25 สิงหาคม 2550 21:32 น.

๑๑..ข่าวด่วน ฆ่าหั่นศพสยอง รับสาร์ทจีน..๑๑

ฉางน้อย

00346_0.jpg  ......ญาติใคร ติดต่อที่ สน.ตุ๊ดตู่ต๊องส์......

....คดีอุกอาจมาก โดนจับย่างสยองต้อนรับสาร์ทจีนปีนี้

ซ้ำยังตัดคอ แขนขา ประจาน ให้ได้อายประชาชีอีกด้วยดิ

ทางตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายเป็นเพศเมีย เอ๊ย เพศหญิง

วัยประมาณที่ใส่สายเดี่ยวเกี่ยวอก กันหลุด อิอิ

จากสภาพร่างกาย จำเค้าโครงเดิมไม่ได้ 

แต่คาดว่า เป็นวัยรุ่น หรือไม่ก็สาว kfc กิ๊วๆๆ  


อิอิ ...จบการรายงานข่าวสั้น ทันเหตุการณ์  

จาก......สำนักข่าว cnn แปลว่า ฉางน้อย นิวส์  อิอิ  

...............                                                               				
14 สิงหาคม 2550 11:45 น.

=+=+..เรื่องนี้ ไม่มีชื่อ..+=+=

ฉางน้อย

        ก่อนอื่นต้องขออภัยสำหรับเจ้าของต้นเรื่อง มันอาจตอกย้ำความเจ็บปวดกับคุณในเรื่องนี้

 แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ควรเผยแพร่เพื่อตอกย้ำคนที่ได้ชื่อว่าลูกทุกคนให้หันกลับมาดูคนที่ส่งเสียคุณเลี้ยงดูคุณมาด้วยความเหนื่อยยาก 

วันนี้เราหันไปเหลียวท่านบ้างหรือเปล่า ก่อนจะไม่มีโอกาสดูแล เมื่อท่านจากเราไปแล้วการจัดงานใหญ่โตมันไม่มีประโยชน์อะไร เวลาท่านอยู่ทำไมไม่ทำ?


ความรู้สึกของน้องคนหนึ่งที่บรรยายออกมาจากใจ.....

 ในขณะที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป เรียนเที่ยว นอน กิน 

ดึกๆผมก็โทรคุยกับแฟนของผม ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผมและผมก็เชื่อว่าใครๆเค้าก็ทำแบบนี้กัน 

"จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง"

 "กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย" 

"รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง"

"ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ"


ประโยคต่างๆที่ผมได้คิดและคัดสรร เตรียมพร้อมมาต่างๆก่อนโทร ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์ 

ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน 

"เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง กิจวัตรอีกอย่างนึงของผมก็คือ 

แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน" 

"ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง"

"เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย" 

"วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง" 

"อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ"

 โธ่!คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ

 โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุย ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง"

      จนกระทั่งวันนั้น  "ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย"

 "เร็วๆสิ เค้ายังอุฒส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ"

"แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ"


ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า "Home"

"โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย" ผมไม่สลับสาย

ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ

 "และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่"


หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยงัดบ้าน และแม่ของผมขัดขืนและได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง

 แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว 

ญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจหรือเรียกรถพยาบาล 

แต่แม่เลือกที่จะโทรหา "ผม" 

สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือโทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม


วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น 

          ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต ผู้หญิงคนเดียวที่ผมสามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา 

โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่ ไม่ต้องมีมุข 

ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ คนเดียวในโลกที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ

 คนเดียวในโลกที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหาผม


"และคนเดียวในโลกที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต"


ในบางครั้งประโยคที่ว่า "ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว" มันก็ไม่เป็นความจริง

"เพราะบางปรากฏการณ์ในโลก เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว" 

หลังจากนั้นไม่นานแฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลายๆชั่วโมงคุยกับเธอก็ทิ้งผมไป 

วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น หลายๆอย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป เพราะตัวเราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการ
กระทำของเราเอง

 "เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป"

 ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์ รอที่จะตอบคำถามเดิมๆให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว

                  ...... แม่ครับ ผมขอโทษ......

     .....     .....     .....   T h e  E n d.....     .....     .....
 
 
 
 
                                  				
8 สิงหาคม 2550 21:38 น.

::..คำโกหกของแม่..::

ฉางน้อย

1.jpg         แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต

1. เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็ก ๆ ผมเกิดในครอบครัวยากจน

ครอบครัวของเราจนมากจนต้องอดข้าวบ่อย ๆ

เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว...แม่จะแบ่งข้าวมาให้ผมเพิ่มขึ้นอีก

พร้อมทั้งพูดว่า"ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้นนะ...ส่วนแม ่ไม่ค่อยหิว"

นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหกผม
                      				
7 สิงหาคม 2550 20:54 น.

^_^..แม่ ไม่เคยคิดเงิน..^_^

ฉางน้อย

    แม่ไม่เคยคิดเงิน 


เจ้าเด็กชายตัวน้อยของเราเข้าไปหาแม่ และส่งกระดาษให้


หลังจากแม่เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้ว เธอก็ก้มลงอ่าน 


ค่าตัดหญ้า - 5 บาท


ค่าทำความสะอาด - 1 บาท


ค่าซื้อของให้แม่ - 2.50 บาท


ค่าดูแลน้องชาย - 2.50 บาท


ค่าเอาขยะไปทิ้ง - 1 บาท


ค่าได้คะแนนดี - 5 บาท


ค่ากวาดสนาม - 2 บาท


รวม ค้างชำระ - 19 บาท


เธอหยิบปากกาขึ้นมา พลิกกระดาษไปด้านหลังแล้วเขียน ...


เก้าเดือนที่แม่อุ้มท้อง - ไม่คิดเงิน


เวลาที่แม่พยาบาลและดูแลลูก - ไม่คิดเงิน


ค่าที่ลูกทำให้แม่เสียน้ำตา - ไม่คิดเงิน


ของเล่น อาหาร เสื้อผ้า พาเที่ยว - ไม่คิดเงิน


แม้แต่เช็ดน้ำมูกให้ - ไม่คิดเงิน


เมื่อรวมทั้งหมดเป็นราคาเต็มของความรัก - ไม่คิดเงินหรอกจ๊ะลูก


เมื่อรวมทั้งหมดเป็นราคาเต็มของความรักไม่คิดเงินเหมือนกัน 


เมื่อลูกชายอ่านสิ่งที่แม่เขียนแล้วน้ำตาหยดโต ก็ไหลออกมา


เขาสบตาแม่และพูดว่า .....


"แม่ครับ ผมรักแม่จริง ๆ นะครับ" 


แล้วเขาก็เอาปากกาเขียนหนังสือตัวโต ๆ ว่า ...

.....จ่ายหมดแล้ว

...........แม่จ่ายหมดแล้ว แต่ลูกทอนให้ยังไม่หมด ........

          ( ไปอ่านเจอมาค่ะ ซึ้งจัง...)
                                        				
6 สิงหาคม 2550 02:53 น.

...รักผู้หญิงธรรมดาคนนี้บ้างได้ไหม?...

ฉางน้อย

      เคยอกหักกันบ้างไหมครับ 

ผมเคยอกหักมาแล้วหลายครั้ง 

แต่ละครั้งก็รู้สึกว่าหนักหนาสาหัสมากขึ้นเรื่อยๆ 


ครั้งล่าสุดที่เพิ่งผ่านไปก็เช่นกัน

ผมซึมเศร้าแทบไม่พูดไม่จา ใช้ชีวิตแบบผลาญเวลาให้หมดไปวันๆ 

เลิกงานก็ไปกินเหล้าจนเกือบเช้าจึงกลับบ้าน 

ถึงบ้านก็หมกตัวอยู่แต่ในห้องนอน ไม่คุยกับใครเลย รวมทั้งแม่ของผมด้วย 


จนเช้าวันหนึ่งแม่เข้ามาในห้องนอนของผมชวนผมคุยโน่นคุยนี่ 

ผมก็ตอบแบบขอไปทีแต่แม่ก็ยังชวนผมคุยไปเรื่อยๆ 

จนมาถึงเรื่องความรักของผม แม่บอกว่า 

แม่จะแนะนำผู้หญิงคนหนึ่งให้ดีไหม


... เธอทำกับข้าวเป็น

... ดูแลบ้านได้ และพร้อมที่จะดูแลผมเสมอ

เธอนั้นหน้าตา ไม่สวยอย่างผู้หญิงที่ผมเคยชอบ ๆ มา 

ท้วม ๆหน่อย ดูจะอายุมากไปนิด


แต่ที่สำคัญเธอรักผมมากกว่าใครๆ 

เธอไม่ได้อยู่ไกลจากผมเลย 

แต่เธอนั่งอยู่ข้างๆ ผมนั่นแหละ" 

แม่ถามผมว่าจะลองรักผู้หญิงคนนี้ดูบ้างได้ไหม ?


...น้ำตาของแม่เริ่มคลอเบ้า แม่ร้องไห้ 

ผมพูดอะไรไม่ออก แต่เข้าไปกอดแม่นิ่งแทนคำตอบ 


.....ขณะที่กำลังวิ่งหาความรักอยู่นั้น 

บางทีเราก็ลืมไปว่ายังมีอีกคนนึงที่รักเราอย่างสุดหัวใจ 

จำไม่ได้ว่าเราลืมเธอมานานเท่าไหร่

แต่จะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับตัวผมอีกแล้ว 

.....................................                                       				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฉางน้อย