29 มีนาคม 2550 19:06 น.

เมื่อวันเวลาอยากหมุนกลับ……

ตาทึบ

เมื่อวันเวลาอยากหมุนกลับ 
ใจโดดเดียวที่เดินตามหาฝันตัวเอง..
ก้าวตามรอยของความสดใสของเจ้านาง
ก้มเก็บดอกไม้กลีบแห้งที่เจ้านางตั้งใจทิ้งไว้
ใส่ในกระเป๋าแห่งความห่วงใย . อาทร
บัดนี้  ใจดวงนั้นเริ่มรู้ตัวเองว่าหลงทาง

เมื่อวันเวลาอยากหมุนกลับ 
การหันหลังกลับปล่อยฝันทิ้งไว้รายทาง
เริ่มวิ่งเข้ามาในความรู้สึก  
อยากล้วงกลีบดอกไม้แห้ง โปรยทิ้งไปกับสายฝัน
แล้วเดินกลับไปสู่วันเวลาเดิมเดิม 

เมื่อวันเวลาอยากหมุนกลับ..
ความรู้สึกอิ่มใจเริ่มลีบตัวลง
ลำนำของเสียงปลอบใจแผ่วขึ้น.. พร้อม
บทเพลงของผู้แพ้ ที่หมุนวนกลับมาอีกรอบ
มุมอับๆ ที่จากมา เริ่มกวักมือเรียก

เมื่อวันเวลาอยากหมุนกลับ 
แรงแห่งหวังสายสุดท้าย  ยืนมือไขว่คว้า
หมายเอื้อมไปรับความไว้วางใจอีกครั้ง
ดอกไม้แห้งกลีบสุดท้ายรอมือเจ้านางมาปลอบโยน
รออ้อมกอดเจ้านางมาปลอบขวัญ

เมื่อวันเวลาอยากหมุนกลับ
รอคำถามสุดท้ายที่ออกจาก .เจ้านาง				
26 มีนาคม 2550 20:09 น.

เธอ..คือความฝัน........

ตาทึบ

............ให้เธอเป็นความฝันของฉันต่อไปเถอะนะคนดี
ให้เธอเป็นจินตนาการของฉันในโลก.........บนนี้.........
ให้เธอเป็นทุกสิ่งที่ฉันขาด...........
เพราะเธอ...ที่อ่อนหวาน......และนุ่มนวล
เธอเลยเป็นความฝันของฉันตลอดไป.....

(ถึงแม้จริงๆแล้วเธอจะไม่อยากเจอฉันแต่ฉันก็ยังมีหวังว่าสักวันความฝันของฉันจะเป็นจริง)

ขอร้องนะ  ขอร้อง  อย่าจากฉันไป อย่าทิ้งฉันไปนะคนดี........
อยู่กับฉันตลอดกาลและตลอดไป......
	บนโลกใบนี้...........
ฉันอาจเห็นแก่ตัว........ที่ไม่คิดถึงความรู้สึกของเธอเลย
ฉันอาจเห็นเธอเป็นเพียงตัวละครในการ์ตูนของฉัน.......
ฉันเลย........ลืมนึกไปว่าเธอมีความรู้สึก.....ไม่เหมือนตัวละครพวกนั้น......
................ฉันขอโทษ....หากทำให้เธอปวดร้าว......เพราะความเห็นแก่ตัว.......ของฉัน.........ฉันขอโทษ............
................ถ้าเธอ...........
ได้ยิ้มกับเงาของตัวฉันเอง ... 
ได้ยิ้มกับฝันที่ฉันเฝ้ารอ.........
บนนี้............ฉันหอมฝันที่อยู่ลึกๆ ...........มาปัดฝุ่น....... แต้มเติมสีต่อได้.......
 มีกำลังใจ ของเธอ..........อยู่รอบๆ ตัวฉัน .............
ประคองให้ฉันไห้หลับ ...........มีฝันซ้อนฝันสีหวาน.........				
25 มีนาคม 2550 11:52 น.

เพียงเพราะว่า

ตาทึบ

เพียงเพราะว่า...

ก็เมื่อสายลืมพัด หวิววน พายุฝนกระหน่ำดิน
น้ำใสๆก็ไหลริน พร่างพรายเป็นอาจิณในดวงตา
ก็เมื่อสายลมโบก หนาวเหน็บ ก็เมื่อเจ็บอยู่ทุกครา
นึกๆเรื่องราวที่ผ่านมา จะชินจะชาก็ใจเรา

ก็เพียงเพราะว่าฉันเหงา เศร้าๆลึกๆ เรื่อยไป
ก็เพียงเพราะว่าหัวใจ แค่เหงาก็เท่านั้นเอง
ก็แค่คนเหงาๆคนหนึ่ง คนซึ่งไม่มีความหมาย
ก็แค่เจ็บแปลบ แปลบมิวาย
เพียงเพราะว่า ไม่มีใคร ก็แค่นั้นเอง


เพลงของสาว สาว สาว				
24 มีนาคม 2550 08:01 น.

กลอนของคุณ.......

ตาทึบ

แอบแหงนมองฟ้า มองหาดาวที่ไกลลิบๆ.......  คล้ายยังกระพริบเรียกหา.......
  แต่พอค่ำ่่คืนลา........... นางก็หายไปกับดาว...........เพราะแค่เค๊ากระพริบแล้ววับหาย
ปล่อยให้เจ้ารักร้างอยู่กลางทางเดินกลับหน้ากลับหลังอยู่ตนเดียว..... จากโหยหวนเจ้าจะ...... ทรมาน..เจ้าได้แต่แหงนหน้ามองและ  วิ่งตาม.พอเริ่ม หมดแรง เลยเริ่มคิดได้.............ว่าที่ตามคือใจเรา ตามกลับมา.........ถ้าใจกลับมาที่ตัวเราเอง ก็จบ
.... โหยหาไม่ใช่ใครทำ .. เพียงเรานั้นคิดเอง..........ลืม เสีย......จำไว้ บอกตัวเองว่าไม่เคยเกิดขึ้น...........ชีวิตเราพึ่งเกิด...........หลังจากฝังไว้เนิ่นนานแล้ว
............แต่ ครั้งไหนทรมานได้แบบนี้ที่ผ่านมายังเห็นได้ด้วยตาสองแต่เพียงไม่ใช่ผู้วิเศษ........อย่าทำร้ายตัวเอง.แต่มันก็จะขาดตอน... และรู้ว่านั้นคือสิ่งโหดร้ายมากกว่า........ตอนนี้ใยเจ้าเจ็บ............เจ้านาง ยังเคลือบแคลงในตัวเจ้า......ไม่สมกับถวิลหาทุกค่ำเช้า..อกเจ้าร้าวแน่ ...........จรกา


หากได้มองอะไรในแง่ของธรรมชาติบ้าง..........ต้นหญ้า กับไม้ใหญ่มีสายลมพรมกระซิบเท่าๆกัน..........หวั่นไหวพอๆกัน........โยนอ่อนเหมือนกัน ...เพียงแต่.....................
ธรรมชาติมาก่อนกฏเกณฑ์ กติกา.............เลยปล่อยให้ตัวเองพลิ้วกับสายลมตลอดเวลาไม่ได้........ยามพายุโหม........ก็หาร่มใม้กันตัวเองเสียบ้าง...............ชีวิตใช่ว่ารอวันดินกลบ.............มองให้ทะลุ คนทุกคนสู้กับตัวเองทั้งนั้น.............เหมือนเจ้าตอนนี้...........ถ้าหยุดคิดเสียบ้าง ใจคงเป็นสุขขึ้นเยอะ.........มียัยเพิ้ง ค่อยใส่ใจตามไถ่............มีคนคนหนึ่งค่อยเป็นห่วง............แต่ยายเพิ้ง ดันไม่รู้ว่า..........คนที่ทำให้ทุกข์กลับเป็นเจ้านาง เสียนี่............เหมือนกับทรยศกับยายเพิ้ง ยังไงไม่รู้(รออยู่ตรงนั้นแหล่ะ.ตาทึบคนดี)
รักคนที่จิตใจ..ใช่รสกาย...........แม้ชีพวายกายดินกลบ........แต่ลบใจที่ซื่อตรงไม่ได้........
.ยามเจ้ายิ้ม..........แก้มเจ้าอิ่มเต็มสองแก้ม  		ยามเจ้าแย้มแย้มกายา ช่างงามเหลือ
:ยามเจ้าเชิดเยินหยิ่ง ยิ่งน่ากลัว			แต่ยามเจ้าซบสงบได้แม้............
ยามได้เพ่ง (จะใช้คำนี้)มองเจ้า			ยังกับพี่เคล้า ฝ้ายชั้นเลิศ
ยามได้แตะ..........โน้ม.......เฉิด			รักบังเกิด กายลุ่มร้อน
รักคือสายธารของความอบอุ่น				ยามที่เจ้าเยื้องย่างลงอาบ
ปลาตัวน้อยๆ ที่ว่ายเวียนรอบตัวเจ้า			คือมือที่หลงใหลในตัวเจ้า
สายน้ำจะไหลลอดผ่านตัวเจ้าด้วยความอ่อนโยน		กระซิบโลมไล้ไปกับผิวกายที่โหยหาของเจ้า
ยามเมื่อเจ้าพลิกกายต้านกระแส			น้ำที่เคยสัมผัสเจ้าด้วยความนุ่มโยน
จะเพิ่มแรงแห่งความเชี่ยวกราด			ผ่านซอกซอนตามกลีบแห่งความเสน่ห์....... หาของเจ้า
..... ปลาตัวน้อยๆ ยังคงว่ายเวียนมาถามไถ่		ยังห่วงหาว่าเจ้าเป็นไรบ้าง
..... ทำไมยังดื้อดึงยืนต้านสายน้ำ			ใจข้าคิดคิดถึงเจ้าเจ้ารู้หรือเปล่า
กายข้าเหงาเหงาเหลือเกินเกินห้ามไหว		กว่าจะผ่านคืนที่ร้างทางช่างไกล
น้ำตาไหลซับแก้มแนบนานเนาว์			บอกเจ้านางด้วยว่า แม้ไม่ได้รัก มักใคร่
แต่ห่วงใยเสมอ.........
ใจข้าคิดคิดถึงเจ้าเจ้ารู้หรือเปล่า   			 กายข้าเหงาเหงาเหลือเกินเกินห้ามไหว     
กว่าจะผ่านคืนที่ร้างทางช่างไกล......			มีหนอใครจะรู้สึกได้.........เท่า........เจ้านาง

เมื่อไรเธอยืนอย่างมั่นคง.............เมื่อไรเธอมองโลกอย่างเป็นธรรม      เมื่อไรที่เรี่ยวแรงพร้อมที่จะก้าวหรือวิ่ง
เมื่อเธอไม่ต้องการ..กำลังใจแล้ว...............ฉันก็คงทำตัวลีบๆ แอบอยู่ในมุมของตัวเอง ต่อไป.........มือเจ้าแข็งแรงได้เท่านี้
ความรักเจ้าแข็งแรงสักแค่ไหน
หนทางที่ต้องเดินอีกยาวไกล
แค่น้ำใจ นางไม่หยาดมาเจือจุน
มองเค๊าอย่างชื่นชมเถอะ
     อย่าเอาชีวิตคนอื่นมาครอบครอง
เพราะคนไม่ใช่ นกน้อย..คนที่เกิดมาก็ติดปีกให้กับตัวเองแล้ว... หัวใจที่พร้อมจะโบยบิน ..

(ถาม)เมื่อนั้น.......เธอพร้อมที่จะจากฉันไปหรือ.????????......ฟังนะ ฉันนี่แหละจะเป็นคนดึงเธอออกมาจากมุมอับๆนั้นเองเพราะฉันคือความสดใสที่เธออยากเจอไม่ใช่หรือ..........ฉันจะบอกเธอว่าข้างนอกของมุมตัวคุณนั้นมีคนที่เค๊าห่วงใย......



"รักมากกว่า ย่อมเจ็บกว่า"
"ฉันจะล้อมเธอให้เป็นชายที่แสนดีให้ได้"   กรงที่เริ่มกว้าง ขอบอีกฝั่งพิงไว้ด้วยกำแพง..............แต่รัก.........ที่แต่จริงก็ทำไงให้รักมาร่วมกันได้อย่างพอดี..........อีกด้านอาจจะสูง......บริสุทธิ์           อีกฝั่งอาจจะโดนมองว่าเสพ........แต่ถ้าโอบด้วยปีกของความอบอุ่น.สวรรค์ ก็ย้ายมาอยู่บนดินได้...........รักก็เป็นเช่น นี้เอง
...				
22 มีนาคม 2550 00:34 น.

คิดจะจากลาหรือไร

ตาทึบ

เรียวริ้วเหงาเฝ้าพรมห่มใจเจ้า
อ้างว้างเคล้าคลุกใคร่ให้โหยหา
ร้างไร้สิ้นถิ่นลี้หนีชะตา
บทเพลงลายังแผ่นแว่วไกลไกล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตาทึบ
Lovings  ตาทึบ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตาทึบ
Lovings  ตาทึบ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตาทึบ
Lovings  ตาทึบ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตาทึบ