..๏ ปีกแห่งหัวใจ

อัลมิตรา


..๏ เจ้าปีกบางยังบินตราบสิ้นฟ้า
แม้นไร้ค่าไร้เกียรติคนเดียดฉันท์
ด้วยหมายสุขบางหนพ้นคืนวัน
ความโศกศัลย์ปลดทิ้งหยิ่งทรนง
บินด้วยแรงแห่งฤทธิ์พิชิตทั่ว
ไม่เกรงกลัวร่างกายจะกลายผง
ปีกน้อยน้อยคอยกระพือคือมั่นคง
โลดแล่นหลงมีบ้างก็บางที
ย่อมเดียงสาฝ่าฟันมิครั่นคร้าม
แดดร้อนลามเลียปีกมิหลีกหนี
เทียบทุรนบนปากเหวเปลวอัคคี
ก็ไม่ลี้ขยับถอยแม้ด้อยแรง
แสนห่าฝนหล่นกระทบทำนบท้น
สู้ผจญทุรกรรมด้วยกำแหง
กล้ายืดหยัดหัวใจไม่เปลี่ยนแปลง
ยอมขัดแย้งดีกว่าฝูงถูกจูงตาม
แม้นพายุมุหาญมุ่งผลาญชีพ
ยังเร่งรีบรุดไปแม้นใครหยาม
มีบ้างที่อับจนคนประณาม
เพียงชั่วยามผ่านคืนก็ฟื้นใจ
จวบสูญสิ้นชีวีปฐพีกลบ
เพื่อผ่านภพอีกหนสร้างตนใหม่
ยังคงบินลอยละล่องท่องฟ้าไป
ด้วยหัวใจอิสรภาพตราบนิรันดร์  ๚ะ๛
				
comments powered by Disqus
  • นครา ประไพพงศ์

    24 สิงหาคม 2549 23:30 น. - comment id 601149

    คืนนี้เงียบมากครับ........ขอบินด้วยคนน่ะครับ
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    25 สิงหาคม 2549 00:24 น. - comment id 601167

    ...วันวาน...
    ...อดีตกาลผ่านพ้นบนบาทวิถี
    ...บางความทรงจำหล่นร่วง...ท่ามห้วงชีวี
    ...บางสิ่งลบเลือนหนี...บางสิ่งกลับล้นปรี่ในห้วงกมล
    
    ...วันวาน...
    ...ดุจเมฆหมอกละลานอยู่ทุกแห่งหน
    ...ภาพแห่งฝัน..รางเลือน..เหมือนไร้ตัวตน
    ...หลงทิศหลงทางเกินค้น...คล้ายจนปัญญา
    
    ...ปัจจุบัน...
    ...ภาพความฝันที่ดั้นด้นค้นหา...
    ...ปรากฏฉายชัด...แจ่มจรัสตา
    ...ปานประหนึ่งว่า...อยู่ตรงหน้ามานานแสนนาน
    
    ...วันนี้...
    ...เมฆหมอกลี้ลับหาย..ไม่ทอประสาน
    ...ความทรงจำบางเสี้ยวส่วนในวันวาน
    ...เป็นเพียงตำนาน...ของการเดินทาง
    
    ...วันพรุ่ง...
    ...เราจะมุ่งหน้า...สู่ฟ้ากว้าง
    ...เส้นขอบฟ้าที่เห็น..แม้นเป็นเพียงเงาราง
    ...เราจะถากทาง..เดินเคียงข้างไปด้วยกัน
    
    ...วันพรุ่ง...
    ...ขอบฟ้า...โค้งรุ้ง...หาใช่ความฝัน
    ...ตราบลมหายใจเราอยู่คู่ดวงจันทร์
    ...ตราบนิจนิรันดร์...ฉันอยู่เคียงข้างเธอ...
    
                 ************
    ๏ แม้นเจ้าเป็นจันทร์งามยามราตรี
    เราจักเป็นปักษีที่แกร่งกล้า
    สยายปีกบินล่วงห้วงดารา
    โอบจันทรามาเคียงคู่อยู่นิรันดร์๚ะ๛
    
    ๏ อธิฐานพานอื่นแม้.................อรชร
    ปราศจิตปฏิพัทธ์วอน...............แนบเนื้อ
    พระแพงเพื่อนอัปสร................ไป่เทียบ อนงค์แม่
    จิตมั่นปรารถน์โอบเอื้อ..............แต่เจ้าอัลมิตรา๚ะ๛
    
    %5C%5C
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    25 สิงหาคม 2549 07:40 น. - comment id 601213

    แวะมาอ่านก่อนทำงานค่ะ11.gif36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    25 สิงหาคม 2549 11:18 น. - comment id 601264

    36.gif16.gif36.gif
    
            ปีกแห่งใจใฝ่คำนึงรำพึงหวน
    ทุกกระบวนฝากไปในเมืองเหนือ
    เพื่อปลอบขวัญน้ำท่วมอ่วมยากเจือ
    เหลือสิ่งเกื้อเอื้อไว้ด้วยใจรัก.
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • whitelily

    26 สิงหาคม 2549 10:08 น. - comment id 601406

    แวะมาทักทายยามเช้าค่ะ....
    
    \"สวัสดี\".....    Miss  you
  • อัลมิตรา

    26 สิงหาคม 2549 10:57 น. - comment id 601412

    อารมณ์เขียนกลอนชุดนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน
    ส่วนแรก ..นึกถึงเพรียกฝันทะยานฟ้า กลอนที่อยู่ในกรุเก่า ซึ่งครั้งนั้นก็เขียนสองเวอร์ชั่น 
    และอีกส่วน..เป็นความรู้สึกลึก ๆ ในจิตวิญญาณของตนเองในขณะนี้
    
    เวอร์ชั่นแรก.. ๒๑ มีนาคม ๒๕๔๖ 
    เขียนด้วยความรู้สึกนึกถึงเพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อยัยไหม ..
    ชีวิตของเธอต้องประสบเคราะห์กรรม ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ทว่าก็เป็นไปแล้ว
    และเธอเองก็เปรียบเสมือนดักแด้ ..ที่รอวันจะฟักตัวออกมาเป็นผีเสื้อปีกงาม .. 
    จากคำกล่าวของเธอที่บอกว่า
    
     \"ฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าทำไมฉันไม่ยอมก้าวเดินเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร ...  
    ในเมื่อฉันเจอบางสิ่งที่เฝ้ารอแล้วแต่ทำไม?
    ความไม่แน่ใจในสิ่งที่มุ่งมั่น  
    ทำให้จิตใจไม่เข้มแข็งฉันพยายามนิ่งโดยการนั่งสมาธิเผื่อฝึกจิตให้เข้มแข็งอยู่นาน 
    แต่หลายๆครั้งย่อมมีสิ่งก้าวเข้ามาทำลายมันเสมอ...
    
    หลายครั้งที่ท้อ  แต่พยามสู้  แต่เมื่อสู้มาถึงจุดหนึ่งฉันก้ออยากอยู่เงียบๆ   
    การพบความล้มเหลวในหลายครั้งทำให้ฉันหยุดนิ่งเพื่อรอ  ...\"  (คำกล่าวของยัยไหม)
    
    ในความเป็นห่วง ในความปรารถนาดี อัลมิตราผู้ซึ่งไม่อาจประคับประคองเธอได้ตลอด
    ก็ได้แต่ตั้งความหวังว่า .. สักวัน เธอจะโบยบินได้เอง
    
    เวอร์ชั่นที่สอง.. ๓๑ ตุลาคม ๒๕๔๗  
    เขียนร่วมกับสหายอีกคนที่มีนามว่า รมย์ บุริน
    ตัวแทนแห่งปีกฝันนั้น คือลูกนกอินรี ซึ่งพล็อตเรื่องก็เกิดจากแนวคิดทีได้อ่านในเวอร์ชั่นแรก
    เพรียกฝันทะยานฟ้าถูกหยิบยกมาสนทนากันผ่านเมล์ระหว่างอัลมิตรา และ รมย์  บุริน ที่อยู่แดนไกล
    โดยที่ รมย์ บุริน ก็ไม่ทราบด้วยซ้ำไปว่า ..
    ชุดกลอนที่เขายกมาเป็นหัวข้อสนทนานั้น อัลมิตราเป็นผู้ประพันธ์เอง
    จากดักแด้น้อยถูกปรับให้เป็นลูกนกอินทรี ตามสำนวนของผู้ชายคนนี้
    นกอินทรีที่มักจะทำรังบนชะง่อนผาสูง หรือไม่ก็ยอดต้นไม้ที่สูงที่สุด
    ดักแด้กลายเป็นผีเสื้อปีกบาง อาจจะดูเป็นแค่งานเขียนที่แสนจะธรรมดา
    แต่สำหรับเขา ผู้ซึ่งเข้าใจในความรู้สึกของอัลมิตรา เขาได้ค้นพบนัยที่อัลมิตราต้องการจะสื่อได้อย่างลึกซึ้ง
    
    \"ผมให้เครดิตกับคนคิดได้ก่อนเสมอ
    เหมือนกับการเดิน ก้าวแรกย่อมสำคัญที่สุด 
    เหมือนกับการกิน คำแรกย่อมอร่อยที่สุด 
    
    บางครั้งคนเราย่อมคบมิตร  แล้วสนทนาเรื่องราวที่สนใจร่วมกัน 
    บางครั้งคนเราก็ไตร่ตรองเรื่องราวที่ต่างร่วมสนทนากัน 
    บางครั้งคนเราก็อยากอยู่เงียบ ๆ สบาย ๆ..
     แล้วนั่งเขียนงานที่เกี่ยวกับความเห็นของเพื่อนคนนั้นผสานกับความเห็นของตัวเรา
    และบางครั้งคนเราก็มีความสุขใจยามมองย้อนไปในงานที่ได้สร้างขึ้นมา 
    เพรียกฝันทะยานฟ้า (๒) เป็นผลลัพธ์จากสิ่งที่ผมกล่าวมาครับ... \"  (คำกล่าวของรมย์ บุริน)
    
    
    ดักแด้ , ลูกนกอินทรี ล้วนแต่เป็นสิ่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
    แต่สิ่งที่เป็นไปแล้ว และยังเป็นอยู่เช่นนั้นตลอดไป คือ มิตรภาพที่ไร้พรมแดน
    
    กระทั่งเวลาผ่านไป จนเมื่อ ๒๔ สิงหาคม วานซืนนี่เอง ..
    ร้อยแปดพันเก้าได้วางกลอนชุด เจ้าปีกบาง นัยความหมายสื่อถึงอัลมิตรา
    พร้อมกับบอกว่า 
    \" แด่อัลมิตราที่รัก ..โลกยังมีที่ว่างให้วางเท้า โลกนี้ยังสดสวยอยู่นะเจ้าเอย \"
    คำว่า ที่รัก ที่เขาใช้เรียกขานต่อท้ายชื่อนั้น อัลมิตราย่อมรู้ดีว่า หมายถึงสหายอักษรที่รัก
    คำว่า ที่รัก .. ไม่ได้หมายถึงความรู้สึกเชิงมีจิตปฏิพัทธ์ แต่ประการใด
    เพื่อนรู้ใจ กับ คนรู้ใจ .. คำอาจคล้ายคลึงกัน ทว่าความหมายและรายละเอียดย่อมไม่เหมือนกัน
    อัลมิตราวางใจกับคำว่า \"..แด่อัลมิตราที่รัก..\"  ในส่วนที่เขาเขียน 
    รู้สึกดีที่เขามีความปรารถนาดีและนำมามอบให้อัลมิตรา .. ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ
    
    คนที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองหลวง เช่นอัลมิตรา
    ซึ่งคงเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องผจญปัญหาอยู่เนือง ๆ 
    มีบ้างที่รู้สึกอ่อนล้า มีบ้างที่รู้สึกเหนื่อยหน่าย.. กับปัญหารอบด้าน
    แต่กำลังใจที่ได้รับมา มันสามารถนำมาเยียวยา ซ่อมแซม บางจุดที่ใจทรุดโทรมได้
    
    ดังนั้น .. ปีกแห่งหัวใจ อัลมิตราเขียนเพื่อเตือนตนเอง
    ไม่ว่าจะมีภัยสารพันที่เข้ามารุมล้อม ( ณ ที่นี้เปรียบดั่ง อัคคี ห่าฝน พายุ และปฐพี)
    หัวใจต้องหนักแน่น
    คงติดปีกโบยบินไปอย่างมีอิสรภาพตราบนิรันดร์ .. 
    
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
  • อัลมิตรา

    26 สิงหาคม 2549 11:03 น. - comment id 601413

    คุณนครา ..
     ในความเงียบ เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้เราได้มีโอกาสคุยกับหัวใจของตนเองบ้าง
    จริง ๆ นะ ..
    เพราะว่า บางที สิ่งที่อยู่ในใจของตนเอง นับวันจะยิ่งถูกเก็บอัดจนแน่น
    โดยที่เราอาจลืมไปเลยว่า แท้จริงแล้ว หัวเราของตนเองยังมีคำร้องอยู่มากมาย
    
    คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ ..
    อัลมิตราจำความเรียงของคุณได้ ผ่านตามาไม่นานนี้เอง
     ให้ความรู้สึกที่ดี สำหรับผู้ที่ต้องก้าวเดินต่อไป ขอบคุณสำหรับโคลงด้วยค่ะ
    
    คุณกระต่ายใต้เงาจันทร์ .. ขอบคุณค่ะ
    
    คุณแก้วประเสริฐ .. อืมม !! 
    บางที่ ก็มีไฟร้อนลาม , บางที่ ก็มีน้ำท่วมท้น , หนำซ้ำบางที่ยังมีการวางระเบิดอีกแน่ะ
    
    คุณwhitelily .. ทิวาสวัสดิ์ค่ะ  วันนี้เป็นวันหยุด อัลมิตราแวะเข้ามาตอบคอมเม้นท์เพื่อน ๆ ค่ะ
  • ลักษมณ์

    31 สิงหาคม 2549 23:00 น. - comment id 602734

    ขอแวะมาติดปีกด้วยอีกคนครับ ..
  • อัลมิตรา

    3 กันยายน 2549 21:14 น. - comment id 603239

    :) ค่ะ คุณลักษมณ์ บินไปด้วยกัน โลดแล่นบนแผ่นฟ้าอักษร

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน