3 มิถุนายน 2551 14:28 น.

ความเชื่อของผม

นักสืบ ไร้อันดับ


 บนรถ ปอ. สาย 16 ในเช้าวันหนึ่ง ในขณะที่ผมเดินทางไปทำงาน  
     เมืองไทยไม่เห็นมีอะไรดีเลย 
เสียงบ่นจากชายในชุดกางเกงยีนเสื้อยืดสีน้ำเงิน มีรูปเช เกวารา ที่หน้าอก วัยสักสามสิบต้นๆ คนหนึ่ง
    ทำไมล่ะ เป็นอย่างไร เสียงคนข้างๆ ในวัยใกล้เคียงกันสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นถามขึ้น ผมคิดว่าเขาคงมาด้วยกัน เขาทั้งคู่นั่งอยู่ตรงที่นั่งด้านหน้าผม แต่เสียงของเขาพอดังพอที่ผมจะได้ยิน
     รถก็ติด บ้านเมืองก็สกปรก ผู้คนก็มักง่าย ขาดระเบียบวินัยและที่ผมเกลียดที่สุด.... เขาชะงักเสียง
      อะไรที่ว่าเกลียดที่สุด ชายสวมเสื้อเชิ้ตถามต่อ
      ระบบราชการ เกลียดรัฐบาลที่เอาแต่โกงกิน เขาพูดด้วยเสียงเข้มขึ้น 
      ทำไงได้ ก็ประชาชนเลือกเขามานี่ 
      ก็นี่แหละที่ทำให้ผมไม่ชอบ ทำไมเขาไม่เลือกคนดีๆ มาบริหารประเทศ
      แล้วคุณคิดว่า การที่เขาเลือกคนที่จะมาเป็นรัฐบาลจากอะไร
      ผมว่าเขาคงใช้เงินซื้อ หรือไม่ก็เป็นผู้มีอำนาจบารมีในท้องถิ่น
       แล้วคุณจะทำอย่างไรละ 
       ผมจะต่อสู้ สู้ให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มีแต่คนดีๆ มาบริหารประเทศ....... 
     
         จากการที่ผมได้ฟังคนทั้งคู่พูด ทำให้นึกถึงรุ่นพี่คนหนึ่งที่สอนงานให้ผมตั้งแต่ผมเริ่มรับราชการใหม่ ๆ ตอนนั้นเราคุยกันเกี่ยวกับการโกงกินของนักการเมืองในสมัยนั้น เป็นตอนที่ผมบ่นว่าทำไมประชาชนถึงเลือกคนไม่ดีมาบริหารประเทศ พี่คนนั้นเขาบอกผมว่า เพราะประชาชนยังไม่มีการศึกษาเพียงพอ ยังไม่รู้ที่จะเลือกว่าคนไหนดีหรือไม่ดี ไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะเลือก และไม่มีความกล้าที่จะคิดแตกแยกกับคนอื่น ถ้าเราให้การศึกษาที่ถูกต้องกับเขา และสร้างค่านิยมที่ดีๆ ให้เขา เขาจะเลือกคนที่ดีๆ มาบริหารประเทศได้แน่นอน
      
         ผมมักคิดถึงคำพูดของพี่คนนี้ แล้วเชื่อว่าคงมีสักวันที่เราจะได้ประชาชนที่มีการศึกษา มีความคิด รู้ผิดรู้ถูกและ สามารถเลือกตัวแทนของเขา เข้ามาบริหารประเทศในสภาอันทรงเกียรติได้ ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคน มีความรักชาติ รักแผ่นดิน เหมือนกันทุกคน เพียงแต่เขาจะให้ความสำคัญระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมกับส่วนตัวมากน้อยแตกต่างกันอย่างไร 

        ผมคนหนึ่งที่เรียนด้านรัฐศาสตร์ จากการที่ได้ศึกษาผมเชื่อว่า ระบบประชาธิปไตย เป็นระบบที่ดีที่สุดระบบหนึ่งในโลก เป็นระบบที่ให้ประชาชน มีสิทธิ์มีเสียงในการเลือกคนที่เขาเชื่อถือ มาบริหารประเทศชาติแทนเขา สามารถถอดถอนหรือลงประชามติที่จะเลือกหรือไม่เลือกในการดำเนินงานของรัฐได้ ผู้ที่ได้รับเลือกก็ต้องรับผิดชอบแทนประชาชนที่เขาเลือกมา เป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่หลวง จากการที่ได้รับความไว้วางใจให้มาบริหารประเทศ  นี่คือระบบประชาธิปไตยที่ผมคิด

        แต่ที่ผมเป็นห่วงที่สุด คือ การให้การศึกษาแก่ลูกหลาน การสร้างให้เขามีความคิด การให้เขารู้จักเลือก การสร้างค่านิยม ปลูกฝังทัศนคติ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เป็นงานที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง มีพรรคการเมืองหลายๆ พรรคที่ตอนหาเสียงชูนโยบายเรื่องการศึกษาไว้ในลำดำแรกๆ แต่พอเข้าไปเป็นรัฐบาล แทบไม่มีพรรคไหนที่อยากมาดูแลเรื่องการศึกษาเลยครับ เป็นเรื่องที่หน้าเศร้าใจจริงๆ 

       เมื่อมีโอกาส ผมเลือกที่จะโอนมาทำงานที่กระทรวงศึกษาฯ  เป็นส่วนเล็กๆ ที่ทำหน้าที่สนับสนุนการศึกษาของชาติ ผมหวังว่าสักวันจะได้เห็น คนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ มีความคิด รู้ผิดรู้ถูก มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ต่อชาติ และต่อแผ่นดิน มีวิจารณญาณที่จะสรรหาคนดีๆ มาบริหารประเทศชาติได้ พี่คนที่สอนผม คงเกษียณไปแล้ว แต่พี่ครับ ผมยังอยู่ ผมยังรอดูสิ่งที่พี่บอกผมอยู่ ผมเชื่อครับ เชื่อว่าการศึกษาจะสร้างชาติเราให้เข้มแข็งและพัฒนาสู้กับทุกชาติในโลกได้ครับ 
ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ครับ

                   กล้วยไม้มีดอกช้า          ฉันใด. 
                   การศึกษาเป็นไป         เช่นนั้น
                   แต่ดอกออกคราวใด     งามเด่น
                   การศึกษาปลูกปั้น        เสร็จแล้ว แสนงาม
                                 
                                   มล. ปิ่น มาลากุล ...

                                  ------------------------------
				
9 เมษายน 2551 12:38 น.

ครับพี่

นักสืบ ไร้อันดับ


ทำไมเธอถึงชอบพี่ พี่อายุมากกว่าเธอมากน่ะ

           ผมเหลือบไปมองสายตาคนถาม เธอเป็นหญิงสาวรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกัน  เธอเป็นคนชอบยิ้ม ทุกครั้งที่ผมเห็นรอยยิ้มของเธอผมจะเห็นเขี้ยวเล็กๆ ซี่นั้น กับดวงตาที่เป็นประกายของเธอ ประกายที่เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า 
     ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่เราได้คุยกันสองต่อสอง จากการที่ผมโมเมว่าจะไปธุระแถวบ้านเธอ เลยขอตามเธอไปด้วย ขณะที่เธอถามสายตาเธอจ้องมองผม เหมือนจะค้นหาอะไรสักอย่าง

    พี่รู้ได้ไงว่า ผมชอบพี่

  ผมหลบตา แหม ใจมันว้าวุ่น ยังไงไม่รู้ 

     ก็ท่าทางการกระทำและสายตา ของเธอไง

  แหม อย่างนี้นี่เอง ที่เขาว่าดวงตาเป็นประตูของหัวใจ เฮ้อ เสียงผมถอนใจเบาๆ แล้วจะบอกเธอดีไหมเนี้ย จะเริ่มอย่างไรดี เฮ้อ ถอนใจครั้งที่สอง

      แล้วพี่รังเกียจไหม ถ้ามีคนอายุน้อยกว่า มาชอบน่ะ

     กัดฟันพูดออกไป เหงื่อตกหูกางเพื่อรับสัญญาคลื่นเสียง ที่จะออกจากปากเธอ เหมือนนักโทษที่รอคำสั่งศาลที่จะพิพากษา 

    พี่ไม่รู้ พี่แค่อยากรู้ว่าเธอชอบพี่ หรือป่าว

    แหม โดนคาดคั้นอีกแล้ว เธอจะคิดอย่างไรหว่า ถ้าบอกไปแล้วเธอไม่ชอบ  เรายังคบกันได้อีกหรือเปล่า ยังมองหน้ากันได้สนิทอีกหรือเปล่า ถ้าไม่บอกล่ะ โอกาสดีๆ อย่างนี้ก็มีไม่มากนัก เฮ้อ ถอนหายใจครั้งที่สาม

     พี่ว่าผมเป็นคนอย่างไร
   
ลองเรียบๆ เคียงๆ ไปก่อนดีกว่า เพื่อจะหาโอกาส พิชิตชัยตามตำรา ซุนหวู่ แบบ ที่ว่ารู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งน่ะ

   เธอเหรอ ก็ดูซื่อๆ ดี 
  
ดูซิ ตอบมาแค่เนี้ย แต่อย่างน้อยก็เป็นข้อมูลด้านบวกเนอะ ลองเปิดฉากบุก
บ้างน่ะ
  
  ซื่อขนาดที่พอจะไว้ใจได้ไหมครับ
   
ผมพูดแล้วก็พยายามมองตาเธอ อยากรู้จริงๆ บันไดขั้นที่สองนี้ผมจะก้าวขึ้นได้ไหม 
  
ได้ซิ แต่คงเป็นบางเรื่องเท่านั้นน่ะ

ไว้ใจเป็นบางเรื่องผมก็ดีใจแล้ว สักวันอาจจะไว้ใจผมทุกเรื่องก็ได้

  พอบุกแล้วต้องบุกต่อ การโจมตีต้องต่อเนื่อง  เป็นยุทธวิธีพิชิตศึกตามตำรา

 เอาไว้ให้ถึงวันนั้นก่อนเถอะน่ะ พี่จะคอยดู

ไชโย หลุดปากออกมาแล้ว  ไม่ว่านานแค่ไหนผมก็จะรอ ผมสัญญา สักวันพี่จะต้องไว้ใจผมในทุกเรื่อง แล้วผมจะรอให้ถึงวันนั้นมาถึง   ครับพี่

 (ปล.จากวันนั้นถึงวันนี้ 16 ปีแล้วครับ อ้อ ผมยังเห็นรอยยิ้มของเธอและเขี้ยวเล็กๆ ซี่นั้น กับดวงตาที่เป็นประกายของเธอ ประกายที่เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าครับ) 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนักสืบ ไร้อันดับ
Lovings  นักสืบ ไร้อันดับ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนักสืบ ไร้อันดับ
Lovings  นักสืบ ไร้อันดับ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนักสืบ ไร้อันดับ
Lovings  นักสืบ ไร้อันดับ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนักสืบ ไร้อันดับ