26 พฤศจิกายน 2550 12:47 น.

ปู่สายกับเด็กชายจอน

ขุนศรี

" ดื่อ ! ื่ดื่อ ! ดื่อ !"
      ว่ะแววเสียงสนูว่าวต้านลมหนาวลอยเล่นโดดเด่นอยู่กลางฟ้า  ขับกล่อมแผ่นฟ้าและกลุ่มดอกดวงดาว  ท่ามกลางแสงจันทร์นวลผ่องส่องแสงยองใย  ไปทั่วผืนแผ่นฟ้าอย่างสนุกสนาน   ปีนี้ความหนาวเหน็บมาเยื่ยมเยือนก่อนฤดูกาล ตำนานพื้นบ้านว่าปีหน้าฝนฟ้าดี   ว่าวจุฬาลอยอยู่ติดแผ่นฟ้าเห็นเงาพอเลือนลาง ฝีมือปู่สายชายวัยชราอายุเจ็ดสิบหก - เจ็ดสิบเจ็ดย่างเข้าปีนี้
   แสงสะเก็ดไฟดวงเล็กๆลอยออกจากกองไฟตามสายลมหนาวหายลับดับไปกับลมหนาวพัดพาให้ดับ  เสื่อกกสีน้ำตาลไหม้ขาดวิ่นข้างหนึ่งสำหรับรองนั่ง - นอนผิงไฟอย่างมีความสุขของปู่สายกับหลานชายสุดที่รัก  กองไฟเท่านั้นที่เอาชนะธรรมชาติอันหนาวเหน็บอย่างง่ายดายตามความเชื่อของชนบทอย่างพวกเรา
    จอนเด็กวัยเรียนชั้นปอห้าหลานรักของปู่สายนอนหลับสนิทอยู่ใต้ผ้าห่มสีเทาปลายสองข้างคาดสีเหลือง เขียว แดง น้ำเงิน สีรุ้งสวยงามที่ปู่สายไปรับแจกเครื่องกันหนาวที่อำเภอเขาแจกให้เมื่อสอง - สามปีที่แล้ว มืออันหยาบกร้านแตกแยกสากๆเอื้อมมือไปจับอีกมุมหนึ่งห่มให้หลานอย่างแผ่วเบากลัวจะรบกวนหลานกำลังหลับอยางมีความสุข
                             " หลับเถอะหลานรักของปู่ "
       สอง - ชีวิต  ดำเนินชีวิตอยู่อย่างไม่พอเพียง  เพราะว่ายังขาดปัจจัยหลายประการ  ต้องพึ่งพาอาหารการกินจากเพื่อนบ้าน  ที่มีน้ำใจให้แก่กันและกัน
ปู่สายเป็นที่เคารพรักของชาวบ้านมา...ตั้งแต่ครั้งบวชเรียนเคยดำรงตำแหน่ง
พระอธิการสาย  จนทฺโชโต แห่งวัดห้วยหวายวนาราม  ผลบุญจึงแผ่ไพศาลมาถึงปัจจุบัน  เนื่องจากเคยมีเมตตาธรรมแก่เพื่อนมนุษย์  พอตกทุกข์ได้ยากจึงมีคนช่วยเหลือตามกำลังที่พอจะช่วยได้....ยิ่งยุคข้าวยากหมากแพงอย่างทุกวันนี้  ทุกคนต้องดิ้นทำมาหากินจนตัวเป็นเกลียว สาเหตุหนึ่งที่ปู่สายมีหลานล้าหลังเขาหลังจากลาสิกขาแล้วก็ระเหเร่ร่อนไปรับจ้างตัดอ้อยที่อุทัยธานี  ชลบุรีและที่อื่นอีกหลายหนแห่ง  ที่มีนายจ้างให้ค่าแรงพอประทังชิวิต
      พอหวนกลับบ้านญาติเห็นดีเห็นงามจึงหาคู่ครองให้ตามสมควร  หลังจากแต่งงานมีลูกชายคนเดียว  ซึ่งเป็นพ่อของจอนที่นอนอยู่ข้างๆปู่สายนั้งเอง  ด้วยความแห้งแล้งประสมประสานกับความยากจนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว   พ่อกับแม่จอนจึงร่ำลาปู่สายกับจอนไปรับจ้างต่างถิ่น  และแล้ววันเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบกว่าปี ข่าวคราวไม่เคยส่งมาบ้านเลย  ปล่อยปู่หลานอดอยากปากแห้ง  อดมื้อกินมื้อไปวันแล้ววันเล่า  พึ่งพาชาวบ้านเขา  จนบางคนเขาบ่นกรอกหูตั้งหลายครั้ง
                      " ปู่พ่อแม่ผมไปไหนล่ะ ? "
                      " เขาไปทำงานยังไม่กลับมา "
                      " ทำไมไม่เห็นมาเยี่ยมจอนกับปู่ล่ะครับ "
                      " ตอนนี้เขาสองคนกำลังเก็บเงินมาสร้างบ้านใหม่ให้จอนกับปู่ "
                      " จริงรึปู่ "
                      " จอนกับปู่ต้องรอเขากลับมา...จอนเข้าใจไหมลูก "
                      "  ครับปู่ "
         ถ้อยคำนำเสนอแนวปลอบใจให้หลานหลงดีใจหลายหน  ทนมุสาหลานมาตลอด  เพราะว่าการรอคอยไม่เห็นเป็นจริงจนหลานเบื่อที่จะถามไถ่ น้ำตาของ
ปู่สายไหลอาบแก้มเหี่ยวหย่นหลายหน  คนที่ตกนรกทั้งเป็นคงจะเป็นสองชีวิต
          ยิ่งดึกดื่นเสียงสนูว่าวแว่วดังฟังบดขยี้ใจปู่สายให้วังเวงวุ่นวายใจหลายประการ   ความหนาวเหน็บเพิ่มอุณหภูมิแห่งความหนาวทวีคูณมากขึ้น  เลยเที่ยงคืนทำให้อาการง่วงเหงามาเยี่ยมปู่สาย  จึงค่อยเอนกายลงนอนข้างหลานรัก ได้รับความอบอุ่นจากกองไฟดับความหนาว แต่- ความทุกข์ใจใครช่วยดับได้บ้าง ?...ปู่สายจะได้หายจากกองทุกข์...เวรกรรม....ทำแต่หนไหนหนอ				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟขุนศรี
Lovings  ขุนศรี เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟขุนศรี
Lovings  ขุนศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟขุนศรี
Lovings  ขุนศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงขุนศรี