27 มีนาคม 2552 09:26 น.

สายลมแห่งฤดูกาล

บพิตร

สายลมร้อนโบกสะบัดพัดไอแดด
มาเผาแผดโลกหล้าล้าระโหย
ไม้หญ้าแห้งทิ้งเงาเฉาราโรย
ที่โบกโบยคือร้อนรุ่มที่สุมทับ

ลมฝนฉ่ำนำพามาไอชุ่ม
เมฆเกาะกลุ่มคลุมฟ้ามากำกับ
หล่นทิ้งสายน้ำฟ้าระยิบยับ
ลมฝนขับไอร้อนก็ผ่อนคลาย

ลมหนาวมาพาหมอกหยอกน้ำค้าง
อยู่พราวพร่างราวม่านสานเส้นสาย
เพียงแผ่วพลิ้วฉิวผ่านซ่านใจกาย
ยามเดียวดายให้เปลี่ยวเหงาคราหนาวเยือน

แท้ลมไร้ร้อนเย็นไม่เห็นหนาว
คงพัดพราวตามเวลาที่คลาเคลื่อน
ฤดูกาลผ่านผันตามวันเดือน
ราศีเลื่อนเปลี่ยนไปใช่สายลม				
27 มีนาคม 2552 08:48 น.

คนเสื้อแดง!

บพิตร

คนเสื้อแดงหลายหมื่นดังคลื่นไหล
ต่างร่วมจิตร่วมใจให้เป็นหนึ่ง
มีสิ่งใดเล่าหนามาฉุดดึง
หรือซาบซึ้งรักใคร่ผู้ใดกัน ?

ทั้งชายหญิงเด็กผู้ใหญ่ไปพร้อมหน้า
แม้ลมฝนแดดจ้าหาหวาดหวั่น
เสียงร้องเพลงปรบมือสื่อสัมพันธ์
ยามสะใจชูกำปั้นสั่นสะเทือน

เสียงฮือฮาดีใจยามได้เห็น
คนที่เป็นดาวในใจได้เชือดเฉือน
ใช้ชั้นเชิงต่อสู้ผู้มาเยือน
คอยขับเคลื่อนรุกรับประทับใจ

สวมเสื้อแดงพร้อมพรักเพราะสายเลือด
วันแดงเดือด ศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่
เชียร์ทีมรัก หงส์ หรือ ผี จะมีชัย
ต่างกันใย หงส์ หรือ ผี ก็ สีแดง!				
26 มีนาคม 2552 15:33 น.

เจ้าป่า !

บพิตร

เจ้าป่าผู้เจ็บหนัก
ถูกชนักปักเจียนตาย
ซมซานตะเกียกกาย
หาแหล่งหลบซบซ่อนบัง

ศักดิ์ศรีที่ค้ำคอ
ยังเกิดก่อรอความหวัง
หยเจ็บจะยืนยัง
เป็นเจ้าป่าสักคราคืน

ซ่อนกายในพงลึก
ยังผนึกรวมแรงฝืน
คำรามเสียงครางครืน
ให้ก้องป่าว่ามีแรง

น้อยใหญ่ให้หวาดหวั่น
ด้วยเสียงนั้นเคยสำแดง
เจ้าป่าผู้กล้าแกร่ง
ไม่เห็นตัวก็กลัวเกรง

พรานไพรให้กระหยิ่ม
นั่งอมยิ้มใจครื้นเครง
เจ็บหนักยังอวดเก่ง
จึงเร็วเร่งตามเสียงไป

เจ้าป่าถึงจุดจบ
ต้องสยบมือพรานไพร
ด้วยเสียงผู้เกรียงไกร
หลงอำนาจขาดไตร่ตรอง.				
25 มีนาคม 2552 08:00 น.

ไอร้อนที่อบอุ่น

บพิตร

กลับมาเยี่ยมเยือนถิ่นดินราบสูง
ยังคละคลุ้งฝุ่นผงเป็นดงแล้ง
ยังระริกเพลิงแดดคงแผดแรง
ยังเหือดแห้งเหี่ยวเฉาทุกราวไพร

หญ้ายังกรอบกอดดินอย่างสิ้นหวัง
นกน้อยยังเกาะกิ่งแห้งหมดแรงไหว
ลมร้อนโบกระรอกร้อนระรานไกว
ร้อนพาร้อนหมดหวังได้ซึ่งไอเย็น

จะร้อนดินร้อนแดดที่แผดเผา
ที่คลุกเคล้าตอกย้ำความทุกข์เข็ญ
ถิ่นกันดารคนหาญกล้าฝ่าลำเค็ญ
ไม่หลบเร้นหลีกถิ่นดินเกิดกาย

พ่อแม่ญาติลงหลักปักถิ่นฐาน
นานแสนนานเนิ่นนักที่ปักหมาย
กี่ผู้คนเกิดแก่จนเจ็บตาย
กลางผืนทรายกลบหน้าอย่างท้าทน

คราวจากบ้านครั้งนั้นเมื่อวันก่อน
คำพ่อสอนฝังใจไม่สับสน
เกิดที่ไหนอย่าทะนงหลงลืมตน
ค่าของคนคือตอบแทนคุณแผ่นดิน

ที่ราบสูงแล้งร้อนห่อนสะทก
ดั่งกระจกสะท้อนเงาเคล้าไอกลิ่น
ความร่มเย็นอบอุ่นกรุ่นจิตจินต์
มิเคยสิ้นไอรักจากผืนทราย.				
12 มีนาคม 2552 15:44 น.

เล่าขานผ่านฮีตฮอย

บพิตร

ฮีตเก่าฮอยหลังครั้งอดีต
เป็นจารีตประเพณีที่สืบสาน
บรรพชนศึกษามาเนิ่นนาน
ถึงลูกหลานสานทอต่อสายใย

งานฝีมือ งานช่าง ทั้งงานศิลป์
คู่แผ่นดินล้านนาค่ายิ่งใหญ่
หัตถกรรมสร้างชื่อเลื่องลือไกล
สร้างสรรค์ไว้ภูมิปัญญาค่าแห่งตน

งานแต่งแต้มก่อปั้นวรรณกรรม
ช่างฟ้อนรำขับขานผ่านฝึกฝน
ศิลป์ส่องทางเอกลักษณ์ประจักษ์กมล
ผลิตผลแห่งความคิดจิตวิญญาณ

จากพ่อครูแม่ครูสู่รุ่นหลัง
จากพลังขุมปัญญามหาศาล
จากสองมือถักทอก่อผลงาน
สู่ลูกหลานมรดกตกทอดมา

อนุชนสืบสานผ่านดวงจิต
คือชีวิตความภูมิใจในคุณค่า
สิ่งเก่าเก่าเล่าขานผ่านเวลา
คือศรัทธาคือศักดิ์ศรีวิถีชน

ความงดงามพื้นบ้านผ่านฮีตฮอย
ที่ถักร้อยความสุขทุกแห่งหน
งามงานศิลป์งานช่างดั่งมีมนต์
นำผู้คนสู่สัมพันธ์มั่นไมตรี.				
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงบพิตร