28 กุมภาพันธ์ 2551 11:14 น.

"29 กุมภา" วันธรรมดา..ที่ไม่ธรรมดา

กะลาสีเบจ

       ยี่สิบเก้ากุมภามาไม่บ่อย
เพราะทางรอยธรรมชาติวาดขีดเขียน
ให้เจ้าโผล่สี่ปีหนหมุนวนเวียน
ดูผิดเพี้ยนผิดแผกแยกเพลา

นานนานทีเจ้ามาเยือนเรือนชานโลก
หากเจ้าบ้านยังดูโศกโกรกปัญหา
ยังต้อนรับขับสู้ทั้งน้ำตา
จะมองหน้าผู้มาไกลอย่างไรกัน

มาเถอะมา..น้องพี่ที่ทุกข์โศก
อุปสรรคอุปโลกน์ให้สุขสันต์
แท้มนุษย์เทียบโลกแค่ตะกรัน
ปัญหานั้นก็ตะกรัน..ใช่โลกใบ

เปรียบตัวเราสองมือถือเก้าอี้
แรงพอมีเสริมพ่วงเกินถ่วงไหว
ปัญหาเก่าแบกหนักบ่าอยู่ทำไม
ละพักใจยกของใหม่ให้คลายจินต์

แท้จริงแล้ววันวานใช่สารแก่น
แค่อยากให้เป็นสื่อแทนแดนสุขศิลป์
แม้พายุจะถาโถมจาบโจมกิน
ขอผาใจแกร่งดั่งหิน..ก็..แค่ระคาย
                    ...
                     ..
ขอหัวใจ"กล้า"โผผินวาดบิน..เอง

"ขอให้มีความสุขในวันธรรมดา..ที่ไม่ธรรมดา"
.......กะลาสีเบจ (๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑)				
26 กุมภาพันธ์ 2551 08:08 น.

ฝากคำ..มา"ย้ำ"เตือน

กะลาสีเบจ

      มีพยัญชนะมาให้ใคร่เรียงร้อย
ตามทางถ้อยบทบาทวาดวิถี
หนึ่งบทหนึ่งคำจงโชคดี
เลือกสรรอย่าง..สุขขีตามใจจินต์

๑.  ทอทหารอดทนพร้อมชนศึก
รอเรือคึกลอยล่องท่องแสสินธุ์
พอพานวางตั้งยั้งวาริน
สระอีประทับทินบนถิ่นพาน

๒.  สระเอตั้งท่าหน้านอหนู
เจ้ารอเรือตามลู่สู่ลำหาน
คอควายไถสระอุใต้บาดาล
เณรน้อยอ่านสวดลามมาตามควัน

๓.  อ่างเนืองนองร้าวไหลกอไก่จิก
เต่าระริกติดไม้อากาศให้หุนหัน
ยอผู้หญิงโสภาหน้าแจ่มจันทร์
อีกหญิงนั้นพกตีนคู้อยู่เบื้องตีน

 ..จะเลือกคำที่ ... ๑.... ๒.....หรือ ๓

นำถ้อยคำมาโกรกเตือนเฉือนสำนึก
มาย้ำลึกถึงความหมายละอายศีล
มาตอกย้ำวัวได้ดีที่ลืมตีน
มาสดุดีลูกหีนชาติระบาดคน

ไถ่น้ำตามารดามาจารพื้น
แล้วมายืนชูคอรอรับผล-
รางวัลลูกเช่นนี้กาลีชน
ตำแหน่งตนบดบังขังมารดา

แม้เหรียญบาทที่ตกหล่นอยู่บนพื้น
แม่จะคืนให้ลูกทุกบาทหนา
จะได้รู้แม่มิใช่ไขว่เงินตรา
เจ้าลูกยาแน่แท้..ที่แม่คอย

เมื่อเลือกสรรคำความตามข้างต้น
ที่เหมาะตนการกระทำถลำถอย
หรือความคิดอาจผิดแผกแยกตามรอย
มิอาจสอยถ้อยทางร้างความดี

๔.  จึ่งมีคำกตัญญูมามอบให้
แด่ผู้พรากหยาดแม่ไหลหลั่งเกษมศรี
เอาถ้อยคำเป็นลำแสงแห่งสุรีย์
สาดรพีโปรยหว่านลานสังคม

   ..หรือจะเลือกคำที่...๔

.....กะลาสีเบจ (๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑)				
23 กุมภาพันธ์ 2551 02:38 น.

นามสกุล"สงเคราะห์"

กะลาสีเบจ

ยามหิวโหยท้องขมวดสวดเพลงหิว
วิ่งตัวปลิวสู่ห้างสรรพสินค้า
แหล่งรวบรวมอาหารล้านนานา
รถสีเหลืองคันใหญ่มาคอยหาเท

ส่วนบ้านหนูใหญ่โตมโหฬาร
ผนังเพดานฝ้าสูงจูงลมเห
มีบันไดสองฝั่งอย่าลังเล
ยามนอนหลับลมพัดเพสะท้านกาย

ความข้างต้นสองในปัจจัยสี่
ครั้นสังคมเอื้ออารีใจดีถวาย
อาจโชคดีมีคนทนละอาย
ไปฝากกายให้สงเคราะห์เพาะสันดาน

อยากตะโกน!!ภายในใจให้ก้องห้วง
เจ็บระทรวงคำสงเคราะห์ที่เรียกขาน
สิทธิทางบางประเภทเศษทรมาน
ทิ่มประจานกับคำนี้ที่ยลยิน

การศึกษาสงเคราะห์ของเด็กเร่ร่อน
ออกประกาศกระฉ่อนว่อนถวิล
เครื่องอุป-บริโภคสงเคราะห์อิน-
ทรีย์-เด็กไม่มีกินทั่วถิ่นเมือง

นั่นเป็นสิทธิ์ที่หนูควรพึงได้
ที่เหมือนให้กับเด็กอื่นทั้งหมื่นเหมือง
ทำไมค่ะ?คำสงเคราะห์มาเฉาะเคือง
หรือแยกเบื้องสิทธิ..ศักดินา

คงตั้งใจให้เห็นเป็นกลุ่มก้อน
จะได้ช้อนสิ่งเน่าเหม็นเห็นยถา
จึงห้อยคำสงเคราะห์จำเพาะมา
ไว้เรียกหาให้ครั่นคร้ามนามสกุล

นามสกุลแบบหนูท่านรู้ไหม
ทำอะไรเป็นหน้าที่ให้มีลุ้น
นักการเมืองบริหารประเทศให้สมดุล
หน้าที่หนูคอยสร้างทุน..สวะสังคม

......กะลาสีเบจ (๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑)				
17 กุมภาพันธ์ 2551 06:48 น.

ปัจฉิม..สุรา

กะลาสีเบจ

ยามงานเลี้ยงก่อเกิดเปิดสังสรรค์
ย่อมมีวันเลิกราก้าวขาถอน
ยามเมื่อพบก่อรากเป็นฉากตอน
ย่อมมีพรากจากจรเป็นธรรมดา

ให้ค่ำคืนมืดมิดสนิทนี้
เป็นสักขีพยานของวารหน้า
เชิญผองเพื่อนมิตรสหาย..มาเถิดมา
พร้อมปัจฉิม..สุราท่ามอาวรณ์

ถึงเพลาร่วมตั้งวงบรรจงสร้าง
มิตรทางสายสุราเป็นยาสอน
รินน้ำใจใส่น้ำเมาเคล้าตะกอน
พร้อมรับพรจากเมรัยที่ไหลริน

ขออำลาเป็นภาษาดีกรีเหล้า
ปลดร่างเงาเคว้งคว้างสร่างศิลป์
สหายเอ๋ยเคยร่วมสุข-ทุกข์หย่อมดิน
บรรเลงรินเต็มแก้วแล้วดับชน

ยกไมตรีปรี่ล้นบนเนื้อแก้ว
กระทบแนวขอบต่อขอบพิรอบผล
สัจจะต่อสัจจะระหว่างคน
จะเข้มข้นไม่ยิ่งหย่อนร่อนเมรัย

วาระเมาสุดท้ายในภายนี้
แลกดีกรีจนกว่าวันฟ้าใหม่
ขอราตรีแข็งข้ออย่าย่อไป
จงยาวไกลกว่าวันพรุ่งรุ่งอรุณ

ต่างหลับใหลโรยรินกระสินธุ์แส-
บรั่นแท้สหายจริงยิ่งกว่าขุน-
เขา-มหาสมุทรมหึมาธาราทุน
ไม่ติดฝุ่นน้ำใจเพื่อนสะเทือนชล

ฟ้าส่างมืดจืดกาฬหว่านฟากฟ้า
แสงอำภาทอทอดสอดเวหล
ค่อยส่างเมากลับสู่ลู่ทางตน
สวมร่างคนล่าฝัน..อันวิไล

ยามงานเลี้ยงก่อเกิดเปิดสังสรรค์
ย่อมมีวันเลิกราน้ำตาไหล
ขอลาก่อนสหายสุรา..ลับตาไกล
แล้วพบกัน..วันฟ้าใหม่ไอ้เพื่อนเกลอ

......กะลาสีเบจ (๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑)				
2 กุมภาพันธ์ 2551 14:44 น.

"ห่านคู่"หรือจะสู้"ลาคอส"

กะลาสีเบจ

        มีนิทานเรื่องหนึ่งพึงเล่าขาน
ในตำนานก่อนเก่านานเนาโข
ห่านตัวหนึ่งกับจระเข้พเนโค-
จรรักถักอโณโสรยา

จระเข้ผู้โก้หรูดูมาดเท่ห์
ล้นเสน่ห์ดูดดึงตรึงเมขลา
เพรียบพร้อมสรรพสะอาดหูสะอาดตา
ตีราคาสูงชั้นขั้นไฮโซ

ผิดกับห่านเรียบง่ายสไตล์เพื่อชีวิต
เดินใกล้ชิดนวลอนงค์คงต้องโผ
ไม่พรั่งพร้อมย้อมตนปนไฮโซ
เดิมโลโซ..เดิมโลคลาส..ลาดดอนดิน

ถึงไม่ทายก็รู้ผลแต่ต้นเริ่ม
ว่าผู้ใดได้ผากเจิมเติมถวิล
โอ้เจ้าห่านต้องผ่านฝึกชั่วโมงบิน
กระแสสินธุ์ท่วมใจนาง..เข้วางจอง

หญิงทั้งร้อยชอบชายป้ายราศี
สกุลดีหล่อเท่ห์เสน่ห์คล้อง
อย่างจระเข้สอยด้ายไหมสีทอง
หญิงใฝ่ปองแท่นคุณนายสบายบุญ

แล้วเปลือกนอกดูสบายง่ายแบบห่าน
หญิงมองผ่านละสายตาว่าสถุน
ชีวิตคู่ความมั่นคงเป็นดงทุน
หญิงใดใดก็อยากหนุนหุ้นเงินตรา

สมมติว่าเรื่องนิทานที่ขานเล่า
อุบัติเอาโลกปัจจุบันล้านปัญหา
ห่านอาภัพกลับกลายแปลงกายา
เป็นห่านคู่ถือกรรมมาแต่ปางกาล

ส่วนจระเข้เท่ห์หล่อละออหลง
กลับแปลงปลงเป็นลาคอสสอดผสาน
มาหว่านล้อมกล่อมเห่เล่ห์ชายชาน
เงินแลกผ่านซื้อหัวใจใคร่เชยชม

โลกความจริงอิงนิทานผ่านไม่ได้
ลาคอสที่ฝันเอาไว้เนื้อในขม
อาจสวมเทวดามาหลอกลิ้มเจาะชิมดม
ระวังจมจ่อมน้ำตา..นะยาใจ

......กะลาสีเบจ (๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกะลาสีเบจ
Lovings  กะลาสีเบจ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกะลาสีเบจ
Lovings  กะลาสีเบจ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกะลาสีเบจ
Lovings  กะลาสีเบจ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกะลาสีเบจ