แม้แต่เพียงเพื่อสนองความต้องการที่เรียกว่า  ชีวิตหนึ่งอยากใส่ชุดแต่งงานสักครั้งก็ตามเถอะ

การเลี้ยงดูจากพ่อแม่ก็มีผลเช่นกัน     ผู้หญิงบางคนเพราะยึดติดกับคำสอนที่ว่า    เสียตัวให้ผู้ชายคนนั้นไปแล้วก็ต้องแต่งกับเขา   หรือแม้กระทั่งมีปัญหามากมายเพียงใด    ต้องอดทน   โดยเฉพาะครอบครัวคนจีน   โดยลืมนึกและถามลูกหลานไปว่า   มีความสุขดีอยู่หรือเปล่า      เพียงต้องการก็เพื่อ   รักษาภาพและหน้าตาทางสังคม

บอกได้เลยว่า    คุณกำลังกล่าวสู่เส้นทางนรกชัดๆ            ถ้ามีปัญหาส่อเค้าวุ่นวายมาตั้งแต่ต้น    ถ้ายอมจนแม้กระทั้งทั้งชีวิตไม่เหลืออะไร   ศักดิ์ศรี     ทรัพย์สิน   หรือแม้กระทั่งค่าของความเป็นคน  คนเราบางคนเปลี่ยนแปลงตัวเองได้    แต่หลายคนยากมาก  บางครั้งยอมเสียหมดก็เหมือนเพาะบ่มนิสัยความเคยตัวและเห็นแก่ตัวให้กับคนอีกคนโดยที่เราไม่รู้ตัว
อย่ารักคนอื่นมากกว่าตัวเราเอง   เพราะผลสุดท้ายขณะที่เราร้องไห้   เราทุกข์   จนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ไม่มีใครรับรู้กับเรา     ถ้าอยากร้องไห้    ร้องเสียให้พอ   อย่าปิดกั้นตัวเอง   ปล่อยให้มันรินไหลจากตาซ้ายสู่ตาขวาจะสะอื้นเพียงใดก็ทำเสียให้พอ    แล้วต้องมีสติ   ต้องใช้สติบังคับอารมณ์   เมื่อเราเกิดมา  เราก็มาคนเดียว   เมื่อเราจากไปเราก็ไปคนเดียว    ไม่มีอะไรที่เป็นของๆเรา  จงขอบคุณ   ถ้ามีคนกล่าวลา   และนึกเสียว่า   เขาให้บทเรียนชีวิตเราบทใหญ่ที่ทำให้เราแกร่งและกล้าหาญที่ยอมรับกับโชคชะตาที่เหมือนแบบทดสอบชุดหนึ่งที่เราจะผ่านได้หรือไม่ก็เท่านั้น
ข้อสำคัญ   ในเวลาที่เราร้องไห้ให้ข้อคิดไว้ว่า      แหมเราประหยัดค่าน้ำตาล้างตาตั้งเยอะที่สำคัญตอนนี้เราไม่ต้องกลัวว่าจะทำอะไรให้ใครไม่พอใจเพราะตัวเราเป็นไทยแล้ว
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกระต่ายใต้เงาจันทร์