30 มิถุนายน 2553 21:18 น.

มีสัจจะ..วาจา....

ทรายกะทะเล

บางทีคนที่คนอื่นอาจมองว่าไม่ดีนั้น 
เค้าอาจจะเป็นคนดีสำหรับเราก็ได้
ดูได้จาก...
วันที่เราไม่เหลืออะไรในชีวิต แม้นกระทั่งคนเคียงข้าง
เค้าก็มาอยู่เคียงข้างเรา

เค้าให้กำลังใจเราในขณะที่เราร้องไห้อ่อนแอ
เค้าให้กำลลังใจเรา ในขณะที่เค้าเองก็มีความทุกข์เหมือนกัน

เราทำไม่ได้ ที่จะแยกความมีน้ำใจของเค้า
จิตใจเค้าประเสริฐ
ทั้งๆที่เค้ารู้ดีว่าเรา เป็นไง เค้าก็เตือนเราอยู่เสมอ

บ่อยครั้งที่เรา ถามตัวเองว่า....
เราจะคบเค้าไปตลอดชีวิตมั้ย
ถามตัวเราเองว่านานแล้วนะที่เราคบเค้ามา...
เราไม่ก้าวก่ายเค้าไม่ว่าเค้าจะทำอะไร...
นอกจากเค้าจะถามเราว่า...ยังไงดี

บ่อยครั้งที่เค้าเข้าใจผิดเรา
แต่เราก้แสดงให้เค้าเห็นว่าเราไม่เคยมีใครอื่นไปนอกจากเห็นเค้าเป็นเพื่อนสนิทคนเดียว...
เค้าฟังเรา...ในขณะที่เรามีความทุกข์

แต่ที่สำคัญ เราร้องไห้ตามเค้า เมื่อเค้าร้องไห้เวลาที่เค้าเสียใจมาก........
เราไม่ให้เค้ารู้....
เราเห็นใจเค้ายามที่เค้าเคยได้รับบาดเจ็บสาหัส
เรายกให้เค้าคนเดียว
ถามว่า ผิดรึป่าว หากเราเห็นใจคนคนนึงซึ่งเรา...คุยกับเค้าแล้วเราสบายใจ
หากไม่ได้เค้า ในช่วงเวลานั้น...

เราอาจจะเป็นบ้าก็ได้....
เค้าให้เรามีความกล้าหาญ....
แต่บ่อยครั้งที่เรา ....ต้องต่อสู่ด้วยตัวเองและนึกถึงเค้าว่าอย่างน้อย ก็มีเค้าอยู่ในใจ.........
คนคนนั้นจะอยู่ในใจเราไปจนเรา หมด ลมหายใจ.................				
30 มิถุนายน 2553 21:06 น.

ไม่หรู ...แต่ ดูดี......

ทรายกะทะเล

อันคนเรานั้น ไม่โลภ พบทางใหม่
สิ่งที่ใช่ ถึงแม้น จะไม่หรู
แต่ก็ยังเดินผ่าน มีคนดู
ว่าเอ้หนู น่ารัก จังทั้งกายใจ

มีความอ่อนน้อมถ่อมตนคารวะ
มีเบญจกัลยาณี พร้อม สิ่งใหม่
พัฒนาตนเอง สะอาดทั้งกายใจ
ผิดเป็นครู ดูไป ทำความดี

มีเพื่อนดี เราก็ดีกับเพื่อนด้วย
ถึงไม่รวยหรือรวย รักศักดิ์ศรี
ไม่หรูหราองอ่าโอ้พาที
ถึงไม่หรูปแต่ดูดี....นี้เป็นไง??????

หงส์ ยังไงก็เป็นหงส์  เก่งทั้งงานนอกบ้าน งานในบ้าน ทำเป็นเองทุกอย่าง
เรียนก็พอใช้ได้ไม่เลิศเลอแต่มีความรู้ติดตัว ก็เอาตัวรอดได้
มีน้ำใจ กับคนสูงอายุไม่ว่าจะขอทานยันรัฐมนตรี
วางตัวดีก็เป็นศรีแก่ตัว
เมื่อถึงคราวต้องลุยก็ทำได้ จนเสร็จสมบูรณ์
สี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง กิ้งกือก็ยังหกล้ม

ที่แน่แน่ ความน่ารักดูยังไงก็ไม่จืด
แต่เอ ความเป็นชายหญิงอยู่ในตัวเรา
แต่ร่างเป็นหญิง
แกร่งเมื่อคราวที่ต้องเสียหยาดเหงื่อเพื่อให้ได้มาซึ่งถึงเป็หมาย..........

ไม่อวดดี ไม่เคยฟ้อง ไม่หน้าไหว้หลังหลอก
ไม่ปากหวานก้นเปรี้ยว......

อาจจะขวานหน่อย แต่ก็จริงใจ

ไม่ชอบยุ่งและไปก้าวก่ายเรื่องของใครๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

นี่แหละ ไม่หรู แต่ดูดี..................				
27 มิถุนายน 2553 07:31 น.

ย้อน รำลึกวันสุนทรภู่....

ทรายกะทะเล

สุนทรภู่ หรือ พระสุนทรโวหาร (ภู่) มีนามเดิมว่า ภู่ เป็นบุตรขุนศรีสังหาร (พลับ) และแม่ช้อย เกิดในรัชกาลที่ ๑ กรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันจันทร์ เดือนแปด ขึ้นหนึ่งค่ำ ปีมะเมีย จุลศักราช ๑๑๔๘ เวลาสองโมงเช้า ตรงกับวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๓๒๙ ที่บ้านใกล้กำแพงวังหลัง คลองบางกอกน้อย สุนทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็หย่าจากกันฝ่ายบิดากลับไปบวชที่บ้านกร่ำ เมืองแกลง จ.ระยอง ส่วนมารดา คงเป็นนางนมพระธิดา ในกรมพระราชวังหลัง (กล่าวกันว่าพระองค์เจ้าจงกล หรือเจ้าครอกทองอยู่) ได้แต่งงาน มีสามีใหม่และมีบุตรกับสามีใหม่ ๒ คนเป็นหญิง ชื่อฉิมและนิ่ม ตัวสุนทรภู่เองได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมพระราชวังหลังตั้งแต่ยังเด็ก สุนทรภู่เป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน สันทัดทั้งสักวาและเพลงยาว เมื่อรุ่นหนุ่มเกิดรักใคร่ชอบพอกับนาง ข้าหลวงในวังหลัง ชื่อแม่จัน ครั้นความทราบถึงกรมพระราชวังหลัง พระองค์ก็กริ้ว รับสั่งให้นำสุนทรภู่ และจันไปจองจำทันที แต่ทั้งสองถูกจองจำได้ไม่นาน เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี 
พ.ศ. ๒๓๔๙ ทั้งสองก็พ้นโทษออกมา เพราะเป็นประเพณีแต่โบราณที่จะมีการปล่อยนักโทษ เพื่ออุทิศ ส่วนพระ ราชกุศลแด่ พระมหากษัตริย์หรือพระราชวงศ์ชั้นสูง เมื่อเสด็จสวรรคตหรือทิวงคตแล้ว แม้จะพ้นโทษ สุนทรภ ู่และจันก็ยังมิอาจสมหวังในรัก สุนทรภู่ถูกใช้ไปชลบุรี สุนทรภู่ได้เดินทางเลยไปถึงบ้านกร่ำ เมืองแกลง จังหวัด ระยอง เพื่อไปพบบิดาที่จากกันกว่า ๒๐ ปี สุนทรภู่เกิดล้มเจ็บหนักเกือบถึงชีวิต กว่าจะกลับมากรุงเทพฯ ก็ล่วง ถึง เดือน ๙ ปี พ.ศ.๒๓๔๙ หลังจากกลับจากเมืองแกลง สุนทรภู่ได้เป็นมหาดเล็กของพระองค์เจ้าปฐมวงศ ์ พระโอรสองค์เล็กของกรมพระราชวังหลัง ซึ่งทรงผนวชอยู่ที่วัดระฆัง ในช่วงนี้ สุนทรภู่ก็สมหวังในรัก ได้แม่จันเป็นภรรยาสุนทรภู่คงเป็นคนเจ้าชู้ แต่งงานได้ไม่นานก็เกิดระหองระแหงกับแม่จัน ยังไม่ทันคืนดี สุนทรภู่ก็ต้องตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ไปนมัสการพระพุทธบาท จ.สระบุรี ในวันมาฆบูชา สุนทรภ ู่ได้แต่งนิราศ เรื่องที่สองขึ้น คือ นิราศพระบาท สุนทรภู่ตามเสด็จกลับถึงกรุงเทพฯ ในเดือน ๓ ปี 
พ.ศ.๒๓๕๐ สุนทรภู่มีบุตรกับแม่จัน ๑ คน ชื่อหนูพัด แต่ชีวิตครอบครัวก็ยังไม่ราบรื่นนักในที่สุดแม่จันก็ร้างลาไป พระองค์เจ้าจงกล (เจ้าครอกทองอยู่) ได้รับอุปการะหนูพัดไว ้ ชีวิตของท่านสุนทรภู่ช่วงนี้คงโศกเศร้ามิใช่น้อย ประวัติชีวิตของสุนทรภู่ในช่วงปี 
พ.ศ.๒๓๕๐ - ๒๓๕๙ ก่อนเข้ารับราชการ ไม่ชัดแจ้ง แต่เชื่อว่าท่าน หนีความเศร้าออกไปเพชรบุรี ทำไร่ ทำนา อยู่กับหม่อมบุญนาค ในพระราชวังหลัง นักเลงกลอนอย่างท่านสุนทรภู่ ทำไร่ทำนาอยู่นานก็ชักเบื่อ ด้วยเลือดนัก กลอนทำให้ท่านกลับมากรุงเทพฯ หากินทางรับจ้างแต่งเพลงยาว บอกบทสักวา จนถึงบอก บทละคร นอก บางทีนิทานเรื่องแรกของ ท่านคงจะแต่งขึ้นในช่วงนี้ การที่เกิดมีนิทานเรื่องใหม่ๆ ทำให้เป็นที่สนใจมาก เพราะ สมัยนั้นมีแต่กลอนนิทานจักรๆ วงศ์ๆ ไม่กี่เรื่อง ซ้ำไปซ้ำมาจนคนอ่าน คนดูรู้เรื่องตลอดหมดแล้ว นิทานของ ท่านทำให้นายบุญยัง เจ้าของคณะละครนอกชื่อดัง ในสมัยนั้นมาติดต่อว่าจ้างสุนทรภู่ ท่านจึงได้ร่วมคณะละคร เป็นทั้งคนแต่งบทและบอกบทเดินทางเร่ร่อนไปกับคณะละครจนทั่ว รับราชการครั้งแรก ก็สมัยพระ พุทธเลิศ หล้านนภาลัย ที่ได้อาจจะมาจากมูลเหตูที่รัชกาลที่ 2 ชอบบทกลอนเหมือนกัน แต่หลังจากรัชกาลที่ 2 เสด็จ สวรรคต นอกจาก แผ่นดินและผืนฟ้าจะร่ำไห้ ไพร่ธรรมดาคนหนึ่งที่มีโอกาสสูงสุด ในชีวิตได้เป็นถึง กวีที่ ปรึกษา ในราชสำนัก ก็หมดวาสนาไปด้วย สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์ไว้ถึง เหตุที่สุนทรภู่ ไม่กล้า รับราชการต่อใน แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ดังนี้ "เล่ากันว่า เมื่อทรงพระราชนิพนธ์ บทละคร เรื่องอิเหนา ทรงแต่งตอนนางบุษบาเล่นธาร เมื่อท้าว ดาหาไปใช้บน พระราชทานให้พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อยังดำรงพระยศเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ทรงแต่ง "เมื่อทรงแต่งแล้ว ถึงวันจะอ่านถวายตัว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งวานสุนทรภู่ ตรวจดูเสียก่อน สุนทรภู่อ่านแล้วกราบทูลว่า เห็นดีอยู่แล้ว ครั้นเสด็จออก เมื่อโปรดให้อ่านต่อหน้ากวีที่ทรง ปรึกษาพร้อมกัน ถึงบทแห่งหนึ่งว่า " 'น้ำใสไหลเย็นแลเห็นตัว ปลาแหวกกอบัวอยู่ไหวไหว' "สุนทรภู่ติว่ายังไม่ดี ขอแก้เป็น " 'น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ว่ายแหวกปทุมาอยู่ไหวไหว' "โปรดตามที่สุนทรภู่แก้ พอเสด็จขึ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวก็กริ้ว ดำรัสว่า เมื่อ ขอให้ตรวจทำไมจึงไม่แก้ไข แกล้งนิ่งเอาไปไว้ติหักหน้ากลางคัน เป็นเรื่องที่ทรงขัดเคืองสุนทรภู่ครั้ง หนึ่ง "อีกครั้งหนึ่ง รับสั่งให้พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแต่งบทละครเรื่องสังข์ทอง ตอน ท้าว สามลจะให้ลูกสาวเลือกคู่ ทรงแต่งคำปรารภของท้าวสามลว่า " 'จำจะปลูกฝังเสียยังแล้ว ให้ลูกแก้ว สมมาด ปรารถนา' " ครั้นถึงเวลาอ่านถวาย สุนทรภู่ถามขึ้นว่า 'ลูกปรารถนาอะไร' พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้องแก้ว่า " 'จำจะปลูกฝังเสียยังแล้ว ให้ลูกแก้วมีคู่เสน่หา' "ทรงขัดเคืองสุนทรภู่ว่าแกล้งประมาทอีกครั้งหนึ่ง แต่นั้นก็ว่าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมึนตึงต่อสุนทรภู่มาจนตลอดรัชกาลที่ ๒ ... " จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เพียงคิดได้ด้วยเฉพาะหน้าตรงนั้นก็ตาม สุนทรภู่ก็ได้ทำการไม่เป็นที่พอ พระราชหฤทัย ประกอบกับความอาลัยเสียใจหนักหนา ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย สุนทรภู่ จึงลาออกจากราชการ และตั้งใจบวชเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ เมื่อกลับจากกรุงเก่า พระสุนทรภู่ได้ไปจำพรรษาอยู่ท ี่วัดอรุณ ราชวรารามหรือวัดแจ้ง 
ปี พ.ศ.๒๓๗๒เจ้าฟ้ากุณฑลทิพยวดีในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงฝากเจ้าฟ้ากลาง และเจ้าฟ้า ปิ๋ว พระโอรสองค์กลางและองค์น้อยให้เป็นศิษย์สุนทรภู่ การมีศิษย์ชั้นเจ้าฟ้าเช่นนี้จึงทำให้พระสุนทรภ ู่สุข สบาย ขึ้นพระสุนทรภู่อยู่วัดอรุณฯ ราว ๒ ปี จึงข้ามฟากมาจำพรรษาอยู่ท ี่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ เล่ากันถึงสาเหตุที่พระสุนทรภู่ย้ายวัดมา ก็เพราะสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงชัก ชวนให้มาอยู่ด้วยกัน สมเด็จฯ ทรงเป็นกวีองค์สำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์หนึ่ง เชื่อว่าคงจะทรงคุ้นเคย กับสุนทรภู่ในฐานะที่เป็นกวีด้วยกัน โดยเฉพาะสมัยที่สุนทรภู่เป็นขุนสุนทรโวหารในรัชกาลที่ ๒ ชีพจรลงเท้า สุนทรภู่อีกครั้งเมื่อท่านเกิดไปสนใจเรื่องเล่นแร่แปรธาตุและยาอายุวัฒนะ ถึงแก่อุตสาหะไปค้นหา ทำให้เกิดนิราศ วัดเจ้าฟ้า และนิราศสุพรรณปี 
พ.ศ.๒๓๘๓ สุนทรภู่มาจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม ท่านอยู่ที่นี่ได้ ๓ พรรษา คืนหนึ่งเกิดฝันร้าย ว่าชะตาขาด จะถึงแก่ชีวิต จึงได้แต่งเรื่องรำพันพิลาป ซึ่งทำให้ทราบเรื่องราวในชีวิตของท่านอีกเป็นอันมาก จากนั้นจึงลาสิกขาบทเมื่อปี พ.ศ.๒๓๘๕ เพื่อเตรียมตัวจะตาย 
และมีฟลงานหลาย ผลงานที่น่าติดตาม				
27 มิถุนายน 2553 07:22 น.

reality""""""""""""""""ฤาความฝัน จะเป็นความจริง

ทรายกะทะเล

http://www.youtube.com/watch?v=XGjZdVfSNJQ
ลองฟังดู ฟังแล้วสบายหูดีนะ ภาพก็สวยดี ให้เนื้อร้องไปด้วย
พอดีมีเพื่อนเค้าโพสหน้านี้อยู่
Reality - Richard Sanderson 

Lyrics:

Met you by surprise, I didn't realize
That my life would change forever
Saw you standing there, I didn't know I cared
There was something special in the air.

Dreams are my reality
The only kind of real fantasy
Illusions are a common thing
I try to live in dreams
It seems as if it's meant to be.

Dreams are my reality
A different kind of reality
I dream of loving in the night
And loving seems alright
Although it's only fantasy.

If you do exist, honey don't resist
Show me a new way of loving
Tell me that it's true
Show me what to do
I feel something special about you.

Dreams are my reality
The only kind of reality
Maybe my foolishness has past
And maybe now at last
I'll see how a real thing can be.

Dreams are my reality
A wonderous world where I like to be
I dream of holding you all night
And holding you seems right
Perhaps that's my reality.

Met you by surprise, I didn't realize
That my life would change forever
Tell me that it's true
Feelings that are cue
I feel something special about you.

Dreams are my reality
A wonderous world where I like to be
Illusions are a common thing
I try to live in dreams
Although it's only fantasy.

Dreams are my reality
I like to dream of you close to me
I dream of loving in the night
And loving you seems right
Perhaps that's my reality.				
20 มิถุนายน 2553 20:21 น.

ลูกผู้หญิงด้วยกัน...................

ทรายกะทะเล

เรามีเพื่อนคนนึง ค่อนข้งสนิท เค้านิสัยดี รู้จักกันมานาน เค้ามีพี่สาวคนนึงทำงานราชการแถวสมุทรปราการ เคยเจอเค้าหนนึง โดยบังเอิญที่เพื่อนพาไปหา เค้านิสัยดีนะ เป็นคนขยัน มีลูกแล้วเท่าที่รู้ เค้ามีลูกสาวยังเล็กอยู่น่ารักและนิสัยดีมาก ตอนที่เจอเค้ายังเห็นเค้าล้างรถอยู่เลยแข็งแรงดี ไม่มีพิษภัย ต่อมาก็ได้ข่าวว่าเค้าเป็นเนื้องอกในสมอง เค้าไปหาหมอที่รพ.สมุทรปราการ แต่หมอนัดเค้าผ่าตัดเมื่อวันที่15มิย.ที่ผ่านมา ไม่ทราบว่าร้ายแรงอะไรขนาดไหน ด้วยความเป็นลูกผู้หญิงด้วยหัน รู้สึกเห็นใจว่า เอ...แล้วสามีเค้าดูแลเค้าดีรึป่าว ทำไมปล่อยให้ลูกต้องอยู่กับแม่ซึ่งเป็นพี่สาวเค้าตลอด เรายอมรับว่าเราชอบและรักเพื่อนคนนี้มาก พอวันผ่าซึ่งเป็นวันเกิดของเรา เราไม่มีแม้นกระทั่งแรงใจไปทำบุญให้กับตัวเอง แต่กลับนึกถึงเค้าวาจะปลอดภัยมั้ย เราห่วง จนกระทั่งเลยฉันเพล แม้นวันเกิดตัวเอง เราก็ไม่ได้ไปทำบุญ ที่สุดแล้วเพื่อนเราก็โทรมาว่า พี่สาวเค้าอาการไม่ดี เราเป็นห่วงและเห็นใจทั้งพี่สาวเค้าและเพื่อนของเราพี่เค้าแท้ๆเค้าต้องเป็นห่วงแล้วยิ่งพี่สาวเค้าคนนี้เป็นอะไรที่ ดูแลแม่เป็นอย่างดีที่อยู่ต่างจว. วันนี้เราไปงานเผาเค้ามา เรา ไม่อยากให้เค้าต้องอายุสั้นแบบนี้เลย เรา ปวดหัว เราเห็นใจเพื่อนเรา เราอยากอยู่เป็นเพื่อนเพื่อนเรา เค้าดูเหมือนจะเป็นคนดีคนนึง เค้าเป็นคนไม่ค่อยพูด..............อยากจะบอกว่า............เราสงสัยทำไมสามีเค้าปล่อยให้ภรรยา ตายง่ายๆแบบนี้ และหมอรีบปากว่า ปลอดภัย100%ทำไม ...???หากเป็นพี่สาวหมอหรือเป็นพี่สาวของสามีเค้า เค้าจะรู้สึกยังไง หากเป็นเรา เราเอาเรื่องแน่ ไม่ใช่ผักปลานะ คนทั้งคน แม่ซึ่งเป็นผู้ให้กำเหิดเค้ามารดาบิดามาหา ต้องเสียใจ เพราะคนไม่มีเงินรึไง ถึงทำร้ายกันได้ขนาดนี้ ..............ยุคนี้เป็นยุคที่คนไทยเรารังเกียจกันเอง แต่กลับไปยกย่องพวกฝรั่งหรือ ต่างชาดติ เพราะเงิน รึไง ...ขอบอกนะว่าเวรกรรมมีรจริงนะ ไม่ว่าชาติไหนก็เถอะ จะเป็นจีนไทย หรือใหญ่มาจากไหน ไปทำเค้าถึงขนาดนี้ เค้านอนตายตาไม่หลับเพราะเค้ายังห่วงลูกเค้าอยู่ ........เราไปวัดชัยมงคลมา เราเกลียดคนใจร้ายที่ไม่ดูแลภรรยาตรเอง.......ไม่รักเค้า แล้วแต่งเค้ามาทำไม...............				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทรายกะทะเล
Lovings  ทรายกะทะเล เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทรายกะทะเล
Lovings  ทรายกะทะเล เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทรายกะทะเล
Lovings  ทรายกะทะเล เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงทรายกะทะเล