เส้นสีเงิน..ในเมฆดำ

กะลาสีเบจ

        ชีวิตยังเดินดำเนินอยู่
รับรู้บริบทถะรสนั้น
ลมหายใจย้ำเตือนอยู่เหมือนกัน
ยาว-สั้น คืบศอกตะคอกใส่
ตื่นเช้าขึ้นมาขนตาอุ่น
ละมุนอบอวลทั้งสวนไร่
ส่องแสงแหวกม่านมาด่านใด
จำใจเปิดด่านบนม่านตา
ภายใน..ห้องเหลี่ยม..เล็กเล็ก
ปัจเจกบุคคลย่อมค้นหา
ห้วงจิตห้วงใจที่ใหญ่กว่า
ทว่ามืดมนกลางหนทาง
ความทุกข์ อยู่ที่ใดหรือภายใน
ใกล้-ไกลฉกชวดมาอวดอ้าง
อยู่กินครอบครองแทนน้องนาง
ถากถางรอยยิ้มเป็นชิ้นดี
วันนี้อาจล้มคะมมคว่ำ
จองจำจมมิดจนติดที่
ย่ำเหยียบนาบผืนปฐพี
บีฑาเน้นย้ำจนต่ำเตี้ย
มองซ้าย มองขวาและหน้าหลัง
ภวังค์มืดเมือนในเรือนเบี้ย
มือแกว่งไกวนำเพื่อคลำเขี่ย
อ่อนเพลียหมดทางระวางไป
นั่งลงหยุดย่ามกลางความดับ
หลับตาผ่อนพักเพื่อหลักใหญ่
ละจิตวางห้วงตรงดวงใจ
เรียงไล่ทบทวนชนวนเหตุ
เห็น แสง ส่องมาแม้ตาหลับ
สดับรู้ล่วงเช่นดวงเนตร
แจ้งแล้ว เมฆดำ ที่งำเขต
เนรเทศกลับบึ้งลงบึงกาฬ
     สติมาปัญญาจะกำเนิด
ตะเพิดปัญหามาต่อต้าน
แสนล้านทุกข์ถามาร้าวราญ
บำนาญ สุขสุมแล้ว..จุมพิต
...........กะลาสีเบจ (๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๓)				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน