31 มกราคม 2546 07:36 น.

ค่ำคืน...ที่เปลี่ยวเหงา

นายดอกไม้

นั่งอยู่ตัวคนเดียว...บนคืนที่เปลี่ยวเหงา... 
ไร้ซึ่งเงาของความสนุกสนาน...วันวาน...วันนี้ 
ทำไม ?...เพราะอะไร...มันจึงแตกต่างกันสิ้นดี 
กับความรู้สึกที่...เคยผ่านพบ...ไปแล้วกับวันนั้น 

ก่อนนั้นเคยวาดฝัน...ฝัน...ที่เคยวาดไว้ 
ตอนนี้หามีไม่...ไม่มีอะไรเลย...ในความฝัน 
เคยคิดเคยหวัง...อยากจะให้คงอยู่...ชั่วนิรันดร์ 
และแล้ววันนั้น...วันที่วาดไว้...ก็มลายไป 

นั่งจับเจ่า...กับความเหงา...เศร้าอ้างว้าง 
มองดูหนทาง...ที่เคยย่างกราย...ผ่านไปมา 
ยิ่งคิด...ยิ่งมองดู...ทุกทุกอย่างดั่งภาพมายา 
ไม่เห็นเหมือนดั่งว่า...ความจริง...ที่ต้องเจอ 

หยิบสมุดเล่มน้อย...เก่าเก่า...เราเคยเขียน 
ภายใต้แสงเทียน...กับภาพเก่าเก่า...เราและเธอ 
หึหึหึ...อยากจะหัวเราะให้ชีวิต...มีสิทธิ์เพียงแค่ฝันเพ้อ 
แต่ก็ยังเฝ้าละเมอ...กับการเพ้อฝันไปคนเดียว 

ทีละใบ...ทีละใบ...ที่ผ่านไป...ไม่เหลือเลย 
ความผูกพันที่เคย...คงจะไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว 
ภาพฝัน...วันก่อนก่อน...ตอนนี้...คงจะแห้ว 
จากไปแล้ว...สินะ...เธอจากไป...ในหนทาง... 

เพ้อ...เพ้อ...เพ้อ...ละเมออยู่ตัวคนเดียว 
ในคืนเปลี่ยว...คืนเหงา...คืนเศร้าและอ้างว้าง 
กับสมุดเล่มน้อย...คอยเป็นเพื่อนยามเหินห่าง 
ที่เก็บไว้เคียงข้าง...ทุกหนทาง...ที่ย่างกราย 

ยิ่งเปิดไป...ยิ่งเปิดไป...ใจยิ่งคิด...จิตยิ่งคะนึงหา 
คิดถึงใบหน้า...ที่คราใดใจร่าเริง...บันเทิงทั่ว 
เคยก้าวเดินไป...พร้อมพร้อมกัน ไม่หวั่นกลัว 
แต่ตอนนี้...ทั้งตัว...ทั้งใจ...คงไม่มีอะไรให้เหลือแล้วสินะ 

มาสะดุด...บทกลอน...อยู่ตอนหนึ่ง...จึงหยุดอ่าน 
ที่เขียนไว้เมื่อวาน...นานมาแล้ว...นานนักหนา 
ด้วยความรู้สึกของใครใครคนหนึ่ง...ที่ฝากมา 
กับภาพฝัน...สัญญา...ที่ร้างลา...ลับไป...ไม่กลับคืน...				
28 มกราคม 2546 07:44 น.

แรก...รัก

นายดอกไม้

First Love
I never was struck before that hour		
with love so sudden and so sweet.		
Her face it bloomed like a sweet flower	
And stole my heart away complete.  		

My face turned pale, a deadly pale.		
My legs refused to walk away,		
and when she looked what could I ail		
MY life and all seemed turned to clay...
	                   John Clare 

             รักแรก
ก่อนไฉนใจเลย...จะเคยรัก		
แรกรู้จักนวลน้อง...ก็ข้องหลง
ใบหน้านวลแดงฉ่ำ...บุษบง		
น้องอนงค์ก็คว้า...มนาจร

ใบหน้าจางซีดลง...ด้วยหลงใหล	
หมดแรงไร้ก้าวเดิน...สุดเกินถอน
ด้วยสายตาชม้าย...สั่นไหวคลอน 	
ชีวิตย้อนล่วงราว...สู่พราวดิน...				
27 มกราคม 2546 06:25 น.

แสน...ไกล

นายดอกไม้

ไกลเกินกว่าจะเดิน...ฤาเหินถึง
ยากรำพึงห่วงใย...เกินไถ่ถาม
สุดขอบฟ้าปลายตา...นภาคราม
นวลน้องงามเกินกว่า...จะคว้าครอง

เพียงห้วงคิดอาจเอื้อม...ยังเชื่อมหวัง
เป็นหนทางแสนไกล...กว่าใดผอง
แม้นยากแท้น้องเอย...อยากเอ่ยจอง
ได้เพียงมองน้องเยาว์...จวบเช้าเย็น

อยากเอ่ยคำรำพัน...ว่าฝันถึง
อยากรำพึงเอ่ยหา...เพ-ลาเห็น
อยากใกล้ชิดน้องเจ้า...ทุกเช้าเย็น
แล้วอยากเป็นเช่นหวัง...ที่ตั้งใจ

เพียงหนทางก้าวเดิน...ก็เหินห่าง
อีกน้องนางไร้เหลียว...สุดเดียวดาย
คงก้าวเดินสร้างฝัน...ตราบวันตาย
รู้เพียงพ่ายแม้เดิน...ไม่เกินทน...				
27 มกราคม 2546 05:06 น.

คิดถึงนะ...รู้ไหม

นายดอกไม้

คิดถึงนะรู้ไหม...วันเก่าก่อน	
คิดถึงนะอาทร...ไม่รู้หาย
คิดถึงนะคิดถึง...จากดวงใจ	
คิดถึงนะดอกไม้...ใบหญ้าคา

คิดถึงนะความฝัน...เคยสรรค์สร้าง	
คิดถึงนะหนทาง...ที่ผ่านตา
คิดถึงนะคิดถึง...ทุกเวลา	
คิดถึงนะสัญญา...ว่าจะรอ

คิดถึงนะดึกดื่น...คืนเดือนหนาว	
คิดถึงนะสองเรา...เคยเคล้าคลอ
คิดถึงนะคิดถึง...ฝันร่วมก่อ	
คิดถึงนะคนรอ...อย่าท้อใจ

คิดถึงนะดวงดาว...เจ้าหยิบยื่น	
คิดถึงนะดึกดื่น...คืนเดือนหงาย
คิดถึงนะคิดถึง....เจ้าดอกไม้	
คิดถึงนะดวงใจ...ไกลลับตา

คิดถึงนะรู้ไหม...บ้านของเรา	
คิดถึงนะคืนหนาว...ดาวระย้า
คิดถึงนะคิดถึง...แก้วกานดา	
คิดถึงนะดวงหน้า...ของยาใจฯ				
26 มกราคม 2546 08:52 น.

บทกลอนของ...เจ้าดอกไม้

นายดอกไม้

ก็อีกแหละครับ นำของเก่ามาเล่าใหม่ เพราะอยากจะเก็บไว้ในหน้าที่เปิดได้
ตลอดน่ะครับ ก็เลยต้องอย่างนี้แหละจ้า อย่าว่ากันนะครับ 
หน้านี้นำมาจากที่นี่ครับ...
 
http://thaipoem.com/web/poemdata.php?id=26790

บทกลอนของ...เจ้าดอกไม้   

๑. ดอกไม้เอย...มากนัก...หลากภมร 
ต่างสัญจรเก็บเกี่ยวเคี้ยวความหวาน
จากดอกไม้ต่างต้นต่างตำนาน 
ก่อประสานเป็นหวัง...สร้างรังพิง

๒. จากนิดเดียวหนึ่งนั้น...เกสรเจ้า 
รวมรวบเข้าหลากหลายได้แอบอิง 
สร้างเป็นรังเป็นน้ำ...หวานเสียจริง
ยากเกินสิ่งอันใดได้เทียมทัน

๓. ดอกไม้เอย...หลากหลาย...ใบและต้น
ให้ได้ค้นสืบเสาะมาเพาะฝัน
สร้างเป็นหวังพลังอันอนันต์
ประดั่งสรรค์สร้างเสกจากเอกองค์

๔. หยดหนึ่งนั้นน้ำใจ...เคยได้มา
มากเกินกว่าหยาดฝนที่ล่วงลง
ยังเก็บเกี่ยวน้ำคำนวลอนงค์
สร้างเป็นฝันมั่นคง...และยั่งยืน

๕. แม้น้อยนิดหนึ่งนั้นน้ำใจเจ้า
แต่เป็นเงาแห่งฝันยามดึกดื่น
ก่อกำเนิดผูกพันอันหวานชื่น
ครั้นพอตื่นวันใหม่...ยังได้ยล

๖. หวังเพียงสร้างก่อเกื้อจุนเจือฝัน
จากใจนั้นของเจ้าให้เกิดผล
ดั่งไม้น้อยเหี่ยวแห้งแล้งน้ำฝน
ยังเกิดต้นโตใหญ่...ได้ฝนเจือ

๗. จะเก็บเกี่ยวหนึ่งนั้นเคยได้มา
เพิ่มคุณค่าความฝัน...ที่น้อยเหลือ
ให้เติบใหญ่ด้วยใจอย่างเหลือเฟือ
จะได้เผื่อเจือจุณ...อุดหนุนคืน

๘. งามดอกไม้...อร่าม...เบ่งบานดอก
เหมือนคอยบอกเตือนย้ำยังชุ่มชื้น
เป็นกำลังเสมอแม้ขมขื่น
ยิ้มระรื่นไว้นะ...อย่าท้อทน

๙. จะคงอยู่เคียงข้าง...เบ่งบานดอก
ให้เงยงอกเติบใหญ่สยายผล
ขอเพียงสู้ต่อไปอย่างอดทน
คงได้ยล...ดอกไม้...ใบสวยงาม

๑๐. ดอกไม้เอย...งามนัก...ประจักษ์จิต
เบ่งบานมิตรงามทั่วทุกเขตคาม
เป็นดอกไม้ในใจ...หากใครถาม
บานอร่ามในใจ...ไม่โรยรา

๑๑. งดงามนัก...ดอกไม้...ใบไหวอ่อน
ประดั่งพรทวยเทพบันดาลมา 
เพื่อชูช่อไสวอวดนรา
ให้ค้นหามาเป็น...ดอกไม้ใจ

๑๒. เพียงดอกเดียวหนึ่งนั้น...ที่สรรค์เลือก
มาเป็นเปลือกห่อหุ้ม...อุ้มหทัย
ดอกไม้บานเปล่งปลั่ง...ยังสดใส
ตราบนั้นไซร้...หัวใจ...ไม่เหี่ยวโรย

๑๓. จะถนอมพะยอมดวงดอกไม้
ให้เติบใหญ่ด้วยฝนที่หล่นโปรย
ทั้งปุ๋ยดินผินใส่...สายลมโชย
ไม่ให้โหยด้วยหิวหรือลิ่วเลย

๑๔. จะบำรุงกล่อมขวัญดอกไม้เจ้า
ตามคำเว้าที่เอ่ย...เคยเฉลย
จะดูแลจริงจัง...ไม่ละเลย
เป็นคำเอ่ยจากใจอยากให้ยิน

๑๕. แต่ดอกไม้...ดอกงาม...ที่ถามทัก
หวั่นยิ่งนัก...หวั่นเจ้าลืมแล้วสิ้น
คำความหลังที่เคยได้ดื่มกิน
กลัวยุพิน...สิ้นไร้...น้ำใจงาม

๑๖. ด้วยมากนัก...ภมร...ที่จรเคียง
คอยฟังเสียงสดใส...เฝ้าไถ่ถาม
กลัวดอกไม้หลงไป...ใจติดตาม
พี่คงช้ำ...ฤทัย...มลายพลัน

๑๗. เพราะพี่นี้ห่างไกลดอกไม้นัก
ยากที่จักถนอมแลกล่อมขวัญ
แต่รู้ไว้นะใจ...ไม่ไกลกัน
ไม่นานวัน...จะกลับ...มารับทรวง

๑๘. ห่วงนักห่วงไม่หาย...ดอกไม้เจ้า
ห่วงจะเหงาห่างไกลดาราดวง
เปลี่ยนแปลงจิตมิตรใหม่...เข้ามาหวง
ห่วงพุ่มพวง...ลุ่มหลง...คารมหวาน

๑๙. เคยเรียก... เจ้าดอกไม้...คำทายทัก
เมื่อแรกจักคุ้นเคย...ก่อนเกยฝัน
ทั้งถนอมเคียงคู่อยู่ทุกวัน
แต่ห้วงกาล...ให้เรา...ต้องห่างไกล

๒๐. อยากจะขอหนึ่งนั้นความคำเจ้า
ถึงสองเรา...เหินห่าง...ก็เพียงกาย
ไม่ลุ่มหลงน้ำคำของใจชาย
แม้หวั่นไหวไปบ้าง...ก็จะทน

๒๑. จะเบ่งบานชูดอกรอเพียงพี่
โนโลกนี้เพียงเรา...แม้อับสน
ไม่ไถลเรรวนชวนวกวน
ดวงกมลสองเรา...นั้นเข้าใจ

๒๒. ยังจดจำเสมอจันทร์เคยอ้อน
เป็นบทกลอนดวงดาวคราวฟ้าใส
พรุ่งนี้แล้ววันใหม่พี่ต้องไป
น้ำตาไหลพร่างพรูมิรู้เลือน

๒๓. ดาวดวงน้อยบนฟ้าพี่คว้าให้
จันทร์ดวงใหญ่บนนภาจะคอยเตือน
สายลมหนาวแรกเริ่มพึ่งมาเยือน
เคยเป็นเพื่อนชมจันทร์วันก่อนลา

๒๔. เคยเก็บเกี่ยวความฝันแบ่งปันให้
เก็บดาวใสดวงน้อยลอยบนฟ้า
อีกดวงจันทร์คล้อยต่ำนั่นสัญญา
จะกลับมา...เมื่อจันทร์...นั้นหวนคืน

๒๕. จะจดจำดอกไม้แลใบหญ้า
ที่เฝ้าหา...มาฝาก...จากเมืองอื่น
เป็นความฝันสองเรา...เย้าหยอกยื่น
ทุกวันชื่น...ชมเชย...เราเคยเคียง

๒๖. ไม่ลืมหรอกหนาสัญญาที่ว่าไว้
แม้นห่างไกล...ลาลับ...สดับเสียง
จะเก็บเกี่ยวความเก่าสองเราเคียง
เป็นสำเนียงความฝัน...วันพี่คืน

๒๗. จะเบ่งบานไสวไกวแกว่งดอก
เป็นคำบอกว่าใจไม่เป็นอื่น
รอเพียงพี่กลับมาทุกวันคืน
แล้วชมชื่นดวงดาวเคล้าแสงจันทร์

๒๘. เพียงดอกเดียวหนึ่งนั้น...ดอกไม้เจ้า
ที่คอยเฝ้าถนอมแลกล่อมฝัน
แม้วันนี้สองเราต้องห่างกัน
พรุ่งนี้นั้น...ไม่นาน...จะกลับมา

๒๙. จะเก็บเกี่ยวดวงดาวที่ไกลโพ้น
เก็บสายชลหลั่งไหลห้วงคูหา
เก็บดวงจันทร์มาให้ย้ำสัญญา
เก็บพฤกษา...มาให้ได้ยลเยียน

๓๐. จะเกี่ยวเก็บความฝันเจ้าปันให้
แต่งเติมใส่สีสันขยันเขียน
สู้บากบั่นเสกสรรค์ด้วยหมั่นเพียร
เสร็จแล้วเวียนคืนหวน...หานวลนาง

๓๑. ดอกไม้เอย...รอนะวันพี่กลับ
หอห้องหับตกแต่งแจงจัดวาง
แจกันเก่าคู่น้อยที่คอยขวาง
เก็บมาล้างไว้นะ...อย่าให้เอียน

๓๒. สมุดน้อยบันทึกยามดึกดื่น
เตรียมหยิบยื่นให้ดีพี่จะเขียน
ที่เนิ่นนานเหินห่าง...ใบหน้าเนียน
พี่จะเลียนลอกออก...กรอกใจลง

๓๓. เป็นห้วงหนึ่งความนัยใจคิดถึง
ด้วยเหินห่างมากจึง...ได้พะวง 
กลั่นเป็นห่วงจากใจให้อนงค์
แล้วเขียนลงด้วยใจ...ไม่ผันแปร

๓๔. จะเขียนหมดทุกสิ่ง....เคยอิงอุ่น
ก่อนได้หนุนทรวงแนบ...แอบอิงแม่
อบอุ่นนัก...ตักเจ้า...อบอุ่นแท้
เดี๋ยวนี้แค่...ทรงจำ...เป็นความนัย

๓๕. เคยเปรียบเจ้าเป็นดาว...บนพราวฟ้า
ดุจจันทรา...งามงดดูสดใส
แต่วันนี้ทุกสิ่งดูร้างไป
ด้วยห่างไกล..นงเยาว์...เหงาเหลือเกิน

๓๖. ก่อนชี้ชวนชมจันทร์...วันฟ้าแจ่ม
ดูเจ้าแช่มชื่นช้อย...ใจเพลิดเพลิน
ทั้งดวงดาวฟ้ากว้าง...เหมือนเชื้อเชิญ
ให้เจ้าเดินเที่ยวชมรื่นรมย์ใจ

๓๗. ทั้งเคยเก็บกุมกอดดาวดวงน้อย
มาทยอยต่อฝันให้เติบใหญ่
อีกสายธาราม่านหมอกจากฟ้าไกล
ผูกมั่นไว้...อย่าเคลื่อนฤาเลือนลอย

๓๘. จะเขียนหมดทุกหน้าที่ว่าเหลือ
จะไม่เผื่อให้ใครได้ใช้สอย
แม้นหนทางห่างไกล...เกินว่ายลอย
จะไม่ถอยให้ใคร...ได้เมียงมอง 

๓๙. ด้วยว่าห่วงยิ่งนักเกินหักจิต
แต่เมื่อคิดมากไปให้ใจหมอง
เพราะพี่นี้ไกลเกินจะได้ครอง
ขอให้น้องเข้าใจ...ไม่ได้ลวง

๔๐. งามดอกไม้น้องเอย...พี่เอ่ยเจ้า
เมื่อวานเช้าเราสอง...ประคองหวง
ครั้นพอสายบ่ายนี้พี่เศร้าทรวง
ด้วยว่าห่วง...เจ้าเกิน...จะเหินห่าง

๔๑. เก็บใจไว้นะเจ้า...ดวงดอกไม้
อย่าให้ใคร...ต้องแตะแวะริมทาง
รอเพียงพี่อยู่ไกลไม่เลือนราง
ครั้นรุ่งสาง...ฟ้าใหม่...พี่จะมา

๔๒. พี่อยากฟังหนึ่งนั้นคำความเจ้า
ยามพี่เหงาเศร้าทรวงด้วยห่วงหา
จะยึดมั่นยิ่งนักคำสัญญา
ขอพี่ยาอย่าได้...มาคลายแคลง

๔๓. น้องจะไม่เหหันผันแปรเปลี่ยน
ทุกวันเพียรหมั่นรอบ่หน่ายแหนง
คำสัญญาเคยให้...หลากหลายแผง
ไม่ให้แหว่งขาดไป...ที่ไหนเลย

๔๔. จะสานต่อสัญญาที่ว่าไว้
ให้เติบใหญ่...ดั่งคำที่พี่เปรย
ถึงตัวไกลแต่ใจ...ไม่ห่างเลย
จะเป็นเขยบ้านน้อง...อย่าหมองใจ

๔๕. งามดอกไม้เจ้าเอย...พี่เอ่ยทัก
ไม่นานนักหรอกหนา...อย่าหวั่นไหว
เสร็จการงานรีบกลับรับขวัญใจ
คงไม่สาย...ไปนะเจ้าดาวดวง

๔๖. ดอกไม้เอย...งามนัก...จากใจจิต
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งหลง...แลห่วงหวง
เป็นคำหนึ่งจากใจ...ใช่เอ่ยลวง
หวังได้ควง...น้องยา...ครากลับไป

๔๗. ไม่อยากเปรียบเปรยพี่...นี้ภมร
ที่คอยชอนอ้อนดอกเกสรใส
เพราะพี่นี้เพียงแต่...แค่คนไกล
แม้นเอ่ยไป...คงไม่สู้...ผู้อยู่เคียง

๔๘. แต่กระนั้นน้องเอย...จะเอ่ยบอก
ไม่กลับกลอกหรอกใจ...ได้ส่งเสียง
แม้นตัวเจ้าไม่อยู่ให้เผดียง
ความสำเนียงพี่นี้...ฝากลมไป

๔๙. แม้นไม่เคย...ได้พบฤาเห็นหน้า
ขอเพียงว่าน้องยาอย่าผลักไส
หากเช่นนั้นพี่คงต้องสิ้นใจ
ไม่เหลือไว้แม้เพียง...เสียงอำลา ฯ 

                     *********  นายดอกไม้ *********				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนายดอกไม้
Lovings  นายดอกไม้ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนายดอกไม้
Lovings  นายดอกไม้ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนายดอกไม้
Lovings  นายดอกไม้ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนายดอกไม้