3 กุมภาพันธ์ 2553 08:51 น.

เพียงเปิดใจ

กันนาเทวี

เพื่อนส่งเมล์มาให้   อ่านดูก็เข้าท่าดีนะ
น่าจะเผยแพร่ต่อ


"...ถ้าไม่อยากถูกไฟลวกก็อย่าเล่นกับไฟ 

ไม่อยากจมน้ำก็อย่าลงน้ำ 

ไม่อยากเจ็บก็อย่ารู้สึก 

ไม่อยากตายเพราะรักก็อย่ารัก 

ถ้าไม่อยากสูญเสียคนรอบข้างก็อย่าแสดงอารมณ์ 

ไม่อยากร้องไห้พรุ่งนี้ วันนี้อย่าหัวเราะ..." 

หลายคน คงเคยได้ยินหรือ ไม่ได้ยิน ประโยคนี้

หากเราคิดที่จะรักใครสักคนแล้ว

บางครั้งเราก็ไม่ได้ดูหรือเห็นถึงส่วนที่เลวร้ายของเขาคนนั้น

มันเป็นความจริงที่หลายคนต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น

มีคนบางคนไม่กล้าที่จะรักใครสักคนเพียงเพราะว่าขลาดกลัวกับความรัก

กลัวความจริงที่วันหนึ่งเราและเขาไม่ได้อยู่เคียงข้างกัน

นั่นแหละคือความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะว่า

เธอได้ปิดกั้นความรู้สึกและตัวของเธอเอง

ความกลัวเปนเหมือนเกราะที่ทำให้ใครหลายคนไม่กล้าที่จะรักใครได้

หากเพียงแค่เราเปิดใจรับใครสักคนเข้ามา

เพียงครั้งเดียวก้อทำให้เราได้รู้ว่าโลกที่สดใสเป็นเช่นไร

ไม่ใช่คิดกลัวกับเรื่องของอนาคตที่มันกำลังจะเกิดขึ้น

เพราะการที่เรากลัวมัน ก้ออย่าเลยที่คุณจะมีความสุขได้

หากคุณยังกลัวเหมือนกับข้อความข้างบนแล้ว

คุณจะไม่รู้จักกับคำว่ารักเลย

เปิดใจที่รับใครสักคนศึกษาดูใจกัน

เพราะวันหนึ่งคุณจากล้าพูดได้เลยว่า

ความรักทำให้อะไรบนโลกนี้น่าอยู่มากกว่าเดิม.......


 


ข้อมูลจาก ตติยศ+ตติยา บอร์ดสะระแน ดอทคอม				
21 มกราคม 2553 21:10 น.

สุภาษิตกำเมืองล้านนา

กันนาเทวี

ตกต่าเปิ้นเป๋นดีใค่หัวตกต๋าตั๋วเป๋นดีไข้ไห้
คนเราเมื่อเห็นคนอื่นประสบเคราะห์กรรม  เจอเหตุการณ์ร้ายต่างๆ  
มักจะเฉยชาไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลย บางทียังหัวเราะเยาะ
 เห็นเป็นเรื่องชวนหัวด้วยซ้ำยามเมื่อตนเองเจอเหตุเช่นนั้นบ้าง
  ก็จะรู้สึกตัวหาทางออกไม่ได้ มืดแปดด้านและอยากร้องไห้  
 เป็นลักษณะนิสัยที่ไม่ดี  นอกจากไม่มีจิตใจเมตตาธรรมต่อกันแล้ว
ยังเป็นคนใจจืดใจดำไม่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้ที่ประสบภัยต่างๆ  เป็น
คนตระหนี่  ไม่รู้จักการให้ปันและเสียสละ  หากสังคมใดมีคนเช่นนี้
มากๆ สังคมจะไม่มีความสุข  เป็นสังคมที่ไร้น้ำใจ 
 ไม่มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน อยู่แบบตัวใครตัวมัน  
สุภาษิตนี้ให้คติสอนใจว่าเราควรเห็นใจเพื่อนมนุษย์โลก
ที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์  คนเราทุกคนเกิดมาล้วนปรารถนาสุข 
 เมื่อพบเห็นคนประสบทุกข์ควรจะแสดงความเห็นอกเห็นใจ 
 ให้กำลังใจและปลอบใจกันมากกว่า
                    โลกนี้เป็นอนิจจัง ทุกคนมีกรรมที่ติดตัวมา ดวงชะตา
จะเป็นไปตามผลแห่งกรรมที่ประพฤติปฏิบัติสะสมมาส่งผลให้   
เราไม่สามารถล่วงรู้อดีตชาติของเราเอง แต่เราสามารถทำดี
ในวันนี้เพื่อให้บุญทาน  หรือผลแห่งบุญที่เรากระทำในวันนี้
จะส่งผลให้เราได้พบแต่สิ่งดีงามในวันหน้า
ดังเนื้อร้องเพลงฮิตในอดีตเพลงหนึ่ง ที่ว่า 
              อย่าเยาะเย้ยฉันแล้วคงสักวันเธอต้องร้องไห้ 
                 วันนี้ปรีดาพรุ่งนี้ปราชัย
               แล้วจะเจ็บใจ  โทษใครเล่าเอย.......				
21 มกราคม 2553 21:02 น.

สุภาษิตกำเมืองล้านนา

กันนาเทวี

สุภาษิตกำเมือง
ตกต่าเปิ้นเป๋นดีใค่หัวตกต๋าตั๋วเป๋นดีไข้ไห้
คนเราเมื่อเห็นคนอื่นประสบเคราะห์กรรม  เจอเหตุการณ์ร้ายต่างๆ  
มักจะเฉยชาไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลย บางทียังหัวเราะเยาะ
 เห็นเป็นเรื่องชวนหัวด้วยซ้ำยามเมื่อตนเองเจอเหตุเช่นนั้นบ้าง
  ก็จะรู้สึกตัวหาทางออกไม่ได้ มืดแปดด้านและอยากร้องไห้  
 เป็นลักษณะนิสัยที่ไม่ดี  นอกจากไม่มีจิตใจเมตตาธรรมต่อกันแล้ว
ยังเป็นคนใจจืดใจดำไม่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้ที่ประสบภัยต่างๆ  เป็น
คนตระหนี่  ไม่รู้จักการให้ปันและเสียสละ  หากสังคมใดมีคนเช่นนี้
มากๆ สังคมจะไม่มีความสุข  เป็นสังคมที่ไร้น้ำใจ 
 ไม่มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน อยู่แบบตัวใครตัวมัน  
สุภาษิตนี้ให้คติสอนใจว่าเราควรเห็นใจเพื่อนมนุษย์โลก
ที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์  คนเราทุกคนเกิดมาล้วนปรารถนาสุข 
 เมื่อพบเห็นคนประสบทุกข์ควรจะแสดงความเห็นอกเห็นใจ 
 ให้กำลังใจและปลอบใจกันมากกว่า
                    โลกนี้เป็นอนิจจัง ทุกคนมีกรรมที่ติดตัวมา ดวงชะตา
จะเป็นไปตามผลแห่งกรรมที่ประพฤติปฏิบัติสะสมมาส่งผลให้   
เราไม่สามารถล่วงรู้อดีตชาติของเราเอง แต่เราสามารถทำดี
ในวันนี้เพื่อให้บุญทาน  หรือผลแห่งบุญที่เรากระทำในวันนี้
จะส่งผลให้เราได้พบแต่สิ่งดีงามในวันหน้า
ดังเนื้อร้องเพลงฮิตในอดีตเพลงหนึ่ง ที่ว่า 
              อย่าเยาะเย้ยฉันแล้วคงสักวันเธอต้องร้องไห้ 
                 วันนี้ปรีดาพรุ่งนี้ปราชัย
               แล้วจะเจ็บใจ  โทษใครเล่าเอย.......				
21 มกราคม 2553 20:54 น.

ภาษิตกำเมืองล้านนาไทย

กันนาเทวี

สุภาษิตกำเมือง

ตกต่าเปิ้นเป๋นดีใค่หัวตกต๋าตั๋วเป๋นดีไข้ไห้
คนเราเมื่อเห็นคนอื่นประสบเคราะห์กรรม  เจอเหตุการณ์ร้ายต่างๆ  
มักจะเฉยชาไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลย บางทียังหัวเราะเยาะ เห็นเป็นเรื่องชวนหัวด้วยซ้ำ
  ยามเมื่อตนเองเจอเหตุเช่นนั้นบ้าง  ก็จะรู้สึกตัวหาทางออกไม่ได้ มืดแปดด้านและอยากร้องไห้  
 เป็นลักษณะนิสัยที่ไม่ดี  นอกจากไม่มีจิตใจเมตตาธรรมต่อกันแล้วยังเป็นคนใจจืดใจดำ
ไม่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้ที่ประสบภัยต่างๆ  เป็นคนตระหนี่  ไม่รู้จักการให้ปันและเสียสละ  
หากสังคมใดมีคนเช่นนี้มากสังคมจะไม่มีความสุข  เป็นสังคมที่ไร้น้ำใจ  ไม่มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน
  อยู่แบบตัวใครตัวมัน   สุภาษิตนี้ให้คติสอนใจว่าเราควรเห็นใจเพื่อนมนุษย์โลกที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์  
คนเราทุกคนเกิดมาล้วนปรารถนาสุข  เมื่อพบเห็นคนประสบทุกข์ควรจะแสดงความเห็นอกเห็นใจ 
 ให้กำลังใจและปลอบใจกันมากกว่า
                    โลกนี้เป็นอนิจจัง ทุกคนมีกรรมที่ติดตัวมา ดวงชะตาจะเป็นไปตามผลแห่งกรรม
ที่ประพฤติปฏิบัติสะสมมาส่งผลให้   เราไม่สามารถล่วงรู้อดีตชาติของเราเอง แต่เราสามารถทำดี
ในวันนี้เพื่อให้บุญทาน  หรือผลแห่งบุญที่เรากระทำในวันนี้จะส่งผลให้เราได้พบแต่สิ่งดีงามในวันหน้า
ดังเนื้อร้องเพลงฮิตในอดีตเพลงหนึ่ง ที่ว่า 
              อย่าเยาะเย้ยฉันแล้วคงสักวันเธอต้องร้องไห้  วันนี้ปรีดาพรุ่งนี้ปราชัย
               แล้วจะเจ็บใจ  โทษใครเล่าเอย.......				
23 ตุลาคม 2552 17:37 น.

ขอร่วมบริจาคสมทบทุนจัดสร้างห้องสมุดโรงเรียน

กันนาเทวี

เพื่อนๆ  บ้านกลอนทุกท่าน

แต่งกลอนพร่ำพรรณนาประสายาก

เสียงวอนจากครูบ้านนอกบอกวานเพื่อน

เด็กขาดห้องสมุดทั้งปีเดือน

จะทำเรือนสมุดน้อยคอยแรงใจ

 

 ช่วยบอกต่อขอทุนอุดหนุนสร้าง

ช่วยก่อร่างการศึกษาให้ผ่องใส

เชิญพ่อแม่พี่น้องทั่วถิ่นไทย

เป็นบุญให้หนูน้อยบนดอยแดน

ป้ากันนา

 

ผู้มีจิตศรัทธาเชิญชวนบริจาคร่วมสมทบทุนได้ที่


 โรงเรียนบ้านแพะยันต์ดอยแช่  อำเภอแม่ทา  จังหวัดลำพูน  
เบอร์โทรติดต่อ  053574488  email  pydc@hotmail.com  
http://www.pdschool.co.cc
 เลขที่บัญชี  531-0-04205-9

โครงการจัดสร้างห้องสมุด
โรงเรียนบ้านแพะยันต์ดอยแช่   อำเภอแม่ทา  จังหวัดลำพูน
หลักการและเหตุผล
              โรงเรียนขาดห้องสมุดที่เป็นสัดส่วน  ทำให้กิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองไม่พัฒนาไปเท่าที่ควร  เด็กขาดโอกาสในการแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก ห้องสมุดปัจจุบันเป็นใต้ถุนบ้านพักครูเก่า  แคบและมืดไม่น่าเข้าไปใช้  ไม่จูงใจเด็ก  ดังนั้นเพื่อยกระดับมาตรฐานการเรียนรู้โดยยึดเด็กเป็นสำคัญทางโรงเรียนจึงจัดทำโครงการจัดสร้างห้องสมุดมาตรฐานขึ้น  
วัตถุประสงค์ของโครงการ
1.	เพื่อให้สถานศึกษามีการจัดสภาพแวดล้อมและการบริการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาตามธรรมชาติเต็มศักยภาพ
2.	 เพื่อให้ผู้เรียนมีนิสัยรักการอ่าน  สนใจแสวงหาความรู้จากแหล่งต่างๆ รอบตัว 
3.	เพื่อให้ผู้เรียนใฝ่รู้  ใฝ่เรียน  สนุกกับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ 
4.	เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้ห้องสมุด แหล่งความรู้และสื่อต่าง ๆ ทั้งภายในและนอกสถานศึกษา
ระยะเวลาดำเนินงาน     เริ่มต้นวันที่  20   เดือนตุลาคม  พ.ศ.2552  สิ้นสุดวันที่  30   เดือนกันยายน   พ.ศ.   2553				
ไม่มีข้อความส่งถึงกันนาเทวี