12 มีนาคม 2547 16:05 น.

ตนชายเขา

ตนชายขอบ

หมอกชายเขาแผ่วผลิ้วลอดพลอดสายลม
                                          แสงหวันชมแจ่มฟ้าเวลาเช้า
                                           ไก่เถื่อนขันจับคู่กรูขับกล่าว
                                        นกตบยุงบินแพรวพราวดูน่าชม

                                         พรมผื้นหญ้าแลดูเป็นลานกว้าง
                                        ชุ่มชื่นซ่านน้ำค้างฟ้าพร่างพรมใส่
                                            หมู่แมลงแลผีเสื้อบินว่อนไว
                                              ช่างสุขใจหรือว่าฤๅโลกตน

                                            กลับไปสู่หนำน้อยริมชายเขา
                                             ลมพัดเบาก็ซวนเซเห่จะล่ม
                                            เจ้าไข่แดงรีบร้อนว่อนลุกลน
                                        หยิบฉวยปลนสมุดขาดมากอดกาย

                                          เสื้อสีมอลูกดุมหลุด กางเกงเก่า
                                     เข็มขัดปล่าว ใช้เป็นเชือกผูกหยูหนา
                                        มองที่เท้าก็เปลื่อยเปล่ามาทุกครา
                                        ได้เวลาต้องข้ามควนไปโรงเรียน

                                         หวันยอแสงแทงเข้าตาเวลาเช้า
                                  เหงือหยดพราวดังสายน้ำหยาดแก้มหนา
                                     ข้ามสองควนถึงโรงเรียนเตรียมเวลา
                                          ได้ศึกษาเล่าเรียนเพียรตั้งใจ

นักเรียนทำความเคารพ
สวัสดีครับคุณครู

 วันนี้นักเรียน เหอ หวันเช้านี้ก้ เรียนเรื่อง มานี มานะ กันต่อนะ หวังหว่าพวกเธอคงจะได้อ่านกันมาแล้ว  แต่ว่าตอนหวันเที่ยงนะนักเรียน ให้ไปเอายาสามัญประจำบ้าน ตี้ห้องพยาบาลกัน หมอจากเมืองเขาเอามาแจก 
 (อ่านเป็นภาษากลางนะครับ)

                        แกร็ง...แกร็ง...แกร็ง... เสียงระฆังใบเก่าขึ้นขี้หนิม
                                      หวันพรุบพริบหลบต่ำลงตะวันสาย
                             ตีนเปลือยเปล่าก้าวข้ามควนอย่างเดียวดาย
                                    จุดมุ่งหมายคือหนำน้อยชายเขาไกล


                                        แสงเกียงป๋องพุ่งสไวในยามนี้
                                     เสียงหวีดหวิวของสายลมชนข้างฝา
                                     หมู่หิ่งห้อยวับวาวแสงแพร่งชายคา
                                       พฤษาป่าละลอยล่องหอมชวนดม

                                         เป็นทุกวันอย่างนี้ตนชายเขา
                                     ธรรมชาติครอบคลุมเราไม่ห่างหาย
                                      หมู่มวลมิตรสืบสานพันธุ์นานากาย
                                     วิสาดชาติญาณพฤติกาล ก่อเกิดกาย
                                   ตนบาย บาย ตนชายเขา อย่างเราเอย

ภาษาถิ่นใต้แปลครับ
นกตบยุง  หมายถึง   นกชนิดหนึ่งขนสีน้ำตาลตัวใหญ่อาศัยอยู่ในป่าแถบภาคใต้
ลูกดุม       หมายถึง   กระดุม
หยู           หมายถึง    หูกางเกง
หวัน         หมายถึง    ตะวัน
ขี้หนิม       หมายถึง    สนิม
พรุบพริบ  หมายถึง    ตะวันจะลาแสง
หลบ          หมายถึง    กลับ
หนำ          หมายถึง    สิ่งปลูกสร้างเล็ก ๆ ไม่คงทนถาวร
เกียงป๋อง   หมายถึง    ตะเกียวกระป๋อง
บาย           หมายถึง    สบายๆ 
ควน           หมายถึง   ภูเขา				
6 มีนาคม 2547 19:36 น.

รถไฟเท่ง

ตนชายขอบ

ลมยามเย็นพัดใบโหนดโบกสะพัด
                                  แสงหวันเริ่มใหลบหลับพลัดจากฟ้า
                              เสียงเครื่องจักร  กังวาลหวูด  ตามเสียงมา
                                  วันจากลา  ของบ่าวเท่ง  เร่งเร็วพลัน

 ตี่นี่.. ตี่นี่..สถานีรถไฟหัวตะโหนด ท่านผู้โดยสารที่จะไปกรุงแตบ ขึ้นรถได้เลยคร๊าบ (อ่านแบบภาษาใต้ครับ)

                                    ล้อลูกเหล็กนับร้อยๆ  ค่อย ๆ เบียด
                                    เสียงสีเสียด  การจากลา  พาใจหาย
                                     มือน้อย ๆ  โบกหยอย ๆ  ซึ่งตายาย
                                  รถไฟเคลื่อน  สุดสาย  หมายปลายทาง

     รามคำแหง...นิติศาสตร์  รามคำแหง...นิติศาสตร์  รามคำแหง...นิติศาสตร์

                                    บ่าวเท่งเหอ  มึงไปเมือง  จงเรียนรู้
                                    ใช้ศาสตร์ครู  ศาสตร์จำ  พร่ำศึกษา
                                           เมื่อเวลา  ที่มึง  เรียนจบมา
                                        จะนำพา  มาให้มึง  เป็นนายคน
                                           เท่งจะจำ  ทุกคำ  ที่ยายสอน
                                           เท่งจะยอม  อดทน  มุ่งศึกษา
                                           เพื่อถึงวัน  ที่เท่ง  จบออกมา
                                   ใบปริญญา  และเกียติชน  ตนบ้านเรา				
6 มีนาคม 2547 16:28 น.

พิศแห่งรักเมืองแร่นอง

ตนชายขอบ

โอ้ละน้องเอ๋ย  พี่คิดถึงเจ้า  แทบจะวายชน
เมื่อพี่ยล  ครั้งแรก  แปลกหัวใจ
เมืองหุบเขา  ผู้คน  ที่จริงใจ
รวบรวมไว้  อิสระชน  คนสองเมือง
คนเมืองแรก คือพม่าจากเกาะสอง
เมืองที่สอง คนถิ่นชนแร่นองนี้
เป็นกำลังสมานสามัคคี
ผลิวิถีชีวีนี้ให้เติมเต็ม

วัฐจักรแห่งสีสรรค์บังเกิดแล้ว
แม่งามแก้วบ่อน้ำร้อนเป็นขวัญศรี
ทุกก้าวย่างชาวพารา  พาวะธี
ล้วนสุขขีสุขสมรกล่อมใจชน

พอตกเย็นอาหารค่ำพล่ำรสชาด
แปลกประหลาดใบไม้ผัดปรุงด้วยไข่
ชื่อจานนี้ใบเหลียงผัดหรอยจับใจ
ใครมาเยือนแล้วไซร้ต้องได้ชิม

ยามพลบค่ำแสงดาวพราวราวกับแร่
ตาระแม่เนื้อทองผ่องเต็มฟ้า
ใครมาเยือนเมืองแร่นอง สุขอุรา
สมกับว่าเป็นเมืองทอง  ผ่องเผ่าไทย

ป.ล. ขอ[คุณ สหายเจม ดำดิน  ลุงภาพ  บุรุษเหล็ก ครอบครัวน้องแตง กับข้าวอร่อยมากทุกมื้อ เดือนเมษาจะไปเยี่ยม เตรียมใบเหลียงไว้เยอะๆนะ				
5 มีนาคม 2547 20:35 น.

หลุมดำแห่งชีวิต

ตนชายขอบ

ดำ...ดิ่ง...ดำ...ดิ่ง...ดำ...ดิ่ง...  ในตัว
                                    ฟ้าสลัว  หมู่เมฆดำ  ครอบงำจิต
                                  มองทางไหน  มันน่ากลัว  กว่าที่คิด
                                        ยิ่งพินิจ  เพ่งมอง  สยองใจ
                                    มันเข้ามา  มันเข้ามา  มันเข้ามา
                                    มันแผ่นซ่าน  ทุกยาม  ตามสถิต
                                   อิงไหวตัว  แอนเอียง  เพียงสักนิด
                                   ไม่ต้องคิด  มันจะจาก  ซากของตน
                                   แสงแห่งธรรม  ส่องสว่าง  มายามนี้
                                       ปลุกชีวี  ปลุกวิถี  สีสรรค์ใหม่
                                    หลุมดำ ดำ  ในตัวตน  ค่อยพ้นไป
                                 ชีวิตใหม่  แสงแห่งธรรม  ครอบงำตน
                                  สูง...ขึ้น...สูง...ขึ้น...สูง...ขึ้น...  ในตัว
                                ฟ้าสาดแสง  หมู่เมฆขาว  พราวเฉดฟ้า
                                     สายแห่งลม  คลื่นแห่งน้ำ  พสุธา
                                         ปารติ  ปรีดา  เป็นหลุมงาม				
4 มีนาคม 2547 20:28 น.

อวตารภาการะกิตปฏิรักโลกนตา

ตนชายขอบ

ก่อเกิด เรื่องราว สายใย
                                             ปฏิไหวเชื่อมต่อสาระสาร
                                      มนุษย์หญิงมนุษย์ชายคู่บรรพการ
                                             สืบลูกสืบหลานมานานนม
                                               อวตารแผ่ส่านสามสมร
                                              ทุกทวีปทั่วเผ่าในดงดอล
                                               ปฏิคอนปฐมวิถีชีวิตตน
                                                 มีคนดีไม่ดีปะปนนัก
                                                มีคนชั่วก็มักปักปันผล
                                              จงทำดีอยู่ดีเพราะกายตน
                                              อวตนอวตารสานเผ่าพันธ์
                                          ให้บังเกิดในเรื่องของความรัก
                            จะประจักษ์รู้จริงดั่งใจผล คนที่ชั่วก็กลับดีมีทุกตน
                                           ปฏิผลปฏิรักโลกาจักษ์ศรียภูมิ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตนชายขอบ
Lovings  ตนชายขอบ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตนชายขอบ
Lovings  ตนชายขอบ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตนชายขอบ
Lovings  ตนชายขอบ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตนชายขอบ