21 มีนาคม 2553 18:37 น.

"เสาร์5 (100ปีมีครั้งเดียว)

ฉางน้อย

00558_1.jpgเช้าวันเสาร์ที่ 20 มี.ค.กำลังหลับสบาย เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังข้างหู
เอาอีกแล้ว โทรมาปลุกแต่เช้าอีกล่ะ ยิ่งขี้เกียจตื่นเช้าๆ อิอิ

" ยัยวา ๆ ตื่นได้แล้ว ไวๆเลย ไปใส่บาตรพระก่อน เดี๋ยวค่อยมานอนต่อ "
พี่เมี่ยงล่ะทุกทีเลยชอบโทรมาปลุกเช้าๆ
" รู้แล้ว เดี๋ยวไปน่ะ นอนก่อนไม่ได้เหรอ ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยนะ " 
ยัยวาหาเรื่องต่อรอง

" ไม่ได้ๆ ต้องเป็นวันนี้เพราะ วันนี้เป็นวันเสาร์ 5 นะวาไม่เคยได้ยินเหรอไง "
" เสาร์ 5 คือไร แล้วทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยอ่ะ ? " วาสงสัย
" ไปใส่บาตรพระก่อน เดี๋ยวค่อยมานอนต่อ แล้วจะเล่าให้ฟัง เร็วๆ "
พี่เมี่ยงยังคงกำชับ เร่งให้ลุกไปใส่บาตรพระ
" แล้วเดี๋ยวสายๆค่อยออกไปวัดไปทำบุญไหว้พระด้วย ไปป่าวล่ะ "
" ไปๆๆ ไปซิพี่เมี่ยง " อิอิ ไม่รอช้าละยัยวา 

" อ้าว โยม ไม่เห็นหน้านานเลยนะ วันนี้ทำไมตื่นไวได้ล่ะโยม "
โห หลวงพี่ตอกย้ำด้วยแน่ะ แม้แต่หลวงพี่ยังไม่วายสงสัย 55555
" แหะ..แหะ.. ไม่มีอะไรหรอกคะหลวงพี่ " 
วา จนมุมกับคำถามหลวงพี่ 
" วันนี้วันเสาร์ 5 นี่คะ เลยใส่บาตรสักหน่อย "
"ดีแล้วล่ะโยม วันมงคลนะ ทำการสิ่งใดก็สมหวัง "
ซ๊าธุ๊....................
..68.gif

" วา ลงไปใส่บาตรพระยังเนี่ยะ ? "
ผ่านไปราว 15 นาที โห พี่เมี่ยงฉ๊าน โทรมาถามอีกแน่ะ
" ใส่แล้ว ใส่นมกล่องกะขนมไปอ่ะ ไม่ยอมบอกล่วงหน้านี่ "
" นี่ๆ พระแซววาด้วย นานๆเห็นหน้าโยมที 5555 " 
วาเล่าให้พี่เมี่ยงฟังขำๆ

" ก็โยมขี้เกียจตื่นเช้าๆนี่เนอะ บอกหลวงพี่ไปซิ "
" นอนต่อได้ยังเนี่ยะ ไหนว่าไปวัดสายๆไง " 
วารีบเปลี่ยนเรื่องพูด ก่อนจะเข้าตัวเองไปมากกว่านี้
" อืม ถ้าใส่บาตรพระแล้วก็นอนต่อได้ เดี๋ยวสายๆค่อยออกไป "
พี่เมี่ยงอนุโลม แต่ไม่วายคุยต่อเรื่อง เสาร์ 5

" วันนี้นะวาเป็นวันเสาร์ห้า เพราะนับตามจันทรคติ คือ 
ตรงกับวันเสาร์ 5 คือ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ซึ่ง100 ปีมีครั้งเดียว
ถือว่าเป็นวันธงไชยกฐินวัน เป็นฤกษ์งามยามดี " พี่เมี่ยงคุยให้ฟัง
" อ๋อค่ะ ...." วารับฟังอย่างสนใจ เพราะตัวเองไม่เคยทราบเรื่องเหล่านี้มาก่อน

" ในปีนี้วันเสาร์ห้ายังเป็นวันพระจันทร์เด่น พระศุกร์เด่น
ส่งผลให้เป็นเสาร์ห้า มหาเศรษฐี คือ โดดเด่นในเรื่องของ โชคลาภ
วาสนา เมตตา มหานิยม ดังนั้นนะวา
ถ้าใครมีโอกาสไปร่วมทำบุญที่วัดใดก็ตามก็จะได้รับบารมี ต่างๆเช่น
อยู่ยงคงกะพัน มีอำนาจ บารมี ความร่ำรวย มีโชคลาภอาบอิ่มใจ
รวมทั้ง เป็นที่รักแก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย เข้าใจยังหือ ? "
พี่เมี่ยงอธิบายซะยาวเหยียด

" อ๋อ ค่ะ ... ถ้างั้น วันนี้ก็เป็นวันดีซิพี่เมี่ยง เป็นวันมงคลน่ะ ? 
ยิหวาถามพี่เมี่ยงกลับไป

" เสาร์ 5 น่ะ เป็นดิถีที่ยกย่องว่ายอดเยี่ยมในการประกอบฤกษ์ยาม
ถึอว่าเสาร์ 5 เปนดิถีอำมฤตโชค หรือความสำเร็จ
แต่เสาร์ 5 นี่ไม่ใช่ฤกษ์ยามเพื่อประกอบการมงคล
หรือเพื่อประกอบการทางศาสนานะวา เสาร์ 5 เหมาะสำหรับปลุกเสกเครื่องรางของขลัง

" แหม วา คิดว่าเหมือนกันซะอีก คิดว่าเป็นวันที่เหมาะกับพิธีมงคลด้วยนะเนี่ยะ "
ยิหวา ยังไม่วายหายคลางแคลงใจ

" ฟังนะวา เสาร์ห้านี่นะ โบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันแข็ง
ซึ่งเหมาะแก่การประกอบพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลมากกว่านะ
และในรอบ ๑๐๐ ปีจะมีเพียงครั้งเดียว เข้าใจยัง วานี่ไม่รุ้อะไรสักอย่าง "
แน่ะ พี่เมี่ยงมีตบท้ายด้วย แหมๆๆ

สรุป ยัยวาไม่ต้องนอนต่อแระ ฟังพี่เมี่ยงเล่าเรื่องเสาร์ 5 ตาสว่าง อิอิ
...68.gif

สายๆหน่อยก็ไปไหว้พระที่วัดพระแก้ว ผู้คนไม่ค่อยเยอะมากนัก ยังนึกแปลกใจ
ทำไมดูบางตาจัง หรือว่า พวกเขาไม่ทราบเรื่องวันดีเสาร์ 5 กันนะ
คนไทยก็พอมีบ้าง แต่น้อย ไม่เหมือนฝรั่ง มาเป็นกรุ๊ปทัวร์

ออกจากวัดพระแก้ว เดินต่อไปที่ศาลหลักเมือง เยื้องๆกับวัดพระแก้ว
แดดร้อนได้ใจจังเล๊ย พี่เมี่ยงบอก ศรีทนได้ เอ้ย พี่ทนได้เพื่อวันนี้ วันดีเสาร์ 5 อิอิ

ออกจากศาลหลักเมือง ก็ขี้นรถเมล์ฟรีเพื่อประชาชนต่อไปยังวัดไตรมิตร เยาวราช

กว่าจะถึงวัดไตรมิตรก็เผชิญหน้ากะพวกเสื้อแดงสักหน่อย อิอิ 
ตะลึงกับผู้คนที่เห็นตรงหน้า เยอะมาก ผู้คนล้นหลามด้วยจิตศรัทธา
พี่เมี่ยงบอก รีบทำบุญไหว้พระ แล้วออกจากวัดเลยดีกว่า
ไม่ไหวแล้ว ร้อนมาก เดินเป็นหมาหอบแดด 

ป่าวน๊า ไม่ได้ว่าพี่เมี่ยงน๊า ว่าวาเองต่างหาก อิอิ
68.gif

กลับบ้านกันดีกว่า ยิหวาเสื้อสีฟ้า เดินฝ่าดง(ทรีน)เสื้อแดง 5555 
เสียวสันหลังวาบๆ ตรูจะโดนป่าวว๊า อิอิ 
พี่เมี่ยงเสื้อสีน้ำเงิน คงคิดเหมือนวาป่าวหว่า ไม่กล้าถาม อิอิ

สุดท้ายกลับบ้านกันด้วยความสวัสดิภาพ เพราะอานิสงของเสาร์ 5
และจากการไปทำบุญไหว้พระกันมา อะแฮ่มๆๆ...
55555 คิดในใจ รอดแระเรา กลับมาผึ่งพุง นอนเกาสะดือที่บ้านต่อ อิอิ

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เข้าวัดเข้าวาอุราเบิกบาน รอดพ้นหมู่มารที่ผลาญใจเรา...แฮ่..แฮ่...

.68.gif

                          ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น )

                 cd25.gif				
18 มีนาคม 2553 03:26 น.

" ในหนึ่งวันที่ฉันเบื่อ "

ฉางน้อย

00557_2.gif1..... และวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ฉันนั่งเซ็งกับตัวเองก็เพราะหลายวันที่ผ่านมานี่ซิ
เจ้าคอมพ์ตัวดีมีอันต้องโยกย้ายตัวเองไปนอนเอ้งเม้งที่ร้านของช่างซ่อม
เหลียวซ้าย ก็เฮ้อ... อนาถใจนักนะยัยวา 
เหลียวขวา ก็เฮ้อ....เซ็งๆพิกล

" ดีแล้ว ยัยวาจะได้พักซะบ้าง ไม่งั้นก็ไม่ต้องหลับต้องนอน
มัวแต่แชทกับแฟนๆทั้งวันทั้งคืน " พี่เมี่ยงประชดนิดนุง อิอิ
" โห .. พี่เมี่ยง วาเบื่อจะตายแล้วนะเนี่ยะ ไม่มีไรทำอ่ะ " 
" ก็ทำงานเล่นๆไปก่อน รอดูช่างเขาว่าไง ใจเย็นดิยัยวานี่ก็..."
พี่เมี่ยงพูดเหมือนปลอบใจ แต่ในใจคงสมน้ำหน้าแหง๋มๆ รู้หรอก ชิ....

" ตอนที่มีคอมพ์ล่ะนะ นอนตี 1 ตี 2ไม่หลับไม่นอนเล่นยันสว่าง
ยัยวานี่ไม่ได้เรื่องเล๊ยยย "
อ้าว ตอนท้ายเหมือนแอบกัดเราเล็กน้อยถึงปานกลางนะนั่นน่ะ
" แหมๆ มากไปพี่เมี่ยง มาหาว่า วานอนตี 1ตี2 
วาก็คุยกะเพื่อนๆนิดหน่อยแล้วก็อ่านโน่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย 
4ทุ่มครึ่งวาก็นอนแหล่ววววว......(มั้ง)
" ใครจะไปเหมือนพี่เมี่ยงได้ล่ะ คุณชายอนามัย 3ทุ่มครึ่งก้นอนแล้ว
เฮ้อออ.. คุณชายเมี่ยงไม่ได้เรื่องเล๊ยยยย "
ยิหวา ขอเอาคืนนิดนุง ยังไม่รวมดอกเบี้ยนะนี่ อิอิ

" ปากดีนักยัยวา ขอให้คอมพ์อยู่ร้านซ่อมสัก 10 วัน 
หาหนังสือมาอ่านก่อนเลยไป ฆ่าเวลา จะได้ไม่ต้องบ่นโน่นนี่ "
อ้าววววว กลับกลายเป็นว่า วา ผิดอีก โดนอีกตามเคย 
" รู้แหล่วววววววว.......(ทำเป็นบ่นยิ่งกว่าตาแก่) " 
คำในวงเล็บ ไม่ได้พูดออกไปน๊า เดี๋ยวบ่นไม่เลิก อิอิ 
.130.gif

2.....หลังจากทะเลาะ เอ้ย คุยกับพี่เมี่ยงพอเป็นกระษัยแล้ว
ยิหวาเหลียวซ้าย มองขวา ทำไรดีน๊า
ขึ้นไปห้องนอนของพี่สาวคนโต
 ฮั่นแน่ะ .. หน้าโต๊ะเครื่องแป้งมีขวดสีสวยๆด้วย
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏที่มุมปากนิดหนึ่ง (แค่นิดเดียวจริงๆน๊า ) อิอิ
" น้ำยาทาเล็บ " ฉลากบนขวดเขียนไว้แบบนั้น
" ทานิ้วไหนก่อนดีน๊า นิ้วก้อยดีกว่า สวยที่สุด "
ยิหวาเอียงคอ ปาดซ้ายทีขวาทีสาละวนกับการ
ทาเล็บให้ตัวเองอย่างกับผู้ชำนาญการ

" โห .. แม่เจ้าโว้ยยย สีแจ๋นจี๊ดจ้าดดีแท้ อิอิ " แค่คิดก็ขำคนเดียว
" อ่า...ลืมไปอ่า ทาแล้วลบออกยากด้วยซิ ทาไปแล้วสองนิ้วด้วย "
แหง่ก....ทาเล็บนิ้วนางกับนิ้วก้อยเสร็จ ต้องนั่งแบบนิ้วแบมือให้ห่างๆ
กันเข้าไว้จนกว่าน้ำยาทาเล็บจะแห้ง
นั่งกางนิ้วประมาณ 10 นาที (ว่างจัด ) คิดในใจ 
อืมม์ .. ผุ้หญิงอยากสวยต้องอดทน
นั่งมองนิ้วทั้งห้าของตัวเอง ดีนะ ที่ไม่มีผังผืดด้วย
 ไม่งั้นไม่ต่างอะไรกับทรีนเป็ด อิอิ

เอาล่ะ น้ำยาทาเล็บแห้งแล้ว วิ่งจู๊ดลงมาชั้นล่าง อวดพี่สาวคนรอง
พี่สาวได้แต่ส่ายหน้าดิก คงสังเวชหรือสมเพชน้องสาวก็ไม่ทราบได้
พี่สาวพูดคำเดียวว่า " เฮ้อ.. น้องสาวเรา ผีอะไรเข้าสิงล่ะน้อง "
ยิหวา นั่งมองเล็บตัวเองที่ระบายด้วยสีแจ้ดๆด้วยความภาคภูมิใจ(แบบสุดๆ)
...130.gif

3...... สองทุ่มกว่านิดๆพี่เมี่ยงโทรมาอีกที ดีจังกำลังเหงาปาก ไม่มีเพื่อนคุย
แต่ไม่กล้าบอกเรื่องที่ตัวเองไปแอบทำสวย 5555 โดนดุแหงๆ อิอิ
" วา กินข้าวยังเนี่ยะ ? " คำแรกที่พี่เมี่ยงถามแทบจะบ่อยที่สุด
" กินแล้ว อิ่มแล้วด้วย "
" กินกับอะไร ใครทำให้อีก " พ่อคนช่างซัก อิอิ
" ข้าวไข่เจียว พี่รองทำให้อ่ะดิ " 
ปากตอบแต่ตาเฝ้าภาคภูมิใจกับผลงานของตัวเอง 5555

" แหม ยัยวานี่ สอนไม่จำ ก็บอกให้เจียวเองทำเอง เหมือนที่เคยแนะนำ
สั่งเหมือนสั่งขี้มูก ยัยวานี่ เฮ้อ " 
เริ่มแระๆ พี่เมี่ยงเริ่มแระ สงสัยวิญญาณผีขี้บ่นเข้าสิง อิอิ
" ค๊า......รู้แล้วค๊า แล้วพี่เมี่ยงกินไรยังคะ ? " ยิหวาถามย้อนคืน
" ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องพูดเลยยัยวานี่ แล้ววันนี้ทำไรมั่ง ? "
ยิหวารุ้หรอก พี่เมี่ยงแกล้งบ่นไปงั้นแต่น้ำเสียงยังมีความห่วงใยเสมอ 
อิอิ น่าร๊ากกกก
" ก็ไปร้านซ่อมแล้ว เขาปิดร้านหนีวา เฮ้อ อดเล่นอีกตามเคย "
" ดีแล้ว ไปหาหนังสืออ่านเลย 10 เล่ม ให้เวลา 10วันเลย " พี่เมี่ยงสั่งๆๆๆ
" โห พี่เมี่ยงใจร้ายยยย...." ยิหวาโอดครวญสุดฤทธิ์
" ไม่ต้องมาโห มาเหอ เลยนะ
 แล้วมีเบอร์โทรร้านคอมพ์ป่าว จะโทรไปบอกว่า
ไม่ต้องรีบซ่อมหรอก คอมพ์น่ะ ทิ้งไว้อีก 10 วัน ดีไหมยัยวา "

" ไม่ดีๆๆ ไม่ดีแน่นอนเลยพี่เมี่ยง 
วาไม่มีเพื่อนคุยนะ วาเหงาด้วย เบื่อตายชัก "
ยิหวาสวนทันควัน ไม่ดีๆ ไม่ยอมๆ แต่ได้ยินเสียงพี่เมี่ยงหัวเราะขำด้วย ชิ
" แล้วพี่เมี่ยง ทำไรอยู่อ่ะ ? " ถามพี่เมี่ยงกลับไปบ้าง
" ก็คุยโทรศัพท์อยู่นี่ไงกับใครก็ไม่รุ๊ "
 พี่เมี่ยงยียวนเป็นเหมือนกันนะเนี่ยะ 
" จะอาบน้ำนอนแล้วล่ะ โทรมาคุย ถามข่าว
 กลัวใครบางคนลงแดงไปซะก่อน "
ไม่วายที่จะจิก กัดในวันและเวลาที่เหมาะสมเลยนะพี่เมี่ยง
..130.gif

4...... เหลียวมองหนังสือรอบตัวที่ขนมาจากห้องนอนใหญ่
อ่านเล่มไหนก่อนดีน๊า หยิบวางๆๆ พลิกซ้ายขวาๆ
- คำพ่อ คำแม่ ของพระธรรมกิตติวงศ์ อืมม์ วางไว้ก่อนก็คงดี
- คำกลอนของสุนทรภู่ 2 เล่ม วางไว้ก่อนเนอะ เดี๋ยวอ่าน
- ดินแดนซาเลา ของ วิภู ชัยฤทธิ์ อืมม์ น่าสนๆ แยกไว้ต่างหาก
- สุขเป็น ก็เป็นสุข ของ ท่านชยสาโร ภิกขุ อืมม์ นี่ก็วางไว้ก่อนเนอะ
- คิโกะจัง ผมม้าตาขวาง การ์ตูนน่ารักๆกวนๆขำๆ น่าสนๆ แยกไว้อ่านๆๆ
- วิญญาณและการระลึกชาติ ตอนที่ 1 หนังสือแนวผีๆ น่าสนๆ แยกไว้อ่าน

ในที่สุด ธรรมย่อมชนะอธรรม อิอิ ยิหวาหยิบการ์ตูนคิโกะจัง ผมม้าตาขาว
เอ้ย ตาขวางมาอ่านอันดับแรก อ่านไปหัวเราะไปคนเดียว คิกคักๆ
การ์ตูนชุดนี้มี 4 เล่ม พี่นักสืบ ซื้อให้นานแล้วจำได้ๆๆ
ภายใน 3 ทุ่มกว่า ก็อ่านจบทั้ง4เล่ม
อ่านอะไรต่อดีน๊า อ่อ นี่ดีกว่า วิญญาณและการระลึกชาติ ตอนที่ 1
เป็นหนังสือเรื่องเล่าของวิญญาณที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิด
 วนเวียนในโลกมนุษย์
และเรื่องราวของบุคคลที่กลับชาติมาเกิดแล้วระลึกชาติย้อนหลังได้

บรรยากาศเงียบๆของช่วง 4 ทุ่มกว่าชวนวังเวงดีแท้ 
แต่ยังเลือกอ่านเรื่องผีอีกนะยัยวา อิอิ
130.gif

5......ตี 1 กว่านิดๆอ่านจบเล่มพอดี ตาเริ่มปรือ ชักจะง่วงนอนแฮะ
แต่จะปิดไฟนอนได้ยังไงหว่า ภาพ และ ตัวอักษรยังวนเวียนในสมอง
เอิ๊กกกก ไม่น่าอ่านเลยยัยวาเอ้ย

เก็บๆๆ เก็บให้หมด หนังสือเกี่ยวกับผีๆ ปิดให้มิด 
จัดการปิดหน้าหนังสือเล่มนั้นปิดอย่างเดียวไม่พอ
 จับหนังสือคว่ำหน้าด้วย ........ผีมันจะได้ไม่ออกมา

เอ....จับหนังสือคว่ำหน้าอย่างเดียวคงไม่พอ ผีคงออกมาได้มั้ง
งั้น เอางี้ดีกว่า เอาหนังสือผีเล่มนั้นไว้ล่างสุดเลย 
แล้วเอาหนังสืออื่นวางทับๆๆๆๆ
วางทับให้หนักๆเข้าไว้......... ผีมันจะได้ไม่ออกมา อิอิ 

ยิ้มให้กับความคิดที่(เหมือนจะ)ฉลาดของตัวเอง 
ก่อนจะเหลียวซ้ายมองขวาปิดไฟล้มตัวลงนอน ตาเหลือก
 เอ้ย ตาหลับอย่างมีความสุข

จริงๆแล้วไม่หลับหรอก มัวแต่นอนหรี่ตา 
คอยมองนอกหน้าต่างยามผ้าม่านพัดไหวพลิ้วจะมีสิ่งแปลกปลอม 
หรือ เงาตะคุ่มๆโผล่หน้ามาร้องทักทาย " ตั๊บแก " บ้างไหนหนา

หลอนมากนะเนี่ยะ คำนี้ " ตั๊บแก " 
เพราะไปร้องทักเขาไปทั่วทุกบ้าน 555 

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า " อย่าอ่านเรื่องผีก่อนนอน มิฉะนั้นจะหลอนโดยไม่รุ้ตัว "

             
        evil.gif  ( ฉางน้อย  ทะเลไร้คลื่น ).evil.gif130.gif				
7 มีนาคม 2553 14:07 น.

" วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ"

ฉางน้อย

00556_1.jpg" วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ " ชื่อนี้เคยได้ยินมานานพอสมควร
แต่ไม่มีโอกาสได้ไปสักครั้ง เคยถามพี่เมี่ยงว่า รู้จักวัดปากน้ำไหม
พี่เมี่ยงเคยไปหรือยัง คำตอบที่ได้คือ " เคยไป นานมากแล้ว ร้อนด้วย "
" วาลองหาวัดอื่นซิที่ร่มรื่นๆน่ะ ลองหาในเน๊ตนะ "
คิดในใจ เค้าอยากไปวัดปากน้ำ จะให้เค้าไปวัดอื่น เชอะๆ ชิๆ

เช้าวันเสาร์ที่ 6 มีนาคม กำลังนอนหลับเพลินๆ เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น
" ยัยวา ตื่นได้แล้ว สายตะวันโด่งแล้ว ตื่นๆ "
เสียงปลายทางโทรมาปลุก
" อะไรโทรมาแต่เช้า คนจะหลับจะนอนเนี่ยะ รีบไปไหน "
ยัยวายังงัวเงีย 555
" เช้าที่ไหนเนี่ยะ ดูซิ บ่ายสามโมงแหล้ววววว "
ทำเสียงยานอีกนะพี่เรา
" รู้แล้ว ตื่นแล้วๆๆๆๆ เดี๋ยวอาบน้ำสระผมด้วย "
ตอบทั้งที่ตายังไม่ลืม 5555
"อาบน้ำ สระผม หนีเที่ยวไหนอีกเนี่ยะยัยวา ทุกทีเลย "
" เปล่านี่ เก๊าะอาบน้ำสระผมให้สบายตัวสบายใจ มีไรป่ะ "
" ไม่ต้องเลยๆ ไม่ต้องเลยยัยวา ลุกขึ้นไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ จะพาไปไหว้พระ"
" ไหว้ที่ไหนเล่า วัดชื่อร่มรื่น กะ ร่มเย็นไม่มีนี่ ในเน๊ตน่ะ "
กวนไปเรื่อยยัยวา อิอิ 
" ไปอาบน้ำ ยังจะเถียงอีก ไปให้เร็วเลย ไปไหว้พระกัน " 
พี่เมี่ยงเสียงดุนิดนึง อิอิ
" อ้าว ไปจิงอ่ะ คิดว่า พูดเล่น ไปวัดไหนอ่ะพี่เมี่ยง "
"ไม่ต้องมาถามเลย ไม่พาไปขายหรอกน่ะ "
.115.gif

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก รถเมล์สาย 9 ฟ้า-น้ำเงินพาเรามาสุดสาย
แล้วก็ลงเดินเข้าวัดนิดเดียวเอง ยังไม่ทันเหนื่อย
" อ้าว นี่ไง วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พี่เมี่ยง ถึงแล้วๆๆ "
" ก็ใช่ไง ไหนบอก อยากมาวัดนี้ไม่ใช่เหรอ ? " พี่เมี่ยงย้อนคืน
" แหมๆ ก็พี่เมี่ยงให้วาหาวัดร่มรื่นร่มเย็นนี่ มีที่หนายยย " 
ระหว่างเดินเข้าเขตประตูวัด สองคนก็กัด เอ้ย ก็ถกเถียงกันไม่เลิก อิอิ

" แล้วรู้เรื่องราวประวัติของวัดบ้างไหมเนี่ยะ ที่อยากมาน่ะ " 
พี่เมี่ยงถาม 
" ไม่หรอกพี่เมี่ยง แค่อยากมาเฉยๆ " วาส่ายหน้าดิก
"ก็นี่แหละน๊า ยัยวาขี้โม้ จะรู้อะไรกะเขาบ้างล่ะ " ไม่วายมีเหน็บนิดๆ
" แหมๆ จะเล่าก็เล่ามาไม่ต้องมากัด เอ๊ย มาเหน็บเลย "
" ฟังนะ ฟังไหมล่ะยัยวาขี้โม้ " แหม พี่เราชอบเติมต่อท้ายให้ซะเรื่อยเลย
" ฟังซิ เล่ามาๆ ก่อนที่จะไม่ได้เล่า อิอิ " ยิหวาเหน็บคืนนิดนุง

" วัดปากน้ำ หลวงพ่อสดนี่นะ สัณนิฐานว่า สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยูธยาตอนกลาง
ซึ่ง นั่นก็คือ ราวปีพ.ศ.2031 - 2172 เป็นวัดประจำหัวเมืองกรุงธนบุรีเชียวนะวา "
" อ๋อ.. ค่ะ " วา รับรุ้ รับฟัง
" วัดปากน้ำ นี่นะ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ " พี่เมี่ยงเล่าต่อ
" อ๋อ...ค่ะ " วา ทำได้เพียง พยักหน้าหงึกๆเหมือนกิ้งก่าได้ทอง อิอิ
" แล้วไม่สงสัยอะไรเลยเหรอ พูดคำเดียวนี่นะว่า อ๋อ คะๆๆๆ " 
พี่เมี่ยง พูดเหมือนไม่ค่อยประชดสักเท่าไหร่ อิอิ
" ก็เค้ายังไม่มีเหตุให้สงสัยอะไรนี่ เล่าต่อซิพี่เมี่ยง "
วาตอบ แต่ก็แอบเห็นนะ พี่เมี่ยงส่ายหน้านิดนึงคงรำคาญ 555
.115.gif

" ที่จริงนะวา คำว่า พระอารามหลวง ก็ต้องมีคำว่า "วรวิหาร"
หรือไม่ก็ " ราชวรวิหาร " ต่อท้ายใช่ไหมล่ะ ? "
" อ๋อ... คะ " วา ยอมรับ พูดได้เพียงเท่านี้จริงๆ 
ไม่ชำนาญเรื่องเข้าวัดเข้าวาสักเท่าไหร่นัก เลยไม่กล้าออกความเห็น
" แต่วัดหลวงพ่อสด หรือวัดปากน้ำ นี่ทำไม ไม่มี วาคิดซิ "
" แหะ..แหะ.. ไม่รู้อ่ะพี่เมี่ยง " วาส่ายหน้า ยิ้มแหยๆ ยอมจำนนต่อพี่เมี่ยง
" นี่แหละน๊า... เอาแต่โม้ ไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่างยัยวานี่ "
พี่เมี่ยงไม่วายเหน็บน้อยๆจิกเล็กๆ

" ก็เพราะอะไร ทำไม ไม่มีสองคำนี้ล่ะพี่เมี่ยง เล่าซิ วาไม่รุ้นะ "
" ก็เพราะว่า ตอนนั้นยังมีปัญหาเรื่องการออกใบโฉนดที่ดินให้วัดไง "
" แล้วก็อีกอย่างนะ ศัพท์สองคำนี้ เพิ่งมีบัญญัติทีหลังไง ในสมัย
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวน่ะ 
" วัดปากน้ำ จึงไม่มีสร้อยนามต่อท้ายด้วยเหตุนี่แหละ มีเพียงคำว่า
พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เข้าใจยัง หือ คนขี้โม้ " 
" พระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ แล้ว ถ้าชนิดวิสามัญเป็นไงล่ะพี่เมี่ยง ? "
วา ถามจบ ก็หลบจู๊ดให้พ้นรัศมีมะเหงกของพี่เมี่ยง 500เมตร 555
" เดี๋ยวเหอะ ยัยวา มานี่เลย มาซะดีๆ "
" เรื่องไรล่ะ ไปก็โดนเอาคืนอ่ะดิ อิอิ "
" มานี่เลย จะฟังต่อไหม ห๋า ให้ไว ให้ไวเลย " พี่เมี่ยงชักเสียงเขียว อิอิ
" ฟังน่ะ วาฟัง แต่พี่เมี่ยงห้ามมะเหงกวาคืนนา ห้ามจี้เอวด้วย ขอบอก "
" วาแค่ล้อเล่น แฮ่.." ยิหวาโอดครวญขอความเห็นใจสุดฤทธิ์ อิอิ
..115.gif

" แล้วต่อมา เจ้าคณะปกครองได้ส่งพระสมุห์สด จันทสโรจากวัดพระเชตุพน
มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสที่นี่ " 
พี่เมี่ยงเล่าโดยไม่มีติดขัด สมแล้วที่เป็นนักวิชาเกิน เอ้ย วิชาการ อิอิ
" อ้าว เขาเรียก หลวงพ่อสดไม่ใช่เหรอพี่เมี่ยง ? " วาเริ่มสงสัย
" ฟังให้จบก่อนซิ แหมๆ ยัยวานี่ รีบไปไหนเชียว " พี่เมี่ยงติง
" อ๋อ.. ฟังค่ะ ฟังค๊า คุงพ่อ " ไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านั้น
กลัวโดนจับล็อคคอ ตีเข่า 555
" ก็ตำแหน่งตอนนั้น ท่านเป็นพระสมุห์สดไง ท่านสอนสมถวิปัสนากรรมฐาน
รวมทั้งส่งเสริมการศึกษาด้านธรรมะ วัดก็เริ่มมีความเจริญมากขึ้น "
" อ๋อ ค่ะพี่หมู เอ้ย พี่เมี่ยง " วากำลังทึ่งกับข้อมูลของพี่เมี่ยง อิอิ
"และสมณศักดิ์สุดท้ายในราชทินนามก็คือ " พระมงคลเทพมุนี"
แต่ใครๆมักเรียกกันติดปากว่า " หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ "

" อ๋อ......เป็นอย่างนี้นี่เอง " วา พยักหน้าเข้าใจ ถึงบางอ้อในที่สุด
" ใช่ ..ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้ ขี้โม้ เอาแต่เล่นไม่รุ้เรื่องอะไรสักอย่าง "
" ไม่ต้องวกมาหาวาเลยพี่เมี่ยง ไปเลยๆ ไปไหว้พระโน่น "
" แล้ววาจะเข้าวัดได้ไหมเนี่ยะร้อนนา ไหว้พระเป็นป่าวเราน่ะ "
ยังกัดไม่เลิกพี่เมี่ยงเรา จำไว้เลย
" อืม เก่งนี่เราน่ะ ไหว้พระกะเขาก็เป็นด้วย " 
พี่เมี่ยงชมหรือประชดหว่า อิอิ 
" คนนะ ไม่ใช่แมวที่จะไหว้พระไม่เป็นน่ะ แหมๆ ชอบกัดวา "
"คนนะ ไม่ใช่แมว ที่จะได้กัดคนน่ะ " อ่ะนะ พี่เมี่ยงย้อนคืน 
..115.gif

                        
                        ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น )

     ( ปล. หากข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยเจ้าคะ
ต้องไปโทษพี่เมี่ยงโน่นเลย นักวิชาการ อิอิ )

                
                     51.gif				
1 มีนาคม 2553 16:40 น.

ณ.มุมห้อง ของหัวใจ

ฉางน้อย

00554_0.jpgใครบางคนและอีกหลายๆคนมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 
หัวใจคนเรามีสี่ห้อง แต่ละห้องอาจมีคุณค่า
หรือความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป
หัวใจห้องที่ 1 ใครแวะเข้ามารู้จัก และทักทาย
ห้องที่ 2 อาจมีใครหลงทางมาอาศัย
ห้องนั่นล่ะเป็นยังไง ห้องโน่นเล่าใครเข้ามา

หัวใจคนเราไม่ใช่คอนโด หรืออพาร์ทเม้นต์ให้เช่าที่จะได้รับใครเข้ามาง่ายๆ
ใช่ว่าคนนี้เข้า คนนั้นออก หรือมานั่งเล่นพักผ่อนค้างแรม 
พอหายเหนื่อยก็จากไป
ปล่อยให้เจ้าของห้องพักมานั่งทำใจ เก็บกวาดส่วนเกินของหัวใจทิ้งไป

แต่หัวใจคนเรามีเลือดมีเนื่อ มีการสูบฉีดของหัวใจ
มีการตอบสนองสำหรับใครบางคน
ใครบางคน หรือ สักคนที่เป็นคนพิเศษของเรา
คนพิเศษที่เรามี "ความรู้สึกดีๆ " มอบให้

004.gif				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฉางน้อย