หยาดน้ำค้างคือมายาแห่งราตรี (The Pretending of Night Dew)

ลำน้ำน่าน

เจ้าหลับไหลในนามความอ้างว้าง
ท่ามไพรพรางแสงสรรค์พระจันทร์ฉาย
ขับลำนำบอกกล่าวกล่อมดาวราย
แกมกลิ่นกายครรลองของราตรี
เจ้ารอห้วงเวลาพฤกษาหลับ
ตื่นมารับเม่าภมรอ้อนแสงสี
มารินสายพรายพรูสู่วารี
ปลุกดอกไม้สวัสดีแขกค่ำคืน
เจ้าพรมพรำอยู่ในเถื่อนไม้ป่า
แล้วเริงร่าเที่ยวล่องท้องนาผืน
ฝากรอยรักสลักใจในลมครืน
ไปกลบเสียงสะอื้นหมื่นเรไร
คือหมายเหตุเพศพันธุ์แหละฤดู
ยืนหยัดอยู่เที่ยงตรงอสงไขย
เล่นบทรับรุกเรื่องเถื่อนเมืองไพร
แล้วผละไปเมื่อพรุ่งมารุ่งราง
เจ้าอ่อนไหวบอบบางกลางอุษา
พลีกายาเหือดเหงื่อเมื่อแสงสาง
ทิ้งรอยชื้นปื้นเขียวเรียวริมทาง
บนใบบางผืนนาหย่อมหญ้าดิน
เดินทางไกลจากสวรรค์ชั้นเวหา
นำน้ำตาอัปสรร่อนถวิล
มาเกิดดับนับเริ่มเจิมอาจิณ
มาดื่มกินทิพยรสแห่งกฎพุทธ
เจ้าหยาดวับจับใจใคร่คืนค่ำ
หยาดลำนำสาบสาวบริสุทธิ์
อิ่มเกษมเอมงามความสมมุติ
พริบตาหยุดลับโลกย์โศกน้ำตา
เจ้าหลั่งไหลอยู่ในกระแสเสียง
สื่อสำเนียงดัชนีที่เดียงสา
เพียงข้ามคืนวูบวับดับราคา
ยังเสาะหายังหวัง..ยังมิเว้น
เริงระบำร่ายริ้วทุกทิวภู
มาพรมพรูเกาะใจใครรู้เห็น
หนาวยิ่งหนาวเกร็ดเจ้ากราวกระเซ็น
ลืมย่ำเย็นย่ำรุ่งของพรุ่งนี้
เจ้าหลับตื่นในนามความอ้างว้าง
เจ้าคือหยาดน้ำค้างกลางวิถี
ยอมเกิดดับอยู่ในความไม่มี
เป็นมายาราตรีที่เปรอปรน!
------------------------------------
แท้เกิดดับอยู่ในใคร่ราคี
แค่มายานารีที่เปรอปรน!
แค่น้ำตานารีที่เปรอปรน!

---------------------------------------
ณ ทุกหนทุกแห่งของราตรี
น้ำค้างอันบริสุทธ์บอบบาง เจ้าไร้เดียงสานัก
โชคชะตากำหนดให้เจ้านั้นเป็นดัชนีความงาม
ของดอกไม้ราตรีดอกไม้งามที่บานในยามค่ำคืน
น้ำค้างพร่างมาในยามค่ำและเหือดไปในยามอรุณ
หมุนเวียนอยู่มิรู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นครรลอง
ธรรมชาติลิขิตฉันใด กฎธรรมชาติก็ยิ่งบ่งสอนเรา
ให้เข้าใจในครรลองการเกิดดับของชีวิตฉันนั้น...
เว้นแม้แต่ความเป็นมนุษย์โลก...
บางครั้งน้ำค้างก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดิน
ระหว่างน้ำค้างกลางไพรกับน้ำค้างกลางเมือง
ข้าพเจ้าประหวัดถึงน้ำค้างกลางไพรในบ้านนา 
ในยามที่พระจันทร์อาบฟ้าและแสงทองส่องหล้า
น้ำค้างอาบทุกทิวขอนตอนนา...
น้ำค้างกลางท้องทุ่งส่องเกร็ดแสงระยิบยับเต็มตา
งดงามบรรเจิด เป็นน้ำค้างที่บริสุทธิ์....
ที่ตกลงมาจากสรวงต้องแสงแรกแห่งอุษา
ท่านพุทธทาสบอกเสมอว่า 
ธรรมชาตินั้นตะโกนโหวกเหวก
สอนธรรมเราอยู่ตลอดเวลา เพียงเราเปิดใจรับฟัง
เข้าถึง เข้าใจ และพัฒนาความคิดจิตวิญญาณ
เพื่อนำไปสู่วัยวันชีวิตที่ดีกว่าอยู่เสมอ
ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันดร์
วันจันทร์ที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒ 
				
comments powered by Disqus
  • แก้วประเสริฐ

    27 กรกฎาคม 2552 16:36 น. - comment id 1020060

    36.gif16.gif36.gif
    
          มาอ่านกานท์ลำนำแห่งสหาย เห่อๆๆๆช่างลวดลาย
    เยี่ยมยุทธสุดแสนหวาน อร่ามเรืองแอร่มแฉล้มแย้ม
    พฤกษากาล ยั่วเย้ากานท์สะท้านสะเทือนเยือนอารมณ์
    บ่งบอกไว้ซาบซึ้งตรึงห้วงคิด ช่างประดิษย์ร้อยร่ำพร่ำ
    อักษรอาศัยเม่าเคล้าคลุกปลุกขั้นตอนรวีอ่อนหลบลี้
    หนีห้วงล่วงเมฆา....ฮ่าๆๆๆๆ รักเสมอ
    
                    16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • อรุโณทัย

    27 กรกฎาคม 2552 17:10 น. - comment id 1020074

    แวะมาอ่านงานกลอนครับ
  • ใจปลายทาง

    27 กรกฎาคม 2552 17:15 น. - comment id 1020079

    แว๊บมาอ่านงานงามๆ เจ้าค่ะ
    
      คิดถึงเสมอ
  • ทิพย์โนราห์ พันดาว

    27 กรกฎาคม 2552 19:52 น. - comment id 1020135

    งดงามและเป็นสุขเมื่อได้สัมผัส และรู้สึกเป็นห่วงเด็กสาวในสมัยนี้นะคะ ได้แค่เพียงหวังว่าสักวัน คำว่าสาวบริสุทธิ์จะกลับมางดงามอีกครั้งดั่งตำนานของคนไท แวะมาเยี่ยมค่ะ36.gif11.gif
  • ยาแก้ปวด

    27 กรกฎาคม 2552 19:58 น. - comment id 1020138

    หากไม่เคยผิดพลาด
    ก็ไม่อาจเรียนรู้..
    
    บทเรียนมักสอนด้วยประสบการณ์เสมอ
    
    งานงามเช่นเคยค่ะ
    
    36.gif1.gif59.gif
  • ดอกบัว

    27 กรกฎาคม 2552 21:17 น. - comment id 1020179

    สวัสดีค่ะ พี่ลำน้ำน่าน
    ธรรมชาติสะอาดตา เราก้าวเท้าเดินเข้าพงไพร
    มองเห็นต้นไม้ ใหญ่ที่โดดเด่นสูงตระหง่านแผ่กิ่งก้านสาขา
    ให้ความร่มเย็นต่อสรรพสัตว์ ทั้งหลาย  และบังเอิญเราก้าวเข้าไปอาศัย
    ร่มเงาของร่มเงานั้น แถมได้กลิ่นดอกที่หอมหวานชวนชื่นใจ
    แต่มิใช้กลิ่นดอกของต้นไม้ใหญ่นั้น  แท้จริงเป็น ดอกของต้นกาฝาก
    ที่เฝ้าดูดกินน้ำเลี้ยงของต้นไม้ใหญ่  และเอา ไปผลิตดอกออกใบให้แก่ตนเอง
    
    และถ้าต้นไม้ใหญ่พูดได้ ว่าพอใจในกาฝากนั้นหรือไม่
    ต้นไม้ใหญ่ จะตอบว่าอย่างไรน่ะ 
    
    ต้นไม้ใหญ่  คือ ศาสนา
    กิ่งก้านสาขา คือ ศีล สมาธิ  ปัญญา 
    น้ำเลี้ยง คือ ลาภ สักการะ ชื่อเสียง เกีตรติภูมิ ศรัทธา
    บทโศลก ของปู่พุทธะ ค่ะ
    
    ดอกบัวก็ว่าจะลองแจมบทนี้ แต่ไม่แจมดีกว่า มาอ่านเฉยๆ
    พี่ลำน้ำ บอกไว้ทุกตัวอักษรอยู่แล้ว งดงามแล้วค่ะ
    น้ำค้างเมื่อเกาะตามใบพฤกษ์ไพร ใบข้าว ใบหญ้า กลีบดอกไม้
    ตามพุ่มซุ่มเถาเงาใบในพงไพร งามสะอาดบริสุทธิ์แวววาว
    
    แต่เมื่อน้ำค้างยามค่ำคืนหล่นพราวในป่าปูนก็ปะปนกับมลพิษ
    แปรเปลี่ยนสภาพเป็นพิษภัย 
    
    พี่ลำน้ำ หายยังค่ะเนี่ย 
    เป็นแล้วก็มีภูมิแล้วค่ะ
    อย่างไร พี่ลำน้ำ ก็ต้องระวัง  สุขภาพนะค่ะ
    ถึงออกกำลังกายอยู่เสมอ แข็งแรงดี ก็ต้องระวังตัวอยู่ดีแหล่ะค่ะ
    มีแต่ความสุขค่ะพี่ลำน้ำ
    
    
    29.gif36.gif46.gif
  • กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

    27 กรกฎาคม 2552 21:57 น. - comment id 1020201

    เห้อออ พูดอะไรไม่บอกจริงๆ ครับ
    งานของพี่ พาผมผิดหวังอีกรอบ ไม่มีเล๊ย เรื่องกลอนจีบสงจีบสาวเนี่ย  อิอิ
    
    เอ่อ ผมลลืมชมพี่  ที่บอกว่า ผมเป็น ว๊ายร่าย เอ๊ย วายร้าย....ชื่อนี้พี่ท่านคิดได้แต่ใดมา  อันตัวข้าน้อยนั้น เกิดมาเพื่อเป็นพระเอกตลอดกาล หาได้เป็นดั่งท่านพี่เข้าใจผิดไปไม่  อันความจริง...ยกน้ำชา  ให้พี่ก่อน  อืมมม  ต่อเลยนะครับ   อันความจริงแล้ว  (ความจริงก็คือจริง...จะพูดทำไมเนี่ย อิอิ)  
    
    อันความจริงข้าน้อย  ได้รับฉายามากมายในยุทธภพแห่งนี้ เริมตั้งแต่  1. กวีน้อยหมดสำราญ....ก็ต้องมีบ้างล่ะ จากคุณเฌอมาลย์  2. เด็กน้อย...จากพี่พุดไพร พี่สาวนา  ที่น่ารัก ทีน่าหลงไหล ของใครๆ หลายๆคน อิอิ  3.  กวีน้อยเจ้าสำรวย...คุณดอกบัว (แปลว่าอิหยังน๊อ ชื่อนี้)   4.  หนุ่มดอกหญ้า  จากป้าพิม เอ๊ย คุณพิมญดา อิอิ  5.  วายร้าย  อิอิ  ชื่ออื่น ดีหมดเลย  แต่ผมข้องกะใจ๋ กะชื่อนี้  "มันยุติธรรมกันดีหรือไร  มันยุติธรรม  กันอยู่หรือ....รู้สึกจะเป็นเพลง คุณพี่พุ่มพวง ดวงจันทร์ "  
    
    คือที่ผมร่ายมา ทั้งหมดไม่มีอะไรหรอกครับ  ชื่อนั้นสำคัญไฉน  ถึงแม้ใครๆ จะเรียก ผม สุดหล่อ สุดเท่ห์....ผมรับได้เสมอ  (แต่จริงๆ ไม่มีใครเรียก 555+)  และวายร้าย คังคังฉิ่ง อะไรที่พี่ยกให้นั้น ก็เท่ห์น่ะครับ  ผมเกิดมาเป็นพระเอกทุกเรื่องเลย   ยิ่งบักสิเด๋อ  โอ๊ย แฮงคักหลาย  เป็นพระเอกมิวสิค  ซั่นละตั่วอ้าย อิอิ
    
    ไปล่ะครับ  มั่วก่อกวน มาไกล อิอิ  กวนใครก็ไม่สุขใจเท่าพี่ ลำน้ำน่านหรอก  พี่น่ะออก อาการนิ่งๆ  ถ้าวันไหนเดือดขึ้นมา  ผมก็ถือว่า โชคดี  ทำให้พี่โกรธได้  อิอิ  ไปแระ  หน้าตาชักจะแด๊งแดง  กลัวภูเขาไฟ..ในใจพี่จะระเบิด  
    
    ไปล่ะครับ ชะแว้บบบบ
  • อินสวน

    27 กรกฎาคม 2552 22:46 น. - comment id 1020229

    ท่านลำน้ำน่าน
    โชคดีอีกคราสำหรับผม
    อินสวน...ไม่ใช่เป็นเพียงนามปากกา
    แต่เป็นอีกชื่อหนึ่งของผมที่คุณยายทวด
    ตั้งให้...ผมเองก็ชอบชื่อนี้มากครับ
    ผมเป็นคนจังหวัดน่านครับ..(ต้นกำเนิด)
    แม่น้ำน่านครั้งแรกที่เห็นชื่อของท่าน
    ผมนึกว่าเป็นคนบ้านเดียวกันซะอีกครับ
    ผมเขียนกลอนเพราะใจอยากเขียน
    ภาษาไทยผมค่อนข้างแย่ครับ...ผมชอบผลงานของท่านมากที่สุด...มาจังหวัดน่านเมื่อไหร่
    หวังว่าคงให้โอกาสผมต้อนรับนะครับ36.gif
  • แจ้นเอง

    29 กรกฎาคม 2552 06:43 น. - comment id 1020647

    36.gif
    
    ไม่เคยผิดหวังเลยค่ะ
    ถ้าอยากอ่านงานกลอนที่ให้ทั้งความไพเราะ
    และมิติที่แฝงไว้ด้วยธรรมะ
    อ่อนหวานและบาดคม
    
    ชื่นชมค่ะ
    31.gif
  • เส้นฟาง

    29 กรกฎาคม 2552 20:33 น. - comment id 1020819

    ชื่นชมจริง ๆ ค่ะกับบทกวีที่บรรยายถึงความบริสุทธ์ของหยาดน้ำค้าง เป็นความบริสุทธิ์ที่เกิดจากธรรมชาติมิได้มีการปรุงแต่งแต่อย่างใด งดงามกับการใช้ภาษามากเลยค่ะ ขอเป็นกำลังใจหวังว่าคงจะได้อ่านบทกวีดีและไพเราะอย่างนี้อีกนานเท่านานเลยนะค่ะ คุณลำน้ำน่าน
  • สาวบ้านไร่

    31 กรกฎาคม 2552 13:47 น. - comment id 1021408

    อ่านกลอนเพราะ ๆ ด้วยคนค่ะ
    นึกถึงบรรยากาศยามเช้าที่ต่างจังหวัด
    หยาดน้ำค้างกลางไพร เกาะตามยอดหญ้า
    ที่ดูว่าต่ำต้อย แต่กลับสร้างความเพลิดเพลิน
    และความงดงามที่หาไม่ได้ในป่าคอนกรีต
  • ดุจระวี

    5 สิงหาคม 2552 22:33 น. - comment id 1023669

    อ่อนโยนในคำ...แต่แผ่ซ่านสะท้านทรวงแท้...
  • tiki_ทิกิ 4895 unlogged-in

    13 สิงหาคม 2552 09:41 น. - comment id 1026418

    ระลึกถึงมิวาย
    
    36.gif
  • ข้าวหอม

    9 กันยายน 2552 17:50 น. - comment id 1036842

    น้ำค้างบริสุทธิ์เสมอไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งใดในบนโลกผืนนี้ อ่านกลอนแล้วอิ่มใจจังค่ะ ได้ข้อคิดต่าง ๆ นา ๆ เยอะมากค่ะ ขอบคุณจริง ๆ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน