31 ตุลาคม 2555 23:14 น.

เสียงหัวใจ

คนกรุงศรี


เสียงหัวใจ ใครหนึ่ง ซึ่งห่วงหา			
เฝ้าตั้งตา รอคอย จนหงอยเหงา
มีความลับ คับใน ฤทัยเรา				
อยากบอกเขา ให้รู้ ดูอีกครา

คำคิดถึง ฝากไป นั้นไร้ผล			
มิเยี่ยมยล เขายัง เฝ้ากังขา
มิรู้ใจ ไยจึง ถึงเย็นชา			
จำนรรจา บอกแจ้ง แห่งความนัย

มากล่าวบอก หลอกให้ ใจผวา			
ฝากดินฟ้า สักนิด สะกิดไหม
หรือแสร้งเมิน มิหมาย สืบสายใย			
ลองถามใจ ไหวหวั่น หรือมั่นคง

เขาเลิกรอ ท้อใน จนไห้หวน			
แอบรัญจวน ขาดวิ่น สิ้นประสงค์
แล้วใครหนอ นั้นหรือ เขาซื่อตรง			
สักนิดจง ไตร่ตรอง มองอีกที

เสียงหัวใจ ไหว้วอน ออดอ้อนหา		
สักครั้งมา ปลอบกมล คนเหงานี่
เราร้าวรอน  งอนง้อ ขอคืนดี			
ฟ้าดินมี บ้างไหม เห็นใจเรา

				
26 ตุลาคม 2555 22:03 น.

คิดถึงจัง

คนกรุงศรี


คิดถึงจัง คนดี ที่ปลายฟ้า
ชะแง้หา คราใด จะได้เห็น
เฝ้าคอยคอย คอยเขา ทุกเช้าเย็น
เหมือนคนเป็น บ้าใบ้ ใจร้าวรอน

คิดถึงจัง คนดี ที่ปลายรุ้ง
ยังหมายมุ่ง เฝ้าฝัน เช่นวันก่อน
เพียรบอกฝาก จากใจ ใส่บทกลอน
มาเว้าวอน ถามหา คราเหงาใจ

คิดถึงจัง คนดี ที่เราห่วง
คอยถามทวง สุขี มีทุกข์ไหม
เฝ้าคิดคิด คิดถึง จึงห่วงใย
เธอรู้ไหม ใครเล่า ที่เขาคอย

คิดถึงจัง คนดี ที่ถวิล
บอกฟ้าดิน นี่เรา นั้นเหงาหงอย
เฝ้ามองมอง มองหา นั่งตาลอย
คงเศร้าสร้อย ซบดิน จวบสิ้นใจ				
13 ตุลาคม 2555 22:19 น.

เตรียมใจไว้หนาว

คนกรุงศรี


เสียงกาเหว่า ก้องกู่ อยู่ทิวสน			
สายลมบน พัดผ่าน กิ่งก้านไหว
สนก้านกลม ลมฉิว โยนพลิ้วไกว			
ยินเสียงใส หวิวหวีด เหมือนกรีดทรวง

ลมเหนือล่อง ต้องกาย คล้ายเคยผ่าน		
ทวนเหตุการณ์ วานวัน นั้นเลยล่วง
ด้วยยังจด จำไว้ ได้ทั้งปวง				
กับคำลวง เมื่อคราว ลมหนาวเยือน

แม้ร้อนฝน หนใด ก็ไม่คิด			
หนาวสะกิด ก่อนำ ย้ำรอยเปื้อน
ภาพความหลัง ฝังใจ ไม่ลางเลือน			
ประหนึ่งเตือน แผลช้ำ คอยตำใจ

อยากจะลบ กลบหม่น ที่ทนทุกข์		
คอยปลอบปลุก อาวรณ์ ที่อ่อนไหว
แม้กายหนาว ร้าวรอน ร้อนอยู่ใน			
หาสิ่งใด แปรปรับ ให้กลับคืน

เหมันต์เยือน เหมือนก่อน ร้าวรอนอีก		
ยากจะหลีก ให้พ้น เฝ้าทนฝืน
หาคำตอบ ปลอบกมล ทนกล้ำกลืน			
หน้ายิ้มรื่น ขื่นใน ฤทัยจัง

ต้องเตรียมใจ ไว้หนาว อีกคราวหนอ		
ไม่เพ้อพ้อ ต่อกลอน ย้อนความหลัง
เพราะทนรับ กับหม่น จนเซซัง			
เรื่องจะหวัง พึ่งใคร ยังไม่เคย

				
11 ตุลาคม 2555 22:31 น.

ฝากฝัน

คนกรุงศรี


ถ้าหากตาม ความฝัน ที่สรรสร้าง		
เป็นจริงอย่าง ตั้งจิต มิผิดผัน
ในโลกแห่ง นิยาม ความผูกพัน			
กับคำมั่น สัญญา ว่าจะครอง

สิ่งใดอื่น หมื่นแสน มิแม้นเปรียบ		
ฤๅจะเทียบ ใจกาย ที่คลายหมอง
ทั้งชีวิต คิดถึง วันซึ่งปอง				
คราที่สอง หัวใจ อยู่ใกล้เคียง

ด้วยหมายจ้อง จองดิน ถวิลอยู่		
หากใจรู้ รับได้ มิบ่ายเบี่ยง
มิชังกัน นั้นหนอ คงพอเพียง			
ใช่เรียบเรียง เพียงถ้อย ร้อยเป็นกานท์

วันเวลา พาฝัน นั้นสดใส			
เสี้ยวน้ำใจ จากเขา เฝ้าสืบสาน
ให้งอกงาม ปลั่งเปล่ง รีบเร่งบาน			
เหมือนมวลมาลย์ มาลี ที่วิไล

ท้ายชีวิต จิตนั้น คงสันต์สุข			
คอยปลอบปลุก ดวงมาน เพียรขานไข
แม้เป็นจริง ดั่งคิด มิผิดไป				
ความหม่นไหม้ ถูกกลบ เหมือนลบรอย

ถ้าหากตาม ความฝัน เราสรรสร้าง		
ดำเนินอย่าง บทกานท์ ที่สานถ้อย
เป็นจริงดั่ง หวังเรา ที่เฝ้าคอย			
ขอร่วมร้อย มาลัยรัก ...ไว้สักครา
คนกรุงศรี ฯ

				
4 ตุลาคม 2555 22:47 น.

สุขใจ ที่ได้ฝัน

คนกรุงศรี

	
ทุกอย่างยัง หวังไว้ คงได้สม			
ร่วมภิรมย์ ชมชิด สนิทใกล้
แอบวาดฝัน วันหนึ่ง คงซึ้งใจ			
ขอมอบให้ เพียงดิน ถวิลปอง
	
สัญญากัน วันไหน ก็ไม่จาก			
สุดฝั่งฟาก ฟ้าไกล ไม่มีหมอง
แม้กายห่าง ต่างใจ ได้เคียงครอง			
มาลัยคล้อง สองใจ อยู่ใกล้กัน

สายใยรัก ถักทอ ลออสี			
เก็จขจี สีรุ้ง พุ่งพาดฝัน
หลากหลายรส พจนา มารำพัน			
ทุกคืนวัน อบอวล เหมือนมวลมาลย์

สุขอัดใด ไหนเล่า จะเท่านี้			
ทั้งชีวี เพิ่งรับ ซับประสาน
ที่เคยหม่น หมองไหม้ มลายราญ			
ไท้ประทาน เทพคง ส่งเสริมเรา

ช่างดื่มด่ำ ฉ่ำหวาน สองมานคล้อง		
สุขสมสอง สิ่งใด เปรียบไม่เท่า
ดูยั่งยืน ชื่นหวาน จวบนานเนา			
ทุกอย่างเฝ้า ฝันใฝ่ ให้เป็นจริง

แม้เพียงฝัน วันนี้ ก็มีสุข			
ขอซ่อนซุก เอาไว้ สมใจยิ่ง
เก็บกับใจ เป็นหลัก เพื่อพักพิง			
ก็ทุกสิ่ง เพียงฝัน สร้างสรรค์เอง

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี