13 มีนาคม 2553 00:20 น.

เวลากับใจฉัน

นาราวดี ณ ศรีกาญจน์

ต้องลาแล้วแก้วตาเอ๋ย
จำละเลยจากเจ้าไปตามใจฝัน
แม้ว่าเราแสนจะรักและผูกพันธ์
แต่เวลานั้นไม่เป็นใจให้สักที
อยากจะบอกเจ้าว่ารักก็ไม่กล้า
ได้แต่สบตาเจ้าโฉมศรี
แสนโศกาอาลัยดวงฤดี
ที่พี่นี้ได้แต่รักสุดหักใจ
จะบอกเจ้าด้วยวจีนี้สักครั้ง
ให้เจ้ารู้ว่ารักพี่นั้นอสงไขย
จะนานตราบฟ้าสิ้นดินลับไป
รักพี่ยังอยู่ในแดนโลกา
หากเกิดมาชาติหน้ามีพี่ขอรัก
ผูกสมัครรักมั่นกันชั่วฟ้า
แต่ชาตินี้สุดฝืนดวงชะตา
ได้แค่รักก็สุขอุราเท่านี้พอ

       ให้เขาคนนั้นที่ทำให้มีความสุขแม้ชาตินี้ความสรักของเราจะเป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้สึกดีแต่เวลาและความไม่กล้าที่จะบอกว่ารักเลยทำให้เราต้องไกล
แต่ก็ดีนะเพราะทำให้รู้ว่าเขาเองก็รักเราไม่ได้เพ้อไปฝ่ายเดียว
     นเรศ				
15 มกราคม 2553 00:11 น.

เปลวเทียน

นาราวดี ณ ศรีกาญจน์

เปลวเทียนน้อยคอยให้แสง
ด้วยความมุ่งมั่นอันร้อนแรง
เพื่อให้แสงส่องไปแม้วายชน
เทียนนั้นแม้ให้แสง
แต่ลมแรงและแดดฝน
เหมือนหนึ่งคือใจคน
ที่ต้องสู้ฝ่าฝันไป
ให้เป็นซึ่งคนดี
มีวิชาอันอำไพ
เลี้ยงตัวเจ้านั้นไซร้
เพื่อจะให้ได้งดงาม
แต่เทียนก็ลดลง
แม้แสงคงมีคุณค่า
ดั่งครูอาจาริยา
สอนศิษย์มาถึงฝั่งชน				
24 ธันวาคม 2552 03:01 น.

รับปีใหม่

นาราวดี ณ ศรีกาญจน์

อรุณฤกษ์เบิกฟ้างามยามปีใหม่
เสียงขันไก่ดังขึ้นแล้วไม่แคล้วฝัน
ถึงความสุขอันชื่นใจสารพัน
ที่สร้างสรรค์ให้มีแรงสู้ต่อไป
จะปีนี้ปีไหนก็อย่าให้ทุกข์
ยิ้มรับเอาความสนุกความสดใส
โรคร้ายห่างการงานดีมีแต่ชัย
รับปีใหม่ด้วยความสุขสนุกเทอญ

ใกล้ปีใหม่แล้วสินะ ปีหนึ่งช่างผ่านไปไวเสียเหลือเกินทั้งเรื่องงานเรื่องต่างๆ
ที่เข้ามาในชีวิต ก็ขอให้ผ่านไปได้เหมือนปีก่อนๆแล้วกันนะ				
7 ธันวาคม 2552 22:53 น.

ท่องไปในทุ่งกว้าง

นาราวดี ณ ศรีกาญจน์

ท้องฟ้า ณ ยามเย็น               แสงทองเด่นเป็นคุณค่า
ท้องทุ่งที่สุดตา                      งามนักหนาเมื่อได้ชม
ลมเย็นพัดมาเรื่อย            น้ำไหลเอื่ยอยดงามแสน
รวงข้าวทั่วทั้งแดน                 คล้อยตามไปในทันที
สุขใจในยามนี้                        ท้องทุ่งที่มีคุณค่า
เดินไปได้สบตา                       หมู่นกกาที่กลับรัง
เจื้อยแจ้ววะแว่วเสียง                ฟังสำเนียงที่มีพลัง
พรุ่งนี้ที่มีหวัง                             ยังมาเยือนเหมือนเตือนใจ
ฟ้ามืดสลัวมา                          ดวงจันทราห็มาแทน
ท่องทุ่งทั่วทั้งแดน                  ขอลาเจ้าเท่านี้เอย

เป็นกลอนที่แต่งไปเรื่อย ตอนเดินทางพบเห็นแล้วเขียนเลย
ทำให้ไม่ได้คำนึงถึงสัมผัสระหว่างบท
มุ่งแต่เก็บบรรยายกาศผ่านเป็นตัวหนังสือ ตามที่ตาเห็น
ทุ่งข้าว ณ  บ้านปรังกาสี  อ.ทองผาภูมิ กาญจนบุรี
เป็นไร่ข้าวบนภูเขา  เห็นแล้วสวยดี				
6 ธันวาคม 2552 22:35 น.

รักพ่อมากเลยนะ

นาราวดี ณ ศรีกาญจน์

เวลาใดใจร้อนรนมีคนหนึ่ง
ที่ใจฉันนั้นคิดถึงอยู่เสมอ
ใครคนนั้นที่ฉันเคยพบเจอ
คือพ่อฉันที่รักเสมอและแสนดี
นานเท่าไรก็ห่วงใยไม่เคยห่าง
ยามอ้างว้างคือรอยยยิ้มที่สุขศรี
แม้หนาวเหน็บเจ็บกายอย่างไรมี
พ่อคนนี้ที่ห่วงฉันเสมอมา
ในยามนี้อยากให้พ่อได้รู้
ว่าฉันรักพ่ออยู่นะพ่อหนา
จะเอาบุญที่สรรค์สร้างมาบูชา
ให้พ่อจ๋ามีสุขทุกวันเลย
 
อยากบอกว่ารักพ่อเสมอ ไม่ว่าจะอย่างพ่อห่วงและทำทุกสิ่งได้แม้จะขัดกับความรู้สึกของพ่อเอง ในบางครั้งท้อนะแต่มีพ่อที่คอยให้กำลังใจถึงไม่พูดก็รู้ได้นะว่าพ่อรักมาก วันพ่อปีนี้ไม่ด้ายกราบพ่อเลยเศร้าใจจัง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนาราวดี ณ ศรีกาญจน์
Lovings  นาราวดี ณ ศรีกาญจน์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนาราวดี ณ ศรีกาญจน์
Lovings  นาราวดี ณ ศรีกาญจน์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนาราวดี ณ ศรีกาญจน์
Lovings  นาราวดี ณ ศรีกาญจน์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนาราวดี ณ ศรีกาญจน์