28 กุมภาพันธ์ 2549 23:30 น.

**.. ความทรงจำอันแสนดี จะมีตลอดไป thaipoem.com ..**

ต่อง (ต้อง) ksg



  **..  วันนี้ขออนุญาตที่จะไม่ลงบทกลอน  แต่เปลี่ยนมาเป็น  อยากรับฟังความรู้สึกของ เพื่อนๆ ในบ้านกลอนไทยแห่งนี้บ้างจังครับ  ว่าแต่ละคนมีที่มาอย่างไร  และมีความรู้สึกอย่างไร กับ thaipoem.com บ้านกลอนแห่งนี้.......
  **..  สำหรับผมนะครับ...  เรื่องราวมันก็เริ่มตั้งแต่ว่า  ผมเริ่มเขียนกลอนอย่างจริงจังก็ช่วงเรียนอยู่ ม.5  หลังจากนั้นก็สนใจ  จนความรู้สึกกลายเป็นว่า  "รักบทกวีเข้าซะแล้ว"  ไม่รู้ว่าต่อมาช่วงอยู่ ม.5 หรือ ม.6นี่แหละครับ  ผมพยายามจะค้นหาเว๊ปกลอนอยู่หลายเว๊บ  แต่ที่สุดก็มาสะดุดหยุดลงตรง thaipoem.com แห่งนี้..........  

  **..  ช่วงที่ผมเริ่มนำกลอนมาลง  ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงเรียนอยู่มัธยม  ความทรงจำที่ผมจำได้เสมอ  ตอนนั้นที่นี่ยังมีห้องสนทนาอยู่  
         พวกเราเพื่อนๆนักกลอนรู้จักกันมากขึ้นก็จาก  "ห้องสนทนา" หรือ "chatroom" นี่แหละครับ (ขอใช้ศัพท์อังกฤษหน่อย  อิอิ ).......

  **..  ตอนนั้นผมจำได้แม่นมั่นเลยทีเดียว  หญิงคนหนึ่งอายุไม่ห่างมากไปจากผมนัก  ผมและผู้หญิงคนนั้นคุยกันอยู่นานพอควร  ต่อมาผมเรียกเธอว่า "พี่เสี้ยว "  คนแรกที่ผมได้พูดคุยด้วย  นั่นเองทำให้ผมหลงมนต์มิตรภาพของบ้านกลอนแห่งนี้เสียแล้ว...........  

  **..  ผมมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน  ผมก็ได้รูจักเพื่อนๆ พี่น้อง  รวมถึงลุงป้าน้าอาหลายๆคน  ปัจจุบัน  บางท่านก็ไม่ค่อยได้นำบทกลอนมาลงแล้ว  เพื่อนบางคนก็ไม่ได้นำกลอนมาลงอีกเลย  อาจเนื่องจากภาระและธุระด้วย.........
  **..  ลุงเวทย์  บุคคลผู้ซึ่งผมเคารพว่าเป็น "ครู"กลอนคนหนึ่งของผม  ผมได้ถูกปลูกฝังอะไรหลายๆอย่าง อุดมการณ์  แนวคิดผ่านบทกวีของลุงเสมอ  และหลายบทยังคงเป็นวรรคทองที่ผมจำได้และบอกต่อผู้อื่นเสมอมา  ว่านี่แหละ "นักกลอนแห่งธรรมศาสตร์ของจริง "............

  **..  อาจารย์พี่ติตรากร  ชายผู้ซึ่งซ่อนความอบอุ่นไว้ในบทกวีที่พี่เขียน  ผมกล้ายืนยันได้เลยว่า  ถ้าจะหาบทกวีที่มีความอบอุ่น  พี่ติตรากรเขียนได้อบอุ่นจริงๆ
แต่ช่วงหลังๆ  พี่อาจติดภาระกิจด้วยจึงไม่ค่อยมีเวลาลงกลอนเท่าไหร่ (คิดถึงนะครับพี่ ).............

  **..  ไคริ....เจ้าของนามปากกาว่า "นกกระดาษ"และ"นิจนิรันดร์" เพื่อนที่แสนดีของผม  ด้วยเราสองคนเริ่มเข้ามาในบ้านกลอนไทยในช่วง4ปีนั้นใกล้เคียงกันมาก  และด้วยวัยใกล้กันจึงคุยกันเสมอ  ผมจำได้ว่า  บางวันในห้องสนทนา  ก็คุยกับลุงเวทย์และไครินี่แหละครับ  (  อดนึกไม่ได้  อิอิ )............

  **..  พี่เชษฐภัทร  หรือ  พี่เจย์  ก็เป็นพี่ชายอีกคนนึง ( ตอนนี้ไปเป็นอาจารย์แร้ว )  ผมไม่ค่อยได้คุยกับพี่เค้าเท่าไหร่  แต่เรื่องผลงานของพี่ท่าน  ผมติดตามแน่นอน  และชื่นชมในความสามารถของพี่เค้าเสมอ................

  **..  ลูกเป็ดขี้เหร่  น้องพิมพ์  นักศึกษาแห่งรั้วมหาวิทยาลัย  ก็เป็นน้องสาวอีกคนที่ได้รู้จักกันจากที่นี่  ผมได้เห็นพัฒนาการของการเขียนกลอนของน้องสาวคนนี้มาก  เธอเขียนได้ดีและดี( กว่าผมเสียอีก ) คิดถึงจ้า............
  **..  หูยยยย  อยากเอ่ยว่ามีมากมายหลายท่านมากกกก  จำได้เสมอในครั้งที่เราได้รู้จักกัน  จนเข้าใจในวลีที่ว่า " มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า "  เป็นเช่นไร

  **..  พี่ปีกฟ้า ( webmaster ที่ให้ผมอาศัยอดตาหลับขับตานอนที่นี่มาตลอด  ขอบคุงกั๊บ ) , ป้าส้มโอ (วรรณกาญจน์ )  , พี่อัลมิตรา ( กลอนที่น่ารักและสำนวนที่น่าอ่าน) , พี่ตูน(ผู้หญิงไร้เงา  ผู้คอยให้กำลังใจเสมอ  ในการเขียนกลอนครับ) , คุณส่องหล้า , คุณธนรัฐ สวัสดิชัย , windsaint ( เทพเจ้าแห่งสายลม  สายเลือด ส.ก. ชมพู-ฟ้า) , พี่ใจปลายทาง , ทะเลรัก (พี่ผู้ซึ่งผมหวังดีเสมอ), พี่บุษราคัม , พี่ราชิกา , ปลาทูสามเข่ง , จาวตาล ( ผีเสื้อปีกบาง ) , พี่ภีม , พี่เรน ( พี่ที่คอยแวะเวียน มอบน้ำใจให้คนรักกลอนอย่างพวกเราเสมอ )  คุณ idaho อิอิ  และอีกมากมายหลายคนครับ  แหมๆ  จะเรียกว่ารุ่นก่อนจะกระไร  เพราะดูแก่ไป  เรียกว่ารุ่นไม่เก่าไม่ใหม่มากละกันนะครับ  อิอิ  

  **..  นี่คือ  เพื่อนสนิทและมิตรสหายที่ได้รู้จักกันมาในช่วงนั้น  และสาเหตุสำคัญส่วนนึงที่ทำให้ผมขาดหายไปจากกลอนแห่งไซเบอร์นี้ ก็น่าจะเป็นเรื่องของเวลาและหัวสมองของผม   ช่วงที่เข้าปี 1 จำได้ว่าแทบไม่มีเวลาเล่นเน็ทแบบเก่า  พร้อมๆกับหัวสมองของผมไม่แล่นคิดอะไรไม่ค่อยออก  จึงไม่ค่อยมีเวลาเหมือนแต่ก่อนที่จะมาลงบทลกอน  จนเวลามันค่อยๆล่วงผ่านไปเรื่อยๆ  เห็น"ความเปลี่ยนแปลง"( ไปในทางที่ดี ) ของบ้านหลังนี้  เห็นเพื่อนสมาชิกหน้าใหม่มากมาย  และได้รู้จักกับเพื่อนใหม่อีกเช่นเดียวกัน..........
  **..  แต่ที่อดไม่ได้ ที่เขียนหัวข้อในวันนี้ขึ้นก็เพราะ "ความคิดถึง" เป็นสำคัญ
คิดถึงบางคนที่ไม่ได้คุยกันนาน , คิดถึงกลอนสำนวนน่าอ่านเสมอ , คิดถึง เพื่อน ผู้เติมต่อสายใยจากบทกวีอันเป็นนิรันดร  และคิดถึง  คิดถึง  คิดถึงเสมอ........................................

  **..  รักในทุกคน  มิ่งมิตรทั้งเก่า  ใหม่ และอนาคตครับ  ..**

  **..  ขอขอบคุณ  น้ำใจ  ให้ความรัก

         จะสลัก  กลางจิต  มิผิดผัน

         แม้จะล่วง  เช่นนี้  กี่วารวัน
   
         รักนิรันดร์  มิตรภาพ  ตราบเท่านาน...

      ด้วยรักและหวังดี  อีกทั้งคิดถึงเสมอ

  ก.นพดล  รักษ์กระแส

  ก.ประแสร์  ศิษยาพร				
28 กุมภาพันธ์ 2549 20:44 น.

**.. ลำนำ ทักษิณาธิปไตย ..**

ต่อง (ต้อง) ksg

  

  **..  คนมักอ้าง  ครรลอง  ของกฎหมาย
        ดูเป็นเรื่อง  โคตรง่าย  ผายลมตด
        คนดู-ดี  แต่ขี้ขลาด  ใจอาจคด
        เอาอะไร  มากำหนด  เป็นกฎเกณฑ์..

**..  เขาอ้างความ  ชอบธรรม  คนทั้งชาติ
       ความสามารถ  ยิ่งใหญ่  ใช่เล่นเล่น
       อาศัยช่อง  ทางกฎหมาย  กลายเบี่ยงเบน
      กฎหมายจึง  เน่าเหม็น  เช่นทุกวัน..

**..  องค์กร อิสระ ก็โคตรอิสระ
       ดูมานะ  เรี่ยวแรง  แข็งขยัน
       เลียแข้ง  เลียขานาย  ได้ทุกวัน
       จนโจษจัน  ลือเลื่อง  ทั้งเมืองไทย..

**..  ศาล-รัด-ทำ-มะ-นูน  พ่อทูนหัว
       ดีปนชั่ว  บางคน  ฤาทนได้
       ท่านที่ดี  ออกมาก่อน  ตอนสายไป
       เพราะคนชั่ว  ย่อมถูกไล่  ในไม่ช้า..

**..  กอ  กอ  ตอ  โกง-กัน-จน-วัน-ตาย
       นี่แหละคือ  ความหมาย  อันไร้ค่า
       แม่งโกงกัน  กูเห็น  อยู่เต็มตา
       ท่านบอกว่า  โกงอะไร  ไม่เห็นมี..

**..  และนี่คือ  ทักษิณาธิปไตย
       แปลว่ากูยิ่งใหญ่  ในทุกที่
       เชื่อทำไม  ความอิสระ  จะเสรี
       ไอ-ที-วี  ยังเสรีภาพ ? ตราบวายปราณ..

**..  รวมพลังประชาชนแห่งคนกล้า
       ขุมพลังนักศึกษามหาศาล
       เราจะโค่น  ล้มซะ  เผด็จการ
       เพื่อวันวาร  พรุ่งนี้  ยังมีไทย..

**..  ถ้าไม่เหลือ  อดทน  จนวันนี้
       กูไม่เขียน  บทกวี  ชี้ขับไล่
       ท่านมิออก  ก็มิเห็น  จะเป็นไร
       กูก็ทน  ด้านต่อไป  ไล่ท่าน( มึง ) เอง...

ด้วยความหวังดี

อาจจะดูไม่สุภาพไปบ้างขออภัยครับ  กวีบทนี้เขียนเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงสภาพการเมืองในทุกวันนี้  ว่ามันปั่นปวนและเรรวนขนาดไหน  องค์กรอิสระไม่ได้อิสระดังรัฐธรรมนูญว่าไว้  อย่าว่าแต่รัฐบาลดับเบิ้ลแสตนดาร์ดเลยครับ  พวกองค์กรอิสระ(บางองค์กรและบางคนเท่านั้นครับ)ยังดับเบิ้ลยกกำลังแล้วคูณอีกหลายๆแสตนดาร์ดเลยยย  สิ่งเหล่านี้เป็นภาพที่ผมเห็น  ท่านอื่นอาจจะเห็นแตกต่างจากผมไปไม่ว่ากันครับ........................

น้อมรับความคิดเห็น  บนเส้นทางที่ใครใครมักอ้างกันว่า  ประชาธิปไตย...  ครับ
				
27 กุมภาพันธ์ 2549 16:55 น.

**.. จดหมาย...ถึง คนคนเดิม ..**

ต่อง (ต้อง) ksg

  

  **..   ซึ่งความ  ศรัทธา  นั้นอาจมี
         เหลือพอที่  ให้เห็น  เป็นตัวท่าน
         เหลือความคิด  เฉียบคม  อุดมการณ์
         เหลือความเป็น  อาจารย์  ของบางคน..

**..  ซึ่งได้รับ  การสั่งสอน  และสั่งสม
         จิตวิญญาณ  เพาะบ่ม  จนเข้มข้น
          ออกไปสู้  โลกชัง  แห่งสังคม
         บอกโลกตรม  นี้ว่า อย่าเกรงกลัว..

**..  เมื่อธงชัย  ยุติธรรม  นำสบัด
       นำซื่อสัตย์  บนแผ่นดิน  ทุกถิ่นทั่ว
       ล้างอบาย  โง่เขลา  จมเมามัว
       เคยยวนยั่ว  หลอกทะนง  เกือบหลงทาง..

**..  จนมาถึง  ปราการ  ด่านสุดท้าย
       อาจชีพวาย  ด้วยภาระ  ต้องสะสาง
       แต่หลายหลาย  ผู้คน  ตกหลุมพราง
        ซึ่งกีดขวาง  โดนฟาด  อำนาจเงิน  

**..  ย่อมแน่นอน  ยอมตน  จนเป็นทาส
       ความสามารถ  ทิ้งไป  ไม่ขัดเขิน
       สู่ถนน  เส้นสุดท้าย  ปลายทางเดิน
       คือเผชิญ  ยศตำแหน่ง  แห่งเงินตรา..

**..   และธงชัย  ตราชู  กลับลู่ต่ำ
        ความยุติธรรม  นำชัย  สิ้นไร้ค่า
        พับผืนธง  วางแนบ  แอบตำรา
        ซึ่ง(เคย)สอน  เขาว่า  อย่าเกรงกลัว..

**..  ซึ่งความ  ศรัทธา  นั้นอาจมี
       ถ้าคนที่  ฉันน้อมไหว้  หาใช่ชั่ว
       คนซึ่งอาจ  หลงตาม  ความเมามัว
       เขากลับตัว  เป็นคนที่...   ดีเช่นเดิม

ด้วยความหวังดี

ก.นพดล  รักษ์กระแส

ก.ประแสร์  ศิษยาพร
				
26 กุมภาพันธ์ 2549 13:04 น.

**.. เพิ่งจะเจอ ..**

ต่อง (ต้อง) ksg

  

  **..   คนสร้างคน  คนก็ฆ่า  คนลงด้วย
        สวยสร้างสวย  สวยก็เสื่อม  จนเอือมค่า
        โลกสร้างโลก  โลกก็สิ้น  สายศรัทธา
        ฟ้าสร้างฟ้า  ฟ้าก็ต่ำ  จนดำดิน..  

**..  เพราะธรรมชาติ  รังสรรค์  ทุกสรรพสิ่ง
        มีเกิดดับ  ความจริง  ทุกสิ่งสิ้น
        ระหว่างเกิด  จนดับ  ลับชีวิน
        หวังได้ยิน  ความสุขนี้  อยู่ที่ใด..

**..  เพราะสันดอน  และสันดาน  การเป็นฉัน
        ต่างยึดมั่น  ปณิธาน  ของการให้
        ให้รอยยิ้ม  ปริ่มรัก  สลักหทัย
         และแน่นอน  รวมถึงใจ  ฉันให้คุณ..

**..  ระหว่างที่  ชีพไม่ลับ  ลงดับขันธ์
        นี่แหละฉัน  คอยแต่เพื่อ  จะเกื้อหนุน
        อาจความหวัง  เล็กน้อย  คอยพึ่งบุญ
        เจ้าเนื้ออุ่น  ถนอมขวัญ  จนวันตาย..

**..  และปลายทาง  ของฉัน  นั้นมาถึง
       รู้และซึ้ง  นิยาม  แห่งความหมาย
        ความสุขนี้   ที่ตามหา  มามากมาย
       คือสุดท้าย   เราทั้งสอง  ครองคู่กัน...

ด้วยความหวังดี

ก.นพดล  รักษ์กระแส

ก.ประแสร์   ศิษยาพร
				
24 กุมภาพันธ์ 2549 15:50 น.

**.. รักนิรันดร์ ..**

ต่อง (ต้อง) ksg

  

  **..  เราทั้งสอง  เริ่มต้น  คนละฟาก
        เริ่มนับจาก  ศูนย์ค่า  ไปหาหนึ่ง
        ค่อยค่อยเรียน  รู้กัน  ฝันตราตรึง
        จนสุดถึง  หนึ่งร้อย  นะกลอยใจ..

**..  สะพานเชื่อม  คุ้งโค้ง  โยงปลายฟ้า
        เชื่อมสายตา  ด้วยจิต  พิสมัย
        ระหว่างทาง   อันยาว  เราห่างไกล
        สองฤทัย  เชื่อมทาง  ไม่ห่างกัน..

**..  ทอดสายตา  แลจันทร์  วันเพ็ญผ่อง
        นับวันที่  เราสอง  ประคองฝัน
        อาจเหน็ดเหนื่อย  เมื่อยไป  ในชีวัน
        แต่สำคัญ  ทนอด  และอดทน..

**..  ความเหนื่อยล้า  เตือนให้  เราใจสู้
        น้ำตาพรู  ร่วงลงกับ  ความสับสน
        ทิ้งเถิดคืน  อ่อนแอ  แพ้กมล
         กลับมาบน  หนทาง  อย่างที่เป็น..

**..  เราทั้งสอง  กว่าบรรจบ  พบกันได้
        หนทางไกล  ผ่านมา  ฝ่าทุกข์เข็ญ
        ภายใต้โลก   คดเคี้ยว  เปลี่ยวเยือกเย็น
        รักเราเช่น   นิจนิรันดร์   ฉันมั่นใจ...

  ด้วยความหวังดี

ก.นพดล  รักษ์กระแส

ก.ประแสร์  ศิษยาพร
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต่อง (ต้อง) ksg
Lovings  ต่อง (ต้อง) ksg เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต่อง (ต้อง) ksg
Lovings  ต่อง (ต้อง) ksg เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต่อง (ต้อง) ksg
Lovings  ต่อง (ต้อง) ksg เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงต่อง (ต้อง) ksg