9 ตุลาคม 2542 07:44 น.

ลืมเหลียวแล

ปีกฟ้า

กลางทุ่งข้าวค่อยผันแปรแลเหลืองเขียว
ลับคมเคียวเตรียมตัดส่งขัดสี
เป็นความหวังหลังคอยรอยยิ้มมี
หักลบหนี้ที่คาค้างล้างผ่อนคลาย
แล้วละเลยไม่เคยแลแต่น้อยนิด
ความหวังปิดเลือนลางเขียวจางหาย
น้ำเหือดแห้งแมลงลงนาคงตาย
เหลือฝันร้ายกรายย่างผ่านทางมา
สิ่งดีดีมีอันใดใคร่จักอยู่
เพียงรับรู้ดูเฉยเคยไขว่หา
ไม่แยแสแค่เศษเสี้ยวจะเยียวยา
ไร้คุณค่ากว่าเกินเมินสนใจ
รอจนวันมันฉิบหายหรือตายจาก
รอจนพรากยากเหหันทำหวั่นไหว
คุณค่าเห็นเป็นปรากฏงดต่อไป
ก่อเก็บไว้ใจเหือดหายเสียดายพลัน...				
9 ตุลาคม 2542 07:44 น.

สัมพันธ์แห่งชีวภาพ

ปีกฟ้า

ก็เพราะว่าทุ่งหญ้าพริ้วปลิวสีเขียว
เป็นเศษเสี้ยวเพิ่มชีวิตความผิดหาย
เปิดพระจันทร์ตะวันลับสลับลาย
สิ่งเลวร้ายคงผ่านไปในเวลา  
ปีกผกผินบินทะยานเปรียบปานหงส์
ฝ่าไพรพงโฉบจงอางหวั่นผวา
รอยตีนเหยียบก้าวย่างทางหญ้าคา
โดดหนีมาเร้นซุกซ่อนก่อนเผยตัว
หางพุ่มสวยกรีดกรายตามวิถี
แมลงมีแอบปิดบังมุมสลัว
จิ้งจอกป่าหอนคำรนใต้จันทร์มัว
เหล่าหลายตัวเริ่มวงจรพึ่งพากัน
ก็เป็นอยู่วัฏจักรไม่เคยหยุด
ใยมนุษย์จะแค่เพียงผิดผกผัน
มิสันโดษสัจธรรมมีสัมพันธ์
ต่างแบ่งปันความอยู่รอดเท่าที่มี
คงจักเกิดคราบร่องรอยความฉิบหาย
อยู่และตายคือทางเลือกและทางหนี
หากมนุษย์ฟุ้งเฟ้อเกินเทคโนยี
โลกน้ำเงินจะหมองสีเหลือเพียงนาม...				
ไม่มีข้อความส่งถึงปีกฟ้า