ความทรงจำ

แย้ม ไกลวันเกิน

ผลสุดท้ายคล้ายว่าเป็นยาพิษ
ขอรับผิดรับผลฉันคนเขียน
จักเผาไหม้ตัวเองเปล่งแสงเทียน
ส่องบทเรียน สู่ตระหนัก เพื่อนนักกลอน

เจตนาหรือไม่ ใช่ข้ออ้าง
เป็นผู้สร้าง ขอรับผิด รับพิษก่อน
นับแต่นี้ต่อไปไม่เขียนกลอน
จะจากจร เจ็บกลืน กลับคืนรัง

(เพลงเริ่มต้น-"เธออยู่ไหน")
เธออยู่ไหน,ใครคนนั้น,ฉันอยู่นี่ เป็นวลี ที่รำพัน กันลับหลัง เนิ่นนานปี ไม่มีใคร เคยได้ฟัง เพียงลำพัง รับรู้กัน กับจันทรา ฝากบอกใครคนนั้นนะจันทร์ไสว เธออยู่ไหนใช่ถามเพื่อตามหา ฉันอยู่นี่ก็ใช่อยากให้มา คล้ายเป็นคำอำลาด้วยอาวรณ์ คงจะไม่มีวันพบกันแล้ว ขอบคุณแวว ความห่วงใย ในวันก่อน เธออยู่ไหนไม่สำคัญนิรันดร เพราะทับซ้อนฉันอยู่นี่อยู่ที่เดิม เพลง "เธออยู่ไหน" ต้นฉบับ
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    27 กันยายน 2555 08:10 น. - comment id 1246753

    สรุปว่าตัดสินใจเองแล้วใช่ไหมคะ ^_^
    
    ความผูกพันของเพื่อนกับเพื่อน(กับเพื่อน)ช่างอ่อนไหว บอบบางจังนะคะ มั่นใจว่าถ้าต่างฝ่ายต่างเข้าใจ ต่างคนก็ต่างอยากให้กันและกันมีความสุขค่ะ ฉะนั้นเลือกทำในสิ่งที่อยากทำและทำแล้วสบายใจค่ะ 
    
    
    ู^_^ ที่บ้านหลังนี้มีเพื่อนเยอะค่ะ เพียงพลิ้วก็ชอบ เพื่อนเก่า เพื่อนใหม่มากมายเลยค่ะ ถ้าคุณแย้มเขียนกลอนทำให้เพื่อนเศร้าจนร้องไห้ได้ เพียงพลิ้วก็มั่นใจว่าทำให้เพื่อนยิ้มและมีความสุขได้เช่นกัน
    
    มั่นใจค่ะว่าคุณแย้มและเพื่อนคนนั้นยังจะได้พบกันอีกเพราะว่าต่างก็ผูกพันต่อกันและกัน อิอิ
    
    ว่าแต่ที่เขียนมานี่ นายเข้าใจเราไหมเนี่ย 5555 
    
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • แย้ม

    29 กันยายน 2555 06:27 น. - comment id 1246993

    เพียงพลิ้วเพื่อนยากของแย้ม
    
    แย้มกับย้อยหารือกันแล้วว่า "ควรไป" ด้วยเหตุผลง่ายๆว่า ถ้าทำให้เพื่อนเดือดร้อนก็ขอโทษเสีย แล้วอย่าทำอีก แย้มเลยบอกลาอย่างที่เห็น  ใจร้อนเหมือนตอนหนุ่มๆเลย คู่นี้
    แล้วทั้งคู่ก็พากันเดินออกจากบ้านกลอนไป ย้อยเดินนำ พอมาถึงหน้าห้อง เรื่องสั้น แย้มกระตุกแขนย้อยไว้
    "ข้าว่าที่นี่น่าจะพออยู่ได้ หัดเขียนเรื่องสั้น" 
    ย้อยหยุดคิดนิดหนึ่ง แล้วพูดเบาๆพอได้ยินกันสองคน "ข้าว่ามันเหมือนเจตนาถูกจองจำ หวังให้ญาติมาเยี่ยม ดูมันอดสูยังไงไม่รู้ว่ะ"
    "งั้นก็กลับบ้าน ขังเดี่ยวอย่างเดิม  แต่ว่าข้าขอไปเยี่ยมเพียงพลิ้วเขาหน่อย"
    แย้มจึงวกกลับบ้านกลอน เข้าห้องเม้นท์พบกับเพียงพลิ้ว เม้นท์02 แบบ 2/2
    "ดีเจแย้มมาแล้ว ไชโย้ จะได้ฟังเพลง"เพียงพลิ้วกระโดดตัวลอย แผ่นดินสะเทือน
    "เดี๋ยวก่อนแม่คุณ วันนี้ไม่มีเพลง แต่ไม่เป็นไร ฟังไอ้นี่ไปก่อน" แย้มตบที่หัวอกด้านซ้ายเบาๆ "ฟังดิ เพลงอะไร"
    เพียงพลิ้วอิดออดตามประเพณีที่ดีงามก่อนจะค่อยๆเอียงหูเข้าไป
    "ใกล้ๆหน่อยซี่ ไม่ต้องเขินหรอกน่า เราเพื่อนกัน เอ้า.. เอาหูแนบไปเลยก็ได้ แย้มไม่ถือ"
    ยังไม่ทันจะได้ฟังระฆังใจ แย้มก็ถอยหลัง ขวาหัน จามสนั่น "ฮ้าด..เช้ย"
    "อะไรพี่แย้ม? ตกกะดุ้งไปหมดเรย"
    "เส้นผมนายแหย่ปลายมาแยงรูจมูกเรา ไว้ซะยาวเชียว เอาหนังยางรัดไว้ก่อน เด๋วค่อยคุยกัน"
    แย้มหันมาอ่านเม้นท์ตอนความผูกพันอันอ่อนไหวบอบบางของเพื่อนๆอะไรนั่น เห็นมีวงเล็บเกะกะเลยแคะทิ้งไป คำว่าความผูกพันอันอ่อนไหวน่าจะถูกบางส่วน ถ้าจะให้ถูกหลายส่วนขึ้นมาอีกหน่อยน่าจะ  เกลียวสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นซึ่งเกิดจากสายสัมพันธ์อันอ่อนไหวผูกรัดเข้าด้วยกันนั้น ช่างอ่อนหวานเสียเหลือเกิน แย้มเอ๋ย สงสัยไข้ขึ้นซะแร้ว
    ไหน? ถึงบรรทัดไหนแล้ว แย้มลืมเอาแว่นตามา ขอยืมของเพียงพลิ้วหน่อยนะ โอ้โฮ..อันเบ้อเร่อเลย ใส่นั่งมอไซค์สบาย  
    "เอาคืนไปเถอะเธอ ขอบคุณมาก แล้วจะไม่ยืมอีก สัญญา เธอตาสั้นฉันตายาว ลืมไป"
    ก่อนที่เพียงพลิ้วจะสวมแว่นอย่างเก่า แย้มก็เห็นใบหน้าที่ปราศจากแว่นของเพียงพลิ้ว จึงคิดในใจ เพียงพลิ้วถอดแว่นแล้วสวยอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้จะบอกยังไง อย่าบอกใคร บอกไม่ถูกจริงๆ
    แย้มโม้มากจนคอแห้ง โก่งคอกลืนน้ำลายเอื้อก มองหน้าเพียงพลิ้วแว่บนึง เพียงพลิ้วรีบไปจัดน้ำระกำใส่น้ำแข็งมาให้อย่างทันอกทันใจ เห็นไหม? ไม่ต้องพูดซักคำ คนมันใจตรงกันซะแร้ว แค่มองตาก็รู้ใจ
    "พี่แย้มจ๋า พี่พูดอยู่คนเดียว เพียงพลิ้วเปรี้ยวปาก อยากพูดมั่ง"
    "ก็ได้  ที่เธอมั่นในว่าฉันจะได้พบเพื่อนน่ะ มั่นใจแค่ไหน  ลองทำมือให้ดูหน่อยซิ"
    เพียงพลิ้วยืนขึ้น กางแขนออกทั้งสองข้างแล้วเอาไปบรรจบกันข้างหลัง บิดขี้เกียจส่งไปเลย "เมื่อยเหลือเกินพี่ขวัญ ก็อ้ายทุยมันแหกคอกออกทุ่ง ข้ามลำประโดงลงคลองแสนแสบแอบเข้าพง ป่านฉะนี้ยังไม่ออกมาเลยจ้ะ ฉันรอจนเมื่อยเลยเรื่อยเฉื่อยมาบอกพี่ขวัญนี่แหละ"
    อ้ายขวัญรับมุกทันที รีบลุกขึ้นยืนขยับผ้าขะม้า"อย่าห่วงเรียมเอ๋ย ตลอดทั้งคลองแสนแสบนี่ ใครๆก็รู้ว่า ถ้าเรื่องควายละก็ ไม่มีใครเกินอ้ายขวัญ เอ็งว่าไหม"
    "จ้ะพี่ เรื่องควายควายละก็ ไม่มีใครเกินพี่ขวัญของฉัน"
    แย้มมองหน้า มองปากเพียงพลิ้วแล้วขบกราม "ลำบากนักเราพูดกันดีๆอย่างเก่าดีกว่านะ เออถึงไหนแล้ว?"
    "ถึงตอนที่ฉันทำมือให้พี่ดูไง แล้วพี่ล่ะว่าไง"
    "มากกว่านั้นร้อยพันเท่า พี่ดูเขาไม่ผิดหรอก คอยดูต่อไปเถอะ"
    เป็นไงเพื่อน? นายว่าเรามีแววจะเขียนหนังสือกะเขาได้ไหม?เราเหลือทางเลือกทางเดียว และเราต้องการความช่วยเหลือจากนาย เป็นกำลังใจให้เรานะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน