..."สำหรับคำประณาม และหยามเหยียด"... ขออนุญาตชี้แจง

หมึกมรกต

...ก่อนที่จะตัดสินอะไรกรุณาอ่านให้จบเสียก่อน
จากกระทู้ที่หมึกมรกตได้ตั้งไปนั้น มีความคิดเห็นของเพื่อน Thaipoem แตกต่างกันไป 
ความคิดเห็นเหล่านี้เป็นต้นว่า
1.เอ้า...ท่านนักปราชญ์
ไม่ทราบว่าบทที่ไหนเขาบัญญัติไว้
เขากลอนคืองานศิลป์แขนงนึง มิได้เขียนรายงานการประชุม หรือเขียนใบสั่งยา
จะต้องแม่นทุกอย่าง 
เชิญท่านร่ายกวีไร้จิตวิญญาณต่อไปเถิด 
พระรอง 28 พ.ค. 48 - 21:06 
2.ความคืดจิตใจคับแคบ และ ถือตนเป็นอัตตา
ไม่น่าจะเข้ามาในวงวรรณกรรมให้หมองมัว 
กบในกะลา 31 พ.ค. 48 - 11:34 
กระทบจิตใจของหมึกมรกตเป็นอย่างมาก
ทั้งที่จริง...หมึกมรกตต้องการสื่อเพียงแต่เหตุผลที่คนไม่ชอบอ่านกลอน
หมึกมรกต รับฟังและยอมรับในความคิดเห็นของคนอื่นเสมอ
แต่รับไม่ได้ ที่มีคนด่าทออย่างไร้เหตุผล
มิหนำซ้ำบทกลอนนี้....
กลอนเก้าคำจำไว้ด้อยไพเราะ
เขียนให้เหมาะแปดคำเพชรน้ำหนึ่ง 
แต่ละวรรคหนักแน่นดุจแกนกลึง
กลอนจะซึ้งติดใจและให้คุณ
คำสุดท้ายวรรคแรกแยกพิเศษ
สามัญเขตหวงห้ามตามเกื้อหนุน 
ท้ายวรรคสองต้องรู้อยู่เป็นทุน
เอก-โทจุนจัต-วาประพนธ์
ท้ายวรรคสามวรรคสี่นี้จำมั่น
เสียงสามัญ-ตรีใช้ได้ทุกหน
สัมผัสซ้ำจำจดงดปะปน 
จงคิดค้นถ้อยคำที่จำเป็น
ไม้ไต่คู้ใช้กับไม้ไต่คู้
เมื่อฟังดูเด่นดีทั่งที่เห็น
เสียงสั้นยาวก้าวก่ายหลายประเด็น 
อย่าบำเพ็ญพ้องกันนิรันดร 
อย่าเขียนให้ใจความตามเพ้อนึก
จงตรองตรึกตระหนักเรื่องอักษร 
คติธรรมนำใส่ให้สังวร
รวมสุนทรถ้อยไว้ให้งดงาม 
จุดจบก็ขอให้กินใจหน่อย 
มิควรปล่อยเปะปะเหมือนสะหนาม
จบให้เด่นเห็นชัดจำกัดความ 
ให้ตรงตามเค้าโครงเรื่องโยงใย 
เขียนเสร็จสรรพกลับมาตรวจตราผิด
ตรวจชนิดเรียงตัวทั่วกันใหม่ 
เมื่อเห็นเพราะเหมาะดีจี้หัวใจ
จึงเผยให้ประชาชนตราตรึง
กลอนเก้าคำจำไว้ด้อยไพเราะ 
เขียนให้เหมาะแปดคำเพชรน้ำหนึ่ง 
แต่ละวรรคหนักแน่นดุจแกนกลึง
ผู้อ่านจึงจะชอบชมขอบคุณ...
เป็นงานประพันธ์ของ ส.เชื้อหอมนักกลอนพระราชทาน(เนื่องจากเคยนำเสนอไปแล้ว จึงไม่ได้เขียนชื่ออีก)
หมึกมรกตคงมิกล้าบัญญัติอะไรมาให้คนอื่นทำตาม เพราะรู้ความสามารถของตัวเองเอง
หากใครด่าว่าบทกลอนดังกล่าว ก็มิเหมือนหมิ่นพระมหากษัตริย์เลยฤา

ส่วนกลอนบทนี้หมึกมรกตแต่งเอง
โอ้ชีวิตมนุษย์สุดแสนสั้น
ศิลปะเท่านั้นจีรังไม่จางหาย
อนันตกาลกว่าสิ้นชีวินวาย
งามเฉิดฉายยงอยู่คู่ขวัญกัลป์
เสกสรรค์สร้างสร่างโศกโลกมนุษย์
ให้วิสุทธิ์สันต์ยิ่งทุกสิ่งสรรพ์
สวยด้วยศิลป์สูงค่าสารพัน
คลายจาบัลย์ด้วยลักษณ์อักษรไทย
เธอ...วรรณกวีผู้วิศิษฏ์
จงนิรมิตมนต์กลอนอันอ่อนไหว
เสนาะสวรรค์จรดหล้าละมุนละไม
เลิศวิไลสมสยามนามอมร
มโนมัยลอยลิ่วปลิวฟ้า
ไหวลีลาหลากหลายลายอักษร
ผจงถ้อยร้อยถักสลักกลอน
ให้สุนทรสุนทรีย์ชูชีวัน
น้ำรุ้งร่วงโรยราวพราวโปรยเพชร
ดั่งกลเม็ดพริ้งเพริศอย่างเฉิดฉัน
รวมความงามความหมายไว้ด้วยกัน
เลอเลิศสรรพ์กุศลศิลป์กินใจเมือง
ปณิธานจารไว้ให้จำจด
เพื่อหยาดหยดความงามตามต่อเนื่อง
อ่อนละลวยพวยพุ่งสู่รุ่งเรือง
ให้ฟูเฟื่องอมตะอกาลิโกฯ
ขอย้ำอีกครั้งว่า ที่หมึกมรกตต้องการสื่อ คือ
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีคนจำนวนน้อยที่ชอบอ่านและเขียนกลอน ซึ่งหมึกมรกตเกรงว่าต่อไปอาจจะไม่มีใครสืบสาน
มรดกอันล้ำค่านี้ของคนไทยไว้อีกต่อไป จึงแสดงเหตุผลว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงไม่ชอบกลอน นักกลอนบางท่านให้ความเห็นว่า ก็ช่างปะไร ใครเป็นนักกลอนก็ควรสืบสานไป คนที่เขาไม่ชอบเพราะเขาไม่เข้าใจกลอน แต่งกลอนไม่เป็นต่างหากเล่า การคิดเช่นนี้หมึกมรกตเห็นว่า หากไม่มีการปลูกฝังให้คนชอบที่จะอ่าน ย่อมยากที่ชอบแต่ง เพราะหมึกมรกตก็เริ่มมาจากชอบอ่านกลอนก่อน จึงคิดที่จะแต่งกลอน และหากต่อไปไม่มีใครหันมาอ่านกลอนโดยเฉพาะเยาวชนรุ่นใหม่ แล้วต่อไปจะมีใครคิดจะแต่งกลอนเล่า 
หมึกมรกตจึงเสนอเหตุผลว่าทำไม เพื่อให้นักกลอนอย่างเราๆเขียนกลอนให้คนอยากอ่านมากขึ้น เพื่อจะได้มีคนชอบแต่งมากขึ้น และนั่นย่อมเป็นการสืบสานอีกทางหนึ่ง
ในความคิดของหมึกมรกตก็ชอบความหลากหลายของกลอนเช่นเดียวกัน แต่ที่หยิบยกบทกลอนนี้ขึ้นมาเพราะได้เขียนถึงหลักการแต่งกลอนไว้หลากหลาย โดยคุณไม่ต้องยึดทั้งหมด สิ่งไหนเห็นว่าดีจึงนำไปปรับใช้ เพื่อที่จะสื่อให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของตัวคุณ
 ด้วยความเคารพ
     หมึกมรกต
Thaipoem membe				
comments powered by Disqus
  • หมึกมรกต

    31 พฤษภาคม 2548 20:10 น. - comment id 10862

    เคยเสียความรู้สึกจากการเข้ามาต่อว่าในตอนแรกๆที่หมึกมรกตเป็นสมาชิก ถึงกับทำให้หมึกมรกต นอนไม่หลับ และอยากหนีไปให้ไกลบ้านหลังนี้ ทว่าในไมตรีจิตของพี่น้องชาวไทยโพเอ็มและเจ้าของบ้านทำให้หมึกมรกตมีกำลังใจอีกครั้ง จึงได้ตั้งปณิธานไว้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามก็มิสามารถจะหยุดยั้งการสืบสานวรรณศิลป์ของนักลอนนาม หมึกมรกตลงได้ 
    
    ขอบคุณในไมตรีจิตของสมาชิกบ้านเรือนไทยหลังนี้มากๆครับ
    
    ..............................
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    31 พฤษภาคม 2548 20:34 น. - comment id 10863

    ผมขอโทษหากคำให้เคือง
  • rain..

    31 พฤษภาคม 2548 21:09 น. - comment id 10864

    ..  เรนเป็นกำลังใจ..  ให้พี่ชายดอย..นะคะ..
    66.gif..
    
       ...
  • rain..

    31 พฤษภาคม 2548 21:12 น. - comment id 10865

    ..แป๊ปเดี๋ยว .. ขอเรนกลับไปอ่าน..
     กระทู้เดิม.. ของพี่ชายก่อนนะคะ ..50.gif..
    
          ยิ้ม..ให้เรน..ดิคะ ..พี่ชาย..1.gif..
  • กบในกะลา

    31 พฤษภาคม 2548 22:12 น. - comment id 10866

    กลอนนั้นเขียนออกมาใจ มันดูแล้วใสซื่อ
    ผู้อ่านสัมผัสได้ด้วยความสุข แต่กลอนที่
    ถูกแต่งออกมาอย่างเสแสร้งแกล้งโอ้อวด
    มันย่อมอ่านแล้วขุ่นมัวไม่ใสสะอาด
    อายุยังน้อยควรฝึกฝนจริงใจให้สะอาดกว่า
    นี้ แล้วกลอนจะออกมาสวยดังใจ
    เลิกยึดถืออัตตาแล้วหันมาดูยอดฝีมือที่คืน
    สูสามัญเช่นคุณอมิตตา คุณดอกแก้ว หรือ
    คุณพุด และอีกหลายแล้ว แล้วคุณจะรู้ว่าที่
    เรียกว่ากลอนที่ดีเป็นอย่างไร ยังไม่สายถ้า
    คิดจะพัฒนาให้ฝีมือทัดเทียมยอดฝีมือ คน
    ที่เอ๋ยชื่อมานี้นอกจากเขียนกลอนออกมาให้คนอื่นชื่นชม และยังมีน้ำใจให้ผู้อื่นเสมอต้น
    เสมอปลาย ไม่คิดเอาแต่ได้อย่างเดียว
    
    เหนือฟ้ายังมีฟ้า ยอดฝีมือที่แต่งออกมาเพราะ
    เขาต้องการเข้าไปกลืนกับเหล่าชนให้เป็นชั้น
    เดียวกันเพื่อเป็นการจรรโลงให้เด็กใหม่ได้สุข
    ใจกับการได้เข้าร่วมกับขบวนการไม่ใช่ยกตน
    ข่มท่านเหมือนอย่างคุณ คนที่เอ๋ยฃื่อมานั้นทุก
    ท่านแต่งได้ดีกว่าคุณทั้งนั้นเพราะเขาแต่งออก
    มาด้วยวิญญาน แต่เขาไม่ทำเพราะเขาไม่ต้อง
    การแยกกลุ่มออกจากคน ไม่คิดไปว่าใครให้
    ได้อายจนหนีออกไปจากวงการ
    
    สอนให้แค่นี้คงสำนึกได้
  • พี่พุด

    31 พฤษภาคม 2548 22:28 น. - comment id 10867

    พี่พุดนะคะคนดี
    ก่อนอื่นอยากให้น้อง
    ใช้ใจดวงงามใช้สติและนิ่งกับทุกคำชมหรือคำวิจารณ์นะคะ
    พี่พุด อยากให้เปลี่ยนหัวข้อกระทู้เสียใหม่ว่า
    
    *ขอชึ้แจงความไม่เข้าใจตรงกัน..*ที่ต่างจิตต่างใจต่างเหตุผล..กัน จะรู้สึกดีกว่านะคะคนดี
    
    36.gif
    จริงๆนานๆทีที่พี่พุด
    จะก้าวเข้ามาแสดงความคิดเห็น
    เพราะพี่พุด 
    คิดว่า 
    ทุกเรื่องราว
    หากเรามีเมตตาธรรม
    และใจเย็นๆ
    ค่อยๆพูดกันทำความเข้าใจกัน
    ทุกอย่าง
    จะไม่เหมือนสาดโหมไฟ.หากเพียรทำความไม่เข้าใจ..ให้เป็นการยอมรับว่า
    แง่มุมแห่งความคิดนั้น
    ไม่มีใครถูกผิด..ดอกค่ะ
    ในเรื่องบทกวี
    ที่แล้วแต่มุมมองและทัศนคติ
    
    36.gif
    สำหรับพี่พุด
    เข้าใจและรักน้องหมึกมากๆ
    พีพุดขอยืนอยู่ตรงกลางนะคะ
    และ
    จะขอแสดงสิทธิ์ในทัศนะ
    ของพี่พุดเพียงผู้เดียว
    พี่พุด
    เคยรับราชการ
    เป็นอาจารย์ภาษาไทย..
    ในโรงเรียนมีชื่อเสียงมาก่อน
    ที่จะเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ
    
    พีพุดรักภาษาไทยผูกพัน
    และจำต้องเรียนรู้
    ทุกวิชาการในยามนั้น
    เพื่อนำมาสอนนักเรียน
    ทั้งการอ่าน เขียนพูด 
    แม้นจริงๆพี่พุดไม่ถนัดบทร้อยกรอง
    เท่าร้อยแก้วค่ะ
    แต่จำต้องศึกษาอย่างลึกซึ้ง
    ซึ่งตอนนี้สมองพี่พุด ไม่จำไว้แล้วค่ะ
    ในบางเรื่องราวที่แสนมากมาย
    
    
    36.gif
    พี่พุด
    เชื่อมั่นศรัทธาในฉันทลักษณ์ของบทกวี
    มากค่ะ เพราะคือพื้นฐานแสนงามงด
    เหมือนวัฒนธรรมทางภาษาที่เราควรจักอนุรักษ์กันเอาไว้ 
    ถึงได้เกิดโคลง ฉันท์ กาพย์
    กลอน 
    และแตกแขนงแบ่งไปอีกหลายรูปแบบ
    เพื่อความงามแสนงาม ตามลักษณะภูมิปัญญาแห่งบรมกวีบรมครูที่คือนักปราชญ์อห่งชาติไทย ได้สู้เพียรค้นคว้าศึกษาค้นคว้าฝากไว้ให้เป็นมรดกลูกหลานไทย
    ได้มีเอกลักษณ์ไทยในเรื่องภาษาอันประมาณค่ามิได้
    ที่งามยิ่งกว่าเพชร คมยิ่งกว่าดาบเสียอีก
    หากรู้ค่าการนำมาร้อยเรียงสร้างสรรดี..ฝากพลีแด่ผองชนและผืนดินอย่างมีอุดมการณ์อุดมคติ
    และ
    หากใช้ผิดก็ มิสิทธิ์ฟาดฟันบั่นทำลายได้เฉกเช่นดาบสองคม
    ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ค่ะ
    
    36.gif
    พี่พุดเลยคิดว่า
    ฉันทลักษณ์ก็คือแม่แบบพิมพ์ที่แสนงาม
    และ
    ผู้นำมาใช้สามารถสอดประสาน
    ถักทอสร้อยอักษราได้ด้วยหัวใจ
    ใหยิ่งไสวแพรวพรายบรรเจิดแล้วแต่เราจะจรุงเจียรนัยในเหลี่ยมมุมไหน
    
    ให้ทันสมัยเข้ายุค
    รุกล้ำลึกเข้าไปให้ดำดื่มถึงก้นบึ้ง
    แห่งบึงจิตวิญญาณเพื่อนมนุษย์ได้
    เพื่อให้ก่อเกิดอัญมณีทางจิตวิญญาณ
    ให้คิดดีคิดได้ใช้ชีวิตในทางงดงามสร้างสรร
    และสามารถลบโลกแล้งไร้ให้เยือกเย็น
    
    ราวสายธารอักษราที่แสนเย็นฉ่ำ
    ฉะนั้น จึงควรอยุ่ตรงกลาง
    ตรงความพอดี คือยืดหยุ่น
    ใช้ทั้งแบบแผนแนทลักษณ์และหัวใจรจนา
    จะได้มิด้านชาแห้งแล้ง
    และเหมาะกับโลกที่กำลังต้องการการพัฒนา
    ให้ทันเหตุการณ์
    เสมือนหลวงพ่อพุทธทาสเพียรมาแต่งกลอนให้อ่านง่ายให้แง่งาม
    เพื่อหวังสอนใจในธรรมะเพื่อให้สัมผัสจิตวิญญาณเพือ่นมนุษย์ได้รวดเร็วกว่า
    ได้ดีกว่า..นะคะ
    
    36.gif
    พี่พุด ก็วนไปมา ลองตั้งใจอ่านนะคะ
    เพราะพีพุดมิได้กางเอาตำรามาตอบค่ะ
    ใช้หัวใจและความรักความรู้สึก
    ที่คิดว่าตัวเองคือ คนแห่งความเป็นกลางความพอดีที่ยึดถือความดีความงามให้ผสานผสมอย่างลงตัวค่ะ
    เลยราวกับยึดคำตรัสแห่งคำสอนพระบรมศาสดาเลยค่ะนะคะ
    36.gif
    เหนือยแล้วค่ะ แค่นี้นะคะ
    พี่พุดมาหวังเป็นน้ำใสใหลเย็น ดับร้อนใจทุกฝ่ายค่ะ คนดี
    36.gif
  • กบในกะลา

    31 พฤษภาคม 2548 22:32 น. - comment id 10868

    ที่จริงการชี้แจงคุณสามารถที่จะชี้แจงในบท
    กลอนตนเหตก็ได้ แต่คุณไม่ยอมทำ กลับ
    มาขึ้นกระทู้ใหม่ เพียงเพื่ออวดโอ้
    
    ผมยังยืนยันคำเดิมคือ คุณต้องกลับไปพัฒนา
    จิตใจให้สะอาด แล้วคุณจะกลับมาสู้บ้านไทย
    โพเอ็มของพวกเราได้อย่างสุขใจมากกว่านี้
    
    ลูกผู้ชายผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก กลอนที่คุณ
    เขียนหรือการกระทำของคุณ มันบ่งบอกถึง
    ความคับแคบในจิตใจของคุณ
    
    คุณหลอกใครก็ได้ แต่คุณคิดจะหลอกตัวคุณ
    เองได้หรือ ถามใจคุณดูก็จะรู้เอง
    
    61.gif
  • อัลมิตรา

    31 พฤษภาคม 2548 22:54 น. - comment id 10869

    เอ ..ศิษย์พี่เอางานเขียนเก่าของศิษย์พี่มาลงนะ ไม่ได้เขียนใหม่เพื่อปะทะคารม หรือสนับสนุนข้อความใคร .. 
    
    เอาเป็นว่า หากศิษย์น้องระคายใจ ศิษย์พี่ขอโทษด้วยนะคะ ที่แสดงความคิดเห็นเช่นนั้น
  • หมึกมรกต

    31 พฤษภาคม 2548 23:28 น. - comment id 10870

    คุณก่อพงษ์ครับ กระผมไม่โกรธดอกครับ เพราะทราบว่าทุกคนย่อมมีสิทธิ์ที่จะคิดวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นออกมา
    หากมีเหตุผล หาใช่การด่าว่า หมึกมรกตก็ไม่รู้จะเคืองคุณไปทำไม
    
    ขอบคุณน้องเรนมากครับ ที่มายิ้มให้พี่ชาย
    
    คุณกบในกะลา ขอตอบคุณทั้งหมดเลยนะครับ เนื่องจากกระทู้ที่ตั้งไปแล้วนั้น ไม่สามารถแก้ไขได้ หมึกมรกตจึงได้ตั้งเป็นกระทู้ใหม่ ยอมรับนะครับว่าเป็นคนค่อนข้างคิกมาก และขออนุญาตชี้แจง
    ความจริงไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งและดีกว่าคนอื่นเลย และยอมรับในยอดฝีมือที่คุณหยิบยกมาเป็นตัวอย่าง หมึกมรกตยอมรับว่าทุกท่านเก่งกว่า
    และที่บอกว่า หมึกมรกตแต่งกลอนเสแสร้ง ไม่ใสสะอาด ไม่ได้ออกมาจากใจ ขอให้คุณกบในกะลา ยกตัวอย่างด้วยครับ เพราะหากเป็นอย่างนั้นจริง หมึกมรกตจะปรับปรุงใหม่ แต่พูดจากใจจริงนะครับ ว่าทุกครั้งที่แต่งกลอนออกมาจากใจจริงๆ พ่อของหมึกมรกตท่านเป็นอาจารย์สอนภาษาไทย ซึ่งท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ท่านปลูกฝังให้หมึกมรกตรักและหวงแหนภาษาไทยมาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นการเสแสร้ง ไม่ใสสะอาด หากบทกลอนของหมึกมรกตเป็นอย่างนั้นจริง ก็คงอกตัญญูต่อผู้เป็นบิดาด้วย
    ถ้าผู้อ่านเห็นเป็นอย่างนั้น หมึกมรกตก็คงมิแย้ง เสียใจ..แต่คงต้องยอมรับเพื่อที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น
    และขอบอกว่าที่อยากหนีเพราะ ไมอยากสู้กับปัญหาเพราะหมึกมรกตไม่ต้องการสร้างเรื่องปวดหัวให้กับตัวเอง เพราะเพียงแค่การเรียนแพทย์ก็หนักเอาการอยู่แล้ว ถ้ามาคิดเรื่องกลอนอีกคงจะหัวระเบิด เลยคิดว่าอยากจะพักการแต่งกลอนไป คือเลิกแต่งกลอนนั่นเอง เพราะไม่อยากไปต่อล้อต่อเถียงกับใคร เมื่อมีคนเกลียดแล้ว ย่อมยากที่จะเห็นดีกับเรา เพราะหากมีคนเข้ามาว่าหมึกมรกตเรื่อยๆ หมึกมรกตคงไม่สบายใจแน่ จึงคิดจะเลิกครับ เพราะน่าจะตัดปัญหาส่วนนี้ได้ 
    ขณะที่อ่านคำวิจารณ์ของคุณ กระผมถึงกับน้ำตาซึม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม 
    ไม่เคยทราบมาก่อนว่าผู้อ่านจะมองบทกลอนของหมึกมรกตขุ่นมัว ไม่ใสสะอาด จิตใจคับแคบ ความจริงไม่เคยรู้จักคุณกบในกะลามาก่อน แต่ก็คงจะเคยอ่านกลอนของกระผม
    ขออภัยหากทำให้ขุ่นมัว
    หมึกมรกตต้องสอบในวันพฤหัสนี้ แทบไม่มีสมาธิจะอ่านหนังสือ วันนี้หมึกมรกตอยู่เวรจึงมาอ่านพบการตอบกระทู้ ด้วยความไม่สบายใจจึงขออธิบาย เพื่อว่าจะได้รู้สึกดีขึ้น ..
    แต่กลับรู้สึกแย่ลงเมื่อได้อ่านคำวิจารณ์ของคุณ
    
    ขอบคุณนะครับที่คุณพูดตรงไปตรงมา
    
    
    ถึงพี่พุด หัวข้อกระทู้คงแก้ไม่ได้แล้วหล่ะครับ เพราะโพสไปแล้ว ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆที่มีให้กันตลอดครับ
    
    ศิษย์พี่ครับ ศิษย์น้องเข้าใจศิษย์พี่นะครับ และอยากจะบอกศิษย์พี่ว่า ไม่ว่าศิษย์พี่จะพูดอะไร ศิษย์น้องรับฟังเสมอ เพราะทราบดีว่าศิษย์พี่มีเหตุมีผล ไม่เคยคิดเคืองแม้แต่นิดเลยครับ
  • ...

    31 พฤษภาคม 2548 23:47 น. - comment id 10871

    ที่หมึกมรกตโพสกระทู้ใหม่ เพราะเกรงว่าคนที่มาอ่านกระทู้ที่หมึกมรกตตั้ง อาจจะไม่เข้าใจว่าหมึกมรกตต้องการสื่ออะไร อาจจะมีความคิดเช่นเดียวกับคุณกบในกะลา หากสมาชิกไทยโพเอ็มเห็นว่าควรมิควรอย่างไรก็สุดแล้วจะพิจารณา
    หากเห็นว่าไม่เหมาะสมควรจะพูดออกมาตรงๆ หมึกมรกตไม่โกรธหรอกครับหากท่านชี้แจงเหตุผลบ้างเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นต่อไป
    
    ด้วยความเคารพ
  • ChorChongKoh

    1 มิถุนายน 2548 01:29 น. - comment id 10872

    คุณ หมึกมรกต คะ
    
             42.gif เอาตัวนี้กะพริบตาก่อนนะคะ
    (พี่..ช่อชงโค ค่ะ12.gif) ชอบเล่นไอคอนมาก
    พอๆกับแต่งบทกวีน่ะค่ะ
    
              พี่เห็นกระทู้ของคุณแล้ว ทั้งสองเรื่อง
    สำหรับความเห็นในเรื่องการเขียนกลอนนี้
    เอาไว้คุยทีหลังนะ (อ้าว !!)
    
             คือพี่เข้ามาลงล้อคอิน เพราะจะมาเปิด
    กระทู้เหมือนกัน พอดีเจออันนี้เลยมาอ่านน่ะ
    พบข้อความที่ว่า คุณหมึกมรกตมีคุณพ่อเป็น
    อาจารย์ภาษาไทย (ขอแสดงความเสียใจค่ะ
    ที่ท่านจากไปแล้ว) แต่พี่ดีใจที่คุณกลับมาลง
    ตอบกระทู้นี้ให้ทุกคนเข้าใจในความรู้สึกดีๆ
    และพี่ก็นึกนิยมอย่างมาก ที่คุณมีความตรง
    ไปตรงมา พร้อมทั้งยืนหยัดที่จะอนุรักษ์
    ภาษากวีอันสวยงามไว้ต่อไป ยินดีที่รู้จักนะคะ
    
    ไม่แน่ใจนักว่าคุณเคยเข้าไปทักทายในงาน
    ของพี่ ช่อชงโค บ้างรึเปล่า 36.gif36.gif
    แต่โดยทั่วไป พี่ก็เป็นคนที่เคร่งกับกฎมาก
    เมื่อมาแรกๆ สามเดือนก่อน พี่เห็นว่ามี
    การเรียกกาพย์เป็นฉันท์ พี่ก็เข้าไปชี้แจง
    โชคดีมากว่าคุณแก้วประเสริฐมีน้ำใจกว้าง
    และมีอารมณ์สดใสเป็นแก้วสมชื่อเขานะ
    และอีกหลายคน ที่พี่เห็นว่า เขียนไม่ตรงกับ
    แบบแผนเช่นโคลงสี่ ที่บังคับเอกโทเป็นต้น
    ก็มีคนส่งเมล์โดยตรงมาบอกว่าแต๊งกิ้วครับ!
    
             11.gif ต่อมา พี่ก็เริ่มสังเกตว่า ที่นี่
    การเขียนในลีลาของแต่ละคน บางครั้งบางที
    ก็ไม่ยึดระบบสัมผัสอะไรมาก แต่ก็มีคำคมดีๆ
    และน่าอ่าน โดยเฉพาะกลอน ซึ่งทุกคนทำได้
    เพราะฉะนั้น การพุ่งประเด็นเรื่องหลักเขียน
    หรือกฎกลอน มักจะมีกระแสสวนกลับมาก
    คุณหมึกก็คงสังเกต ใครลงเกี่ยวกับ แนะนำ
    หรือระบุกฎกลอน เป็นได้เรื่องทุกงานไป!!
    
              46.gif กับเรื่อง ทำอย่างไรเป็นคนมีค่า
    สองประเด็นนี้ ลงกันทีไรจะมีเสียงสะท้อนสูง
    เพราะทุกคนมีระบบ Functional System
    มาต่างกัน โดยรวมๆ เมื่อแสดงความเห็นไหน
    หรือกระทู้เรื่องที่นานาจิตตัง จึงเป็นธรรมดา
    ที่ต้องมีคนมาโต้แย้ง บางคนก็ใจเย็นมาก
    มีเหตุผลของเขามาคุย เป็นการเปลี่ยนทัศนะ
    แต่ก็จำนวนหนึ่ง พอเห็นอักษรแล้วตีความ
    เข้ามาที่ตัวตนของเรา (ทั้งที่ก็ไม่ทราบว่าใคร)
    ว่าเขียนแบบนี้ ต้องเป็นคนชนิดนี้  52.gif
    
             บางทีอ่านก็มึน 44.gif (นัยน์ตากลับ)
    เห็นคุณว่านอนไม่หลับ ไม่สยายใจจนต้อง
    มาชี้แจง นี่ก็แปลว่าคุณ ละเอียดอ่อนมากค่ะ
    มีความบริสุททธิ์ใจกับการแสดงความเห็นดี
    พี่มักไม่มีเวลาที่จะย้อนกลับในประเด็นเดิม
    ถ้าเห็นท่าจะหนักหนา ความคิดต่างกันมาก
    ก็ข้ามไปค่ะ เพราะ ต่างคนก็ต่างยึดถือกฎตน
    เราไม่ยอมเขา แล้วเขาจะยอมเราได้ยังไง
    
             42.gif จริงๆแล้ว งานหลักของพี่คือ
    เป็นนักเขียนบทความวิเคราะห์วิจารณ์นะ
    เพราะฉะนั้น พี่จะอ่านได้ทุกประเภทที่เขา
    สะท้อนกลับมา (ถ้าก้าวร้าวไม่สุภาพ ก็ลบทิ้ง)
    นี่คือเรื่องที่อยากคุยมากกว่าค่ะ เพราะว่า
    บางทีคนมาอ่านเรื่อง ในขณะที่อารมณ์บ่จอย
    เขาก็ระบายลงมา ในเชิงคัดค้าน รุนแรงก็มี
    บางทีอารมณ์ละเมียดละไม ใจก็รับซึมซับไป
    ทัศนะของคุณหมึกมรกต อาจมีคนเห็นด้วย
    และนำไปใช้เป็นแนวทางปรับปรุงไม่น้อย
    แต่ว่าเขาไม่ลงนามไว้  26.gif (แอบมาอ่าน)
    
                 36.gif สร้างสรรค์ต่อไป เถอะค่ะ
    อย่างน้อย คุณก็มีคุณพ่อเป็นหลักในใจแล้ว
    พี่ก็ทำนองเดียวกัน 6.gif คนคนแรกที่สอน
    พี่เขียนก ข ค ก็คือคุณพ่อ และท่านเป็น
    อาจารย์เสนาธิการของกองทัพบก รุ่นต้นๆ
    เป็นคนสอนภาษาเขียนกลอนให้กับพี่เอง
    เพราะโรงเรียนที่พี่ไปสอบเข้าชั้นประถมต้น
    ต้องสอบแต่งกาพย์ยานีด้วยนะ ในสมัยนั้น
    เมื่อท่านจากไปนานกว่าสิบปีแล้ว พี่ก็ยังจำได้
    ว่า  คุณพ่อทำให้พี่รักวิชาภาษาไทย 42.gif
    ทุกวันนี้ พี่อยู่ต่างประเทศ แต่ก็ทำงานให้
    กับวงการเขียนตามที่มีเวลา พี่ก็เป็นอีกคน
    ที่มีคนหยามเหยียดมาก อาจจะหนักกว่าคุณ
    เพราะในโลกทุกวันนี้ คนเขียนกลอนบางที
    (บางทีนะ) เขาจัดประเภทว่า ไร้สาระเพ้อเจ้อ
    
               36.gif แต่พี่กลับคิดว่า นั่นคือพลังใจ
    ที่เราได้เพิ่มมา (หรือว่าพี่ช่อฯจะผิดมนุษย์)
    พลังใจของเรา ใครจะมาหยามหยันได้ล่ะคะ
    แต่เราไปทำให้ใครมา 29.gifหรือ 41.gif
    ไม่ได้เสมอไปหรอกค่ะ ต่อให้เราทำสิ่งนี้ดีขึ้น
    มากกว่านี้อีกร้อยพันหมื่นเท่า ถ้าเขามองโลก
    คนละแง่มุม เราก็ยังเป็นคนไร้สาระเพ้อเจ้อ
    ในสายตาของเขาอยู่ดี 55.gif อย่าไปสนใจ
    หากว่าเรารู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้ ดีสำหรับเราจริงๆ
    ไม่เดือดร้อนใคร และคนที่รักเราเข้าใจดี
    แค่นี้ 36.gif ดอกไม้ก็เบ่งบานเต็มลานใจ
    
           16.gif     นักกลอน หรือ นักฝัน นักรัก
    มักมีบทกลอนในใจ หลายคนเพียงรำพัน
    เพราะว่าสิ่งนี้ทำให้เขาอบอุ่นขึ้น สุขใจขึ้น มา
    เขาอาจไม่สันทัดในเชิงศิลปะอะไรมากนัก
    แต่ก็รักความอ่อนไหวในบทกลอนที่เขียนลง
    ถือเป็นเพียงทางที่ขัดเกลาจิตใจให้อ่อนโยน
    และบ้านกลอนนี้ คุณปีกฟ้าตั้งคำเชิญไว้ว่า
    
    ที่ที่บทกวีจะมีความหมายกับใครสักคน ทุกคน
    อะไรประมาณนี้ (ถ้าโค้ดพลาดก็คงไม่ว่านะ)
    
    คนที่มีคำกลอนในหัวใจ ก็มาพบกันเป็นมิตร
    คุณอัลมิตรา เธอก็บอกว่า มิตรภาพตราบฟ้าฯ
    
    กลอนอันนั้นน่ะ..เป็นความหมายรวมใจกัน
    
                     16.gif36.gif16.gif
    
    เขียนมายาวยืด คุณหมึกมรกตหลับยัง22.gif
    
    อ่านคำวิจารณ์จากใคร อย่าเครียดเลยนะคะ
    พี่โดนเล่นมาเยอะกว่านี้ 52.gif คิดไว้อต่ว่า
    นี่คือ ความคิดเห็น..อย่าให้ทำร้ายอารมณ์
    ของเรา..เพราะเราคือ ..อะแฮ่ม..กวี 46.gif
    กวี คำนี้ที่แท้ ใครก็อยากเป็น เพราะว่า
    มีความหมายที่สูงส่ง คุณคงเคยเห็นนาม
    สมณศักดิ์ของพระราชาคณะทางสงฆ์หลายรูป
    มักมีคำว่า ธรรมกวี  พรหมเมธี  ธีรปัญโญฯลฯ
    (เอาทางพระเช้าช่วย ให้เห็นทางสงบคจิต)
    
    สุดท้าย พี่ขอสรุป คนที่เราสอนได้คือเราเอง
    36.gif และคนที่ลืมสอน ก็มักจะเป็นตัวเรา..
    
    (แต่ตอนนี้พี่เองก็กำลังทำแบบนั้นอยู่แล)
    หากด้วย ความหวังดี มากกว่า อย่างนี้นะคะ
    เราเห็นว่าอะไรดี เราก็มุ่งทำอย่างนั้นต่อไป
    ถ้าใครมาเห็นว่า..เออ..เข้าท่า เขาก็รับไปเอง
    ส่วนที่เขามีแนวของเขา เขาก็ว่าของเขาดี
    จะไปทำยังไงได้ล่ะ...ต่างคนต่างเขียนต่อไป!
    
            (ไม่รู้ใครมาอ่าน เกิดหงุดหงิดอ๊ะเปล่า
    58.gif จุ๊บ เอาจุ๊บไปเล่นละกันค่ะ 58.gif)
  • ลำน้ำน่าน

    1 มิถุนายน 2548 01:40 น. - comment id 10873

    การมีชีวิตอยู่ในโลกและสังคมนี้ ไม่ว่าจะเป็นสังคมในชีวิตจริงหรือในโลกอินเตอร์เน็ตอันกว้างขวางและเป็นสาธารณะ จำต้องพบเจอกับสิ่งที่ทั้งดีและไม่ดี เป็นธรรมดานะครับ เป็นธรรมดาของโลกธรรม ที่มีลาภ ยศ สรรเสริญ นินทา ฯลฯ อยู่ที่จิตใจเราจะเข้มแข็งและเข้าใจสิ่งต่างๆ เหล่านี้เพียงไร 
    
    การเป็นนักคิดนักเขียน โดยเฉพาะการเขียนบทกลอนที่อิงอยู่กับกฎอดีตและหนีไม่พ้นปัจจุบันสมัยนั้น ก็ต้องยิ่งแสวงหาความลงตัวได้ยากยิ่ง 
    
    นักกลอนมีหัวใจและจิตวิญญาณเป็นทองคำ ที่ไม่ว่าจะเพียรทำลายด้วยสิ่งใดก็ยากยิ่งที่จะย่อยยับอับไป นะครับ
    
    การเป็นตัวของตัวเองบนครรลองที่พิจารณาแล้วว่าดีงามและถูกต้อง ผมเป็นกำลังใจให้ในฐานะมิ่งมิตรนักกลอนอีกคนในบ้านหลังนี้ครับ
    
    สายตานักอ่านและผู้คนที่รอบตัวเรานั้นไม่เหมือนกัน แตกต่างกันไปตามวิถีแห่งการบ่มเพาะ หากการรักและให้อภัยในสิ่งที่คนอื่นเป็นและเข้าใจในความต่างของมนุษย์ก็อาจจะทำให้ไม่อารมณ์เสียและปล่อยวางความไม่สบายใจลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ
    
    ในทัศนคติผม นักกลอนมีน้อยในสมัยปัจจุบันนี้  ควรจะทะนุถนอมไว้มากๆ ดีกว่ามาถากถางให้ย่อยยับกันไป ดีไม่ดีอย่างไรก็ชี้แนะ แนะนำ และตักเตือนกันเยี่ยงพี่น้อง เยี่ยงมิตร น่าจะดีกว่านะครับ
    
    ด้วยรักในมิ่งมิตรบ้านเรือนไทย
  • rain..

    1 มิถุนายน 2548 02:10 น. - comment id 10874

    พี่ชายดอยคะ ..   เรนว่า ..  หากเรามีความกดดัน มาเป็นแฟ็กเตอร์ .. เรนว่า ก็ยิ่งดีเสียอีกนะคะ .. พี่ชายจะได้..แกร่ง .. เป็นการทดสอบ ..จิตใจของเรา.. ด้วยดิคะ..     
       
        เรน..  เข้าใจ พี่ชาย..   นะคะ .. 65.gif
    
      บางครั้ง..กับสิ่งที่เรา..  ทำแบบไม่ตั้งใจ ..  ก็อาจกลับมา.. ทำร้ายเรา.. ให้เจ็บปวด..  และเสียใจได้ ..   
          
       อย่าหันหลัง..  ให้กับ ..  สิ่งที่พี่ดอยรัก.. ดิคะ..  
    
        เรน..  แค่อยากให้ .. พี่ดอยรู้ ..   ว่า.. เรนยังคงเป็น .. น้องสาว.. ที่คอยเป็นกำลังใจ ..
    
    เก็บคำพูด.. เหล่านั้น ..  มาวิเคราะห์ ..  และไตร่ตรอง ..  หาเหตุผล.. ในสิ่ง..ที่ควรจะเป็น..  ยิ่งใกล้สอบ.. พี่ดอยต้องอ่านหนังสือ..  ให้มากๆ ..  อย่ากังวล .. ในสิ่งที่ทำให้ ...เสียใจ ..  นะคะ.. 43.gif
     
          และเรนก็.. อยากให้ พี่ชายให้ความสำคัญ.. กับสิ่งนั้น..  ให้มากๆ.. นะคะ..
           ...
    ก็สิ่งที่เรน..  ได้ยิน.. จากคุณครู   ท่านบอกเรนว่า .. หากเรนอยากไป..  ให้ถึง.. ดวงดาว .
       
     เรนก็..ต้องฝึกศักยภาพของความอดทน ..    หรือสร้างภูมิต้านทาน.. ความกดดัน..ไว้เยอะๆ..
    
       คุณครู..  ท่านบอกเรน ..  แบบนี้จริงๆ นะคะ ..
     ก็คงเพราะ ..  เรนถูกมองว่า ..  เป็นเด็ก  อ่อนแอ .. ม้างงงคะ..
       และเรน..  ก็มั่นใจด้วยดิคะ ..
            พี่ชายดอย ..  ต้องไม่ใช่ ..  แบบเรน ..แน่ๆเลย..
    
          เรน..  อยากให้ ..  พี่ชายหลับ..  ให้สบาย..
     อย่าเป็นกังวล ..  วันพฤหัส.. ต้องสอบไม่ใช่หรอคะ ..
           เรน.. เป็นกำลังใจ.. ให้พี่ดอย ..
    
      เรน.. ราตรี.. สวัสดิ์ .พี่ดอย ..นะคะ..36.gif62.gif
  • อัลมิตรา

    1 มิถุนายน 2548 07:45 น. - comment id 10875

    ออกเวรแล้ว กลับบ้านไปนอน ตื่นมาก็อ่านหนังสือ ไม่ต้องเปิดเน็ตนะคืนนี้ พรุ่งนี้ไปสอบ นะจ๊ะ ..
    
    64.gif  เช้าวันนี้อากาศแจ่มใจ เชื่อสิ   64.gif
  • มัดหมี่ค่ะ

    1 มิถุนายน 2548 10:32 น. - comment id 10876

    มัทแวะมาให้กำลังใจค่ะ
    
    ทุกสิ่งอย่าง ล้วนมีดีและไม่ดี
    
    อย่ายึดติดนะคะ
    
    ปล่อยทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในสมองคุณ
    ตั้งใจอ่านหนังสือไปสอบคือสิ่งที่คุณควรทำ
    
    อย่าเครียดเลยนะคะ
    อดีตผ่านมาแล้วผ่านมาแล้ว พรุ่งนี้ซิจะทำอย่างไร อย่าคิดไกลไปถึงมะรืนเพราะมันยังมาไม่ถึงค่ะ
    
    ด้วยความปราถนาดีจากหัวใจ
  • ไม่ได้เป็นสมาชิก

    1 มิถุนายน 2548 10:49 น. - comment id 10877

    login ซะ แล้วออกมานอกกะลา!
      ความคิดเห็นจะได้น่าเชื่อถือกว่านี้
  • พรระวี

    1 มิถุนายน 2548 11:45 น. - comment id 10878

    วงการของคนที่รักภาษาไทย โดยเฉพาะเกี่ยวกับวรรณกรรมด้านกวีนิพนธ์ มีน้อยยิ่งกว่าน้อย  โปรดเถิดกรุณาอย่าได้ขุ่นเคืองใจกันเลย  หนักนิดเบาหน่อยอภัยให้แก่กัน เพื่อจะได้ช่วยๆกันรักษาเอกลักณ์ของความเป็นเจ้าบทเจ้ากลอนแห่งเชื้อชนไทย
  • หมึกมรกต

    1 มิถุนายน 2548 12:43 น. - comment id 10879

    หลังจากที่ออกจากห้องผ่าตัด หมึกมรกตก็มานั่งที่หน้าจอคอมพิวเตอร์...เนื่องจากไม่สบายใจจริงๆครับ
    หมึกมรกตกลับไปคิดทบทวนทั้งคืน ว่าทั้งๆที่เรามีเจตนาดี..แต่ทำไมผลถึงได้ออกมาเช่นนี้
    
    ความจริงอาจจะเกิดจากความเข้าใจผิดจากการตีความเอาเองของผู้อ่าน บางครั้งอาจเกิดจากความไม่ชัดเจนของหมึกมรกตเอง
    เช่นประโยคที่ว่า
    
    หมึกมรกตคงมิกล้าบัญญัติอะไรมาให้คนอื่นทำตาม เพราะรู้ความสามารถของตัวเองผู้อ่านอาจจะเข้าใจว่าหมึกมรกตโอ้อวดว่าตัวเองมีความสามารถทั้งๆที่จริงต้องการบอกว่า ความสามารถมีไม่เพียงพอ  ก็เป็นได้
    
    แอบคิดน้อยใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าเรามาตั้งกระทู้ทำไม ถ้าเราไม่ทำอะไร อยู่เฉยๆคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ด้วยเป็นคนอยากรู้อยากเห็น เพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีใครสนใจวรรณศิลป์ จึงฉุกคิดขึ้นมาว่าทำไมคนเหล่านั้นจึงไม่อ่านกลอนกัน หมึกมรกตจึงสอบถามเพื่อนและคนอื่นๆ ที่รู้จัก จึงได้ข้อสรุปว่าทำไม ในเมื่อรู้แล้ว จึงอยากจะนำมาให้เพื่อนนักกลอนคนอื่นได้ทราบบ้าง ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีประโยชน์หมึกมรกตไม่อาจตัดสินได้ ทราบแต่เพียงว่าอยากจะให้เพื่อนนักกลอนทราบความต้องการของคนอ่าน ว่าอยากอ่านกลอนแบบไหน หมึกมรกตไม่ได้คิดว่าตัวเองแต่งแล้วคนชอบอ่าน แต่อาจจะทำให้คนไม่ชอบอ่านมากที่สุดก็เป็นได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมหมึกมรกตจึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา อาจจะทำให้ผู้อ่านตีความผิดไป แต่หมึกมรกตยืนยันเจตนาเดิมอีกครั้งครับ ว่าไม่มีเจตนาโอ้อวด เสแสร้ง ไม่ใสสะอาดแต่อย่างใด หากทำให้ผู้อ่านขุ่นมัวก็ขออภัย ณ ทีนี้ด้วยครับ
    
    หมึกมรกตชอบนะครับ ชอบที่จะให้คนเข้ามาติ หรือ วิจารณ์ แต่เป็นการติเพื่อก่อ ไม่ใช่ทำลายให้ย่อยยับ สิ่งไหนที่หมึกมรกตทำผิดไป พูดผิดไป ควรจะให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น เพราะไม่มีใครถูกไปทุกเรื่อง แต่กับการมาบอกว่าเชิญแต่งบทกวีไร้จิตวิญญาณ แถมยังบอกว่าไม่ควรเข้ามาในวงการวรรณกรรมเพราะทำให้มัวหมอง ยอมรับว่าสะเทือนใจมากครับ
    
    ขอบคุณพี่ ช่อชงโคมากนะครับ สำหรับข้อคิดดีๆ หมึกมรกตเคยเข้าไปอ่านงานของพี่ครับ และก็ชอบด้วยครับ
    
    พี่นิวครับ หมึกมรกตทราบนะครับ ว่าคนเราย่อมมีความคิดแตกต่างกันไป แต่หมึกมรกตอยากเห็นความคิดขัดแย้งที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ทำลาย...ขอบคุณสำหรับกำลังใจของพี่ชายเสมอมาครับ...
    
    น้องเรน..น้องสาวของพี่..พี่ชายไม่ใช่คนอ่อนแอหรอกครับ อยู่กับการเวียนว่ายตายเกิดทุกวัน เข้าใจสังสารวัฏของชีวิตดีครับ ยิ่งเป็นหมอยิ่งอยู่ในสภาพกดดันกว่านี้มากครับ เมื่อพี่ชายล้มพี่ชายก็จะยืนขึ้นอีกครั้ง ....แต่สำหรับเรื่องที่พี่รักพี่มักจะ sensitive อยู่เสมอ
    ไม่ได้อ่อนแอ...แต่พี่ชายไม่อยากให้ใครเกลียด...ไม่อยากให้ความฝันถูกทำลาย จะอย่างไรก็ตามพี่ชายจะไม่ยอมอ่อนแอและจะไม่ยอมให้น้องสาวของพี่อ่อนแอด้วย...อย่าลืมนะครับ ว่าเราจะไปถึงฝันด้วยกัน
    
    ครับศิษย์พี่...อยากจะบอกศิษย์พี่นะครับ ว่าไม่รับคำขอโทษจากศิษย์พี่ เพราะศิษย์น้องต่างหากควรจะขอโทษศิษย์พี่ที่ทำให้ไม่สบายใจตามไปด้วย คำขอโทษของศิษย์พี่มีค่าเกินกว่าจะมากล่าวเพียงเรื่องแค่นี้...และอยากจะบอกศิษย์พี่อีกครั้งนะครับว่า แม้ศิษย์พี่จะด่าจะว่าศิษย์น้อง ศิษย์น้องก็เข้าใจว่า นั่นคือความหวังดี ที่พี่น้องมีให้กันครับ
    ส่วนการสอบพรุ่งนี้ จะไม่ให้พลาดเด็ดขาดครับ ขอบคุณศิษย์พี่มากๆอีกครั้งนะครับ ที่ยอมรับนักกลอนนาม หมึกมรกต เป็นศิษย์น้อง พร้อมให้คำแนะนำและตักเตือนด้วยดีเสมอมา
    
    ขอบคุณมากครับ คุณมัดหมี่ ความจริงหมึกมรกตอยากปล่อยวางนะครับ แต่นั่นก็เหมือนกับเราหนีปัญหา เหมือนกับเรายอมรับผิด หมึกมรกตได้มาชี้แจงก็สบายใจขึ้นมากแล้วครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้กันครับ หมึกมรกตจะตั้งใจอ่านหนังสือนะครับ
    
    ครับ ...ไม่ทราบเหมือนกันว่าคุณกบในกะลาเป็นใคร
    
    ครับ คุณพรระวี ถ้าเขามีเหตุผลมากกว่านี้หมึกมรกตคงไม่เคืองหรอกครับ
    
    ความจริง แม้ไม่มีคนรัก...หมึกมรกตไม่ว่านะครับ แต่หมึกมรกตกลัวที่จะมีคนเกลียด กลัวที่จะไม่ได้รับการต้อนรับจากบ้านหลังนี้
    
    ขอบคุณมากนะครับสำหรับความรู้สึกดีๆที่พี่น้องชาวไทยโพเอ็มยังมีให้กันเสมอมา
  • พระรอง

    1 มิถุนายน 2548 13:07 น. - comment id 10880

    ไม่ว่ากลอนที่ คุณหมึกมรกตเอามาลงไว้ในกระทู้ที่แล้ว บอกด้วยหรือว่าเป็นนักกลอนพระราชทาน ที่เรียกกันว่า ข้าราชบริพาร
    ฉะนั้น อย่าได้บังอาจดึงเบื้องสูงให้ระคายเคืองเบื้องยุคลบาท...จำไว้!!!
    
    ในเมื่อคุณอยากเด่น อยากดังนักจงสร้างผลงานให้ประจักษ์ดีกว่า เราเป็นเพียงพวกเฉียดกวีเท่านั้น 
    
    มีวิธีการมากมายที่จะแนะนำคนที่เขียนกลอน มิใช่วิธียกตนข่มท่านเยี่ยงนี้
    
    คุณหมึกมรกตเป็นผู้มีการศึกษาขั้นสูง
    น่าจะมีวิธีการที่จะ สอน หรือแนะนำได้ดีกว่าการกระทำแบบนี้ ผมมิอาจหรือ ใช้คำว่าบังอาจ ยกบทกวีพระราชนิพนธ์ มาณ ที่นี้ได้ เพราะจะเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง
    
    
    เป็นงานประพันธ์ของ ส.เชื้อหอมนักกลอนพระราชทาน(เนื่องจากเคยนำเสนอไปแล้ว จึงไม่ได้เขียนชื่ออีก)
    หมึกมรกตคงมิกล้าบัญญัติอะไรมาให้คนอื่นทำตาม เพราะรู้ความสามารถของตัวเองเอง
    หากใครด่าว่าบทกลอนดังกล่าว ก็มิเหมือนหมิ่นพระมหากษัตริย์เลยฤา
    
     ถ้อยคำนี้ของคุณ ควรกลับไปไตร่ตรองคร่ำครวญคิดดูให้ดี ว่าใช้คำถูกต้องหรือไม่
    แล้วที่คุณยกงานมาที่บอกเองว่าเป็นงานนักกลอนพระราชทาน  แล้วใยมิลงนาม
    ฉะนั้นเรื่องนี้ควรยุติ สักที
    อย่าได้บังอาจดึงเบื้องสูงลงมากล่าวอ้างเช่นนี้อีก
    
    เจตนาของคุณดี แต่วิธีการห่วย
  • หมึกมรกต

    1 มิถุนายน 2548 17:42 น. - comment id 10882

    ถึง คุณพระรอง ข้อความนี้คงจะเป็นข้อความสุดท้ายที่มาตอบคุณ เพราะศิษย์พี่กำชับไว้ว่าไม่ควรเข้ามา
    ความจริงหมึกมรกตอาจจะผิดอย่างคุณว่า หมึกมรกตยอมรับผิดทุกอย่าง วิธีการอาจจะห่วยจริง แต่คุณน่าจะติเตียนและแนะนำกันอย่างดีๆนะครับ เพราะหมึกมรกตรับฟังเสมอพร้อมที่จะนำไปปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่คนที่มีโลกทัศน์คับแคบ แต่หมึกมรกตไม่พอใจที่คุณบอกให้หมึกมรกต เขียนบทกวีโดยไร้จิตวิญญาณต่อไปเถิด...เป็นการไม่ให้เกียรติกันอย่างยิ่ง โดยนิสัยส่วนตัวหมึกมรกตชอบสันโดษ ไม่ชอบต่อล้อต่อเถียงกับใคร ไม่อยากให้เรื่องนี้ยืดเยื้อ แต่หมึกมรกตไม่สบายใจจริงๆจึงมาชี้แจงให้ทราบ หวังว่าคราวหน้าจะได้รับการติอย่างสุภาพจากคุณนะครับ
    
    หากทำให้ขุ่นข้องหมองใจก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
  • ..

    1 มิถุนายน 2548 18:22 น. - comment id 10883

    59.gifทานน้ำเย็นๆกันสักแก้วครึ่งแก้วนะครับ....
    
    64.gif
  • ......

    1 มิถุนายน 2548 19:00 น. - comment id 10884

    หยุดคิดเล็กคิดน้อยคิดมาก
    หยุดคิด
    วางผัสสะทุกสิ่ง ที่ผ่านมาแล้วจะผ่านไป
    ไม่มีอะไรคงที่คงทน
    ทำหน้าที่รวบรวมสมาธิเรียนหนังสือ
    จะสอบแล้ว
    ไม่มีอะไรจะแก้ไขไม่ได้
    เรื่องเลวร้ายมากกว่านี้
    ยังผ่านมากระทบอีกมากมายนักในโลกนี้
    และ
    ยามนี้คงทราบดีแล้วว่ายามใจร้อนเร่าเฝ้าทุกข์นั้น มียาเดียวจะช่วยเยียวยาได้
    ยาธรรมะไง
    ต้องหัดศึกษาให้มาก
    จะได้ฉลาดทั้งทางโลกและทางธรรม
    ที่จะปรับจิตและรู้ทางดับทุกข์
    และ
    หวังว่าคงทราบว่าใครที่รักปรารถนาดี
    อย่าลืมรวบรวมสมาธิอ่านหนังสือ
    ทำหน้าที่ตรงหน้าให้ดีทีสุด
    แล้วพรุ่งนี้ยังมีอรุณหมุนมาให้เราเริ่มต้นใหม่เสมอไปไม่มีคำว่าสายหากรู้การใช้ธรรมะและ
    เรียนรู้ธรรมชาติใจคน..
  • กุ้งหนามแดง

    1 มิถุนายน 2548 22:05 น. - comment id 10885

    ปิดเครื่องซะ..เข้านอน อาจจะหลับบ้างตื่น.บ้าง....ตามประสา..ตามดูความคิดตัวเอง..
    
    ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส..เรียนรู้แล้วจะพบอะไรดีๆ น่ะค่ะ  
    
    ขอให้คุณโชคดีค่ะ..
    
    ..
  • ฉันทนาที่รัก

    1 มิถุนายน 2548 23:46 น. - comment id 10888

    ต้นเหตุเพราะฉันทลักษณ์แท้ๆ เชียว
    ลองเข้ากระทู้นี้ซิ  ฉันทลักษ์อีกแล้ว
    
    ในตอนท้ายกระทู้กลอนมีการแสดงความเห็นเรื่องฉันทลักษณ์ไว้พอหอมปากหอมคอ แต่เป็นของโคลง น่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem76726.html
  • ขอโทษครับ...ผมเมา

    2 มิถุนายน 2548 11:49 น. - comment id 10895

    11.gif
    
    โลกเรา มันก็เป็นเช่นนี้แหละ จะให้คนมีความเห็นเหมือนกันหมด ก็คงไม่ใช่
    มันก็ต้องมีขัดแย้งกันเป็นธรรมดา
    อย่าไปคิดอะไรมาก 
    อย่ามัวแต่ศึกษาเรื่องกายภาพของคน 
    แต่ควรจะศึกษาเรื่องจิตใจของคนควบคู่ไปด้วย 
    ศึกษาทั้งจิตใจตัวเอง และจิตใจคนอื่น 
    ลองตรองดูให้ดี ใช้หลักธรรมเข้าช่วยด้วย 
    ถอยหลังมามองดูสักก้าว แล้วจะเห็นอะไรๆ ดีๆหลายอย่าง
    บางอย่างมองดูเผินๆอาจไร้สาระ  แต่ถ้าเรามองให้ดี มันก็มีสาระดีๆแฝงอยู่
    มันอยู่ที่เราเอง ว่าจะเลือกเอาอะไรจากสิ่งนั้นๆ   
    
    เหล้าแก้วหนึ่ง ประกอบด้วย เหล้า น้ำแข็ง โซดา และน้ำ  ถ้าผสมให้มันลงตัว เหล้าแก้วนี่ก็อร่อยยิ่งนัก แต่ถ้าเหล้าหนักไปก็จะขม หรือ โซดา น้ำ  มากไปก็จะจืด  
    แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะคนดื่มก็ยังแตกต่างกัน บางคนก็ชอบแบบเข้มๆ บางคนก็ชอบพอดีๆ บางคนก็ชอบจืด ๆ  แต่เราก็สามารถร่วมวงก๊งเหล้า ชนแก้วกันได้ด้วยความสนุกสนาน รื่นเริง 
    
    เหมือนบ้านกลอนไทยแห่งนี้ ก็คงไม่แตกต่างจากการดื่มเหล้ามากนัก  
    ต่างคน ต่างชอบต่างกัน  ถือกฎตลอด  หรือถือบ้างไม่ถือบ้าง  หรือไม่ถือเสียเลย   
    แต่ถ้าเราเข้าใจกันและกัน เราก็สามารถที่จะอยู่ร่วมกันในบ้านแห่งนี้ได้อย่างมีความสุข..... 
    
    ขอเป็นกำลังใจให้ครับผม....31.gif51.gif
  • รักษ์รัก

    2 มิถุนายน 2548 19:26 น. - comment id 10897

    อื่ม..
  • ยัยเด็กเส้น..ของพี่ชาย..

    3 มิถุนายน 2548 07:45 น. - comment id 10901

    ..  ฝัน..ของเรน..อาจแตกต่างจาก..พี่ชาย.. นะคะ..
    
      ก็แค่ .. เป็นฝัน.. ของเด็กน้อย ..
    ขีดรอย..เส้น.. ที่ต่างสี..
       วาด..ตะวัน..อาจยับ.. ยู่ยี่..
     แต่ก็เพียร..ลงสี .. ให้สวยงาม.. 62.gif66.gif.. 62.gif..69.gif..74.gif.. 15.gif..
  • วฤก

    3 มิถุนายน 2548 11:26 น. - comment id 10903

    ถึงลูกศิษย์.... หมึกมรกต
    
    ไม่มีทางเดินชีวิตที่เรียบง่าย...
    
    ในวันที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับความวุ่นวาย แก่งแย่งแข่งกันกันสูบทรัพยากรและโอกาส
    ผมเคยนั่งดูชาวนา จูงวัวจูงควายออกไปเลี้ยงกลางทุ่ง พอค่ำลงก็พากลับบ้าน ...
    ชีวิตเขาเรียบง่ายนักไม่ต้องเจอกับปัญหาต่าง ๆ นา... น่าอิจฉา... ผมคิดอย่างนั้นจริง ๆ 
    
    ชาวนากลับมองดูว่าผมมีชีวิตที่น่าอิจฉา มีงาน(ที่คนคิดว่า) ดี ๆ ทำ แต่งตัวสะอาดสะอ้าน
    อยู่ในห้องแอร์เย็น ๆ ไม่ต้องไปคลุกฝุ่นดิน เผาแดดกลางทุ่งให้เหน็ดเหนื่อย
    เขาคิดว่า.... ชีวิตผมน่าอิจฉา
    
    คนแต่ละคนมีความทุกข์ของตน
    ชาวนาก็ทุกข์แบบชาวนา.... เหนื่อยกาย หาเงินได้ยาก หนี้สิน ฯลฯ
    นักเรียนก็ทุกข์แบบนักเรียน...อ่านหนังสือไม่ทัน ทำคะแนนได้น้อย เข้ากับเพื่อนไม่ได้ ครูไม่รัก ฯลฯ
    หมอก็มีทุกข์อย่างหมอ... เมื่อคืนไม่ได้นอนเลย แถมวันนี้คนไข้เยอะอีก เด็กไข้เลือดออกแล้วช็อค ที่เรารักษามาทั้งคืนตายซะแล้ว เราถูกฟ้องไหมเนี่ย ฯลฯ
    
    นักกลอนก็มีทุกข์ของตน .....
    
    ทุกบทกลอนที่เขียนออกไป นักกลอนทุกคนย่อมคิดว่าตนเขียนดีแล้ว
    แก้ไขปรับปรุงจนดีแล้ว เมื่ออ่านแล้วทุกคนควรชื่นชอบอย่างที่ตนชื่นชอบ
    จึงเสนอผลงานออกไป
    
    งานกลอนที่นำเสนอเป็นงานสาธารณะ ผู้อื่นอ่านย่อมมีความรู้สึกต่องานเราได้หลายแบบ
    
    - อืมมม์.... เขียนได้ดีจัง ใช้คำได้ไพเราะ
    - มันเขียนอะไรของมันวะ อ่านไม่เห็นจะรู้เรื่อง
    - ว้าว.... แนวกลอนน่าสนใจ อย่างนี้ต้องจำไปใช้
    - มาอีกแล้ว กลอนขยะ ๆ อย่างนี้ 
    - ฯลฯ
    
    บางคนรู้สึกแล้วเก็บไว้ในใจ
    บางคนรู้สึกแล้ววิพากย์วิจารณ์
    
    คำวิพากย์วิจารณ์เป็นเหมือนกระจกเงาครับ
    เราต้องขอบคุณ ที่มีผู้อุตสาหะ อ่านงานของเราแล้วให้คำวิจารณ์เอาไว้
    อย่างน้อยก็ต้องคิดว่า ดีกว่าเขียนอะไรไปแล้วไม่มีใครอ่าน
    
    แต่กระจกเงาก็มีหลายแบบ
    กระจกเงาที่ดีย่อมฉายภาพตัวตนของเราที่ชัดเจน
    ให้เราได้รู้ข้อดี ข้อด้อย ข้อควรปรับปรุง เพื่อให้งานกลอนของเราพัฒนาขึ้น
    กระจกเงาเหล่านั้น มีคุณค่าไม่ต่างจากครูกลอน ที่คอยสอน แนะนำเราเลย
    เพราะเขาสร้างบทเรียน ให้เราได้เรียนรู้
    
    แต่กระจกเงาที่บิดเบี้ยว วิจารณ์งานด้วยอคติ
    ควรหรือที่จะใส่ใจ 
    
    เพราะงานวิจารณ์นั้นไม่ต่างจากงานกลอนของเรา
    
    บทวิจารณ์ของเขาเมื่อมีคนมาอ่าน 
    คนอ่านย่อมมีความรู้สึกต่อคำวิจารณ์นั้นได้หลายแบบ
    
    - อืมมม์.... เขียนได้ดีจัง ชัดเจนครอบคลุม
    - มันเขียนอะไรของมันวะ เอาแต่ด่า ๆๆๆ แต่ไม่บอกทางแก้ไข
    - ว้าว.... มุมมองวิจารณ์นี้น่าสนใจ อย่างนี้ต้องจำไปใช้
    - มาอีกแล้ว บทวิจารณ์ขยะ ๆ อย่างนี้ 
    - ฯลฯ
    
    
    บางคนรู้สึกแล้วเก็บไว้ในใจ
    บางคนรู้สึกแล้ววิพากย์วิจารณ์
    
    
    จึง.... ไม่มีทางเดินชีวิตที่เรียบง่าย
    
    นักกลอนมีทุกข์แบบนักกลอน
    นักวิจารณ์ ...... ย่อมมีทุกข์อย่างนักวิจารณ์เฉกกัน 
    
    วฤก
    
    ขอให้การสอบลงกอง ผ่านไปได้ด้วยดีครับ 
    46.gif
  • แก้วนีดา

    3 มิถุนายน 2548 16:00 น. - comment id 10908

    เขียนกลอนเพราะใจรัก.......อย่าเขียนเพียงเพราะชอบเลย.....เพราะการชอบย่อมจะเปลี่ยนเป็นไม่ชอบได้.....รักนะทำอย่างไรก็ยังรัก........จะผิดจะถูกก็ยังคงรัก......
    
    แก้วนีดาเข้ามาในบ้านกลอนและมาเขียนกลอน...ก็เพราะรักกลอน......เขียนผิดบ้าง....เขียนถูกบ้าง.......ก็เขียนเพราะวาใจรักกลอน.......มีเพื่อนๆเข้ามาว่าก็มี.....เข้ามาชมก็มี.......คำว่าเราต้องขอบคุณเขา......คำชมก็ต้องขอบใจที่ชม.......สรุป.......ขอให้คุณเขียนต่อไปเถอะค่ะ........บ้านกลอนยังเปิดกว้างต้อนรับ หมึกมรกตเสมอค่ะ.......
    
    ปล่อยว่าง......ลงตรงจิตนิ่ง
    หยุดคิดบ้าง...สบายใจ
    คิดมากไป....จิตมั่วมอง เปล่า
    คิดน้อยไว้...เขาว่า โง่จัง
    
    คิกๆๆๆๆๆ.......สรุป......คนคือคน....คนกันวุ้ยวายไปเลย......เฮ้อ.....30.gif
    
    หนึ่งแรงใจมอบให้กับเพื่อนๆๆจ๊ะ หมึกมรกต36.gif
  • ภาวิดา

    3 มิถุนายน 2548 22:59 น. - comment id 10913

    ขอบคุณคุณหมึกมรกตนะคะ ที่นำทางให้มาอ่านกระทู้นี้ นับเป็นหัวข้อที่แสดงความเข้าใจทางความคิดของนักกลอนแต่ละคนในบ้านหลังนี้ที่ดีทีเดียวค่ะ 
    
    แอบได้เห็นความในใจลึก ๆ ของใครหลาย ๆ คนในที่นี้ ที่ทำให้รู้สึกเลยค่ะว่า เราก็โดนเค้าว่าเหมือนกันนะ เจ็บกระดองใจไปเลย
    
    ความจริงแล้ว ตัวข้าพเจ้า (ภาวิดา) ก็มีความรู้สึก และความคิดคล้าย ๆ กับคุณหมึกมรกตเหมือนกัน ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าคุณหมึกมรกต หลั่งเลือดเขียนความปราถนาของใจ ออกมาเร็วกว่าเท่านั้นเอง งั้นก็คงมีการเปลี่ยนกรณีศึกษากันไป
    
    เข้าใจค่ะ ที่เราเรียนเรารู้มา เราคิดว่าเราถูก และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผลงานของคนอื่น เขามักมีจุดบกพร่องเสมอ ๆ 
    
    เคยได้แอบทะเลาะกับนักกลอนหลาย ๆ ท่านในบ้านกลอนแห่งนี้ในปลายกระทู้ อยู่หลาย ๆครั้งค่ะ พอหันกลับมาดู ก็คิดเหมือนคุณหมึกมรกต ที่ว่า ไม่น่าจะทำอะไรลงไปเลย มันดูไม่ดีเท่าไหร่เลย ขนาดตัวเราเองในตอนนี้ยังมองว่าไม่ควรทำซักเท่าไหร่
    
    อะไรประมาณนี้ค่ะ ยิ่งทะเลาะเยอะขึ้น คิดกลับไปก็ยิ่งเจ็บปวด เหมือนคิดดอกเบี้ยทบต้น ก็นอนคิด ๆ ไปคิดมาเหมือนกันค่ะ หลายๆคืน คิดทุกครั้งที่ว่าง ก็หาทางออกได้แค่ว่า ครั้นที่เราจะไปติ กัน เมื่อเอาใจเขามาใส่ใจเราแล้ว คิดสะระตะไปมา สรุปได้ว่าทางที่ดีอย่าไปติกันเลย ชมกันเสียดีกว่า
    
    ความผิดพลาดที่มันผิดไปแล้ว ถึงจะแก้ไขได้ แต่ก็ยังเป็นแผลในใจเราอยู่ดี คิดจะเปลี่ยนชื่อใหม่ เปลี่ยนนามปากกาใหม่ เหมือนฟอแมทคอมที่รวน หรือเปลี่ยนสมุดการบ้านเล่มใหม่ ที่มีแต่คำตอบถูกไปซะหมด ก็เคยค่ะ แต่คิดไปคิดมา ก็ไม่ได้ทำซะงั้น
    
    ไม่รู้ว่าคล้ายหรือไม่อย่างไรนะคะ ตอนนี้ก็ขอสารภาพว่า เห็นจุดบกพร่องของใคร ก็ทำใจผ่านไปเสีย และย้ำประโยคที่ว่า \"เราก็คงเคยผิดอย่างนี้ล่ะมั้ง คนอื่นเค้าก็ยังไม่ว่าอะไรเราเลย\"  ครั้นกลับไปคิดถึงความผิดพลาดครั้งนั้นๆ ก็ยังแทงใจตลอดมา
    
    ก็คงเกิดความทุกข์แก่ตัวเองน่ะค่ะ เราย้ำเตือนตัวเอง ด่าตัวเอง เจ็บปวดจริงๆ จนคิดว่าเราเป็นคนโรคจิตประเภทหนึ่งรึเปล่าประมาณว่า มีความสุข บนความทุกข์ใจของตัวเองอะไรประมาณนั้น
    
    เอ พล่ามเป็นผีบ้าคนเดียวไปซะแล้ว ไม่ชอบใจก็ลบออกหน่อยนะคะ
  • ดาหลา & ปะการัง

    4 มิถุนายน 2548 13:34 น. - comment id 10926

    1.gif  อ่านมาตั้งกะ  กระทู้แรก 
    
    26.gif...กระพริบตา ถี่ ๆๆ หลายที   
    
     แม่ แวะมา ให้กำลังใจนะคะ  
    
    รู้ไหม  กลอน  คือสิ่งที่ แม่รัก และ ถนอม เอาไว้  อยาก และอยาก เขียนแต่งให้ได้ ดัอย่างที่คิด และอยาก ทำ 
    
    แต่ ในความเป็นจริง เอกลักษณ์ ของแต่ละบุคคล  แตกต่างกัน ออกไป  แม่เพียร และเพียร แล้ว เพียรอีก ......
    
    ได้แคเนี๊ย ไม่สวย ไม่หรุ แต่  รู้ว่า เป็นงานหนึ่ง ที่แม่รักและ หวงนะ  กลอน  แต่ เขียน มะได้เรื่องนี่สิ 
    
    เอาว่า กลอนไทย ไม่เวสื่อม สลายค่ะ  
    
    ถ้าเรารัก และ ถนอม เอาใว ในหัวใจ
    
      แม่ ให้กำลังใจลูกนะ .......36.gif
  • ลี่...ชวนมาเยือน

    4 มิถุนายน 2548 15:31 น. - comment id 10929

    อ่านคำตอบของคุณหมอวฤกแล้ว
    ให้ภาพชัดเจนดีจังเลย
    ขอเก็บไว้สอนตัวเองเช่นกันค่ะ
    .......................................................
    ลี่...ผู้มาเยือน
    .

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน