9 มีนาคม 2549 12:56 น.

ความรักทำให้คนตาบอด

นายหมึกซึม

" เอาวงนี้ครับ "
...เอก หนุ่มขี้อาย วัย 27 ปีตัดสินใจเลือกซื้อแหวนวงหนึ่ง หลังจากเลือกอยู่นาน โดยเอกตั้งใจที่จะขอ นก ซึ่งเป็นแฟนของเขา ที่คบกันมาถึง 5 ปี โดยไม่เคยมีครั้งไหนผิดใจกัน ด้วยที่ว่าเป็นคนที่ขี้อาย จึงเก็บเรื่องบางเรื่องไว้คนเดียว และรวมถึงเรื่องที่ซื้อแหวน เพื่อขอแต่งงานด้วย 
...เมื่อเอกกลับถึงบ้านในวันนี้  ด้วยความเขินอายที่กลัวว่า นก จะค้นเจอแหวนของตน ที่ตั้งใจจะมาเซอร์ไพร์ ในเช้าวันพรุ่งนี้ เมื่อถึงบ้านจึงรีบอาบน้ำ เข้านอน โดยที่นกก็ไม่ทันสังเกต เห็นความผิดปกติอะไร
...จนมาถึงรุ่งเช้า เอกจึงเอ่ยปากขอไปส่งนก ที่ที่ทำงาน ซึ่งปกติ นกจะไปทำงานโดยรถไฟฟ้า เนื่องจาก กลัวเอกไปทำงานสายเช่นกัน
" ได้สิ "  นกรับปากอย่างงงเล็ก ๆ แล้วถามเอกต่อไปว่า
" แล้ววันนี้ เอกไม่สายเหรอ "
" อ๋อ วันนี้ เราหยุดน่ะ "  เอกตอบแล้วรีบดึงมือนกขึ้นรถอย่างรวดเร็ว ขณะที่มืออีกข้าง ก็กำแหวนไว้แน่น
...เมื่อทั้งสอง ขึ้นรถแล้ว จึงนั่งเงียบ โดยที่ไม่มีเรื่องได้อยู่ในหัว นก ก็รู้สึกเหนื่อยอ่อน เนื่องจาก เมื่อวานไปต่างจังหวัด และเพิ่งกลับเมื่อคืน จึงมีอาการเคลิ้ม ๆ   จนถึง สี่แยกไฟแดง ที่ใกล้กับโรงงานของนกพอดี เอกจึงตัดสินใจปลุกนก และเอก ก็ตั้งใจที่จะมอบแหวนให้ตอบที่ติดอยู่ที่ไฟแดงเช่นนี้ 
ด้วยความขี้อาย เอกจึงยื่นให้เลยโดยไม่มีคำพูดใดใด
" อะไรเหรอ "  นกเอ่ยถาม ขณะที่ยังไม่ได้จับกล่องแหวน ตรงกับจังหวะที่เอกกำลัง เหยียบคันเร่ง เพื่อเดินทางต่อ 
" ลองเปิดสิ " เอกหันมาตอบนก โดยที่ไม่ได้มอง บนพื้นถนน 
.........เอี๊ยดดดดดด..!!!!  โครม......
...เอกเบรก รถอย่างแรงเนื่อง จากมี รถสิบล้อเสียหลังข้ามเกาะกลางถนน มาทางรถของเอก
...แต่ก็ไม่ทัน.....รถสิบล้อ ชนกับรถของเอกอย่างจัง  
...แหวน หลุดจากมือของนกทันที โดยที่ยังไม่ได้ทันเปิดกล่อง...
หลังจากที่ทั้งสอง ถูกนำส่งโรงพยาบาล
...เอก ไม่เป็นอะไรมาก มีเพียงแขนส้นเล็กน้อยและสลบไป แต่นก คนที่ไม่ชินกับการรัดเข็มขัด นิรภัย จึงทำให้ใบหน้าของนกเต็มไปด้วยเศษ กระจก เนื่องจากขณะที่รถเบรก แรงเบรกทำให้ใบหน้าของนกไปชนกับกระจกเข้าอย่างจัง ทำให้นก ตาบอกสนิททันที...
...แต่ด้วยความรักที่มีต่อนก เอก จึงตัดสินใจ ผ่าตัดเพื่อเอาตาของตน ไปให้นก โดยที่ตนเองยอมตาบอด และ เดินทางจากไป โดยที่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ นอกจากแพทย์ประจำตัวของนก ที่คอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ 
...เมื่อนกหายดี มองเห็น หมอ จึงมอบแหวนวงหนึ่งให้กับนก 
และบอกกับนกว่า
" มีชายคนหนึ่งมอบให้คุณ "
...นกคิดว่าต้องเป็นเอก แน่ ๆ  จึงเอ่ยถาแพทย์ประจำตัว
" แล้วเขาล่ะ เจ้าของแหวนวงนี้ " นกเอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจ
" ผมไม่รู้ครับ เขาฝากแหวนวงนี้ให้คุณ หลังจากที่ทราบว่าคุณตาบอด เนื่องจากมีเศษกระจกเข้าไป " แพทย์ตอบ
...ด้วยความเสียใจ เพราะคนที่ นก รักมากที่สุด กลับต้องรังเกียด และจากไป เพียงเพราะ นกตาบอด จึงร้องไห้ จนเพลีย และหลับไป
หลังจากที่นกหลับไม่นาน แพทย์ ประจำตัวก็มาดูอาการ และพูดว่า
 " แฟนคุณ เขาเป็นคนดีมากนะ มีความรัก ที่พร้อมจะมอบให้ โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน "
...หลังจากที่นกหายดี สุขภาพ แข็งแรง ก็ตัดสินใจ ไปพักผ่อนที่เกาะ แห่งหนึ่ง
ขณะที่นกกำลัง นอนอาบแดด ก็มีชายตาบอดคนหนึ่ง สวมแว่นคำสนิท มือถือไม่หัก ๆ อันหนึ่ง หกล้มอยู่ข้าง ตัวของนก จึงรีบไปประคองเขาลุก
...ทันใดนั้น... นกคุ้นหน้า ชายคนนั้นมาก ใช่  ใช่  ต้องใช่ เอกแน่  ๆ  นกจึงเอ่ยถาม ชายคนนั้นว่า
" เอก เอกใช่ไหม " 
...ชายคนนั้น อ้ำอึ้ง และไม่ยอมตอบอะไร...
...แต่นกยังมั่น ใจว่าต้องเป็น เอกแน่ จึงตัดสินใจ ถอดแว่นของชายคนนั้นออก
นกร้องไห้ ปล่อยโฮ ออกมา โดยรู้ว่าชายคนนั้นเป็นเอก แฟนของตน
นกรู้เจตนาของเอกทันทีที่ รู้ว่าเอกตาบอด..
" ทำไม ทำไม ต้องทำถึงขนาดนี้ " นกถามเอก และมองหน้าที่ไร้แววตาของเอก โดยที่ไม่หวังที่จะรู้คำตอบ
" เพราะรักไง "  เอกตอบ... 				
7 มกราคม 2549 15:45 น.

" แอบรัก" คำสองคำ ที่ทำให้ฉันยิ้ม

นายหมึกซึม

... แอบรัก  คงจะเป็นคำเพียงสองคำ ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คน จำเป็นต้องเปลี่ยนการดำเนินชีวิต  ฉันเอง อาจจะเป็นใครคนหนึ่ง ในจำพวกนั้น ที่ยากจะให้ความหมายในคำ ๆ นี้
	
...บางครั้ง ฉันอาจคิดไปเอง รู้สึกในใจว่า เธออาจจะเป็นช่องว่าง ที่ทำให้ฉันมีที่สำหรับนั่งพักในมุมเหงา ๆ วันโศกเศร้า คละเคล้ากันไป 

...แต่คงทำได้แค่เพ้อฝัน เพราะฉันเอง ก็ยังไม่กล้า มองแววตาเธออย่างจริงจัง แนบแน่น ยังมีจุดเล็ก ๆ มุมเล็ก ๆ ในแววตาฉัน ที่เธอยังมองไม่เห็น และจะไม่มีวันมองเห็น หากฉันยังไม่ยินดีให้เธอรับรู้  

...ฉันขอแค่มีเธอไว้เป็นเส้นชัยในชีวิตก็พอ อยู่ตลอดไปได้ไหม ที่เธอยืน  แม้จะมีใครเคียงข้าง ไม่เป็นไร
     " ใจฉันมันยิ้มได้เสมอ...หากเธอมีความสุข"

...เธอคงจำไม่ได้  วันที่เราเจอกันครั้งแรก วันที่เดินสวนกันวันนั้น...ฉันมองด้านหลังเธออย่างมีความหวัง หวังว่าเธอจะหันมองกลับมาบ้าง แม้ไม่ได้มองฉันก็ได้ ขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอ

ฉันรู้หัวใจของเธอ- ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นหรอก

...แต่ในวันนี้...แม้ฉันอาจจะได้รู้จักเธอในฐานะเพื่อน
ในวันที่ทางของเธอสวนทางกันกับฉัน เวลาที่สำหรับทักทายกัน อาจเหลือเพียงแค่การพยักหน้า และยิ้มให้
ต่อให้ฉันรู้สึกกับเธอเพียงใด สิ่งที่ฉันทำได้คือยิ้มให้ และเดินสวนเธอไป เหมือนไม่มีความหมาย เหมือนไม่เคยรู้สึกอะไรกับเธอเท่านั้นเอง 

วันนั้น...ฉันยังจำได้ไม่เคยลืม...
รอยยิ้มของเธอวันนั้น รู้ทั้งรู้ว่ามันบังเอิญ แต่รู้ไหม... มันทำให้ใจฉันมันยิ้มไปด้วย
เธอทำให้ฉันยิ้ม....แต่ฉันฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่า...เธอมีตัวตนอยู่ในใจฉันมาเนิ่นนาน 
	ฉันรู้แต่เพียงว่า เธอแอบอยู่ในนั้นมานานแล้ว สิ่งนี้สินะ ที่เขาเรียกว่าแอบรัก

ฉันมีความสุขนะ...ที่ได้แอบรักเธอ
...ความสุขเล็ก ๆ อย่างนี้ ...ฉันคิดว่าจะจดจำมันไว้ดีกว่า  ฉันมีความสุขของฉันคนเดียว มี่ได้ แอบรักเธอ....				
12 กันยายน 2548 17:35 น.

รู้ตัวดี...ว่ามีไม่พอ

นายหมึกซึม

...หลายครั้งของความรู้สึก ที่ยังมีความรักยังวนเวียนอยู่ไม่ห่างกาย  นานแล้ว...
นานแล้ว...ที่ได้รู้จักเธอ มันอาจจะเป็นเวลายาวนานที่รวดเร็วที่สุด ที่ได้รู้จักความรัก ในมุมมองหนึ่ง...กับความเงียบเหงาที่ตัวฉันมี  ของคำว่า " แอบรัก "
ถ้าใครไม่เคยรู้จักคำนี้ ก็คงจะไม่รู้ถึงความผิดหวัง
คงจะไม่แคร์ใคร คงจะไม่รู้สึกท้อ  คงจะไม่รู้ค่าของการเฝ้ารอ อาจจะเป็นอย่างนั้น เธออาจจะเฟอร์เฟก เกินไปก็ได้

เธอจะรู้ไหม ว่ามีคนไม่กี่คนที่มีโอกาสรู้จักกัน เธอกับฉันก็อาจจะเป็นอย่างนั้น แต่โอกาสที่ฉันมี จะเรียกว่าแทบไม่มีเลยก็ได้นั้น ฉันอยากจะพูดคุยกับเธอ อยากจะไปทักเธอ แต่ก็ไม่รู้เป็นอย่างไร มันก็ไม่กล้า ความมั่นใจที่เคยมี มันหายไปไหนหมด
...บางครั้งก็เห็นเธอเดินกับชายอื่น เล่นกับชายอื่น ก็รู้สึกหึง แต่เราก็ไม่มีสิทธิ์ เราบังคับการกระทำ บังคับใจใครไม่ได้
แต่ในอีกอารมภ์ ก็เจ็บใจลึกๆ ว่าทำไม เราทำอย่างเขาไม่ได้ เล่นกับเขาอย่างนี้ไม่ได้เลยเหรอไง ทั้งทั้งที่เราก็มีโอกาส มากกว่าเขาเสียอีก

หรือเป็นเพราะเราที่ไม่กล้าเอง ไม่ยอมทักเขาก่อน ไม่ยอกพูดกับเขา เล่นกับเขา

หรือเป็นเพราะเราไม่รู้ว่าเขา มีคนอื่นอยู่แล้ว ก่อนที่จะรู้จักเรา

หรือเป็นเพราะเขาคนนั้น เรียนก็เก่ง เล่นกีฬาก็ได้ ความสามารถรอบตัว แล้วยังหล่ออีกด้วย 
(ก็คือเหมาะกับเธอแหละ)

หรือเป็นเพราะเธอ เพียงแค่อยากหลอกใจเราเล่น ปั่นหัวไปวันวัน สนุกไปวันวัน
อาจจะเป็นอย่างนั้น
หรือ.....คงเพราะว่าเรา " ยังไม่รู้ตัวดี ว่ามีไม่พอ "..				
15 สิงหาคม 2548 16:21 น.

แค่ได้รู้จักกัน...ฉันก็ดีใจแล้ว

นายหมึกซึม

เคยคิดไหม...

มีคนเป็นร้อยเป็นล้านคนบนโลก ที่ยังคงดำเนินชีวิตอยู่ 
บางคนไม่มีแม้โอกาสที่จะมองหน้ากัน มองแววตา ที่แต่ละคนมี 
 ไม่มีเลย...
ที่จะคิดเพียงว่า คนที่เดินผ่านหน้าเราไป เป็นใคร

น้อยคนนัก ที่จะได้รู้จักกัน
ฉันกับเธอก็เช่นกัน...

ฉันอาจจะไม่ใช่คนแรกในชีวิต ที่ได้รู้จักกับเธอ  แต่เธอจะรู้ไหมว่า ฉันดีใจเพียงไหน ที่ได้รู้จักเธอ
มันอาจจะเป็นเพียง ช่วงเวลาอันสั้น ที่วิถีโคจรของเรามาพบกัน
อาจจะทำให้เรารู้จักกันเพียง เสียวนาทีของการดำเนินชีวิต เสียวนาทีแห่งความฝัน ความหวัง

มันอาจจะเร็ว เกินกว่าที่สิ่งที่เรียกว่าความรัก มันจะก่อเกิด

แต่หารู้ไม่...ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย คิดแต่เพียงว่า
" คงเป็นโชคดีของใครคนนึง ที่ได้พบกับความสุขที่เขาต้องการ ที่เขาตามหา ทำให้คนที่ขี้เหงาคนนึง ได้มี ในสิ่งที่เขาเรียกกันว่าความสุข "

อาจจะไม่เคยเอ่ยไป แต่ยังไง ฉันก็ได็รู้จักเธอแล้ว ฉันพอใจแล้ว... 
				
26 กรกฎาคม 2548 16:00 น.

นาฬิกาทราย & น้ำแข็ง

นายหมึกซึม

นานมาแล้ว โลกเป็นเพียงวัตถุทรงกลมเรียบๆเปล่าๆ 
ไม่มีอะไรอยู่เลยนอกจากน้ำแข็งก้อนใหญ่กับนาฬิกาทรายเรือนยักษ์ที่มีปลายเปิดสามารถปล่อยทรายออกได้อย่างเดียว 
น้ำแข็งกับนาฬิกาทรายเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เล็ก ร่วมทุกข์ร่วมสุข 

จนทั้งคู่เติบใหญ่เข้าสู่วัยหนุ่มสาว ความงดงามของน้ำแข็ง 
ทำให้นาฬิกาทรายแอบชื่นชมหลงใหล 

แต่ทุกครั้งที่พยายามแสดงความสนิทสนมใกล้ชิด 
ความเย็นชาจากน้ำแข็งก็ทำให้นาฬิกาทรายต้องผิดหวังทุกทีไป 

วันหนึ่งนาฬิกาทรายทะเลาะกับน้ำแข็งอย่างรุนแรงถึงขั้นแตกหัก 
นาฬิกาทรายร้องไห้เสียใจหนีไปอยู่อีกซีกโลกหนึ่ง 

เวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่านาฬิกาทรายกับน้ำแข็งก็ยังไม่คืนดีกัน 
ต่างคนต่างอยู่คนละซีกโลก จนมาวันหนึ่งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 
ทำให้โลกจะต้องแตกออกเป็นสองส่วน 

น้ำแข็งรู้ดีว่าถ้าโลกแตกเป็นสองส่วนแล้ว 
ก็คงไม่ได้เจอกับนาฬิกาทรายตลอดกาล แต่ด้วยทิฐิที่มีอยู่ 
น้ำแข็งจึงเลือกที่จะอยู่นิ่งๆแทนที่จะออกตามหานาฬิกาทราย 
ดวงจันทร์โคจรผ่านมา 

น้ำแข็งจึงถามว่าอีกซีกโลกเป็นอย่างไรบ้าง 
ดวงจันทร์บอกว่า 
นาฬิกาทรายกลับมาไม่ทันเพราะโลกกำลังจะแยก จึงปล่อยทรายออกมาปกคลุมรอยแตกของโลก 
เพื่อยึดไว้ไม่ให้แยกออกจากกัน โดยหวังว่าจะได้กลับมาพบน้ำแข็งอีก 

ทันทีที่รู้ 
น้ำแข็งก็รีบออกตามหานาฬิกาทราย........ 

สายเกินไป ทรายกำลังจะหมดจากตัวนาฬิกาแล้ว 
เมื่อน้ำแข็งมาถึงก็ได้ยินเพียงคำพูดสุดท้ายจากปากของนาฬิกาทราย "ฉันรักเธอ" 

ความเย็นชาที่มีในตัวน้ำแข็งหมดลงทันที น้ำแข็งเม็ดสุดท้ายร่วงลงสู่พื้นดิน 

กลายเป็นน้ำทะเลที่อ่อนโยน โอบอุ้มผืนทรายที่บริสุทธิ์ อยู่คู่กันมาจนทุกวันนี้				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนายหมึกซึม
Lovings  นายหมึกซึม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนายหมึกซึม
Lovings  นายหมึกซึม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนายหมึกซึม
Lovings  นายหมึกซึม เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนายหมึกซึม