27 ตุลาคม 2552 12:04 น.

**ใจครวญ..คราไกล**

คนกุลา

bhutan-top-banner.jpg
  ๐ คราไกลใจพี่นี้                คงครวญ
ไกล  ห่างไปจากนวล            นุชน้อง
ใจ เอยยิ่งพาหวล                  ยามห่าง
ครวญ  เมื่อคราไกลห้อง-     หับนั้นหทัยหาย..ฯ

  ๐ ครา เมื่อห่างนวลน้อง
ครา ที่ต้องจำไกลหน้า
ครา  ล่วงครรไลลา
ครา ไกลตาจากเนื้อนวล

  ๐ ไกล กันพลันแสนเศร้า
ไกล น้องเจ้าเฝ้าไห้หวล
ไกล จริงยิ่งคร่ำครวญ
ไกล จนป่วนฤดีแด

  ๐  ใจ เอยยามห่างนุช
ใจ เศร้าสุดนะดวงแข
ใจ คู่เคยดูแล
ใจ มั่นแท้แต่เพียงนาง

๐ ครวญ คร่ำร่ำหาเธอ
ครวญ พร่ำเพ้อทางไกลขวาง
ครวญ คำมิอำพราง
ครวญ ถึงนางในกลางใจ...ฯ

 ๐ ใจ คราวคร่ำครวญหา
ใจ ยามลาแสนหวั่นไหว
ใจ เศร้าสักปานใด
ใจ ไหนใครจะรู้ดี

 ๐ ครวญ เพ้อว่าเธอห่วง
ครวญ ฝากดวงสุรีย์ศรี
ครวญ จนป่วนฤดี
ครวญ คราวนี้รู้เพียงเรา

  ๐ ครา มาสุดหล้าโลก
ครา ใจโศกแสนสุดเหงา
ครา จ้องมองฟ้าเทา
ครา พี่เศร้าร้าวจาบัลย์

  ๐ ไกล เอยสุดไกลแสน
ไกล สุดแดนดุจในฝัน
ไกล กายใจใกล้กัน
ไกล ยอดขวัญยิ่งห่วงใย..ฯ

  ๐ ใจ เอยยามห่างน้อง             นวลนาง
ครวญ คร่ำเพียงวายวาง            สุดเศร้า
ครา  ไคลห่วงหาจาง                ใจโศก  นวลนา
ไกล เมื่อยามแรมเจ้า                ยิ่งให้ถวิลหา..ฯ      


คนกุลา

ต้นเหมันต์

 


bhutan.jpgBhutan2_gallery__470x303.jpgdorchula%20pass1.jpgBhutanMain.jpg				
26 ตุลาคม 2552 11:16 น.

**บทเพลงวณิพก**

คนกุลา

DSC01229.JPG
  ๐ ค่อยสืบเท้าก้าวย่างอย่างช้าช้า
เอาไม้เท้าแทนตาฝ่ากีดขวาง
ท่องไปทั่วท่ามชนบนหนทาง
โลกเลือนลางวางเท้าราวยากเย็น

  ๐ กับเครื่องน้อยห้อยคอพอผ่อนเสียง
ปรับปุ่มเรียงเพียงว่าอย่างตาเห็น
ขับขานเพลงบรรเลงมาว่าลำเค็ญ
แสนยากเข็นเป็นประจำเฝ้าทำมา

  ๐ เพราะตามองไม่เห็นเช่นคนเขา
แต่นานเนาว์อาภัพอับวาสนา
อาศัยสรรพสำเนียงเลี้ยงกายา
บางเวลาพาพลอยให้น้อยใจ

  ๐ ฟังแต่เสียงสำเนียงหวานกังวานหวัง
เสนาะดังครั้งผ่านทุกย่านไหน
สะท้อนเสียงเจรียงขานสื่อสารไป
เพื่อบางใครอวยทานยามผ่านทาง

  ๐ ไม่ไพเราะดังบรรเลงเพลงสวรรค์
หากกล่อมกันวันยากสู้ถากถาง
เป็นเพลงเพื่อชีวิตมิคิดพราง
เมื่อรุ่งรางทุกเช้าออกก้าวเดิน

   ๐ ในโลกดำคล้ำมิดชีวิตมืด
อย่าใจจืดเจียดให้อย่าได้เขิน
เห็นเขาผ่านท่านไปในทางเดิน
หากบังเอิญสวนมาอย่าละเลย

   ๐ มิหวังว่าวันใดได้ชื่อเสียง
เพราะหวังเพียงเลี้ยงคู่มิอยู่เฉย
เห็นวันนี้มาเดียวเปลี่ยวใจเอย
ขาดคู่เคยเคียงข้างมิห่างกัน

    ๐ ยังสืบเท้าก้าวย่างอย่างมีหวัง
ส่งเสียงดังกังวานสารเสกสรรค์
เพื่อหล่อเลี้ยงเพียงพอวันต่อวัน
ใช่จะฝันสิ่งใดไกลเกินตัว..ฯ


...... 

คนกุลา
ต้นเหมันต์

.........

เพลงขอทานหรือวณิพก เป็นเพลงพื้นบ้าน
ชนิดหนึ่งมีมาตั้งแต่ครั้งโบราณ คงเนื่อง
มาจากการเล่านิทาน ให้คนฟังสมัยก่อน
มีการรับจ้างเล่านิทาน วันใดไม่มีคนมาจ้าง
ก็ต้องตระเวณไปเล่าในที่ต่างๆ เพื่อขอแลก
เปลี่ยนเป็นเงิน หรือสิ่งของ
           
เพลงขอทาน มีทำนองเป็นเอกลักษณ์โดย
เฉพาะ   สมัยก่อนเวลามีงานวัด จะต้องมี
การหาของไว้เข้าโรงครัว บรรดาทายก
หรือกรรมการวัดจะต้องออกไปเรี่ยราย
ข้าวสารอาหารแห้งเป็นประจำ จึงต้องมี
การร้องขอ ครั้นจะร้องธรรมดา ก็รู้สึกว่า
ไม่จูงใจคนทำบุญ จึงแต่งเนื้อเพลง โดยยึด
เอานิทานชาดกเป็นหลัก ใส่ทำนอง มีลูกคู่
 และเพิ่มเครื่องกำกับจังหวะตามถนัด เมื่อ
ได้สิ่งของมาก็เอาเข้าวัด ต่อมามีผู้เลียนแบบ
และยึดเป็นอาชีพไปเลยก็มี 
   การขอแบบมีเสียงเพลงหรือเสียงดนตรีแลก
เปลี่ยน เรียกว่า "วณิพก " แต่ถ้าไม่มีเสียง
เพลงหรือเสียงดนตรีแลกเปลี่ยน เรียกว่า
 "ยาจก"หรือ "กระยาจก "

.............
 
เมื่อปีที่แล้วได้มีการผลักดันให้เปลี่ยนชื่อ
ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการขอทานมาเป็น
พ.ร.บ.ส่งเสริมศักยภาพของมนุษย์
เพื่อให้ฟังแล้วไม่เป็นการเหยียดหยามกัน 
พร้อมกับขอแยกวณิพกออกจากขอทาน
ให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้เป็นวณิพกสามารถ
ใช้เสียงดนตรีเลี้ยงชีพได้โดยสุจริต 
แต่สำหรับคนเราทั่วๆถ้าเลือกได้ คงขอ
ไม่เป็นทั้งวณิพกและขอทานน่าจะดีกว่า
ใช่ไหม ครับ
(มติชนออนไลน์ ๒๒ ต.ค. ๒๕๕๑)
 

ID_7544.jpgPIC-0015.JPG?et=Vo0LPAAWAcKsqKjV6eUBug&n				
25 ตุลาคม 2552 17:40 น.

**แดนมังกรสายฟ้า**

คนกุลา

teambhutan2000.jpg
  ๐ เครื่องบินลอยคล้อยลัดตัดฟ่อนเมฆ
ราวเช่นเฉกนกยักษ์จักคืนหวน
ปรับปีกหางกางร่อนย้อนลมทวน
มองไปล้วนเทือกภูดูเรียงราย

  ๐ ถ้อยดนตรีหรี่เสียงสำเนียงหวาน
เพลงขับขานขลุ่ยร่ำย้ำความหมาย
สู่ผืนดินถิ่นเยือนเหมือนนิยาย
เตรียมใจกายหมายรับกับเรื่องราว  

  ๐ เคยท่องท่ามทะเลภูอยู่หลายสัน
กับความฝันวันหลังครั้งหนุ่มสาว
และความสุข-ทุกข์หนากี่คราคราว
ท่องแดนดาวพราวแต้มแซมนภา

  ๐ การต้อนรับขับสู้ดูไม่พร้อม
เขาก็ยอมน้อมใจไคร่ศึกษา
จัดงานการประชุมชาตินานา
เพื่อค้นหาหนทางสร้างประชาธิปไตย

  ๐ ได้เยือนถิ่นดินกว้างแต่ทางแคบ
ฟ้าปลาบแปลบแลบงามกว่ายามไหน
อากาศหนาวร้าวกายาคนมาไกล
เห็นสิ่งใดอยากถามสืบความเอา

  ๐ ดูถนนหนทางช่างคดเคี้ยว
วนลดเลี้ยวไปตามท่ามลอนเขา
ในที่สูงลมหายใจคล้ายบางเบา
ทำเอาเราหายใจแทบไม่ทัน

  ๐ เทียวทางเดิมเริ่มชินดินแดนนี้
ที่ที่มีตำนานหลากม่านฝัน
ท่ามทะเลภูเขาดั่งเงาควัน
ทุกเทือกนั้นมองเห็นเช่นไม่ไกล
  
  ๐ ทะเลภูดูราวชาวภูฐาน
กับตำนานสานสร้างทางสดใส
อนาคตกำหนดหวังและตั้งใจ
เดินทางใหม่มุ่งล้วนสุขมวลรวม

  
 

...... 

คนกุลา

ต้นเหมันต์

.........

ชาวภูฐาน เรียกดินแดนของ ตนเองว่า
ดรุก นิล แปล ว่า มังกรสายฟ้า....
 
  

600px-Tashichoedzong-Bhutan-2001.JPG800px-Bhutan_dzong_at_paro.jpg800px-TrongsaDzong.jpg5991345.jpg5891139.jpg5891407.jpg5891218.jpg5891316.jpg				
24 ตุลาคม 2552 18:01 น.

**ดั่งแดนสรวง**

คนกุลา

56.jpg
  ๐ มองจูมาฮารีที่ขอบฟ้า
เกินภาษาว่างามบอกความหมาย
ก้อนสีขาวราวเพชรเกล็ดเรียงราย
ส่องแสงฉายพรายพร่างกลางเทือกภู

  ๐ ที่เบื้องล่างข้างหน้านาลดหลั่น
ดังเทพสรรค์เสกสร้างอย่างเลิศหรู
ทุกหย่อมย่านผ่านตาล้วนน่าดู
พลิ้วธงหมู่ลู่ไสวตามรายทาง

  ๐ ฟ้าสีครามงามนภาฟ้าสีสด
แสนงามงดสดใสไร้เมฆขวาง
เมื่อภูสวยเสียดสดจรดคัคนางค์
มองเหมือนอย่างอิ่มตาเมื่อมาเยือน

  ๐ ชื่อจูมาฮารีมีความหมาย
แปลความไว้คล้ายสวรรค์ทุกชั้นเหมือน
คงจะยากหากหลงใฝ่ใคร่ตักเตือน
กว่าจะเยือนยุ่งยากด้วยฟากไกล

  ๐ เมื่อมองฟ้าคราไหนยังใสสวย
ใจระรวยด้วยพรากนิตย์พิสมัย
งามภูเขาเงาฟ้าทาบทาใจ
เหลียวหาใครไม่เห็นเหมือนเช่นนวล

  ๐ หากน้องน้อยกลอยตามาด้วยพี่
ในฤดีคงไม่ต้องไห้หวล
หมายชี้ที่ทะเลภู่คู่รัญจวน
เชยชมชวนกระบวนสวยอยู่ด้วยกัน

  ๐ คราวจำคราลาจากพรากสมร
เมื่อต้องรอนแรมทางไกลร้างขวัญ
เมื่อจบงานพาลใจให้นับวัน
หวังเมื่อนั้นหมายกลับรับขวัญเธอ

  ๐ มองจูมาฮารีสีแสนสวย
งามงงงวยด้วยหวามท่ามใจเผลอ
แสนดื่มด่ำร่ำฟ้าเมื่อมาเจอ
ใจยิ่งเพ้อพร่ำหาคราคราวจร..ฯ

...... 

คนกุลา

ต้นเหมันต์
.........

จูมาฮารี เป็นยอดเขาที่สูงยอดหนึ่งในเทือก
เขาหิมาลัย ตั้งอยู่ในเขตุเมืองพาโร ของ ภูฐาน

 


Himalayas-1.jpg1232468182.jpg1232550837.jpgBhutan2_gallery__470x303.jpgBhutanMain.jpg				
23 ตุลาคม 2552 16:55 น.

**ราวเมืองแมน**

คนกุลา

BhutanPC5.jpg
  ๐ ทางเลียบไหล่ไต่ข้ามตามขอบเขา
คนอย่างเรามาใหม่ไม่เคยเห็น
เพลงภูฐานหวานไกลเสียงใสเย็น
เหมือนนวลเพ็ญคอยกระต่ายที่หมายเชย

  ๐ เพลงแว่วหวานสานหวังดังประสงค์
คล้ายอนงค์รอใครเปิดใจเผย
กังวานแผ่วแว่วห่วงคราล่วงเลย
ลมรำเพยเคยไล้ให้ทุกคราว

  ๐ สนภูเขาเขียวคล้ำจนดำสด
เสียดยอดจรดฟากฟ้าเวหาหาว
"ดอจุลา"ยอดเหยียดเบียดฟ้ายาว
สายลมหนาวเร้าโลมโถมใส่กัน

  ๐ เมฆบางฟ่อนก้อนขาวเคล้ายอดเขา
แดดทอดเงาเหงาจางอย่างในฝัน
เทือกขาวโพลนพาดตะแคงแสงตะวัน
งามเหมือนฝันพิศเพลินใช่เยินยอ

  ๐ ภาพพาโนรามากว้างกว่ากว้าง
ภูพาดขวางลดหลั่นเป็นชั้นช่อ
งามเกินกว่าภาษาใดเขียนคล้ายพอ
เป็นบุญหนอได้เยือนดั่งเตือนใจ

  ๐ ฟ้างามพร่างบางปอยเมฆลอยสี
ธงมากมีคลี่พัดสบัดไหว
ยืนอยู่ใต้ฟ้างามกว่ายามใด
คิดถึงใครคนนั้นจากกันมา

  ๐ สนภูเขาเก่าแก่แผ่ก้านเขียว
ชูใบเรียวเลี้ยวเลาะเกาะขอบผา
ลิงหน้าขาวราวโหนโยนตัวมา
เที่ยวไขว่หาอาหารข้ามผ่านไป

  ๐ ทางเลียบไหล่ไต่ข้ามตามขอบเขา
คนอย่างเราเหงามาแต่คราไหน
ยิ่งเพลงหวานแว่วเย็นดั่งเป็นใจ
ให้คนไกลใจหนาวเฝ้าคอยคืน..ฯ

...... 

คนกุลา
ในวสันต์
.........
 
"ดอจุลา" เป็นชื่อสถานที่ชมวิว ที่สามารถเห็น
เทือกเขาหิมาลัย ในมุมกว้างได้อย่างแสนงดงาม
อยู่บนเส้นทางระหว่าง เมืองทิมปุ เมืองหลวงของ
ภูฐาน ไปยังเมืองภูนาคา 

 

dorchula%20pass1.jpgbhutan_mountain_trekking.jpg3000350-Tigernest_Monastery-Bhutan.jpg498423144_54e090ce92.jpg?v=1238841512bhutan.jpg				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกุลา
Lovings  คนกุลา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกุลา