11 มิถุนายน 2555 02:31 น.

ก็เรารักกันนี่นา

นิทานก่อนนอน

ความเดิมตอนที่แล้ว

          เจ้าหญิงเดินรอนแรมมาจนถึงต้นไทรต้นใหญ่ต้นหนึ่ง มีใครมาสลักพรรณนาถึงผู้เป็นที่รักจับหัวใจ แล้วลงชื่อว่าเจ้าชาย ร่องรอยคราบน้ำตาและตัวอักษรที่เขียนสัมผัสได้ว่า เจ้าชาย ร้องไห้ หรีดหริ่งเรไรแถวนี้ก็ช่างเป็นใจร่ายส่งท่วงทำนองคล้องกับบรรยากาศเสียเหลือเกิน

                           ..........................................................


ต่อ

          เจ้าหญิงทรุดตัวและก้มลงมองมายังพื้น หยดน้ำใสๆก็ร่วงหล่น เมื่อต้องแสงจันทร์ จึงเกิดประกายวับวาวราวดั่งเพชรที่ยอแสง ไหลรินลงมา

          ความคับข้องใจที่เคยมีต่อเจ้าชาย บัดนี้ได้ถูกชะล้างลงไปหมดแล้ว เจ้าหญิงได้ทอดความรู้สึกจารึกลงเป็นตัวอักษรฝากลงบนผืนทรายที่ใต้ต้นไทรนั้น หวังเพียงว่า วันหน้าหากเรามิอาจได้พบเจอกัน อย่างน้อย ณ ที่แห่งนี้ก็จะเก็บความทรงจำดีๆของเราไว้ตลอดไป

                               แด่ เจ้าชาย ผู้เป็นที่รัก 

                                ขอโทษด้วย สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง

          ที่ทำให้ท่าน ต้องไม่สบายใจและเศร้าใจ เพราะข้า

          ซึ่งข้าไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเช่นนั้นเลย

          ขอสารภาพผิดที่แอบคิดว่าท่านทอดทิ้ง

          ด้วยอาจเพราะปมหลังความทรงจำที่ย่ำแย่ของข้า

          ที่ยังคงวนเวียนมาทุกชั่วขณะจิต

          จึงก่อเกิดเป็นความไม่เชื่อมั่นในความรัก

          ช่วงเวลาดีๆที่ผ่านมาระหว่างเรา ข้าจะจดจำไว้ในใจ

          และขอบคุณ ที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าขึ้นมาอีกครั้ง

          อนาคตข้ามิอาจรู้ได้ว่าจะเกิดสิ่งใดกับเราบ้าง

          จะได้เจอกันอีกหรือไม่

                               หากเจอแล้วจะรักกันอย่างเดิมอีกหรือเปล่า

          แต่ขอให้ท่านรับรู้ไว้ ว่าตราบนี้ ไปจนชั่วนิรันดร์

          ข้าจะมีท่านอยู่ในหัวใจตลอดไป



          ทุกถ้อยความปนเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา หยดน้ำใสๆก็ยังคงรินไหลไม่ได้หยุด 

          จู่ๆ ก็มีเงาร่างหนึ่ง ปรากฏออกมาจากหลังต้นไทรใหญ่ และหยุดยืนอยู่ตรงหน้า เจ้าหญิงก็มุ่งสายตาขึ้นมามอง

                                 เจ้าชาย 

                              ทั้งสองมองหน้ากันด้วยสายตาที่เหว่ว้าโหยหาและอาทร  หัวใจเต้นระรัว น้ำตารินหลั่งเกินกลั้นเก็บ ทุกสิ่งทุกอย่างไร้ความเคลื่อนไหว ยินเพียงเสียงหัวใจของคนทั้งสองเท่านั้น

          ไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้โผเข้ากอดกัน ทันใดนั้นก็มีนางฟ้าองค์หนึ่งปรากฏกายขึ้นตรงหน้า


                            นี่เป็นชะตาของฟ้า ที่ทำให้เจ้าทั้งสองได้มาพบกันอีกครั้ง แต่ด้วยเหตุที่เจ้ากระต่ายเป็นผู้ทำให้สายป่านคล้องมือแทนคำมั่นนั้นขาด  และด้วยเหตุที่เจ้าเต่ามิเชื่อมั่นในความรัก จึงขอสาปให้เจ้าทั้งสองเป็นเหมือนดังเส้นขนานที่ไม่มีวันได้บรรจบกัน เพียงได้เจอะเจอ ได้เห็นหน้า แต่มิอาจพูดจาหรืออยู่ใกล้กันได้อีก หากแม้ยิ่งพูดก็จะยิ่งห่างกันไปทุกที ทุกที หากแม้ยิ่งเข้ามาใกล้ก็จะต้องถูกผลักให้ไกลออกไปเหมือนดั่งแม่เหล็กที่ขั้วขนานเดียวกัน   นี่คือบทลงโทษของพวกเจ้าจงฟังและน้อมรับแต่โดยดีเถิด  จนกว่าจะมีปาฏิหาริย์

         แล้วนางฟ้าก็ได้เลือนหายไป

          ด้วยเพราะความคิดถึงสุดพรรณนา เจ้าชายลืมไปว่าเราจะเข้าใกล้กันไม่ได้ จึงวิ่งตรงมาหา ด้วยหวังเพียงอีกครั้งที่จะได้โอบโกดเจ้าหญิงผู้เป็นที่รัก แล้วทั้งสองก็ถูกผละให้กระเด็นออกไปคนละทิศทาง เจ้าชายจึงตะโกนเรียกหาเจ้าหญิง ทั้งสองก็ยิ่งถูกแยกให้อยู่ไกลออกไปอีก

          เจ้าหญิงร่ำพรรณนาว่า ได้โปรดหยุดเถิดเจ้าชายผู้เป็นที่รัก อย่าพยายามอีกต่อไปเลย อย่าทำให้เราต้องห่างไกลกันไปกว่านี้เลย อย่างน้อยเราก็น่าจะดีใจที่เราได้เจอกันแล้ว  แม้ไม่ได้อยู่ใกล้ดั่งที่หัวใจปรารถนา แม้ไม่ได้พูดจาก็โปรดอย่าหวั่นไหว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เราจะเข้าถึงกันได้ หัวใจของเรานั่นไงที่รัก เพียงแค่มองตาก็เข้าใจกันแล้วใช่ไหม (ก็เรารักกันนี่นา)



	             จะจบบริบูรณ์หรือจะรอปปาฏิหาริย์ดีหนอ				
8 มิถุนายน 2555 15:18 น.

เจ้าชาย ร้องไห้

นิทานก่อนนอน

กาลครั้งหนึ่งมีเจ้าหญิงTURTLE(เต่าผู้ต่ำต้อย) เฝ้าคิดว่าตัวเองมีปมด้อยเพราะต้วมเตี้ยมเชื่องช้าไม่ทันคน ไม่ทันโลก ชอบซุกตัวอยู่แต่ในกระดอง อยู่แต่กับตัวเองไม่ค่อยกล้าพบเจอใคร

          ส่วนเจ้าชายRABBIT(กระต่ายผู้ปราดเปรียวว่องไว) มีมนุษย์สัมพันธ์ชอบสังคมจึงมีหมู่มิตรมากมาย อยู่กับปราสาทใหญ่โตเพียบพร้อมแทบทุกอย่าง แต่โหยหารักแท้ จึงหนีออกมานอกปราสาท

          วันหนึ่ง ดั่งชะตาฟ้าที่สร้างให้ทั้งสองมาเจอะเจอ เมื่อหัวใจทั้งสองได้สัมผัสถึงอนุภาคแห่งห้วงคำนึง จึงบังเกิดเป็นความรักขึ้นในทันที สองเราสัญญาว่าจะไม่แยกจากกันไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แทนคำสัญญาเราใช้ต้นหญ้าริมทางมาพันเป็นเส้นด้ายสายป่าน คล้องมือของทั้งสองไว้ และเราจะจับมือกันไว้ตลอดไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะหลับหรือตื่น จนกว่าจะตายจากกัน

          เมื่อตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก ทุกอย่างก็ดูสดใสไปเสียหมด คิดว่าความแตกต่างระหว่างเราจะมิใช่อุปสรรคแต่อย่างใด หากแต่เราจะช่วยประคับประคองกันไป    เต่าผู้เชื่องช้าโดดเดี่ยวกับกระต่ายผู้ปราดเปรียวสังคม
 
          เราจูงมือกันเดินทางมาไกลแสนไกล เพราะเพียงแค่มีเรา อยู่ที่ไหนก็มีความสุข จุดหมายแห่งการเดินทางจึงไม่มี เพราะจุดหมายมันหยุดอยู่เพียงแค่เราแล้ว

          เจ้าหญิงผู้คิดว่าตัวเองโชคดีเหลือเกินที่ได้เจอกับความรักครั้งนี้และสัญญาว่าจะยึดมั่นทุ่มเททั้งหัวใจให้กับเจ้าชายแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น และยึดมั่นตลอดไป

          ด้วยความที่เจ้าชายมีมนุษย์สัมพันธ์และนิสัยที่ร่าเริงสนุกสนาน จึงมักกล่าวทักทายกับผู้คนที่พบเจอตลอดเส้นทางได้หมู่มิตรเพิ่มขึ้นมากมาย

          ด้วยความที่เจ้าหญิงชอบเก็บตัวและขี้อาย จึงไม่ค่อยได้พูดจากับใครเลย (แต่ก็ไม่เป็นไร มีเพียงเจ้าชายเท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน ก็เรารักกันนี่นา)

                          ด้วยความที่เจ้าชายปราดเปรียวว่องไว จึงมักจะกระโดดก้าวนำไปข้างหน้าก่อนเสมอแต่ก็จะหยุดรอ

          ด้วยความที่เจ้าหญิงต้วมเตี้ยมและเชื่องช้า เลยต้องใช้ความพยายามมากหน่อยเพื่อก้าวให้ทัน (แต่ก็ไม่เป็นไร ยังไงเจ้าชายก็ต้องรอ ก็เรารักกันนี่นา)

          ค่ำคืนวันหนึ่งขณะที่เราเดินจูงมือเดินกันไป พระจันทร์ช่างนวลผ่องสดใส ดั่งม่านหมอกสีฟ้าเข้มเฝ้าปกคลุมเป็นระเรื่ออยู่ทั่วผืนแผ่นดิน พระจันทร์ช่างกลมโตงดงามเสียเหลือเกิน เจ้าชายเอ่ยขึ้นว่า ข้าเคยฝันไว้สักวันจะไปถึงพระจันทร์ดวงนั้นให้จงได้ เราเดินข้ามเขาไปอีกสามลูก ก็จะถึงยอดเชาที่สูงที่สุด ที่อยู่ติดกับพระจันทร์นั่นแล้ว ไปกันเถอะนะที่รัก

          ได้สิจ๊ะคนดี เราจะไปด้วยกันนะ (ก็เรารักกันนี่นา) เจ้าหญิงเอ่ย

          เจ้าชายกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ จึงเผลอปล่อยมือเจ้าหญิงอีกครั้ง แน่นอนว่ามันไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเจ้าชายเผลอปล่อยมือเจ้าหญิงหลายต่อหลายครั้งแล้วในคราที่ทักทายใครต่อใครตลอดเส้นทาง แต่เจ้าหญิงก็พยายามมองข้ามไป (ไม่เป็นไร ก็เรารักกันนี่นา)

          เจ้าชายพยายามเร่งรีบอยากจะเดินไปหวังให้ถึงโดยเร็วไว เพราะหัวใจของเจ้าชายอยู่ตรงยอดเขานั่นแล้ว แต่กำลังของเจ้าหญิงพยายามเร่งรีบถึงที่สุดแล้วได้เท่านี้จริงๆ  ด้วยแรงดึงที่เร่งรีบของเจ้าชายต้านต่อแรงเฉื่อยของเจ้าหญิงจึงทำให้ด้ายสายป่านที่ถักทอจากต้นหญ้าของเราขาดลง เจ้าชายยังคงไม่รู้ตัว เจ้าหญิงก็ได้แต่ปลอบกับตัวเองอีกครั้งว่า (ไม่เป็นไร ก็เรารักกันนี่นา)

          อาจด้วยพระจันทร์กลมโตที่ยั่วยวน เจ้าชายเริ่มเดินเร็วขึ้นจนแทบวิ่ง ทำให้ระยะห่างระหว่างเรามากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เจ้าชายไม่รู้ตัวเลย

          เจ้าหญิงก็พยายามเร่งรีบตัวเองเพื่อจะเดินตามให้ทัน  แต่ดูจะยิ่งห่างออกไปทุกทีทุกที ครั้นจะตะโกนเรียกให้รอก็ไม่อยากทำลายความสุขของเจ้าชาย เลยพยายามเดินต่อไปเพื่อจะให้ทัน

          สุดท้ายภาพที่แทบเลือนรางของเจ้าชายก็จางหายไปกับความมืดนั้น  ตามไม่ทันเสียแล้ว  (นี่เราถูกทิ้งหรือเปล่า ไม่หรอก ก็เรารักกันนี่นา)

          เจ้าชายเดินทางมาได้พักใหญ่ และอาจนึกขึ้นได้ เลยหันมองกลับมาดู ไม่พบเจ้าหญิงเสียแล้วจึงตะโกนเรียกหา อาจเพราะเจ้าหญิงยังอยู่ไกลเลยไม่ตอบกลับมา ด้วยแหงนมองไปบนท้องฟ้าพระจันทร์นวลตายังรออยู่ไม่ไกลแล้ว เจ้าชายจึงมุ่งหน้าวิ่งไปตามลำแสงที่ยั่วยวนนั่น พอนึกขึ้นได้ที ก็หันมองกลับมา ตะโกนเรียกหาอีก แต่ก็ไร้วี่แววเสียงตอบ เป็นเช่นนี้ไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงเรียกจากเจ้าชายอีกเลย

          เจ้าหญิงซึ่งอยู่ข้างหลังได้ยินเสียงเจ้าชาย ก็พยายามส่งเสียงตอบทุกครั้ง แต่พลังของเสียงคงไปได้ไม่ไกลทั้งๆ ที่หัวใจก็พยายามเร่งรีบตามหา คงเหลือไว้เพียงเศษเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นคาบเกี่ยวกิ่งไม้อยู่เป็นระยะเสื้อผ้าของเจ้าชาย สิ่งนี้ที่ทำให้เจ้าหญิงยังตามมาถูกทางแต่ก็ยังไม่ทันอยู่ดี

          เสียงเรียกนั้นหายไป นานมากแล้ว นานพอที่จะทำให้หัวใจของเจ้าหญิงฟุ้งซ่านคิดไปต่างๆนานา เพราะช่วงหนึ่งราตรีของที่นี่ เทียบได้กับหนึ่งร้อยวันของมนุษย์เลยทีเดียว   นานพอที่จะคิดได้ไหม ว่าความรักของเรายังคงอยู่หรือเปล่า ทำไมเธอถึงปล่อยมือฉัน ทำไมเธอถึงทำให้สายป่านต้นหญ้า ที่คล้องมือของเราหลุดไป

          ตลอดเวลา เจ้าหญิงก็เฝ้ารอด้วยหวังให้เจ้าชายหวนกลับมาเพื่อจับมือเดินและก้าวเดินไปด้วยกันอีกครั้ง รอแล้วรอเล่า น้ำตาเริ่มไหล หัวใจเริ่มเอ่อ แต่ก็ยังเดินตามรอยของเจ้าชายต่อไป ระหว่างทางหรีดหริ่งเรไรก็มาส่งเสียงร้องเพลงบรรเลงแว่ว
 
          เพลง คนรักกัน ของ I-Zax เท่านั้นแลน้ำตาของเจ้าหญิงก็พร่างพรูไม่รู้จบ บทเพลงช่างทิ่มแทงหัวใจเสียยิ่งกระไร

          กี่วันกี่วันมาแล้วที่ไม่เจอ   กี่คืน ที่รอแต่เธอ แต่เธออยู่ไหน

          นี่เหรอ ที่เธอว่ารัก แล้วมันยังไง   เกิดอะไร มันเกิดอะไร

          คล้ายๆไม่รักกันจริง   หรือฉันมันคิดไปเอง   ไม่เข้าใจไม่มีวันเข้าใจ

          ก็คนที่รักกันเขาไม่ทำแบบนี้   ไม่หนีหน้าไปไม่ทำให้ใครต้องรอเก้อ

          คนที่เขารักกัน เขาต้องคิดถึงกันเสมอ   ต้องไม่ทิ้งอีกคนให้เพ้อคอย


          คล้ายๆจะทิ้งกันไปหรือฉันมันคิดไปเอง   เจ็บไปเองเจ็บไปหมดทั้งหัวใจ

          ก็คนที่รักกันเขาไม่ทำแบบนี้   ไม่หนีหน้าไปไม่ทำให้ใครต้องรอเก้อ

          คนที่เขารักกัน เขาต้องคิดถึงกันเสมอ  ต้องไม่ทำร้ายหัวใจคนรักกัน


                         แม้เจ้าหญิงเริ่มจะหมดแรงเดินแต่ก็ยังพยายามรุดเดินต่อไป อย่างน้อยก็ดีใจทุกครั้งที่ได้เจอร่องรอยเศษเสื้อผ้าของเจ้าชาย ให้รู้ว่าเจ้าชายยังคงอยู่ดีและยังก้าวเดินอยู่ข้างหน้านี่เอง

          เจ้าหญิงเดินข้ามภูเขามาสามลูกแล้วหากว่าเจ้าชายยังรออยู่ ณ ยอดเขาลูกนั้น เจ้าหญิงก็จะตามหากันจนเจอ
 
          เจ้าหญิงเดินรอนแรมมาจนถึงต้นไทรต้นใหญ่ต้นหนึ่ง มีใครมาสลักพรรณนาถึงผู้เป็นที่รักจับหัวใจ แล้วลงชื่อว่าเจ้าชาย ร่องรอยคราบน้ำตาและตัวอักษรที่เขียนสัมผัสได้ว่า เจ้าชาย ร้องไห้ หรีดหริ่งเรไรแถวนี้ก็ช่างเป็นใจร่ายส่งท่วงทำนองคล้องกับบรรยากาศเสียเหลือเกิน

               บทสรุปสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร มิอาจรู้ได้เพราะยังมาไม่ถึง แต่ที่แน่ๆ ก็ขอบคุณนะหัวใจ ที่ยังไม่ลืมกัน    ขอบคุณนะ เจ้าชาย
			
                                                                      จบอย่างไม่บริบูรณ์				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนิทานก่อนนอน
Lovings  นิทานก่อนนอน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนิทานก่อนนอน
Lovings  นิทานก่อนนอน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนิทานก่อนนอน
Lovings  นิทานก่อนนอน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนิทานก่อนนอน