8 กันยายน 2548 06:34 น.

......รุ้งตะวัน......

ท่องเมฆา


ณ ที่นี้ ฉันยืนอยู่  ภูผาสูง
เมฆเฟื่องฟุ้ง รอบกาย สายลมหนาว
คิดทบทวน ทุกข์สุข ทุกเรื่องราว
หวนเมื่อคราว จันทร์ลอยลับ ไม่กลับคืน


ฟ้ายามนี้ มัวหม่น ปนสีฟ้า
มีเมฆา คลุ้มฝนจน มิอาจฝืน
สุริยา หลบแสงหม่น ทนกล้ำกลืน
คนกลับยืน ย่างเหยียบ เปรียบสุริยัน


แสงสุริยา ฉายจับ ลับเหลี่ยมเมฆ
ฉายแสงเสก เป็นรุ้งสวย ด้วยสีสัน
แสงจับใจ ในสีปรุง  "รุ้งตะวัน"
กลบสีสัน ทุกดาวใด ในพสุธา


จึงหยิบพิณ ขึ้นบรรเลง เพลงคลายโศก
นิ้วพรมโยก ดีดสาย คลายโทสา
"รุ้งตะวัน" ฝันใดเล่า เฝ้าจินตนา
ฟังเถิดหนา เสียงเพลงกล่อม ห้อมล้อมใจ


รุ้งเอ๋ยรุ้ง หลากสีสัน อย่าฝันเศร้า
รุ้งเจ้าเฝ้า โอบสุริยา โอบฟ้าใส
ใจของรุ้ง มุ่งหมาย ได้สิ่งใด
โปรดอย่าไร้ คำตอบ มอบแก่กัน


สายลมพัด เมฆา มาเรื่อยเรื่อย
สายลมเอื่อย ขับเมฆใจ เกินใฝ่ฝัน
ขอบเมฆสวย ด้วยเมฆฟุ้ง  "รุ้งตะวัน"
ขับสุริยัน จมหายลับ กับผืนดิน
				
5 กันยายน 2548 13:47 น.

........รถ...อิ...อิ........

ท่องเมฆา


ขับรถเต่า...สาวเจ้า...สีเขียวเข้ม
น้ำมันเต็มขับเร่งแรงแซงกันหนา
ไปโรงเรียนลูกน้อยเจ้ากลอยตา
โอ้ลูกยารถมันติดสนิทเลย

ปาดออกขวาแซงคันหน้าขอไปก่อน
เบนซ์ก็วอนตีคู่ทำเฉยเฉย
ไม่ให้แซงทำไงเล่าเจ้าทรามเชย
เจ้าก็เลยบีบแตรเสียงสำเนียงใจ

อิ อิ   อิ อิ  ขอทางหน่อย
เบนซ์ตาลอยหลบซ้ายด้วยหวั่นไหว
เสียงแตรหวานของเต่าเจ้าทรามวัย
กดแตรไปหว่านเสน่ห์เท่ห์จริงเอย

5 5 5   5 5 5  เจ้าไปเถิด
เบนซ์เตลิดด้วยหวามไหวใจเจ้าเอ๋ย
เสียง อิ อิ  ของรถเต่าเจ้าทรามเชย
แซงไปเลย...เสียงอย่างนี้...ดีจริงจริง...

............แหะ........แหะ............
เชิญแซงครับ........เชิญคร้าบบ บ ....

แม้รถจะมีหลายมิติ แต่เสียงแตรรถ
..................เสียงเตือน.................
ยังคงมีมิติเดียว...ขาว...ดำ...เท่านั้น

โลกจึงวุ่นวายด้วยความไม่รู้เท่าทัน

				
1 กันยายน 2548 00:14 น.

......รวิวรรณ....จันทรา......

ท่องเมฆา


รวิวรรณ..มั่นไว้ ในดวงจิต
จันทรา..สถิตย์กลางใจ ในไฟฝัน
แม้ฟ้าไม่ อาจครองคู่ อยู่เคียงกัน
นิจนิรันดร์..ยังฝันอยู่..คู่เคียงใจ



สุดสายปลายทางแห่งฝัน
ยึดมั่นสิ่งใดได้หนอ
มีเพียงความเศร้าเฝ้ารอ
ทดท้อรออยู่ผู้เดียว



ในวันที่เราต้องจาก
พรากไปมีใครแลเหลียว
ไขว่คว้าหาใครนักเชียว
เปล่าเปลี่ยวเดียวดายไร้ใคร



ในวันที่ฉันต้องสูญ
อาดูรเหว่ว้าน้ำตาไหล
เช้าเสีย..รวิวรรณ..ขวัญใจ
ค่ำไร้..แสงจันทร์..จันทรา



สิบหกปีแห่งความหลัง
ยังฝังดวงจิตคิดหา
รวิวรรณ..ขวัญใจ..นภา
หลับตาเห็นอยู่คู่กัน



เช้านั้นพลันเห็นเธอเคียง
ยืนเรียงกับใคร..คลายฝัน
รวดร้าวดวงจิต..สุริยัน
รวิวรรณ..ขวัญใจใครครอง



ยามค่ำพาใจขื่นขม
อกตรมข้องขัดกลัดหนอง
หวังยลดวงหน้านวลน้อง
จันทร์ผ่องส่องพักตร์..เพียงเพ็ญ



เธอกลับส่งข่าววิวาห์
จันทรา..หายลับกลับเข็ญ
นั่งเศร้าเช้าสายบ่ายเย็น
คงเป็นเวรกรรมนำเรา



ใครบ้างจะรู้ไหมว่า
ท้องฟ้ามัวหม่นอับเฉา
ไม่มีทั้งสองน้องเจ้า
โศกเศร้าทิวาราตรี



รำพึงรำพันฝันหวาน
ร้าวรานกลายกลับลับหนี
ทำไมเจ้าไม่ใยดี
สุขขี..โศกสลด..ทดแทน



นึกถึงดวงหน้า..รวิวรรณ
ผ่องพรรณวิมุติสุดแสน
ดวงตาหวามไหวใครแทน
หากแม้นเผลอไผลไปมอง



ปากนิดจมูกหน่อยกลอยเจ้า
หลงเฝ้าหลงใหลใจหมอง
ชาร์มมิ่งกลางผากนวลน้อง
พี่มองดุจเคียวเกี่ยวใจ



ดวงจันทร์วันเพ็ญผุดผ่อง
นิ่มน้องแฝงเงาเศร้าไหม
แม้พี่มีรักปักใจ
กลับไม่เคยเห็นเย็นทรวง



แรกเห็นบทกลอนใสใส
นานไปกลายเศร้าสุดสรวง
ฤาเป็นเพียงแค่กลอนลวง
เป็นบ่วง..ดวงจันทร์..จันทรา



หวนนึกตรึกแล้ว..สุริยัน
เฝ้าฝัน ซัน..มูน ใฝ่หา
ไม่มีอีกแล้ว..สุริยา
เพ้อหาสิ่งใดไม่มี



เกิดเป็นดวงไฟใต้ฟ้า
ส่องหล้าอบอุ่นเฉิดฉวี
ดวงใจหาใครใยดี
ไม่มี รวิวรรณ...จันทรา...



รวิวรรณ..มั่นไว้ ในดวงจิต
จันทรา..สถิตย์กลางใจ ในไฟฝัน
แม้ฟ้าไม่ อาจครองคู่ อยู่เคียงกัน
นิจนิรันดร์..ยังฝันอยู่..คู่เคียงใจ
				
30 สิงหาคม 2548 21:22 น.

จดหมายถึงดวงจันทร์

ท่องเมฆา


ดวงจันทรา...ในใจฉัน
ผ่านวันวารเรื่อยเรื่อยเหนื่อยบ้างไหม
เธอหลบอยู่เพียงผู้เดียวแสนเปลี่ยวใจ
ออกมาให้..ฟ้าเปล่งแสง..แห่งตะวัน

เธอเฝ้าฉัน...ฉันก็รู้...อยู่เสมอ
แอบละเมอเผลอไปในความฝัน
จะเช้าสายบ่ายเย็นไม่เห็นกัน
หรือรอวัน...มีคนก่อ...รอทำลาย

ห้วงทะเลเห่กล่อมเจ้าจอมขวัญ
ท้องฟ้าพลันหมุนเวียนเปลี่ยนมากหลาย
สุริยา..ขึ้นและดับ..ไม่กลับกลาย
ถึงเจียนตายทำหน้าที่..มิมีลืม

ด้วยความหวังเธอส่งมา...เปี่ยมกล้าแกร่ง
ฟ้ามีแรงเพราะเธอ...หายมืดครึ้ม
สุริยันส่องประกาย...คลายอึมครึม
เพียงไม่ลืมแสงจันทร์น้อย...คอยอยู่นาน

วันเวลาท้าทายการฉายแสง
ความกล้าแกร่งสานต่อรอถักสาน
อยากสร้างสรรค์สรรพสิ่งอิงผลงาน
ความกล้าหาญยังคงอยู่เคียงคู่กัน

เธอรักฉัน...ฉันก็รู้...จันทร์คู่ฟ้า
ดวงดารากระพริบพราวราวความฝัน
ไม่อยากตื่นขึ้นเคียงเพียง..แสงตะวัน
อยากหลับฝันขอพรฟ้า..เธอมาเยือน

อยากจะเป็นดวงตะวันอันอบอุ่น
อิ่มละมุนอุ่นดวงใจใครจะเหมือน
เป็นผู้กล้ากลางหทัยไม่ลบเลือน
ยิ่งกว่าเพื่อนเตือนโลกหมุน....อุ่นจันทรา....@=!!+++------


				
25 สิงหาคม 2548 00:39 น.

......รุ้งเมฆา......

ท่องเมฆา


สุริยันเคลื่อนคลาจะลาแล้ว
พรายเพริศแพร้วสุริย์แสงแดงฉายฉาน
ณ ปัจฉิมริมขอบรั้วรัตติกาล
บอกวันวารย่อมแปรผันอันวางวาย

หมู่เมฆามามืดครึ้มไม่ลืมโศก
ลมวิโยคโบกโบยมาน่าใจหาย
บรรยากาศยิ่งอับเฉาเศร้าเมามาย
บอกความร้ายของภัยโศกโรคหัวใจ

หยดน้ำใจไหลรินถิ่นความโศก
สะท้านโลกสะเทือนจิตคิดหวั่นไหว
ฟ้าเคยฟ้า..สีทอง...ผ่องอำไพ
โศกไปใย ทุกข์-สุข-โศก โลกธรรม

พลันสำรวมดวงจิตคิดเพียงหนึ่ง
ส่งใจซึ้งตรึงใจให้ไม่ถลำ
เคยพากเพียรร่ำเรียนรสบทพระธรรม
ใช้โน้มนำคลายโศกเศร้าเขลาใจตัว

สุริยาที่ลาลับเจียนดับแสง
ความร้อนแรงโบกมือลาฟ้าสลัว
แสงพระธรรมส่องนำใจหายมืดมัว
คลายมัวซัวแสงส่องใจใฝ่ความดี

ฟ้าปรับเปลี่ยนแสงใจไฟแดงฉาน
เป็นชื่นบานฉายรับฉัพพรรณรังสี
คนใกล้ไกลได้เห็นคลื่นรื่นฤดี
แสงเจ็ดสี ฉาบเมฆปรุง " รุ้งเมฆา "
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟท่องเมฆา
Lovings  ท่องเมฆา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟท่องเมฆา
Lovings  ท่องเมฆา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟท่องเมฆา
Lovings  ท่องเมฆา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงท่องเมฆา