9 ธันวาคม 2554 21:06 น.

กรุณานำส่ง... (๒)

ผู้หญิงช่างฝัน



วุ่นวาย ซ้ำซาก   เช้า.. จรดค่ำ

นี่คือช่วงเวลาที่คุณไม่อยู่  ทุกสิ่งทุกอย่างดูไม่รื่นรมย์เอาเสียเลย
อาจเป็นเพราะเคร่งเครียดกับงานที่กองท่วมหัวท่วมหู 
ซ้ำต้องแข่งกับเวลาจนแทบไม่รู้จะจัดการตรงไหนก่อน บวกกับอะไร ๆ 
ที่ไม่ค่อยจะลงตัวนัก   จิตใจก็เลยพาลขุ่นมัวไปด้วย..
กับความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน ถ้าคุณอยู่ ก็ยังจะได้พูดคุยเป็นเพื่อน 
บรรเทาเบาบางมันลงได้บ้าง
คิดถึงคุณรู้ไหม...
.. อยากเขียนคำว่า “เหงา” ตัวเท่าบ้าน...    
เหงา.. เวลาคุณไม่อยู่   ต้องเอาข้อความนี้ไปแปะไว้ระบายความรู้สึก
จนเพื่อนเย้าว่าเขียนตัวเล็กไปหรือเปล่า..

ผ่านมาหลายวัน..  นอกจากคิดถึงคุณแล้ว ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ปล่อยให้ความเบื่อหน่ายเข้าครอบงำเหมือนเดิม..
บังเอิญว่าวันนี้  ได้อ่านความรู้สึกยาว ๆ ของใครบางคน ทำให้กระทบรู้สึกบางอย่าง
ที่เคยคิด เคยนึก มานานแล้ว

หลายครั้งที่เห็นคนรอบข้าง รายล้อมไปด้วยมิตรไมตรี รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ 
เป็นต้องนึกอิจฉา  
มันเป็นความสุขที่คนคนนี้ได้แต่มอง..
การที่จะมีแบบนี้ได้  คงต้องเสียสละ ต้องใส่ใจ ดูแลความรู้สึกของกันและกันเป็นอย่างดี
ซึ่งคนอารมณ์แบบนี้ แบบที่คุณเห็น คงทำไม่ได้..  คุณก็รู้
ชีวิตบางคน จึงควรแล้วที่จะมีคนวนเวียนอยู่ในชีวิตเพียงไม่กี่คน  
แต่... เป็นไม่กี่คนที่เรา  “ไว้ใจ”  และ “ให้ใจ”  และนั่นคือสิ่งวิเศษที่สุด  
โดยเฉพาะการที่ได้มี “คุณ”

เคยบอกคุณเสมอว่า  “ชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรอีก..แค่ได้พบคนดีดีอย่างคุณ     
คุณ..  ที่เป็นคนดีที่สุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าหาอะไรอีก”

“แค่คนเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิต”

ขอบคุณรู้สึกของบางคน ที่ทำให้วันนี้คิดถึงคุณได้ด้วยหัวใจที่เป็นสุข
ไม่ทุกข์ทรมานเหมือนวันก่อน ๆ

คิดถึงคุณนะ

				
30 พฤศจิกายน 2554 23:33 น.

สำหรับหนึ่งไมตรี.. ที่รักมาก

ผู้หญิงช่างฝัน


ที่จริงแล้ว  ปรารถนาที่จะส่งสารผ่านรู้สึกดีดีที่มีให้เสมอ เนื่องในวันพิเศษวันนี้
แต่แปลกแท้..  ความในใจที่มีไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างที่ต้องการ
อารมณ์ที่เคยละเมียดละไม คงจะแห้งหายไปพร้อมกับสายน้ำที่ผ่านมาครานี้เสียแล้ว
ที่พอจะทำได้..
คงเป็นเพียงการนำสิ่งที่แทน “บัตรอวยพร” มาวางไว้แทนถ้อยคำความรู้สึก  
แต่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ยุ่งยากสำหรับเพื่อน ๆ ไปเสียแล้ว (อิ อิ)

ก็คงเหมือนเดิม...    เหมือนทุกปี..  ที่ผ่าน
คือหวังว่าคุณจะสบายดี  งดงาม   ล้นสุขกับความเป็นไปในแต่ละวัน
และถึงไม่มีคำใดจะกล่าวออกมาให้มากความ...    
...

หากแม้น “สิ่งที่เหมือน”  ยังคงอยู่ในหัวใจ
คุณก็คงสัมผัสมันได้  ไม่ยากนัก..

๑ ธันวา..  ๕๔
				
12 ตุลาคม 2553 20:10 น.

ชะตากรรม

ผู้หญิงช่างฝัน

ถ้าระยะทางที่ห่างกัน ทำให้ใกล้ชิดความเป็นคุณมากขึ้น..    
พรุ่งนี้... จะออกเดินทาง

แม้ไม่รู้ว่า...
ต้องพาตัวเองเดินทางไกลอีกสักเท่าไหร่.. 
จึงจะสัมผัสได้ถึงความชิดใกล้นั้น    
หรืออาจเป็นไปได้ว่า.. 
ยิ่งก้าวห่างจากคุณไปมากเท่าไหร่
จะทำให้ต้องห่างไกลคุณมากไปยิ่งกว่าเดิม

แต่อย่างน้อย.. 
การได้ออกไปยืนมองคุณอยู่ห่าง ๆ  ด้วยความรัก  
คิดถึงคุณไกล ๆ  ด้วยความรู้สึก   
อาจทำให้หัวใจสุขกว่าที่เคยเป็น

่คุณเคยบอก...  
การที่เราได้รู้จักใครสักคน แล้วพบกับความรู้สึกดีดีระหว่างกัน
ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่มีอะไรให้ควรต้องเสียใจ..  

จึงไม่ว่าวันนี้ วันพรุ่งนี้ หรือวันไหนไหน  
หัวใจจะบอกกับตัวเองอย่างมั่นใจว่า..
การได้พบคุณ.. 
คือส่วนหนึ่งที่สวยงามที่สุดของชีวิต..  
แม้คุณจะบอกว่าการที่คุณได้พบคนอื่น ๆ ถือเป็นวาสนา..  
แต่การที่ "เรา" ได้มีโอกาสรู้จักกัน 
คุณกลับเรียกมันว่า ช ะ ต า ก ร ร ม.. (ซะงั้น)




“ มีนิทานเรื่องหนึ่ง..
ซึ้งซึ้ง..  เก็บไว้ให้คุณอ่าน
หากคุณอยากฟังนิทาน..
หยิบยื่นไมตรีผ่าน..  ผมจะอ่านให้คุณฟัง ”

หวิวหวั่น.. สั่นไหว..
หัวใจดั่งต้องมนต์ขลัง
เสี้ยวหนึ่งละล้าละลัง
แต่ก็.. อยากฟังนิทาน   

จากเรื่องเล่าร้อยเรียง
ผ่านน้ำเสียงสดับขับขาน
เวลาผ่านไป.. แม้ไม่นาน
ทอสานถักเส้นเป็นสายใย

จะเป็นเพราะวาสนา..
ดั่งคำคุณว่าครานั้นไหม
เมื่ออยู่คนละฝั่งฟ้าไกล
เหตุไฉนจึงได้พบพา..

และเพราะ.. ห่างไกล
ได้แต่สมมุติคุณเป็นเส้นขอบฟ้า
ตัวเองเป็นเส้นขอบน้ำไกลสุดตา
เมื่อมองดูประหนึ่งว่าใกล้ชิดกัน

บางทีชัดเจน
บางครั้งเห็นลางเลือนเหมือนฝัน
มีบ้าง.. นึกสงสัยในสัมพันธ์
ระหว่างเรา “ผูกพัน” หรือ “ คุ้นชิน ”

สำคัญไฉน..
ตราบที่ความจริงใจยังไม่สิ้น
เสรีแห่งมิตรภาพที่โบยบิน
ยังกรุ่นกลิ่นรินรื่นให้ชื่นบาน

จากวันนั้นถึงวันนี้..
สองสามขวบปีที่ล่วงผ่าน
หากมองย้อนกลับไปคล้ายเนิ่นนาน
แต่ไม่เคยแม้สักวัน..จะปล่อยผ่านรู้สึกดี

เก็บใส่กล่องความทรงจำ..
เก็บทุกคำ ทุกห่วงใย  ไว้ที่นี่
ทุกรู้สึก ทุกอบอุ่น แห่งไมตรี
ถนอมไว้ในกล่องนี้  ตลอดไป…


				
19 มกราคม 2553 20:43 น.

สมมุติว่ามีใครให้เขียนถึง

ผู้หญิงช่างฝัน



สวัสดี  ........

นึกคำขึ้นต้นที่จะใช้เรียกคุณตั้งนานแน่ะ.. แต่นึกไม่ออก
คงเพราะห่างเหินโลกแห่งความเพ้อฝันไปเสียนาน  
จนทำให้รู้สึกเคอะเขินกับการใช้คำหวาน ๆ   พาลผะอืดผะอม
วิถีชีวิตมันเปลี่ยนไปนี่นะ..  
หน้าต่างแห่งความเปลี่ยวเหงาบานเดิม 
ที่เคยมองผ่าน เคยสร้างจินตนาการวาดโลก โศก-สุข ด้วยกันมา
ถึงตอนนี้.. ไม่มีโอกาสได้วาดอะไรผ่านมันอีกแล้ว
ได้ปลดแอกเหมือนอย่างที่อยากทำ..
ได้เป็นอิสระเหมือนอย่างที่อยากเป็น..
แม้จะมีความกังวลใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากมาย  
จะเป็นเพราะมันยังไม่ถึงเวลา หรือเพราะยังรู้สึกสนุก มีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่
ก็ไม่รู้สิ..

				
29 ธันวาคม 2552 10:41 น.

วิญญูชนจอมปลอม

ผู้หญิงช่างฝัน



หลังจากใช้ชีวิตอย่างผู้ไร้ซึ่งจินตนาการมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง
จนเมื่อมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้น..
 นั่นทำให้ฉันเริ่มพาตัวเองกลับคืนสู่โลกแห่งฝัน.. อีกครั้ง

 เฮอะ.. ไร้สาระ   

คำ ๆ นี้ แว่วเข้ามาในโสตประสาทฉันอย่างช่วยไม่ได้
เพื่อนต่างถิ่นคนหนึ่งมักพูดใส่ฉันทุกครั้งที่ได้ยินฉันพูด
ได้เห็นฉันแสดงอะไรอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้..

พวกชอบอยู่กับความฝัน ถึงไม่ค่อยเปิดจิตเปิดใจรับความจริง

เขาไม่เคยทนฟังฉันเล่าเรื่องราวของบทกวีได้เลยแม้สักครั้ง
แต่กลับเพลิดเพลินไปกับการเล่าเรื่อง  80 วันรอบโลก  
การเดินทางอันยิ่งใหญ่ ของ ฟีเลียส ฟ็อกก์ สุภาพบุรุษชาวอังกฤษ 
ที่ดูจะเป็นเรื่องราวที่ห่างไกลความเป็นฉันเสียเหลือเกิน..
แต่ท้ายที่สุด.. ก็ต้องหยุดเล่ากะทันหัน เพียงเพราะฉันตอบคำถามของเขา
เกี่ยวกับที่ตั้งของประเทศอังกฤษว่า..  
ไม่รู้..  ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนในแผนที่โลก   

แต่เปล่า..
ฉันไม่ได้คิดจะเล่าเรื่องราวของชายผู้นี้ให้ฟังหรอกนะ
ไมตรีจิตจากสหายหนึ่งต่างหาก  ที่ฉันระลึกถึงในช่วงเวลาต่อมา

วิญญูชนจอมปลอม  ผู้ไร้ร่องรอย..

เมื่อฉันพาตัวเองกลับเข้าสู่งานกวีเก่า ๆ วันเวลาเก่า ๆ  ที่นั่น ที่นี่
เรื่องราว ความรู้สึก ณ ห้วงเวลานั้น ก็เริ่มเข้ามาทายทัก
ฉันมองเห็น ความสุข ความเศร้า ความเป็นมาเป็นไปของชีวิต
แต่ละช่วงที่เคยก้าวผ่าน..
ฉันมองเห็นน้ำจิตน้ำใจ มิตรไมตรี จากคนแปลกหน้า ซึ่งไม่เคยรู้จักรู้ใจ 


บางสิ่งบางอย่าง.....ของความรู้สึก
เราก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจอะไรกับมันได้มากนัก
ก็คงทำได้เพียง......พยายามบอกตัวเอง
ให้เข้มแข็ง...ไม่หวั่นไหวหรืออ่อนแอ
เพื่อ.....
บางสิ่งบางอย่าง.....ของความรู้สึก
ที่ควรเปลี่ยนแปลงไปในภายภาคหน้า

วันคืนเก่าๆ...ในความฝันใหม่ๆ...
๓๐  เมษายน  ๒๕๔๘


นั่นคือกำลังใจครั้งแรก ที่ฉันได้รับจากสหายผู้นี้
เมื่อครั้งที่ฉันนำความท้อใจไปแปะวางไว้ 
แม้ไม่ได้คิดหวังคำปลอบโยนใดใด  แต่ฉันก็ได้รับมัน..

ทุกการเดินทาง.....
ต้องมีที่สิ้นสุด
จงรอคอย.....
ด้วยหัวใจที่เปี่ยมศรัทธา
สิ่งสวยงาม.....
ย่อมบังเกิดต่อผู้ที่อดทน
ไม่ยากเกินไปที่จะเติมเต็มความฝันให้เหมือนเดิม
๑๗ พฤษภาคม  ๒๕๔๘

อีกครั้ง สำหรับกำลังใจในยามเหนื่อยล้า..				
Lovers  1 คน เลิฟผู้หญิงช่างฝัน
Lovings  ผู้หญิงช่างฝัน เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้หญิงช่างฝัน
Lovings  ผู้หญิงช่างฝัน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงผู้หญิงช่างฝัน