26 กุมภาพันธ์ 2548 01:44 น.

ทาสปริญญา

ขลุ่ยหลิบ

          ปริญญาแผ่นใหญ่ในกรอบหรู
เครื่องเชิดชูชี้ชัดวัดคุณค่า
เป็นบัณฑิตติดชั้นชนปัญญา
เกียรติสูงกว่าสามัญชนทุกหนทาง

บนถนนสายนี้คนที่แพ้
จะพบแต่คมขวากคำถากถาง
ความอดสูตอกย้ำเกินอำพราง
เขาทิ้งขว้างเพราะเห็นเป็นส่วนเกิน

คนชนะจะหลงทนงนัก
หยิ่งในศักดิ์รอวันคนสรรเสริญ
สังคมอ้าแขนรับและเชื้อเชิญ
วาดทางเดินข้างหน้าว่างดงาม

ปริญญาเป็นภาพพจน์อันสดสวย
ซึ่งอาจช่วยยกตนคนเกรงขาม
ใบเบิกทางที่ใช้ได้ทุกยาม
คนจึงตามแสวงหาไขว่คว้ากัน

ค่าของคนยุคนี้อยู่ที่ไหน
ถ้ามิใช่ปริญญามาเสกสรรค์
แผ่นกระดาษเอาประกวดอวดประชัน
คงยึดมั่นต่อไปไม่เสื่อมคลาย

การเป็นทาสปริญญานั้นน่าคิด
ฝากชีวิตอุทิศให้ไม่ขาดสาย
ปริญญาที่ได้รับกลับเป็นนาย
เหมือนกับขายมันสมองค่าของคน..................				
18 กุมภาพันธ์ 2548 23:32 น.

กุหลาบ

ขลุ่ยหลิบ

กุหลาบแดงแฝงรักสลักจิต

ที่มิ่งมิตรมอบให้เอาไว้ฝัน

กุหลาบสวยด้วยสีชื่นชีวัน

กลิ่นหอมอันอ่อนอ่อนวอนคะนึง


กุหลาบแดงแฝงฝันในวันนี้



กลีบกลิ่นสีแห้งหายคลายคิดถึง

มองกุหลาบภาพหลังฝังใจตรึง

ไยเธอจึงเปลี่ยนไปไม่หวนมา..........				
10 กุมภาพันธ์ 2548 13:47 น.

...ยอม...

ขลุ่ยหลิบ

          เป็นความผิดพลาดหรือ...ก็เปล่า
ฉันเต็มใจกับทุกเรื่องราวเหล่านั้น
อาจเป็นเพราะรักมากจึงยอมผูกพัน
แม้ทั้งรู้เธอเห็นเป็นเพียง...คนคั่นเวลา

ไม่เป็นไรคนดี...ที่รักของฉัน
แม้เธอไม่ให้ความสำคัญไม่เห็นค่า
ฉันก็จะไม่ไปไหนไม่เป็นฝ่ายลา
จะเคียงข้างเธอจนกว่า...เธอจะเป็นฝ่ายไป


          จะรวดร้าว.....เพียงใด.....ไม่เคยหวั่น
บอกยอดขวัญ.....ว่าฉัน.....นั้นทนไหว
เมื่อประสาน.....สายตา.....สื่อหัวใจ
เธอมีใคร.....คนนั้น.....ที่ฝันปอง

จะขอทน.....เพื่อดวงใจ.....ที่ฉันรัก
แม้ว่าจัก.....ต้องผจญ.....ความหม่นหมอง
จะรอวัน.....ที่เธอช้ำ.....น้ำตานอง
จะประคอง.....กอดรับ.....ซับน้ำตา				
8 กุมภาพันธ์ 2548 01:06 น.

อ้อนรัก

ขลุ่ยหลิบ

          ใคร่ครวญจิตคิดแล้วแก้วตาพี่
คำรักซึ้งตรึงฤดีจะมีไหน
ณ  วันนี้ขอเฉลยเอ่ยความนัย
ขอรักแก้วกลอยใจไปนิรันดร์

คำเจ้าเผยเฉลยใจในวันก่อน
พี่อาวรณ์รัญจวนใจถึงในฝัน
แต่มิกล้าจะเอ่ยเผยคำนั้น
จึงอึ้งอั้นวาจาไม่พาที

ด้วยยังหวั่นรักจะร้าวเหมือนคราวแรก
ทรวงแทบแยกร้าวรนหม่นหมองศรี
ต้องรักษารอยยับนับขวบปี
ดวงฤดีที่ยับค่อยกลับคืน

มิได้คิดเคืองเคียดหรือเดียดฉันท์
เจ้ายอดขวัญอย่าได้คิดเป็นอื่น
รักสุดรักแต่จำต้องกล้ำกลืน
กลัวทรามชื่นจะทำชอกช้ำใจ

จากวันนั้นผ่านมาจนวันนี้
ในชีวีพี่ทุกข์หาสุขไม่
ด้วยเฝ้าครุ่นคำนึงถึงทรามวัย
และคำรักจากดวงใจเจ้าคนดี

ใคร่ครวญจิตคิดแล้วแก้วตาเอ๋ย
ต้องเฉลยวาจาแก่มารศรี
ว่าพี่นี้แสนรักแก้วแววฤดี
จะขอพลีใจรักมั่นนิรันดร์กาล

.............................................................................

          ยินวจีพี่เอ่ยเฉลยพร่ำ
เป็นสุขล้ำดวงฤดีพี่รู้ไหม
แต่อกเอยแสนรักต้องหักใจ
เกรงหทัยเจ็บซ้ำคำพี่ชาย

ยังจำมั่นวันเผยใจให้พี่รู้
น่าอดสูพี่ไม่คิดจิตมั่นหมาย
หัวใจแหลกกลืนน้ำตาช่างน่าอาย
ตราบชีพวายจะจำไว้เตือนใจตน

จากน้องที่เคยสดใสในคราวก่อน
กลายเป็นอ่อนแอหวั่นไหวใจสับสน
จากคนจริงมั่นในหทัยตน
กลายเป็นคนขรึมเศร้าเหงาเดียวดาย

ได้โปรดเถิดพี่จ๋าอย่าซ้ำอีก
วอนจงหลีกพ้นหน้าลาจากหาย
เจ็บอีกครั้งคราวนี้น้องคงต้องตาย
หรือพี่ชายอยากจะเห็นเป็นขวัญตา

..................................................................................

          ยอดชีวันขวัญชีวิตดวงจิตพี่
โปรดปราณีผู้ผิดนิดเถิดหนา
บัดนี้พี่รู้ตัวว่าชั่วช้า
ซมซานมาขอโทษโปรดเห็นใจ

ในวันนั้นสับสนเป็นพ้นคิด
ด้วยดวงจิตเพิ่งคลายหายหม่นไหม้
ทั้งที่รักแสนรักปักฤทัย
ต้องจำใจกล่าวปัดตัดไมตรี

จากวันนั้นพี่ทุกข์ทนทุรนร้อน
ด้วยอาวรณ์ในแก้วตามารศรี
เฝ้าคำนึงทุกทิวาทุกราตรี
จะตัดรักจากฤดีมิมีทาง

จึงบากหน้ามาหายอดยาจิต
โปรดเมตตาพี่นิดอย่าเมินหมาง
ที่เคืองข้องขุ่นแค้นระคายคาง
จงละวางฟังวาจาพี่พาที

จะรักเจ้ากว่าผู้ใดในชีวิต
จะอยู่เคียงมิ่งมิตรไม่หน่ายหนี
จะรักเจ้าจวบสูญลับดับชีวี
จะรักเจ้าตราบโลกนี้สลายไป

คือสัจจาสัญญาใจพี่ให้น้อง
จะคงครองรักมั่นมิหวั่นไหว
วอนคนดีอย่าสลัดตัดอาลัย
โปรดเปิดใจรับพี่ไว้พิจารณา

...................................................................................

          ใจของน้องพี่นี้รู้ดีอยู่ 
รักชื่นชูเพียงพี่ที่ปรารถนา 
สู้อดออมถนอมใจไว้เรื่อยมา 
เพียงพี่ยาเท่านั้นที่ฝันปอง

ถึงชอกช้ำเพียงใดไม่เคยบ่น 
น้องสู้ทนทั้งฤดีที่หม่นหมอง 
ยังยินดีพี่หมายได้เคียงครอง 
น้องก็ปองร่วมฝันอันสุขใจ 

หากแม้นพี่มั่นใจในรักแน่ 
อย่าท้อแท้พะวงคิดหลงไหล 
หากแม้นพี่เต็มจิตคิดมอบใจ 
น้องขอให้สัญญาว่าจะคอย 

ขอเพียงโอ้พี่จ๋าอย่าหลอนหลอก 
ถ้าช้ำชอกอีกคราวต้องเหงาหงอย 
น้องคนเศร้าขอลาไกลไม่ต้องคอย 
รักเลื่อนลอยขอลาพี่นี้ชั่วกาล 

...............................................................................

ฟังวจีช่างหวานล้ำฉ่ำใจนัก
ทั้งสองเราร่วมรักสมัครสมาน
จะถนอมรักนี้ไว้ให้แสนนาน
ชั่วชีวานไม่ร้างรักภักดิ์อนงค์

*********************************************************************				
5 กุมภาพันธ์ 2548 00:27 น.

ยังเหมือนเดิม

ขลุ่ยหลิบ

          อยู่ห่างกันนั้นไซร้หทัยเศร้า
ความเงียบเหงาเยือนเยี่ยมเปี่ยมด้วยหมอง
น้ำใจเธอเหือดแห้งแล้งเกินปอง
ความขุ่นข้องฟ้องทรวงในให้กังวล

เราห่างกันเช่นนี้กี่วันแล้ว
มิเห็นแววสัมพันธ์ฉันฉงน
เฝ้ารอสาส์นนานเนาเศร้ากมล
ทุกข์ท้อทนท่วมฤทัยเรื่องไมตรี

อยากจะโลดแล่นลงตรงเบื้องหน้า
พร้อมทักว่าเพราะเหตุใดใยลืมศรี
หรือลืมแล้วรอยรักปักฤดี
หรือเธอมีคู่ใหม่ไว้แอบอิง

ได้เพียงแต่คิดว่าถ้าทำได้
แต่นี่ไม่อาจเอื้อมกลัวเสื่อมหญิง
เพราะตัวเราอยู่ไกลเกินไปชิง
ได้แต่เพียงวอนสิ่งที่กริ่งเกรง

ฝากดาวเดือนเคลื่อนคล้อยลอยสู่ขวัญ
ว่าตัวฉันนั้นทุกข์ถูกข่มเหง
ดวงชีวันครั่นคร้ามยามวังเวง
ความอวดเก่งก่อนนี้สิ้นวี่แวว

เราห่างกันนั้นมากยากจักเผย
แต่รักเอ๋ยกลับเถียงเสียงแผ่วแผ่ว
น้ำตาร่วงรินไหลไปเป็นแนว
โอ้ดวงแก้วฉันไม่เลือนยังเหมือนเดิม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟขลุ่ยหลิบ
Lovings  ขลุ่ยหลิบ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟขลุ่ยหลิบ
Lovings  ขลุ่ยหลิบ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟขลุ่ยหลิบ
Lovings  ขลุ่ยหลิบ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงขลุ่ยหลิบ